[CR] ฝึกโยคะกลางขุนเขาที่ปากช่อง @Santosha ~ Lifestyle Resort & Holistic Health Coaching~

มีภารกิจต้องติดตามท่านผู้นำและผองเพื่อน เพื่อไปฝึกโยคะกับคุณครูผู้สอนที่รู้จักกัน โดยครั้งนี้คุณครูเลือกจัดขึ้นที่ รีสอร์ท สวยหรู มีเอกลักษณ์ เป็นของตัวเอง เน้นลูกค้าที่ต้องการ อยู่กับใกล้กับธรรมชาติ กินอาหารเพื่อสุขภาพ แถมท้ายด้วยการฝึกโยคะ เพิ่มพูนสติปัญญาและความสามารถของผู้สนใจ


งานนี้เราชำระเงินให้กับผู้จัด (คุณครู) เป็นแพ็คเก็จ รวมค่าที่พัก 3 วัน 2 คืน รวมอาหารกลางวันและเย็นจำนวน 6 มื้อและคลาสเรียนโยคะ 3 ชม./วัน ถ้าใครสนใจหาข้อมูลเรื่องที่พักและราคาที่พัก เช็คได้จากเว็บของรีสอร์ทหรือเฟสบุ๊คได้โดยตรงเลยครับ
https://www.facebook.com/SantoshaThailand
http://www.santoshathailand.com

ออกเดินทางกันเลยครับ ตามระเบียบแจกแผนที่ แจ้งพิกัดก่อนเลย

พวกเรามาจากศรีราชา พอถึงบางปะอินแล้วก็ขับรถต่อมาที่วังน้อย ผ่านสระบุรี มวกเหล็กจนถึงทางแยกเข้าปากช่องให้ชิดซ้ายเพื่อวิ่งเข้าในตัวอำเภอปากช่องได้เลยครับ ขับรถต่อมาเรื่อยๆ จนถึงไฟแดงที่ 2 เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าทางวัดเขาไทรสายัณย์ แล้วก็ขับรถต่อตามป้าย Santosha มาเรื่อยๆ ประมาณ 5 กม. จะเจอวัดหนองมะค่าทางซ้ายมือ คราวนี้เล็งป้าย Santosha ทางขวามือได้เลยครับ

ปากทางเข้ารีสอร์ท จะมีแปลงผัก เล้าไก่ เล้าแพะ แล้วคอกเลี้ยงกวางอยู่ใกล้ๆ ด้วยครับ เดี่ยวผมจะเฉลยให้ฟังว่าทำไมต้องมี สิ่งเหล่านี้อยู่หน้ารีสอร์ท





เมื่อมาถึง จัดแจงขนของลงจากรถ แล้วเดินเข้าอาคารที่ดูหรูแบบเรียบง่าย เป็นตึก 2 ชั้น ออกแบบให้ความรู้สึกเหมือนอาคารแถวๆ กรีช จากการประเมินห้องพักทั้งหมดน่าจะมีราวๆ 20 ห้องเห็นจะได้







รับกุญแจห้องจากทีมงานผู้จัดงาน ได้เวลาเข้าห้องเพื่อชื่นชมสภาพห้องพักแล้วครับ
จากสภาพที่พบ ห้องใหญ่มาก สะอาดสะอ้าน เน้นโทนสีขาว เพื่อให้ดูโอ่อ่า อลังการ ผมชอบที่สุดเห้นจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่ใช้ทำเป็นโต๊ะทำงานได้นี้แหละครับ ขนาดพอดีกับความต้องการของผมเลย ทีประทับใจอีกอย่างเห็นจะเป็นเตียงนอนที่ใหญ่มากจริงๆครับ ถ้าเป็นฝรั่งหรือคนตัวใหญ่คงจะนอนสบายเลยทีเดียว




มาดูที่ระเบียงด้านนอกสามารถเปิดออกไปนั่งชมวิว จิบกาแฟยามเช้า หรือชายามบ่าย ดูท่าจะได้บรรยากาศดีทีเดียว


ที่สะดุดตาผมเห็นจะเป็นมุ้งลวด ที่ต้องบอกว่านี่เป็นโรงแรมแรกที่ผมไปพักแล้วมีมุ้งลวดด้วย แต่เรื่องนี้คงเดาไม่ยาก เพราะกลางคืนอากาศเย็นสบายมากๆ สามารถเปิดหน้าต่าและปิดแอร์นอนได้สบายๆ เลย ก็เลยต้องมีมุ้งลวดกันยุงซะหน่อย


