คือมีปัญหาอยากจะพูดอยากจะระบาย
ขออธิบายก่อนนะคะ ว่า เรื่องราวนี้ไม่มีเจตนาจะให้คิดหรือเจตนาที่เป็นไปในทางที่ลบนะคะ คำพูดบางคำพูดอาจจะวกวน เพราะตอนที่เราพิมพ์นี้สติ ความนึกคิดเรา สภาพจิตใจเราแย่มากถึงขั้นเลวร้ายมาก
คือเรื่องมีอยู่ว่าเราอยู่กับแม่เรามาสองคน พ่อเสียชีวิตตั้งแต่เราเด็กๆ ดังนั้นแม่เราจะเป็นคนหาเลี้ยงเรา ด้วยวิธีที่ก็ไม่ได้ดีมากมายเรามีบ้านอยู่มีอะไรดีกว่าเด็กหลายๆคน แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยมีใครรู้เลยคือเบื้องหลังสิ่งเหล่านั้นก็มีด่านมืดอยู่ แต่เราก็เติบโตขึ้นมาได้ เรามีชีวิตเพื่อดูแลแม่ ตอนนี้เราอายุ 27 ปีแล้ว เรามีครอบครัว มีลูกชาย1 คน เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อ สามปีก่อน แม่เรามีครอบครัวใหม่ กับคนที่อายุอ่อนกว่า แม่เราเริ่มมีปัญหาทางการเงิน ประจวบกับเราไม่ได้ทำงานมากมายนัก เพราะเลี้ยงลูกและเพิ่งสร้างเนื้อสร้างตัว แม่เรามีมรดกที่ดินของตระกูลค้อนข้างเยอะที่บ้านต้นตระกูลทำนาคะ ที่ภาคเหนือ แม่เริ่มเอาที่ดินจำนอง แบบลับๆโดยที่เราไม่รู้ ปีแรกเราไปไถ่มา จากเงินเก็บที่ก่อนมีน้องหมดไป 150.000บาท และต่อมาก็มีเรื่อง นั้นโน่น นี้เรื่องเงินๆทองๆ จนเราไม่ไหว เราเลยอพยพ ครอบครัวเราไปอยู่บ้านแม่ 1 ปีกว่า แม่กับแฟนใหม่มีปัญหากัน อาจจะเพราะแกทำอะไรได้ไม่ถนัด เขาก็มีปัญหากันจนเลิกกันไป เรามารู้ทีหลังว่าเขาไปดาวน์รถให้แต่เป็นชื่อแม่เรา เสียโง่ไป1 คดี ดีหน่อยรถมือ2 ราคาไม่แพงมาก เราก็จัดการจ่าย จบเรื่องสามี หลังจากนั้นแม่เราเหมือนเสียการทรงตัว พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เราย้ายมาทำงานที่สิงคโปร์ และพาลุกมาเรียนด้วย เราได้รายได้จากงาน ประจำค้อนข้างดี แต่แล้ว เราก็ต้องค้นเจอหนี้แม่ แม่เอาที่มรดกของเราไปขายฝาก 3ล้านบ้านใน ช่วงที่ผ่านมา ดอกเบี้ย ร้อยละ3%ต่อเดือน เราต้องแบกภาระดอกเบี้ยมหาโหด นี่มา ตลอดระยะเวลา 1ปี ซึ้งเป็นเงินจะล้านแล้ว อันนี่เราผิดเองที่ไม่ตัดสินใจขายให้มันขาดๆไป ทั้งๆที่เราก็รู้ว่ามันไม่สามารถ แบกไปได้ตลอด ตอนนี้เราตัดสินใจขาย ที่ดิน7 ไร่ ราคาตอนนั้น7ล้านกว่าเพราะที่ติดถนนพหโยธิน ทำเลดีมาก แม่เราไม่ยอมขาย กินยาตาย ยังไงก็ไม่ยอมขาย สามีเรารู้เรื่องรับไม่ได้ เพราะเขาเคยช่วยมาจนไม่รู้จะช่วยยังไงแล้ว