แพทย์หญิง 2015

ครบปีพอดี ตั้งแต่ผมเขียนกระทู้เทคนิคในการจีบแพทย์หญิงไป
ตอนนั้นเขียนไว้ใน ThaiClinic มีกระแสตอบรับเข้ามามากมาย
อินบ๊อกซ์กันเข้ามาถล่มทลาย รวมทั้งสิ้น 3 คน 555555555

แต่ก็เป็นเรื่องราวดีๆ ที่บอกเล่าผมมา มีแฟนเป็นหมอแล้วน้าา อะไรต่างๆ
ทำให้หนุ่มๆนอกวงการได้รู้จักแพทย์หญิงมากขึ้น
เวลาผ่านไปเร็ว ยุคสมัยเปลี่ยนไป ผมขอรีไวส์อัพเดตให้ทันยุคทันสมัยมากขึ้น
หนุ่มๆหลายคน อยากรู้จักอยากจีบ แต่ไม่รู้จะเข้าช่องไหน
เราจะไปเจอพวกเธอเหล่านี้ได้อย่างไร



(รูปไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาอะไรทั้งสิ้น แปะๆไปหยั่งงั้น)


1. ความรู้พื้นฐานที่ควรทราบเกี่ยวกับแพทย์หญิง
ต้องรู้บ้าง ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มเจ็ดเข้าไป

แพทย์หญิงที่คุณจะจีบแบ่งคร่าวๆได้ 4 กลุ่ม

A. แพทย์หญิงนักศึกษาหรือนิสิตแพทย์หญิง จะเรียน 6 ปีก่อนจบเป็นแพทย์ อายุมักไม่เกิน 24 ปี

B. แพทย์หญิงใช้ทุน หลังจากเรียนจบจะทำงานใน รพ. อำเภอ หรือ รพ. จังหวัด อายุอยู่ในช่วง ยี่สิบกลางๆ รายได้เกือบ 100K
เวลาพอมี แต่อยู่ไกล

C. แพทย์หญิงเทรนนิ่ง จะทำงานอยู่ในโรงเรียนแพทย์ขนาดใหญ่ ในกทม. เช่น จุฬา รามา ศิริราช ตำรวจ ราชวิถี บลาๆๆ
หรือ รพ.หลักๆในภูมิภาค เช่น โรงพยาบาลศูนย์ต่างๆ อายุอยู่ที่ ยี่สิบปลายๆไปถึงสามสิบต้นๆ รายได้ 20-30K เวลาแทบไม่มี และ เครียดง่าย

D. แพทย์หญิงจบแล้ว จะประจำการตามรพ.ต่างๆตั้งแต่ โรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลเอกชน ไปจนถึง รพ. อำเภอ
รายได้แปรผันแต่อย่างต่ำมักจะ 100K+ ไปจนถึง 1M เวลาเริ่มมีมากขึ้น อายุอยู่ที่ สามต้นๆขึ้นไป


2. การจีบแพทย์หญิงกลุ่ม A หรือ นักศึกษาแพทย์
เป็นสิ่งที่พึงกระทำ แต่ความยากจัดอยู่ในเลเวลสูงสุด
โอกาสที่จะล้มเหลวมีสูงเป็นเงาตามตัว
เนื่องจากเรียนหนักไม่ค่อยมีเวลา จบแล้วก็ต้องไปใช้ทุนต่างจังหวัดอีกสามปี และมักจะยังไม่สนใจเรื่องความรักมากนัก
คุณต้องทราบว่า คุณหมอผู้หญิงหน้าตาน่ารัก นิสัยดี หรือ
แพทย์หญิงเกรด A+ จะอยู่ที่กลุ่มนี้ทั้งหมด หลายครั้งที่คุณพบเห็น คุณหมอท่านนี้ทำไมสวยขนาดนี้ มักจะมีเจ้าของหมดแล้วครับ
ถ้าคุณอยากมีแฟนสเกลระดับนี้ ต้องจีบแพทย์ในกลุ่มนี้
นักเรียนแพทย์ด้วยกันจะคว้าโอกาสอันนี้ไว้ได้ง่ายกว่าสายอื่น โดยการจีบตอนเรียนและสังยิงสัญญาออกไปใช้ทุนด้วยกัน
ถึงยากเพียงใด แต่จะมีช่องว่างให้เข้าได้อยู่เหมือนกัน จำให้ดีนะครับ เลขคี่ ปี 1 3 5
ปี 1 --> คุณจีบแบบนักศึกษาจีบกันได้ตามปกติ ชอบก็จีบเลย ต่างคณะจะดูมีราศีมาก
ปี 3 --> เริ่มคุ้นชินกับ preclinic
ปี 5 --> มีเวลามากขึ้น มีเวลาให้คุณก่อความรักก่อนออกไปใช้ทุน
แต่ 2 4 6 ถ้าไม่จนตรอกจริงๆ อย่าไปเข้าช่วงนี้
แพทญ์หญิงกลุ่ม A เป็น Gen Z ตอนต้นๆ เป็นวัยแห่ง Social network and sharing
go with the flow ครับ เข้าหาตามทางไป ฟังมากๆ พูดให้น้อย ดูมีสตอรี่ จริงใจ ให้เวลา


