หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] แบกเป้เที่ยววังเวียง 6คน5วัน4คืน
กระทู้รีวิว
วังเวียง
ประเทศลาว
เที่ยวต่างประเทศ
บันทึกนักเดินทาง
เมื่อวันที่ 19-23 ธค. ที่ผ่านมา เราหกสาวแบกเป้ไปเที่ยวที่วังเวียง หลังจากกลับมาพักร่างกายจนหายเหนื่อยแล้วก็มีเวลามานั่งทำรีวิวซักที ถ้าข้อมูลไม่ละเอียดยังไง ถามมาเพิ่มเติมได้นะคะ บางทีอาจมีหลงลืมตกหล่นไปบ้าง : )
19/12/2014 - Day 1
เรารวมตัวกันที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อขึ้นรถไฟฟรีไปหนองคาย รถออกเวลา 20:45 น. และจะถึงเวลา 09:30 น. การจองตั๋วนั้นสามารถจองได้ในวันเดินทางเท่านั้น เราเลยส่งตัวแทนมาจองตั๋วตั้งแต่7โมงเช้า บางคนกลัวการเดินทางด้วยรถไฟฟรี แถมเป็นตอนกลางคืนอีกด้วย บอกเลยว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่อากาศหนาวมากกก ควรเตรียมหมอนรองคอกับเสื้อกันหนาวให้พร้อม ><
20/12/2014 - Day 2
พอถึงสถานีรถไฟหนองคาย เราก็รีบกระโดดขึ้นตุ๊กตุ๊กของคุณลุงคนหนึ่ง (คนละ30บาท) เพื่อไปที่บขส.ให้ทันรถไปวังเวียง ที่เค้าบอกว่ามีคันเดียวเที่ยวเดียวต่อวัน ออกเวลา 10:00 ตรง ราคา 270 บาท ไปถึงวังเวียงประมาณบ่ายสามโมง หน้าตาเป็นแบบนี้ ซึ่งถ้าได้ขึ้นคันนี้จะดีมาก เพราะจะตรงยาวไปที่วังเวียงเลย แต่พอเราไปถึงเค้าบอกว่าเต็มแล้ว ทั้งๆที่ไปทันเวลา ปวดใจมาก >< เลยต้องไปใช้แพลนบี(ซึ่งไม่ได้แพลนไปล่วงหน้า แงๆๆ) สีหน้าเคร่งเครียดอย่างที่เห็นในรูป
เมื่อไม่ทันรถวังเวียงแล้ว คุณลุงเลยคิดเราอีกคนละ 20 บาท เพื่อพาเราไปส่งที่ด่าน(ตม.ไทย) สำหรับใครที่พลาดเหมือนเรา นี่คือแพลนบีค่ะ ฮ่าๆ สำหรับขั้นตอนที่ตม.ไทยคือ เราจะต้องรับใบผ่านแดนมาจากจนท.ที่นั่งอยู่ โดยยื่นพาสปอร์ตทีละคน ได้มาแล้วก็เขียนบัตรขาออก หลังจากนั้นเดินเข้าไปต่อแถวในอาคารเพื่อประทับตราในพาสปอร์ต เค้าก็จะให้ใบผ่านแดนของลาวมาด้วย พอเดินออกมาจะเจอโต๊ะทางขวาของประตู ขายตั๋วรถเมล์ข้ามสะพานมิตรภาพไปที่ด่านตม.ลาว ซึ่งเราขึ้นคันนี้แหละไป (คนละ20บาท)
เมื่อมาถึงด่านตม.ลาว อย่างแรกเลยคือเดินไปซื้อ one way ticket ที่ตู้เขียนว่า pay pass ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์ จ่าย 45 บาท แต่ถ้าเป็นวันธรรมดา 5 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนเลย ถือเหรียญห้าพุ่งเข้าไป ปรากฎว่าเป็นวันเสาร์จ้าา โดนไปสิ 45 บาท (ไหนใครบอกฝากซื้อได้ จนท.บอกให้มาซื้อทีละคนนะ = = ) ซื้อเสร็จแล้วก็ถือไว้ก่อน ไปเขียนบัตรขาเข้าของลาว แล้วยื่นให้จนท.พร้อมพาสปอร์ต เสร็จแล้วเดินออกมาจะเจอที่ให้เราเสียบ one way ticket นี่ละ เสียบเข้าไปเหมือนขึ้นรถไฟฟ้า ไม่ต้องรอเอานะ เดินผ่านไปเลย มันไม่เด้งออกมาหรอก ฮ่าๆ จุดนี้เราสามารถแลกเงินได้ด้วยนะ แต่ตอนที่พวกเราไปไฟมันดับ ทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง เลยยังไม่ได้แลกเงิน