ตอนนี้สามีเราไม่ยุ่งและเราก็ไม่กล้าเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง มันจุกอกมาก เราไม่อยากให้ใครมาว่าแม่เรา ด่าแม่เรา เราต้องปกปิดหนี้เสียของครอบครัว ไม่ให้สามีรู้และต้องแบกภาระส่วนตัวอีก เราตั้งใจจะขาย ขายเท่าไหร่ก็ขายขอปลอดหนี้ก็พอ เราตัดสินใจอย่างนั้น จนมาวันนี้ เรามาทราปอีกว่า รถฟอร์ดที่เราซื้อ ใช้ชื่อแม่ซื้อนั้น เราส่งเงินให้แกตลอด แต่แกไม่เคยจ่ายเลย จนมีหมายศาลมาบังคับคดียึดทรัพย์ เราเหนื่อยมาก เราท้อมาก เราไม่รู้ว่าเราจะต้องแก้ไขจัดการยังไงให้มันจบๆไป ตอนนี้สามีเราก็ไม่อยากยุ่งกับเราแล้วเพราะเขามองว่าเรา ความสามารถในการจัดการเรื่องต่างๆต่ำมาก แถมเอาเงินเขามาจ่ายไม่รู้เท่าไหร่ ทั้งๆที่เขาขอแล้ว อย่าทำครอบครัวเดือดร้อนเพราะที่ดินบ้าๆนี้ มีข้อแก้ตัวให้แม่ได้ทุกอย่าง ทำไมแม่ถึงไม่ยอมหยุดสร้างปัญหาสักที เราไม่รู้ว่าเราควรจะตำหนิแม่ไหม หรือเราควรจะตำหนิตัวเราเอง เงินเก็บเรา รายได้เรา ใช้หนี้ให้แม่ตลอดเวลา3-5 ปีมานี้ เราหมดไป มากขนาดที่ใครก็จิตนาการไม่ถึง ว่าชาวบ้านๆ จะสร้างหนี้ได้มากขนาดนี่เลยหรือ เราควรทำยังไงดี
บอกตรงๆปัญหานี่ใครก็พูดได้ว่าก็ขายที ก็จบ แต่ปัญหาคือที่ดินขายยากมาก แผ่นดินไหวราคาตก เราขายไม่พอใช้หนี้ด้วยซ้ำ แถมที่มรดก ญาติพี่น้องทราปเราจะแก้ไขหรือพูดยังไงดี ตอนนี้ทุกคนดราหน้า เราจะพูดได้ยังไง ว่าหนี้พวกนี่แม่เราก่อ เราจะพูดได้ยังไงว่าฉันพยายามทำดีที่สุดแล้ว เราบอกใครไม่ได้เลยว่าทุกอย่างแม่เราทำ เรารักแม่เรามาก แต่เราไม่รู้ว่าเราจะแก้ไขยังไง ให้เขามาอยู่ด้วยเขาก็ไม่มา มันเหมือนเวรเหมือนกรรม มรดก ที่เราไม่ขายแต่แรกเพราะมันเป็นที่ที่เรารักมา เราฝันกับมันไว้มาก เราอยากรักษาคำพูดที่ให้ไว้กับยายไว้ จนตอนนี้สิ่งเหล่านี่มันกำลังจะฆ่าชีวิตเราทางอ้อม เราไม่มีเงินใช้หนี้ สามล้าน เราไม่มีเงิน จ่ายปิดฟอร์ด เราไม่มีแรงที่เราจะสู้ เราตะทำยังไงดี ปล่อย ทิสโก้ บังคับคดียึดทรัพย์แม่ให้หมดๆไป หรือเอารถไปขายหาเงินมาจ่ายส่วนต่าง ที่ดิน 7 ล้าน ขาย3ล้านยังขายไม่ออกเลย เราจะแก้ไขยังไงได้ทันนะ เราไม่เคยตกโง่ มากขนาดน้มาก่อนในชีวิตเลย
เศร้ามากจนคิดจะฆ่าตัวตายหลายครั้งมาก เพียงแค่เราอยู่เมืองนอกกับลูกเพียงลำพังคิดแค่ว่าถ้าเราตายไป ใครจะพาลูกกลับไทย ใครจะดูแลเขา แต่เราก็แบกปัญหานี้ทั้งหมดไว้ไม่ได้ ตอนนี้เรากับสามีก็แยกกันอยู่ และเป็นสถาณะ เพื่อนเท่านั้น เราว่าชีวิตเราพังไปครึ่งหนึ่งแล้ว เราไม่รู้ว่าเราจะมีชีวิตผ่านพรุ่งนี้ไปได้ยังไง
