ความรักที่คนรอบข้างบอกว่าเหมือนในนิยาย(0)

สวัสดีครับ เพื่อนๆสังคมพันทิปที่เข้ามาอ่านทุกท่าน รวมไปถึงคนที่กดลิงค์มาอ่านด้วยนะครับ ผมอยากจะแชร์เรื่องราวความรักปัจจุบันของผมให้หลายๆคนได้อ่าน เพราะผมเชื่อว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกท่านเนื่องจากว่าผมได้ให้คำปรึกษาเรื่องความรักกับคนรอบตัวเยอะพอสมควร พอเราแลกเปลียนเรื่องราวความรักของพวกเรา เล่าสู่กันฟัง หลายคนก็บอกว่ามันมีประโยชน์ ผมจึงอยากมาแชร์เรื่องราวของผม (ขอใช้พื้นที่ตรงนี้หน่อยนะครับ) เรื่องมันยาวก็แบ่งเป็นตอนๆนะครับ . . . เริ่มเลยนะครับ(ผมขอเล่าอย่างละเอียด~ส่วนตัวผมก็ชอบเรื่องของตัวเองมาก)

**ผมขอใช้นามสมมติว่า "เน็ก" นะครับ(มันเฟี้ยวฟ้าวดี) และผู้หญิงที่ผมจะกล่าวถึงขอสมมติชื่อเธอว่า "จ๋า" (ชื่อดาราที่ชอบน่ะครับ)**

                  จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ถ้านับเป็นตัวเลข คงให้เป็นเลข 0 ช่วงเวลานั้นผมอยู่ชั้น ม.3 ครับ เรียนอยู่โรงเรียนเอกชน เปิดเทอม 2 ได้ 1สัปดาห์ ผมไปเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆในวันเสาร์ หลังจากเตะบอลเสร็จผมไปส่งเพื่อนที่ร้านเกมส์ หลังจากนั้นผมก็กลับบ้าน แต่พ้นร้านเกมส์ไม่ถึง 10 เมตร มี3แยกที่ใหญ่มาก รถทางแยกของผมติดไปแดงด้วยความที่รีบ ผมว่าจะขับมอไซค์ขึ้นฟุตบาทจะได้กลับถึงบ้านเร็วๆ(เพราะต้องไปหาหมอสิวต่อ) แต่ยังไม่ทันขึ้นเลยครับ สัญญาณไฟเขียวสว่างขึ้น รถ 10 ล้อ ที่จอดอยู่ข้างๆผมก็วิ่งเลี้ยวซ้ายไป ซึ่งผมก็อยู่ด้านซ้ายของรถครับ ผมหันหน้าไปทางซ้ายอยู่เพื่อที่จะขึ้นฟุตบาท เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากครับ ด้านข้างของรถ 10 ล้อ เชียว+กระแทกแขนและขาขวาผมอย่างรวดเร็ว รู้สึกตัวก็เห็นกระดูกขาเปลี่ยนทรงไป(มันไม่ทะลุเนื้อนะครับ) พร้อมกับล้มอยู่ข้างๆ ด้วยความชา ความเจ็บจึงยังไม่บังเกิดต่อต่อมความรู้สึก ก็พยายามขยับกระถูกข้อเท้าให้เป็นรูปเดิม แล้วก็เป็นเหมือนเดิม ไอเราก็ดีใจไม่เป็นไรมาก พอเหยียบลงไปที่พื้น ภาพที่เห็นขณะมองข้อเท้าขวาคือ กระเปลี่ยนทรงเหมือนเห้นว่ามันหักต่อหน้าต่อตายังไงอย่างงั้น โชคดีครับที่มีพนักงงานขายประกันมาช่วยกับคุณลุงที่ผ่านมาแล้วขี่มอไซค์ไปส่งบ้าน (หวังว่าทั้งสองจะได้รับคำขอบคุณจากกระทู้นี้) หลังจากนั้นผมก็ทำการรักษาตัวและได้รับการผ่าตัดจากหมอฝีมือดีในโรงพยาบาลเลิศสิน หยุดเรียนไป 1 เดือนกับ 1 สัปดาห์เต็มๆ ก็ไปโรงเรียนในสภาพที่ใช้ไม้ค้ำ 2 ข้างไปเรียน ณ ตอนนั้นพักฟื้นตัวที่บ้านคุณยาย ไปโรงเรียนก็ติดรถน้องในหมู่บ้านไป (เรียกว่าโชคดีมากๆ) ช่วงเวลานั้นผมได้รับรู้ถึงสิ่งที่ผู้ใหญ่ชอบพูดกันว่า "รสชาติชีวิต" ซึ่งผมก็เกิดจริตใจอยากจะเปลี่ยนจากเด็กวัยรุ่นใช้ชีวิตตามใจตามอารมณ์ เป็นผู้ใหญ่มีเหตุผล(อธิบายสไตล์ที่อยากจะเป็นไม่ถูก) อยากจะจริงจังกับชีวิตนั่นเองแหละครับ ผมด้วยอายุที่กำลังจะ 15 บวกกับ พึ่งจะเลิกกับแฟนคนล่าสุดได้ไม่นาน(แฟนคนล่าสุดเราคบกันตอนผมผ่าตัดเสร็จเธอเป็นดีมากครับ~แต่ตอนนั้นผมเอง แง่มๆ) เรื่องที่คิดจะจริงจังก็มีแต่เรื่องความรัก แต่อารมณ์ตอนนั้นมันไม่ใช่เหมือนพวกโพสต์สเตตัสว่า "จะจริงจังแล้วนะ" อะไรประมาณนี้ คือผมตั้งใจจะจริงจังจริงๆ ตอนนั้นในห้องเรียนก็มีคู่เพื่อนคู่รักคบกัน เด็กเรียนเบอร์ 1 ของห้อง กับเพื่อนกลุ่มเตะบอลของผม ผมของเพื่อนทั้งสองแล้วรู้สึกมีความสุขยังไงไม่รู้ ผมก็ตระหนักคิดในใจ "เมื่อก่อนกูชอบเด็กเรียนนี่หว่า แต่แฟนที่ผ่านมาไม่เคยเป็นเด็กเรียนเลย" ด้วยการเลี้ยงดูมาแบบเด็กไทยโบราณ จินตภาพเด็กเรียนของผมคือ เรียบร้อย นิสัยดี พูดจาเพราะ หญิงบ้านสาวเรือน เรียนเก่งและฉลาด ผมก็หน้าตาไม่ได้ดีเดอะไรเรียกว่าตอนนั้นนิสัยแย่มากๆด้วยซ้ำ แต่เมื่อมองหาผู้หญิงก็ไม่ได้แคร์ต้นทุนตัวเองเท่าไหร่ 55555 แต่ด้วยทัศนวิสัยของผมมันแคบก็มองหาแต่ในโรงเรียน ซึ่งก็หาไม่ได้ (ในขณะที่คิดที่หาผมยังเดินด้วย 2 ขาไม่ได้) หลังจากที่ผมสามารถเดินได้ด้วยขาตัวเอง(ตามที่หมอบอก ซึ่งควรจะทำได้ก่อนหน้านี้1เดือน แต่พลาดไปเพราะหมอนัดตรวจผิด1เดือน 5555) ผมก็พยายามหัดเดินครับ แต่มันเจ็บมาก เนื่องจากใส่เฝือกอ่อนนานขาจึงลีบไปเยอะ และไขมันที่ส้นเท้าก็หายไปเกือบครึ่ง ก็พยายามเดินให้ได้เรื่อยๆ จนเดินได้จริงๆ(แต่ช้ามาก) ก็เลยแรดอยากจะเดินไปพักเหมือนเพื่อนๆกันบ้าง เมื่อเดินออกไปพักไปืนคุยกับเพื่อนๆก็เหมือนโชคหล่นยังไงไม่รู้ คุณครูวิชาสุขศึกษาดันเรียกตัวผมไปลงแข่งขันโต้วาทีในหัวข้อ "เกิดเป็นชายหรือหญิงดีกว่ากัน" ซึ่งเพื่อนผมที่ถูกเลือกตัวไว้ก็ดันโยนภาระนี้มาให้ผมซะงั้น ไอผมก็มองว่าสนุกดีเลยตอบตกลงไป