จากตรงนี้เรานั่งรถเมล์(อีกแล้ว) คนละ 30 บาท เพื่อไปลงที่ตลาดเช้าซึ่งมีรถต่อไปวังเวียงได้ พอมาถึงตลาดเช้า หลังจากถามคนแถวนั้นแล้วก็ได้ความว่าต้องต่อรถคันเขียวไปวังเวียง เราไปแลกเงินในห้างเล็กๆแถวนั้น (1 บาท = 245 กีบ) ระหว่างรอรถออกก็ไปหาอะไรกินกัน ลองสั่งข้าวเปียกมากิน หน้าตาแบบในภาพ คล้ายๆก๋วยจั๊บญวน ซึ่งอร่อยมากกกกก คนละ 10,000 กีบ หรือ 40 บาท
รถเขียวไปส่งเราที่ท่ารถอีกที่หนึ่ง จากตรงนี้เราเหมารถตู้ขึ้นไปวังเวียง คนละ 50,000 กีบ หรือ 200 บาท หนทางจากนี้ไปสุดจะเวียนหัว โค้งแล้วโค้งอีก พกยาแก้เมารถกันไปด้วยนะคะ >< รถตู้ไปส่งเราที่ตัวเมืองวังเวียงเลย ต้องเดินต่อเพื่อไปหาที่พักที่เราจองมาจากในเว็บ สำหรับที่พักที่เราจองไว้ชื่อ ริเวอร์วิวบังกะโล อยู่ริมแม่น้ำซองเลย เดินลงมาทางริมแม่น้ำแล้วที่พักจะอยู่ทางขวามือ หาไม่ยาก เป็นห้องสามคน ตกคนละสองร้อยนิดๆ (ที่นี่มีแต่สบู่ให้ อย่าลืมเตรียมแชมพูไปเองน้า) ตรงนี้จะมีร้านอาหารริมน้ำด้วย บรรยากาศดีมาก เราก็จบวันที่สองด้วยการสำรวจวังเวียงยามค่ำคืนแล้วเข้านอน
21/12/2014 - Day 3
เช้านี้เราตั้งใจตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ด้วยความเพลียจากการเดินทางหลายต่อ เลยตื่นสาย สรุปคือไม่ทันนั่นเอง เลยเดินสำรวจวังเวียงในตอนเช้า กินแซนด์วิชลาวสุดอร่อย
หลังจากหาอะไรรองท้องแล้ว ก็ไปเช่าจักรยาน ต่อราคามาได้คนละ 13,000 กีบ หรือ 52 บาท จากราคาเต็มคนละ 60 บาท ที่ร้านก็ให้แผนที่เรามา ตั้งใจว่าจะไปบลูลากูนที่เดียวเลย เพราะดูหนทางแล้วน่าจะเสียเวลาไปกับการเดินทางเยอะ คนส่วนใหญ่จะเลือกนั่งรถไปสบายๆ แต่พวกเราด้วยความงกเลยจะขี่จักรยานไป รวมระยะทางไปกลับ 14 กิโล !! ความทรหดของมันคือทางที่เราขี่ไปไม่มีทางเรียบเลยซักนิด หินล้วนๆ กระแทกตลอดทาง กลับที่พักนี่ก้นช้ำไปตามๆกัน (ไม่แนะนำสำหรับคุณผู้ชายนะคะ ฮ่าๆ) เหนื่อย ช้า ฝุ่นเยอะ แต่เราได้แวะถ่ายรูปข้างทางตลอด ใครจะซื้อผ้าซิ่นฝากแม่ต้องซื้อตรงนี้นะจ๊ะ จะมีขายอยู่ข้างทางหลายร้านเลย