3. การจีบแพทย์หญิงใช้ทุน หรือ แพทย์หญิงกลุ่ม B
แพทย์หญิงกลุ่มนี้นี่หล่ะครับท่านผู้ชม กลุ่มสุดท้ายของสาวแพทย์ Gen Y ที่ยังมีชีวิตอยู่
เป็น Gen Y กลุ่มสุดท้ายจริงๆ
การจีบแพทย์ใช้ทุน ผมยังยืนยันว่าเป็นช่องทางที่ดีที่สุดของคุณในการจีบแพทย์หญิงอย่างยั่งยืน
เนื่องจาก คุณหมออยู่ที่อำเภอ ค่อนข้างว่างกว่าตอนเป็นนักเรียนแพทย์หรือช่วงเทรนนิ่งมาก
ปลัดอำเภอ หมอหนุ่มรุ่นเดียวกัน รุ่นพี่ ตำหนวด เกษตรอำเภอ ทนายความ พ่อค้า
สามารถเข้ามาจีบได้ (แต่ติดรึเปล่าไม่รู้นะ)
ด้วยวัยขณะนี้ แพทย์หญิงจะเริ่มคิดเรื่องคู่ครองมากขึ้น
แต่หน้าเฟส หน้างาน อาจจะดูไม่แคร์ ไม่สน อย่างไรก็ตาม ลึกๆคิดครับ เชื่อผม

เทคนิคคือ
1. จริงใจ ให้เค้าสัมผัสได้
2. เริ่มต้นอย่างนุ่มนวล และ มีเรื่องราว ชวนให้คิดถึง
3. สุภาพบุรุษต่อผู้หญิง หมอหญิงร้อยละ 90 ชอบผู้ชายที่ดูเป็น gentleman  
4. สะอาด ไม่โสโครก
5. เข้าใจอะไรง่ายๆ ไม่เรื่องมาก

ห้าข้อนี้ ในเงื่อนไขที่ว่ารูปร่าง + หน้า(มะ-รึง)ต้องได้
ให้มันปานกลางขึ้นไป แม้เค้าจะบอกว่าไม่สนหน้าตา
แต่เชื่อผม สนครับ ในระดับนึง... ต้องผ่านเกณฑ์ในระดับนึง
อยากรู้ว่าแพทย์หญิงใช้ทุนเหล่านี้โสดหรือไม่ ให้ถามพยาบาลที่ดูทรงแล้ว like and share มากที่สุด
เข้าไปทางไลน์ หรือ เฟสก่อน เริ่มซอฟท์ ห้าม โผงผางตูมตามเด็ดขาด
แอบเอาเบอร์เค้ามาแล้วโทรหา นี่ห้ามเด็ดขาด
เคยมีลูกศิษย์มาเล่าให้ฟังว่า ตอนใช้ทุนอยู่รพ. อำเภอ
มีผู้ชายคนนึงมายืนดักหน้า OPD เดินเข้ามาเลย
'ชื่ออะไร เราอ่ะ'
หมอก็เดินหนีซิครับ นึกว่าตามมายิงถึงรพ.
เดินตามเลย คว้ามือไว้ดึงแขนมา แม่มหยั่งกะ ณเดช
'ชอบอ่ะ อยากเป็นแฟนด้วย'
มาทราบภายหลังว่าเป็นตำรวจ ทุกวันนี้ลูกสอง
Gen Y ครับ Gen Y เค้ามีทางของเค้า
แต่ห้ามเลียนแบบนะครับ อันนี้มันข้อยกเว้น
หน้าเหียกๆไป ทำแบบนี้ มีตายนะครับ ผมพูดตรงนี้เลย
แพทย์หญิงบางคนนี่ฆ่าวัวด้วยมือเปล่านะครับ ไม่ได้พูดเล่น