ได้เวลาอาหารกลางวัน เราไปดูโซนห้องอาหารกันเลยครับ
ด้านหน้าห้องอาหารมีป้ายแจ้งว่า มีสอนโยคะตอนเช้าเวลา 7.30-8.45 ด้วยนะครับ ต้องบอกเลยว่าลูกค้าผู้สนใจสามารถเข้าเรียนได้เลยครับ สอนโดยเจ้าของรีสอร์ทที่ล่ำเรียนมาจนมีความชำนาญเป็นอย่างดีครับ


ห้องอาหารที่นี่ไม่ใหญ่มาก น่าจะรับแขกได้ประมาณ 30 คนเห็นจะได้ มีส่วนเชื่อมต่อไปที่สระว่ายน้ำ (ไม่แน่ใจว่าจะมีใครมาว่ายไหม เพราะขนาดบ่ายกว่าๆแล้ว ยังมีลมเย็นๆ ทำให้ขนลุกได้เลย) บรรยากาศที่นี่ทำให้รู้สึกเหมือนนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้านตัวเองครับ ดูอบอุ่น ไม่เป็นทางการจนเกินไป แต่ก็ไม่หลวมจนลูกค้ารู้สึกว่าโดนทอดทิ้ง ทางร้านก็มีบริการอาหารตามเมนู ที่ผมเดาว่ารสชาติไม่น่าจะต่างกันกับที่กลุ่มผมสั่งไว้ ที่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่อาหารเพื่อสุขภาพ ไม่เค็ม ไม่หวานและไม่เผ็ด เป็นอาหารที่มีรสชาติอ่อนๆ ที่เด่นก็น่าจะเป็นน้ำสารพัดผัก+ผลไม้ ข้าวกล้อง ผักสด ไข่ไก่ (ถ้าจำกันได้ ผักสดและไข่ไก่ก็มาจากเล้าไก่กับแปลงผัก ที่ผมบรรยายไปตอนแรกนั่นแหละครับ) ที่สำคัญที่นี่ไม่ใช้เนื้อสัตว์ใหญ่ เช่นหมูหรือเนื้อครับ จะมีเพียงเนื้อไก่ กุ้งและปลาครับ








หลังจากอิ่มแล้วก็เดินชมบรรยากาศรอบๆ กันดีกว่าครับ พอดีแอบเห็นว่ามีอีกตึกหนึ่งที่เชื่อมจากห้องอาหาร แต่สังเกตดูไม่มีห้องพักและเป็นเพียงห้องโถง ผมก็เลยเดาว่าน่าจะเป้นห้องที่ใช้เป็นห้องเรียนโยคะเป็นแน่แท้ เพราะเห็นอุปกรณ์และเสื่อโยคะ จัดเตรียมไว้ด้วย เดี่ยวตอนเย็นเราจะมาแอบดูเขาเรียนกันอีกทีครับ


อ่ะ!!! คราวนี้ถึงเวลาออกท่องเที่ยว ก่อนกลับมาเข้าเรียนโยคะในตอนเย็นแล้วครับ ทริปนี้ผมเลือกมองหาสถานที่ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยไป สุดท้ายจบที่ เขาใหญ่ Art Museum ที่ตั้งอยู่ถนนธนรัตน์ ทางขึ้นเขาใหญ่ ถ้าไปจากปากช่องจะอยู่ก่อนถึง ปาลิโอ ตามนี้ครับ

เขาใหญ่ Art Museum เป็นสถานที่แสดงงานศิลปะ มีทั้งแบบภาพเขียนและงานปั้นครับ ผลงานส่วนใหญ่ก็เป็นของศิลปินที่มีชื่อเสียงรัดบประเทศ เช่น  อ.ถวัลย์ อ.เฉลิมชัยครับ ที่นี่เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 9.00-18.00 ตอนนี้ไม่เก็บค่าเข้าชมครับ นอกจากนี้ยังมีบ้านพักไว้ให้บริการสำหรับคนที่สนใจศึกษางานศิลปะอย่างลึกซึ้งด้วยครับ ใครสนใจติดตามอ่านข้อมูลได้เลยครับ http://www.khaoyaiartmuseum.com
เนื่องจากผมเป็นคนไม่เชี่ยวชาญเรื่องงานศิลปะ ขอถ่านแต่ภาพมาให้ชมแบบรัวๆ เลยแล้วกันครับ