มาถึงที่หมายก็หายเหนื่อย อยากจะกระโดดลงน้ำทันที เพราะสีฟ้าสวยมากกก แต่ข้าพเจ้าว่ายน้ำไม่เป็น ฮ่าๆ ต้องไปเช่าห่วงยางหรือชูชีพมาก่อน ที่นี่นักท่องเที่ยวเยอะมากก กระโดดน้ำกันโครมคราม ฝรั่งอาบแดดกันประดุจอยู่ริมชายหาด เสียค่าเข้าด้วยนะ คนละ10,000 กีบ หรือ 40 บาท มาถึงตรงนี้รูปไม่เยอะ มัวแต่เล่นน้ำกัน ฮ่าๆ
กลับจากบลูลากูนพวกเราก็อาบน้ำสระผมแล้วออกไปเดินดูทัวร์ เพื่อซื้อวันเดย์ทริปสำหรับวันพรุ่งนี้ ถามทุกร้านจนสรุปว่าร้านนี้ใจดีสุด สามารถลดราคาให้เราได้ เพราะเราแกล้งบอกไปว่าเงินจะกลับไทยแทบไม่เหลือแล้ว ฮ่าๆๆๆ หน้าร้านเป็นแบบนี้ ชื่อว่า ริเวอร์ไซด์ทัวร์ จะมีรถจอดอยู่ หน้ารถมีตัวอักษร RVS เราได้วันเดย์ทริปมาในราคา 85,000 กีบ หรือ 340 บาท กิจกรรมก็จะมีล่องห่วงยางเข้าถ้ำช้างและพายเรือคายัคไปตามแม่น้ำซอง(เลือกได้ว่าจะพายหรือจะล่องห่วงยางอีก) พร้อมอาหารกลางวันด้วย ที่นี่จองรถได้ด้วยเราเลยจองรถขากลับคนละสามร้อยปลายๆเพื่อไปลงที่บขส.อุดรธานี ...จบวันด้วยการนอนหลับไปพร้อมกับก้นช้ำๆ ฮ่าๆๆ
ชื่อสินค้า:
วังเวียง, ลาว
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ผมเข้า BTS เผลอหยิบบัตรของแม่ไปสแกนเข้า เจ้าหน้าที่รู้ได้อย่างไร
พอดีผมไปกับแม่ เพื่อขึ้น BTS ผมมีบัตร BTS ของผม แม่ก็มีของแม่ที่เป็นบัตรผู้สูงอายุลด 50% พอดีวันนั้นหยิบบัตรสลับกับแม่ แต่พอเดินผ่านเข้าประตู ก็มีเจ้าหน้าที่ เดินมาบอกว่าผมใช้บัตรผิดประเภท ทำไมเจ้า
สมาชิกหมายเลข 9046414
อธิบายนะครับ ว่าทำไมช่วงนี้คนโดน อายัดบัญชี กันเยอะ
คือ ผมเห็นหลายคน มาบอกว่าเรื่องโดนอายัดมีแต่ม้าเท่านั้นแหละที่โดน คือ เอาจริงๆ ผมก็คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดี คือ ระบบมันมีปัญหาจริงๆ แต่เราก็ไม่ใช่คนปฎิบัติงาน เลยอธิบายไม่ถูก อยากให้ลองอ่าน จากฝ
สมาชิกหมายเลข 1374908
อดีตมหาเศรษฐีเบอร์ 2 ของสิงคโปร์ แบ่งมรดกให้หลาน 6 คน (ไม่ให้ลูก) คนละ 35,000 ล้านบาท /โดย ลงทุนแมน
เมื่อเดือนที่แล้ว คุณ Goh Cheng Liang มหาเศรษฐีที่รวยเป็นอันดับ 2 ในสิงคโปร์ ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 13,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 418,000 ล้านบาท) ได้เสียชีวิตลง ด้วยวัย 98 ปี https://www.facebook.com/sh
สมาชิกหมายเลข 2933266
ทุกขลาภสุดๆ ทั้งฟิลิปปินส์และก็ FIVB จำนวนคนเข้าชมยิ่งแข่งยิ่งตก บางนัดเหลือแค่ 900 ในขณะทีสนามใหญ่เบิ้ม
เห็นแฟนไทยเคยห่วงเรื่องสนามของไทยว่าดีไม่พอ แต่จริงๆปัญหาใหญ่ของการจัดคือจำนวนคนเข้าชม ซึ่งตอนนี้ที่ฟิลิปปินส์เวลาถ่ายทอดสดจะเห็นเลยว่าโล่งโจ้งมากๆ สนามที่ใหญ่มากๆยิ่งทำให้ดูโล่งมากๆได้ง่ายกว่าสนามเล
สมาชิกหมายเลข 7827218