4. การจีบแพทย์หญิงเทรนนิ่ง หรือ แพทย์หญิงกลุ่ม C
แพทย์หญิงเทรนนิ่ง มีความเป็นผู้ใหญ่มากระดับนึงแล้ว เกือบ 30 หรือ 30+
แพทย์หญิงที่เหลือรอดมาได้จนถึงระดับ C ได้นี่จิตเค้าต้องแข็งระดับนึงเลย
คุณคิดดู อยู่โสดอย่างเดียวดาย ในพื้นที่ห่างไกลถึงสามปี
แพทย์หญิงที่ยังหลุดรอด มาได้ถึงกลุ่มนี้นั้นแบ่งได้เป็นสามแบบใหญ่ๆคือ  
1. ไม่มีใครจีบ หรือ พูดเล่นๆกันในกลุ่มเพื่อนคือ "ไม่มีใครเอา" กลุ่มนี้มีปริมาณมากที่สุด  
2. คบแล้วเลิก ตรงนี้ที่คุณอาจจะมีโอกาสจีบ แพทย์หญิงระดับท๊อปได้บ้าง
แต่ปัญหาคือ กลุ่มนี้อาจจะลืมแฟนเก่าไม่ได้ มีปัญหาเฉพาะตัวบางอย่างที่ทำให้ต้องเลิก
หรือ เข็ดขยาดผู้ชายไปเลย ไม่ง่ายที่คุณจะจีบ อาจมีปัญหาหรืออุปสรรคได้มาก  
3. มีคนมาจีบแต่ไม่เคยตกลงปลงใจกับใคร หายากมากครับ (super rare) เหมือนในนิยาย
แต่ว่ากันว่ามีอยู่จริง ก็ไม่ง่ายอีกเช่นกัน ที่คุณจะชนะใจเธอได้

ต้องบอกว่าเป็นจังหวะหรือโอกาสทองของแพทย์หนุ่ม ทั้ง resident/fellow/staff ที่ยังโสดอยู่  
แต่ไม่ใช่สำหรับบุคคลากรอาชีพอื่น  
เป็นช่วงโค้งสุดท้ายจริงๆแล้ว สำหรับแพทย์หญิง ถ้าผ่านด่านนี้ไปโดยยังโสด
โอกาส อยู่เดี่ยวตลอดชีพ สูงมากๆ prognosis ต้องบอกว่า dismal จริงๆ
ถามว่าจีบยังไง
คำตอบ จีบยังไงก็จีบไปเหอะ อย่าลีลามาก ชอบก็จีบ
เค้ารู้ตั้งแต่คุณอ้าปากแล้ว จิดพวกนี้เค้าแข็งมาก มองหน้าทะลุถึงม้าม
เหมือนส่งใบสมัครอ่ะ
ไปทางไลน์ เฟส IG หรือ ยื่นใบสมัครด้วยตัวเอง พร้อมบัตรประชาชน
ให้เค้าไปสกรีนดูก่อน ถ้าโอเค้าก็จะเปิดโอกาสให้คุณลองงานสามเดือน
คุยกัน เที่ยว กินข้าว ถ้าผ่านโปรก็ได้เป็นแฟนกัน


5. การจีบแพทย์หญิงจบแล้ว
เป็นหัวข้อที่ผมพิมพ์ไป มือสั่นๆ (เขียนดีมั๊ยว้าาา หรือ ทิ้งเป็นจุดไข่ปลาไว้ก็พอ) กลัวตาย
แพทย์หญิงที่หลุดรอดมาจนถึง ณ จุด จุด นี้
ต้องบอกว่า ที่สุดของแจ้แล้วครับพี่น้อง
พวกนี้เป็นพวก Gen X แท้ๆอ่ะ หลัง Baby Boomer สงครามโลกครั้งที่สอง
คุณคิดดู ว่าเค้าฝ่าด่านอรหันต์ มากี่ชั้น โดยไม่เสียความโสดไปซะก่อน
โคตรๆอ่ะ
เธอเหล่านี้เป็นเหมือนสมบัติของชาติที่ควรถนอมไว้
ก่อนที่คุณจะเข้าไปจีบ สูดหายใจลึกๆ กัดกรามแนนๆ
แหม .... อารมณ์ประมาณ เล่นเกมส์แล้วไปถึงบอสด่านสุดท้าย มันต้องยากแน่ๆ
ก่อนที่คุณจะเข้าไปจีบ นะครับ
คุณควรรู้ nature ก่อนว่า เพราะอะไร เค้าถึงยังโสด
(แต่ไม่ต้องไปถามเค้านะเว๊ยย)
สาเหตุ ได้แก่ .....  
ก. ตั้งแต่เป็นสาวมา ไม่เคยมีหนุ่มมาจีบเลยแม้แต่คนเดียว (ก็เป็นกลุ่มเดิมจากแพทย์หญิงเทรนนิ่งที่โอนถ่ายมาถึงตรงนี้)
ข. มีมาจีบ แต่ มันไม่ใช่ มันไม่โดน แพทย์หญิงกลุ่มนี้ มักจะมีสเปคที่ค่อนข้างสูง  
ค. มีแฟนมาแล้วเลิก จน เข็ด ขยาด เจอผู้ชายชั่วๆ เลวๆ ไม่เอาอีกแล้ว ขออยู่คนเดียวดีกว่า
ง. แพทย์หญิงเลสเบี้ยน มีจริงๆนะครับ ไม่ใช่มีแต่หมอผู้ชายเก้งกวางที่ล้อเลียนกัน หมอผู้หญิงก็มี แต่เราไม่รู้เท่านั้น