ก่อนกลับตามประสาลูกศิษย์คุณครูโยคะ เลยจัดท่าสวยๆมาเป็นที่ระลึก 1 ภาพ


ชมงานศิลปะจนครบทุกส่วนล่ะ ที่ต่อไปคงหนีไม่พ้น ปาลิโอ หรือ พรีโม เพียสต้า แล้วครับ สุดท้ายเลือก พรีโม เพียสต้า ที่ดูท่าทางคนจะน้อยหน่อย เพราะต้องจ่ายเงินค่าบัตรเข้าชม คนล่ะ 100 บาท ถ่ายรูปมาเยอะเหมือนกันแต่ไม่อยากนำเสนอ เพราะสวนใหญ่จะถ่ายติดคนซะมากกว่า จะมีก็เป็นภาพทิ้งท้าย ตามประสาลูกศิษย์คุณครูโยคะเลยจัดท่าสวยๆมาเป็นที่ระลึก 1 ภาพ (อีกแล้วครับท่าน)


มองดูนาฬิกา ได้เวลาต้องกลับมาเตรียมตัวเข้าเรียนโยคะ ที่รีสอร์ทล่ะ ออกเดินทางกลับกันดีกว่าครับ ใช้เวลาขับรถประมาณ 30 นาทีเพราะรถเริ่มเยอะแล้ว มาถึงรีสอร์ทเจอแม่ไก่หลายตัวกำลังเดินหากิน สงสัยว่าเจ้าพวกนี้แหละคือที่มาของไข่ที่เรากินในแต่ละวัน


ในระหว่างที่ชาวบ้านเขาเข้าเรียนโยคะกัน คนประหลาดอย่างผมเลยต้อง ออกมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศต่อ




เนื่องจากการเรียนโยคะต้องใช้สมาธิผมเลยไม่ได้เข้าไปถ่ายรูปข้างใน แต่แอบถ่ายมาได้ 1 รูปครับ ให้พอได้ชมว่าเข้าเรียนกันจริงจังและสวยงามขนาดไหน


หลังจากจบคลาสโยคะก็เป็นช่วงเวลาอาหารเย็นที่ทางคณะผู้จัดงานเตรียมไว้ให้ ที่ห้องอาหารเช่นเคย ไม่มีภาพเพราะมัวแต่กินจนเพลิน ขอทิ้งภาพบรรยากาศของตึกยามดึกไปแทนแล้วกันครับ พรุ่งนี้เช้าเจอกกันใหม่ห้องเรียนโยคะรอบเช้า


ตื่นมาตอนเช้าผมก็ไม่เจอท่านผู้นำล่ะ เพราะหล่อนไปโยคะตั้งแต่เช้า หลังจากผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เลยเดินลงไปหาอะไรกิน ได้เป็นกาแฟ ขนมปัง ข้าวต้ม แฮม (และอาหารเช้าสไตล์อเมริกันทั่วไปครับ) กินข้าวเช้าจนเสร็จ คนเรียนโยคะก็ไม่ลงมา เลยเดินหามุมถ่ายภาพในยามเช้าได้มาอีก 3 มุมสวยๆครับ




หลังจากอาหารเช้าเราเลือกไปเที่ยวที่ JimThomson Farm เพราะเปิดเป็นวันแรกของปี (1 ปี เปิดให้เข้าชมประมาณ 1 เดือน) ตั้งอยู่ที่ อ.ปักธงชัย ขับรถไปประมาณ 1 ชั่วโมง คนเยอะมากครับ ถ้าใครสนใจอยากไป ยังมีเวลาถึงวันที่ 11 มกราคมปีหน้าครับ ใครสนใจข้อมูลค้นหาได้ตามอินเตอร์เน็ตครับ ตอนนี้มีเว็บท่องเที่ยวหลายเว็บกำลังโปรโมทอยู่..




หลังจากเที่ยวชมจนหนำใจ คุ้มราคาบัตรผ่านประตูแล้วก็กลับมาที่รีสอร์ทเพื่อเตรียมตัวเข้าเรียนโยคะรอบเย็น สวนผม...เห่อๆๆ หมดแรง ขอนอนเอาแรงก่อนล่ะครับ..


เช้าวันรุ่งขึ้นก่อนเช็คเอ้าท์ ทางรีสอร์ทมีกิจกรรมชมสวนผัก เก็บกลับบ้านตามอัธยาศัย (มีค่าใช้จ่ายนิดหน่อย) เลยได้ผักสดมาคนล่ะ ถุง สองถุง


สุดท้ายก่อนจากขอฝาก ประโยคเด็ดที่ผมเหลือบไปเห็น มาให้อ่านและคิดกันครับ ผมชอบมากเลยทีเดียว


และฝากวีดีโอ ที่ผมถ่ายไว้ตอนเดินชมที่พัก เพื่อให้เห็นภาพโดยรวมมากขึ้นครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ชื่อสินค้า:   Santosha ~ Lifestyle Resort & Holistic Health Coaching
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่