ห้องพักแย่หรือเราเรื่องมากไปเองคะ เราควรทำไงดี ปลงไม่ได้ค่ะ 🥺
สวัสดีค่ะ เกิดจากเมื่อวานเราไปที่แห่งหนึ่งในจังหวัดเมืองรอง ราคาวันเสาร์ 3990 มีสองห้อง ไม่มีอาหารเช้า เขาบอกมีอ่างสกุชชี่ จึงตัดสินใจโอเค มีอ่าง อไปถึงอ่างน้ำ และมีคราบดินและคราบสกปรกอื่นๆ น้ำไม่ไหลเ
สมาชิกหมายเลข 3078008
วอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก ฟิลิปปินส์ เริ่ดแค่สนามเท่านั้นจริงๆ
ที่เหลืออ่อมมาก
สมาชิกหมายเลข 9025599
SCB ปรับลดพนักงาน / สาขา
“การมาของ Virtual Bank ที่กำลังจะเข้ามา จะมีการแข่งขันในเรื่องของเงินฝากและสินเชื่อ อาจมีผลต่อธุรกิจธนาคาร หรือความก้าวหน้าของ AI ที่แบงก์สามารถมาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ซึ่งนโยบาย Open Banking ขอ
superman2007
คุณคิดว่าบัญชีม้า ที่มีอยู่ทุกวันนี้ เต็มใจ หรือโดนหลอกมากกว่ากัน
คุณคิดว่าบัญชีม้า ที่มีอยู่ทุกวันนี้ เต็มใจให้ไปเปิด หรือโดนมิจฉาชีพหลอกมากกว่ากัน
เพื่อนกันเฉพาะวันหยุด
เห็นการพัฒนาของเวียด สนามของปินส์ รู้สึกว่าวอลเลย์บอลโดยเฉพาะทีมหญิงไทยเหมือนเป็นตัวตลกอาเซียนเลย
เอาตั้งแต่เรื่อง การจัดชิงแชมป์โลก -สถานที่แข่งขันเก่ามาก เวียด ปินส์เอาไปล้อกันเต็ม -เจ้าภาพตกรอบ 2 การแข่งขัน VNL -เกือบตกชั้น -แข่งอะไรก็แพ้ และที่ สำคัญ แพ้เวียดนาม -เคยมีติ่งไทยพูดเอาไว้กันหลายค
สมาชิกหมายเลข 8305667
ปี 69 สปส. เปลี่ยนโครงสร้างเงินสมทบใหม่แบบ “ขั้นบันได” จ่ายตามรายได้จริง-สิทธิเพิ่มขึ้น
(วันนี้ 4 ก.ย.68) ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป ระบบประกันสังคมของไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เตรียมปรับสูตรการจ่ายเงินสมทบใหม่ภายใต้แนวคิด “จ่ายตามจริง ได้ป
ลิขิตฟ้าหรือจะสู้สามตัวตรง
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
วังเวียง
ประเทศลาว
เที่ยวต่างประเทศ
บันทึกนักเดินทาง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 822
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] แบกเป้เที่ยววังเวียง 6คน5วัน4คืน
19/12/2014 - Day 1
เรารวมตัวกันที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อขึ้นรถไฟฟรีไปหนองคาย รถออกเวลา 20:45 น. และจะถึงเวลา 09:30 น. การจองตั๋วนั้นสามารถจองได้ในวันเดินทางเท่านั้น เราเลยส่งตัวแทนมาจองตั๋วตั้งแต่7โมงเช้า บางคนกลัวการเดินทางด้วยรถไฟฟรี แถมเป็นตอนกลางคืนอีกด้วย บอกเลยว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่อากาศหนาวมากกก ควรเตรียมหมอนรองคอกับเสื้อกันหนาวให้พร้อม ><