เมื่อเข้าใจ nature หรือที่มาของแพทย์หญิงจบแล้ว
คุณต้องรู้อีกอย่างว่า หมอผู้หญิงเหล่านี้
ไม่ใช่เข้าหาได้ง่ายๆ เพราะ อายุเค้าเป็นระดับผู้ใหญ่มากๆ
ส่วนใหญ่ (แต่ไม่ทั้งหมด) รายได้เค้าหลักหลายแสนนะคุณ
คุณคิดดู กระเป๋า เครื่องสำอาง การกินอยู่ ของเค้าระดับไหน
คุณเงินเดือน สามสี่หมื่น ไม่มีอะไรเป็นของตัวเองซักอย่าง มีแต่หนี้  
ต้องคิดให้หนัก ก่อนเข้าไปจีบ เค้าอาจจะไม่สนเรื่องเงิน
แต่คุณเป็นผู้ชาย ถามตัวเองก่อน ไหวมั๊ย  
ปัญหาที่จะตามมา หลังเป็นแฟน หรือ แต่งงานไปแล้วรับได้มั๊ย  
โอเค ถ้าคิดว่าไหว ก็ลุยต่อ

แพทย์หญิงจบแล้ว ส่วนใหญ่ มักจะตกผลึกทางความคิดไปเรียบร้อยแล้ว
คือ ไม่ได้แคร์เรื่องชีวิตคู่อีกต่อไป ลองดูตามหน้าเฟสได้
เค้าอยู่มาได้ ถึงขั้นนี้ เค้าไม่แคร์ ไม่ need มากเหมือนสาวๆแล้วคุณ
คือ มีก็ดีถ้าเจอ ไม่มีก็ไม่เป็นไร กรูชอบอยู่คนเดียว
ดังนั้น การที่คุณจะทำให้เค้าคลิกได้ สำคัญสุดเชื่อผม สองอย่าง
1. ความเข้าใจที่คุณมีให้เค้า อย่างจริงใจ
2. ความซื่อสัตย์
ความรู้สึกที่เติมเต็มชีวิตเค้า ที่ขาดหายไป แบบ you complete me  
คุณไม่ต้องลีลามาก ไม่ต้องงัดเทคนิกเสี่ยวๆ อะไรมาใช้ทั้งนั้น
เค้าฉลาดกว่าที่คุณคิดเยอะ ระดับสอบบอร์ด ซับบอร์ดผ่านมาได้
ฝ่าดงตีน รรพ. ขณะเทรนนิ่ง มาได้ จิตเค้าอยู่ในระดับไม่ธรรมดาแล้วคุณ
เท่าที่ผมสังเกต แพทย์หญิงจบแล้ว จะมีลักษณะเฉพาะบางอย่างที่ค่อนข้างชัดเจน
อาจจะเป็นเพราะเค้าไม่ได้มีลูก หรือ สามี ให้ต้องเครียด ก็จะมี trait ของตัวเองชัดเจนขึ้น

แพทย์หญิง ศัลยกรรม
จะดูแข็งๆหน่อย ไม่หวานมาก รูปร่างไม่ล่ำอย่างที่เข้าใจกัน
มีสองแบบ ไม่หุ่นดี ก็แม่มอ้วนไปเลย แต่นิสัยผู้ชายๆ ไม่ค่อยออกกำลังกาย ตรงข้ามกับที่เรามักจะเข้าใจกันนะครับ
น้ำหอม เสื้อผ้า หน้าผม นอกงานนี่ เป๊ะมาก มักจะเปิดกว้างสำหรับผู้ชายนอกวงการมากกว่าพวกหมอเมด