เราขอปรึกษา ผู้ที่ผ่านประสบการณ์เหล่านี่มาแล้ว ช่วยสอนหนู ชี้แนะหนูเอาบุญเถอะนะคะ เพราะตอนนี้สมองมันตื้อมากๆจริงๆ
---ปล.มีคนถามว่าแม่เอาเงินไปทำอะไร(ขอยกคำพูดที่อธิบาย ออกไปมาแปะไว้นะคะ)
แม่เราไม่บอก ไม่พูดอะไรเลย ได้แต่ร้องไห้ เราสืบทราปมาแค่ว่าแกกู้เงินก้อนแรกไปทำร้านอาหาร ขายได้ดีแต่ไม่มีเงิน ไม่เคยทำงานหนัก หูเบาคิดว่ามันหาเงินได้ก็ลงทุน พอไม่ไหวก็เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น ตามคำแนะนำของสามีหรือช่วยกันคิดกันทำนั้นละคะ แล้วมันก็ทบต้นทบดอก มาเรื่อยๆ จากแสน เป็นสองแสน มากขึ้นมากขึ้น จนมา 3 ล้าน นี่อะคะ ที่ดิน 2แปลง แปลง1 มี7ไร่ อีกแปลงมี 6 ไร่ กู้มาสามล้าน เราคิดว่ายอดขนาดนี่คือ ดอกทบต้น แล้วย้ายเจ้าหนี้ มาคนนี้คะ เท่าที่เราสืบทราปมา ส่วนเงินเอามาเท่าไหร่ เอาไปทำไรเราเค้นถามแม่ แม่เราไม่เคยตอบตรงคำถามหรือตรงกันสักครั้งเดียว ด้วยความเป็นลูกเราก็พอรู้นิสัยแม่ เราเลยไม่ถามต่อ สืบเอา เหนื่อยมากที่ต้องคุย เราอยากตัดความเป็นแม่ลูกมากแต่เราทำไม่ได้ พอเราพูดจริงจังแกก็ด่าทอ ของขึ้น โมโหร้ายมาก จนเราไม่รู้จะเริ่มแก้อะไรยังไง คะ
ปัญหาในใจที่พูดให้ใครฟังไมไ่ด้
ขออธิบายก่อนนะคะ ว่า เรื่องราวนี้ไม่มีเจตนาจะให้คิดหรือเจตนาที่เป็นไปในทางที่ลบนะคะ คำพูดบางคำพูดอาจจะวกวน เพราะตอนที่เราพิมพ์นี้สติ ความนึกคิดเรา สภาพจิตใจเราแย่มากถึงขั้นเลวร้ายมาก
คือเรื่องมีอยู่ว่าเราอยู่กับแม่เรามาสองคน พ่อเสียชีวิตตั้งแต่เราเด็กๆ ดังนั้นแม่เราจะเป็นคนหาเลี้ยงเรา ด้วยวิธีที่ก็ไม่ได้ดีมากมายเรามีบ้านอยู่มีอะไรดีกว่าเด็กหลายๆคน แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยมีใครรู้เลยคือเบื้องหลังสิ่งเหล่านั้นก็มีด่านมืดอยู่ แต่เราก็เติบโตขึ้นมาได้ เรามีชีวิตเพื่อดูแลแม่ ตอนนี้เราอายุ 27 ปีแล้ว เรามีครอบครัว มีลูกชาย1 คน เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อ สามปีก่อน แม่เรามีครอบครัวใหม่ กับคนที่อายุอ่อนกว่า แม่เราเริ่มมีปัญหาทางการเงิน ประจวบกับเราไม่ได้ทำงานมากมายนัก เพราะเลี้ยงลูกและเพิ่งสร้างเนื้อสร้างตัว