20/12/2014 - Day 2
พอถึงสถานีรถไฟหนองคาย เราก็รีบกระโดดขึ้นตุ๊กตุ๊กของคุณลุงคนหนึ่ง (คนละ30บาท) เพื่อไปที่บขส.ให้ทันรถไปวังเวียง ที่เค้าบอกว่ามีคันเดียวเที่ยวเดียวต่อวัน ออกเวลา 10:00 ตรง ราคา 270 บาท ไปถึงวังเวียงประมาณบ่ายสามโมง หน้าตาเป็นแบบนี้ ซึ่งถ้าได้ขึ้นคันนี้จะดีมาก เพราะจะตรงยาวไปที่วังเวียงเลย แต่พอเราไปถึงเค้าบอกว่าเต็มแล้ว ทั้งๆที่ไปทันเวลา ปวดใจมาก >< เลยต้องไปใช้แพลนบี(ซึ่งไม่ได้แพลนไปล่วงหน้า แงๆๆ) สีหน้าเคร่งเครียดอย่างที่เห็นในรูป
เมื่อไม่ทันรถวังเวียงแล้ว คุณลุงเลยคิดเราอีกคนละ 20 บาท เพื่อพาเราไปส่งที่ด่าน(ตม.ไทย) สำหรับใครที่พลาดเหมือนเรา นี่คือแพลนบีค่ะ ฮ่าๆ สำหรับขั้นตอนที่ตม.ไทยคือ เราจะต้องรับใบผ่านแดนมาจากจนท.ที่นั่งอยู่ โดยยื่นพาสปอร์ตทีละคน ได้มาแล้วก็เขียนบัตรขาออก หลังจากนั้นเดินเข้าไปต่อแถวในอาคารเพื่อประทับตราในพาสปอร์ต เค้าก็จะให้ใบผ่านแดนของลาวมาด้วย พอเดินออกมาจะเจอโต๊ะทางขวาของประตู ขายตั๋วรถเมล์ข้ามสะพานมิตรภาพไปที่ด่านตม.ลาว ซึ่งเราขึ้นคันนี้แหละไป (คนละ20บาท)
เมื่อมาถึงด่านตม.ลาว อย่างแรกเลยคือเดินไปซื้อ one way ticket ที่ตู้เขียนว่า pay pass ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์ จ่าย 45 บาท แต่ถ้าเป็นวันธรรมดา 5 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนเลย ถือเหรียญห้าพุ่งเข้าไป ปรากฎว่าเป็นวันเสาร์จ้าา โดนไปสิ 45 บาท (ไหนใครบอกฝากซื้อได้ จนท.บอกให้มาซื้อทีละคนนะ = = ) ซื้อเสร็จแล้วก็ถือไว้ก่อน ไปเขียนบัตรขาเข้าของลาว แล้วยื่นให้จนท.พร้อมพาสปอร์ต เสร็จแล้วเดินออกมาจะเจอที่ให้เราเสียบ one way ticket นี่ละ เสียบเข้าไปเหมือนขึ้นรถไฟฟ้า ไม่ต้องรอเอานะ เดินผ่านไปเลย มันไม่เด้งออกมาหรอก ฮ่าๆ จุดนี้เราสามารถแลกเงินได้ด้วยนะ แต่ตอนที่พวกเราไปไฟมันดับ ทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง เลยยังไม่ได้แลกเงิน
จากตรงนี้เรานั่งรถเมล์(อีกแล้ว) คนละ 30 บาท เพื่อไปลงที่ตลาดเช้าซึ่งมีรถต่อไปวังเวียงได้ พอมาถึงตลาดเช้า หลังจากถามคนแถวนั้นแล้วก็ได้ความว่าต้องต่อรถคันเขียวไปวังเวียง เราไปแลกเงินในห้างเล็กๆแถวนั้น (1 บาท = 245 กีบ) ระหว่างรอรถออกก็ไปหาอะไรกินกัน ลองสั่งข้าวเปียกมากิน หน้าตาแบบในภาพ คล้ายๆก๋วยจั๊บญวน ซึ่งอร่อยมากกกกก คนละ 10,000 กีบ หรือ 40 บาท
