เห็นหลายคนสงสัยกันว่า ภาษีเงินได้คำนวณยังไง แล้วรายได้เท่าไรที่ต้องเสียภาษี งั้นลองมาดูวิธีคำนวณภาษีเงินได้กันครับ มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
1. รวม
"รายได้" ทั้งปี เรียกว่า "รายได้พึงประเมิน" ถ้าเป็นพนักงานประจำหรือมนุษย์เงินเดือน รายได้ก็คือ พวกเงินเดือน เงินโบนัส
2. รวม
"ค่าใช้จ่าย" สำหรับมนุษย์เงินเดือนจะคิดค่าใช้จ่าย โดยเอา "เงินได้พึงประเมิน" จากข้อ 1 มาคูณด้วย 50% ได้เท่าไร ให้ดูว่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 100,000 บาท ถ้ามากกว่า 100,000 บาท ให้ใช้ 100,000 บาท (ถ้าเป็นรายได้ประเภทอื่นๆ การคำนวณจะต่างจากนี้)
3. รวม
"ค่าลดหย่อน" ต่างๆ เช่น ลดหย่อนส่วนตัว ลดหย่อนบุตร บิดามารดา เงินสะสมเข้ากองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ยอดซื้อ LTF RMF ประกันชีวิต (ลองศึกษาเงื่อนไขต่างๆ ของค่าลดหย่อนเหล่านี้ดูนะครับ)
4. คำนวณโดยเอาตัวเลข ข้อ (1) - (2) - (3) สิ่งที่ได้คือ "เงินได้สุทธิ" แล้วเอาไปเข้าตารางภาษี
มาดูตัวอย่างกันครับ
เงินเดือน 30,000 บาท มีเงินโบนัสทั้งปี 90,000 บาท หักประกันสังคม 9,000 บาทต่อปี ซื้อ LTF ไว้ 10,000 บาท ไม่มีค่าลดหย่อนอื่นๆ อีก นอกจากค่าหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท (สามารถใช้สิทธิลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาททุกคน) จะได้ว่า
1. เงินได้พึงประเมิน (30,000 x 12) + 90,000 = 450,000 บาท
2. ค่าใช้จ่าย 450,000 x 50% = 225,000 บาท --> ใช้ตัวเลข 100,000 บาท 100,000 บาท
3. ค่าลดหย่อน 60,000 + 9,000 + 10,000 = 79,000 บาท
4. เงินได้สุทธิ 450,000 - 100,000 - 79,000 = 271,000 บาท
จากนั้นเอา "เงินได้สุทธิ" ไปเข้าตารางภาษี จะได้ภาษีที่ต้องเสียเท่ากับ 6,050 บาท (เงินได้สุทธิ 0 - 150,000 บาท ไม่เสียภาษี 150,001 - 300,000 บาท เสีย 5%)
ในกรณีที่มีแต่รายได้ที่เป็นเงินเดือน เงินโบนัส จะยื่นภาษีโดยใช้แบบ ภ.ง.ด.91 แต่ถ้ามีเงินได้อย่างอื่น ที่นอกเหนือจากเงินเดือนด้วย จะยื่นด้วยแบบ ภ.ง.ด.90
สำหรับรายได้ที่เริ่มเสียภาษีจะอยู่ที่ 310,000 บาทต่อปี เพราะเมื่อหักค่าใช้จ่าย 100,000 บาท ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท ทำให้เงินได้สุทธิอยู่ที่ 150,000 บาท ซึ่งเงินได้สุทธิ 150,000 บาทแรก จะได้รับยกเว้นภาษี ดังนั้น ถ้ารายได้ทั้งปีมากกว่า 310,000 บาท จะเริ่มเสียภาษีครับ
ถึงแม้ว่ารายได้ยังไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี แต่ถ้ามีรายได้ที่เป็นเงินเดือน ค่าจ้าง เกิน 120,000 บาท หรือรายได้อื่นที่ไม่ใช่เงินเดือนเกิน 60,000 บาท ก็มีหน้าที่ต้องยื่นแบบนะครับ