                  คุณครูก็มีการนัดซ้อมการแข่งกันหลายรอบเพื่อคุณภาพในการแข่งขัน ไอผมก็เป็นคนที่ปากเหมือนน้าเน็กอะครับ คือมั่นใจในฝีปาก ไงก็ด่าเอาฮาไว้ก่อน ผมก็เลยไม่ค่อยสนใจการซ้อม พอมีการซ้อมใหญ่ ทุกคนต้องไปซ้อมที่อาคารใหม่ที่พึ่งสร้าง หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จผมก็เดินไปที่อาคารหลังใหม่ ระหว่างทางเดินผมก็เงยหน้าไปมองท้องฟ้า เห็นแสงอาทิตย์มาหน่อยๆ ก็คิดถึงแต่เรื่องเด็กเรียนที่จะจริงจังด้วย "เฮ้อ~มันจะมีมั้ยนะ คนแบบนี้ในดรงเรียน" จนที่สุดผมก็ยั่งลงตรงโต๊ะที่โรงอาหารอาคารใหม่(ซ้อมแข่งกันตรงนั้น) เมื่อผมนั่งก็หันคอไปทางซ้ายก็คิดแต่เรื่องเดิมๆ จนครูบอกว่าเริ่มได้แล้ว ผมหันคอกลับมาตรงกลางเอียงไปทางขวาหน่อย สิ่งที่ผมเห็นคือ เป็นน้อง ม.1 ใส่แว่น ณ เวลานั้นผมไม่มีสติมากพอในการจะมองทุกลายอะเอียดบนใบหน้าของน้อง แต่เมื่อได้เห็นน้องคนนั้น มันเหมือนมีสายฟ้าผ่ามากลางใจ ความรู้สึกตอนนั้นคือ "มันใช่วะ"

ยังก็ขอจบตอนที่ 0 นี้ไว้แค่นี้นะครับ
ปล.ตอนที่เล่าให้คนอื่นฟังไม่ได้เล่าแบบนี้นะครับ แต่ที่เขียนลงกระทู้แบบนี้ก็เพื่อความเข้าใจที่จะเกิดขึ้นจากการอ่าน อัธรสในการอ่าน
ปลล. อาจจะปูเรื่องน่าเบื่อนอกประเด็นมากไปหน่อย แต่เพื่อโยงไปถึงตอนต่อไปได้อย่างสนุกสนาน อ่านไม่น่าเบื่อ โปรดอย่าพึ่งเบื่อกันนะครับ
ปลลล.เรื่องที่เล่าจริงทั้งหมดครับต่างแค่ชื่อของผม ใครที่ได้อ่านก็ฝากติดตามด้วยนะครับ มันมีประโยชน์จริงๆ ผมเชื่อแบบนั้น แต่เวลาผมไม่ค่อยมี จะถยอยเขียนลงนะครับ

***(อ่านให้จบเรื่องกันก่อนนะครับ อย่าติงอะไรแรงๆนะครับ ผมไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ แต่ก็ไม่อยากเขียนอะไรที่น่าเบื่อจนไม่อยากอ่านต่อ)***
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่