รถเขียวไปส่งเราที่ท่ารถอีกที่หนึ่ง จากตรงนี้เราเหมารถตู้ขึ้นไปวังเวียง คนละ 50,000 กีบ หรือ 200 บาท หนทางจากนี้ไปสุดจะเวียนหัว โค้งแล้วโค้งอีก พกยาแก้เมารถกันไปด้วยนะคะ >< รถตู้ไปส่งเราที่ตัวเมืองวังเวียงเลย ต้องเดินต่อเพื่อไปหาที่พักที่เราจองมาจากในเว็บ สำหรับที่พักที่เราจองไว้ชื่อ ริเวอร์วิวบังกะโล อยู่ริมแม่น้ำซองเลย เดินลงมาทางริมแม่น้ำแล้วที่พักจะอยู่ทางขวามือ หาไม่ยาก เป็นห้องสามคน ตกคนละสองร้อยนิดๆ (ที่นี่มีแต่สบู่ให้ อย่าลืมเตรียมแชมพูไปเองน้า) ตรงนี้จะมีร้านอาหารริมน้ำด้วย บรรยากาศดีมาก เราก็จบวันที่สองด้วยการสำรวจวังเวียงยามค่ำคืนแล้วเข้านอน
21/12/2014 - Day 3
เช้านี้เราตั้งใจตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ด้วยความเพลียจากการเดินทางหลายต่อ เลยตื่นสาย สรุปคือไม่ทันนั่นเอง เลยเดินสำรวจวังเวียงในตอนเช้า กินแซนด์วิชลาวสุดอร่อย
หลังจากหาอะไรรองท้องแล้ว ก็ไปเช่าจักรยาน ต่อราคามาได้คนละ 13,000 กีบ หรือ 52 บาท จากราคาเต็มคนละ 60 บาท ที่ร้านก็ให้แผนที่เรามา ตั้งใจว่าจะไปบลูลากูนที่เดียวเลย เพราะดูหนทางแล้วน่าจะเสียเวลาไปกับการเดินทางเยอะ คนส่วนใหญ่จะเลือกนั่งรถไปสบายๆ แต่พวกเราด้วยความงกเลยจะขี่จักรยานไป รวมระยะทางไปกลับ 14 กิโล !! ความทรหดของมันคือทางที่เราขี่ไปไม่มีทางเรียบเลยซักนิด หินล้วนๆ กระแทกตลอดทาง กลับที่พักนี่ก้นช้ำไปตามๆกัน (ไม่แนะนำสำหรับคุณผู้ชายนะคะ ฮ่าๆ) เหนื่อย ช้า ฝุ่นเยอะ แต่เราได้แวะถ่ายรูปข้างทางตลอด ใครจะซื้อผ้าซิ่นฝากแม่ต้องซื้อตรงนี้นะจ๊ะ จะมีขายอยู่ข้างทางหลายร้านเลย
มาถึงที่หมายก็หายเหนื่อย อยากจะกระโดดลงน้ำทันที เพราะสีฟ้าสวยมากกก แต่ข้าพเจ้าว่ายน้ำไม่เป็น ฮ่าๆ ต้องไปเช่าห่วงยางหรือชูชีพมาก่อน ที่นี่นักท่องเที่ยวเยอะมากก กระโดดน้ำกันโครมคราม ฝรั่งอาบแดดกันประดุจอยู่ริมชายหาด เสียค่าเข้าด้วยนะ คนละ10,000 กีบ หรือ 40 บาท มาถึงตรงนี้รูปไม่เยอะ มัวแต่เล่นน้ำกัน ฮ่าๆ
กลับจากบลูลากูนพวกเราก็อาบน้ำสระผมแล้วออกไปเดินดูทัวร์ เพื่อซื้อวันเดย์ทริปสำหรับวันพรุ่งนี้ ถามทุกร้านจนสรุปว่าร้านนี้ใจดีสุด สามารถลดราคาให้เราได้ เพราะเราแกล้งบอกไปว่าเงินจะกลับไทยแทบไม่เหลือแล้ว ฮ่าๆๆๆ หน้าร้านเป็นแบบนี้ ชื่อว่า ริเวอร์ไซด์ทัวร์ จะมีรถจอดอยู่ หน้ารถมีตัวอักษร RVS เราได้วันเดย์ทริปมาในราคา 85,000 กีบ หรือ 340 บาท กิจกรรมก็จะมีล่องห่วงยางเข้าถ้ำช้างและพายเรือคายัคไปตามแม่น้ำซอง(เลือกได้ว่าจะพายหรือจะล่องห่วงยางอีก) พร้อมอาหารกลางวันด้วย ที่นี่จองรถได้ด้วยเราเลยจองรถขากลับคนละสามร้อยปลายๆเพื่อไปลงที่บขส.อุดรธานี ...จบวันด้วยการนอนหลับไปพร้อมกับก้นช้ำๆ ฮ่าๆๆ