แพทย์หญิง อายุรกรรม
หน้าตาบ้านๆ ใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นเดินผ่านๆ
นึกว่าทำงานขายเสื้อผ้าออนไลน์
น่ารักมีแต่น้อย หน้ากลางๆ หนักไปทาง ocd perfectionist
พูดน้ำไหลไฟดับ
ทุกอย่างต้องละเอียด ออกกำลังกายไว้อัพลงเฟสให้เพื่อนๆมากดไลค์
โสดเยอะ เพื่อนเพียบ เข้าหาง่าย (แต่มักไม่ค่อยมีคนกล้าเข้าหา) หน้ามันๆ หัวยุ่งๆ หน่อย
ผมเคยทักเพื่อนนะ หันไปตกใจสะดุ้ง
'เฮ้ย หน้าแม่มมันมาก เติมอะไรหน่อยดิ'
'เติมอะไร'
'ก็แป้ง เปิ้ง อะไรเงี้ย'
'เติมมาแล้ว หน้ากรูแห้งได้แค่นี้'

แพทย์หญิง รังสี
เหมือน The Dark Knight Rise ทำงานอยู่ในถ้ำ ที่มืดๆ สแคลชแผ่นแบบดีเจ ม่านตาลุกโพรงตลอดเวลา
เพราะแสงแม่มน้อย แต่หน้าตาแต่ละคนนี่ เกาหลี สุดๆ สวยเยอะมาก หน้างานก็ไม่ค่อยเห็นตัว นอกงานนี่แทบไม่รู้เลยว่าทำงานอะไร

แพทย์หญิง ดมยา
เก้งเยอะมากเอ๊ยไม่ใช่ สวยน่ารักหุ่นดี เป็นส่วนใหญ่
ถ้าไม่ใช่คนในวงการเดียวกันเข้าถึงยากมาก

แพทย์หญิง กุมาร
น่ารักแบบโนเนะ หุ่นเหมือนเด็กๆ อาจเป็นเพราะอยู่กับเด็กๆตลอดเวลา เวลาพูดจะยิ้มไปด้วยแบบนางสาวไทย
บางทีมันติดๆออกมา นอกงานเหมือนกัน แต่ตกดึก เพลงมานี่ออกสเตปลืมตาย ผมเคยเจอบ่อยๆ หมอเด็กเนี่ยไม่รู้เป็นอะไร
ท่าเต้นแต่ละท่า ท่านได้แต่ใดมา เหมือนซ้อมมาจากบ้าน

เฮ้ย ผมเขียนๆไปอย่างนี้นี่จะโดนอะไรมั๊ยวะ เริ่มกลัวๆ

แพทย์หญิง สกิน
ยุน อาว์ มากกกก แต่ละคนเหมือนก๊อปออกมาจากเบ้าเดียวกัน เป๊ะเว่อ ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้ง
เป็นยังไง คือใช่เลยอ่ะคุณ ไม่เหมือนหมอในละครแบบป้าแว่น
ที่ฝังหัวเรามาตั้งแต่เด็กๆ

แพทย์หญิง GP
หน้าจะตรงข้ามกับสายสกิน คือคุณเห็นสกินยังไง อันนี้ตรงข้ามอ่ะ หน้าเครียด
หัวยุ่ง อารมณ์ขันไม่ค่อยมี เวลาหัวเราะจะ หัวเราะไม่เกินสามพยางค์ 'หึ หึ หึ' หลอนมาก
พูดน้อย เวลาคุยกันตอบไม่เกินสามสี่คำ ถาม ทำไม บอกกรูเซฟกล่องเสียง

แพทย์หญิง Eyes
นี่แหละ นางเอกตัวจริง น่ารักเกิน 90%
ผมแนะนำ คุณไปหาเค้าบอกเคืองตา ไปกี่ทีก็ เคืองตา บอก dry eyes
เป็นได้เรื่อยๆ ตรวจไปก็ไม่เจอ
หมอถาม ทำไมไม่หยอดน้ำตาเทียม
บอกเลย หยอดไม่เป็น หยอดทีไรก็โดนแก้มทุกที ให้หมอหยอดให้ดู อะไรต่างๆ

พอได้ไอเดียนะครับ จริงๆหมอผู้หญิงน่ารักมากๆ ผมยืนยัน
เพียงแต่เราอาจจะไม่กล้าเข้าหาเท่านั้นเอง
ยังไงก็สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า มีความสุขมากๆนะครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่