<คำถามฮิต K-Expert ช่วยตอบ> ภาษีเงินได้...คำนวณยังไงกันนะ
1. รวม "รายได้" ทั้งปี เรียกว่า "รายได้พึงประเมิน" ถ้าเป็นพนักงานประจำหรือมนุษย์เงินเดือน รายได้ก็คือ พวกเงินเดือน เงินโบนัส
2. รวม "ค่าใช้จ่าย" สำหรับมนุษย์เงินเดือนจะคิดค่าใช้จ่าย โดยเอา "เงินได้พึงประเมิน" จากข้อ 1 มาคูณด้วย 50% ได้เท่าไร ให้ดูว่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 100,000 บาท ถ้ามากกว่า 100,000 บาท ให้ใช้ 100,000 บาท (ถ้าเป็นรายได้ประเภทอื่นๆ การคำนวณจะต่างจากนี้)
3. รวม "ค่าลดหย่อน" ต่างๆ เช่น ลดหย่อนส่วนตัว ลดหย่อนบุตร บิดามารดา เงินสะสมเข้ากองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ยอดซื้อ LTF RMF ประกันชีวิต (ลองศึกษาเงื่อนไขต่างๆ ของค่าลดหย่อนเหล่านี้ดูนะครับ)
4. คำนวณโดยเอาตัวเลข ข้อ (1) - (2) - (3) สิ่งที่ได้คือ "เงินได้สุทธิ" แล้วเอาไปเข้าตารางภาษี
มาดูตัวอย่างกันครับ
เงินเดือน 30,000 บาท มีเงินโบนัสทั้งปี 90,000 บาท หักประกันสังคม 9,000 บาทต่อปี ซื้อ LTF ไว้ 10,000 บาท ไม่มีค่าลดหย่อนอื่นๆ อีก นอกจากค่าหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท (สามารถใช้สิทธิลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาททุกคน) จะได้ว่า
1. เงินได้พึงประเมิน (30,000 x 12) + 90,000 = 450,000 บาท
2. ค่าใช้จ่าย 450,000 x 50% = 225,000 บาท --> ใช้ตัวเลข 100,000 บาท 100,000 บาท
3. ค่าลดหย่อน 60,000 + 9,000 + 10,000 = 79,000 บาท
4. เงินได้สุทธิ 450,000 - 100,000 - 79,000 = 271,000 บาท
จากนั้นเอา "เงินได้สุทธิ" ไปเข้าตารางภาษี จะได้ภาษีที่ต้องเสียเท่ากับ 6,050 บาท (เงินได้สุทธิ 0 - 150,000 บาท ไม่เสียภาษี 150,001 - 300,000 บาท เสีย 5%)
ในกรณีที่มีแต่รายได้ที่เป็นเงินเดือน เงินโบนัส จะยื่นภาษีโดยใช้แบบ ภ.ง.ด.91 แต่ถ้ามีเงินได้อย่างอื่น ที่นอกเหนือจากเงินเดือนด้วย จะยื่นด้วยแบบ ภ.ง.ด.90
สำหรับรายได้ที่เริ่มเสียภาษีจะอยู่ที่ 310,000 บาทต่อปี เพราะเมื่อหักค่าใช้จ่าย 100,000 บาท ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท ทำให้เงินได้สุทธิอยู่ที่ 150,000 บาท ซึ่งเงินได้สุทธิ 150,000 บาทแรก จะได้รับยกเว้นภาษี ดังนั้น ถ้ารายได้ทั้งปีมากกว่า 310,000 บาท จะเริ่มเสียภาษีครับ
ถึงแม้ว่ารายได้ยังไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี แต่ถ้ามีรายได้ที่เป็นเงินเดือน ค่าจ้าง เกิน 120,000 บาท หรือรายได้อื่นที่ไม่ใช่เงินเดือนเกิน 60,000 บาท ก็มีหน้าที่ต้องยื่นแบบนะครับ