แม่เรามีมรดกที่ดินของตระกูลค้อนข้างเยอะที่บ้านต้นตระกูลทำนาคะ ที่ภาคเหนือ แม่เริ่มเอาที่ดินจำนอง แบบลับๆโดยที่เราไม่รู้ ปีแรกเราไปไถ่มา จากเงินเก็บที่ก่อนมีน้องหมดไป 150.000บาท และต่อมาก็มีเรื่อง นั้นโน่น นี้เรื่องเงินๆทองๆ จนเราไม่ไหว เราเลยอพยพ ครอบครัวเราไปอยู่บ้านแม่ 1 ปีกว่า แม่กับแฟนใหม่มีปัญหากัน อาจจะเพราะแกทำอะไรได้ไม่ถนัด เขาก็มีปัญหากันจนเลิกกันไป เรามารู้ทีหลังว่าเขาไปดาวน์รถให้แต่เป็นชื่อแม่เรา เสียโง่ไป1 คดี ดีหน่อยรถมือ2 ราคาไม่แพงมาก เราก็จัดการจ่าย จบเรื่องสามี หลังจากนั้นแม่เราเหมือนเสียการทรงตัว พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เราย้ายมาทำงานที่สิงคโปร์ และพาลุกมาเรียนด้วย เราได้รายได้จากงาน ประจำค้อนข้างดี แต่แล้ว เราก็ต้องค้นเจอหนี้แม่ แม่เอาที่มรดกของเราไปขายฝาก 3ล้านบ้านใน ช่วงที่ผ่านมา ดอกเบี้ย ร้อยละ3%ต่อเดือน เราต้องแบกภาระดอกเบี้ยมหาโหด นี่มา ตลอดระยะเวลา 1ปี ซึ้งเป็นเงินจะล้านแล้ว อันนี่เราผิดเองที่ไม่ตัดสินใจขายให้มันขาดๆไป ทั้งๆที่เราก็รู้ว่ามันไม่สามารถ แบกไปได้ตลอด ตอนนี้เราตัดสินใจขาย ที่ดิน7 ไร่ ราคาตอนนั้น7ล้านกว่าเพราะที่ติดถนนพหโยธิน ทำเลดีมาก แม่เราไม่ยอมขาย กินยาตาย ยังไงก็ไม่ยอมขาย สามีเรารู้เรื่องรับไม่ได้ เพราะเขาเคยช่วยมาจนไม่รู้จะช่วยยังไงแล้ว ตอนนี้สามีเราไม่ยุ่งและเราก็ไม่กล้าเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง มันจุกอกมาก เราไม่อยากให้ใครมาว่าแม่เรา ด่าแม่เรา เราต้องปกปิดหนี้เสียของครอบครัว ไม่ให้สามีรู้และต้องแบกภาระส่วนตัวอีก เราตั้งใจจะขาย ขายเท่าไหร่ก็ขายขอปลอดหนี้ก็พอ เราตัดสินใจอย่างนั้น จนมาวันนี้ เรามาทราปอีกว่า รถฟอร์ดที่เราซื้อ ใช้ชื่อแม่ซื้อนั้น เราส่งเงินให้แกตลอด แต่แกไม่เคยจ่ายเลย จนมีหมายศาลมาบังคับคดียึดทรัพย์ เราเหนื่อยมาก เราท้อมาก เราไม่รู้ว่าเราจะต้องแก้ไขจัดการยังไงให้มันจบๆไป ตอนนี้สามีเราก็ไม่อยากยุ่งกับเราแล้วเพราะเขามองว่าเรา ความสามารถในการจัดการเรื่องต่างๆต่ำมาก แถมเอาเงินเขามาจ่ายไม่รู้เท่าไหร่ ทั้งๆที่เขาขอแล้ว อย่าทำครอบครัวเดือดร้อนเพราะที่ดินบ้าๆนี้ มีข้อแก้ตัวให้แม่ได้ทุกอย่าง ทำไมแม่ถึงไม่ยอมหยุดสร้างปัญหาสักที เราไม่รู้ว่าเราควรจะตำหนิแม่ไหม หรือเราควรจะตำหนิตัวเราเอง เงินเก็บเรา รายได้เรา ใช้หนี้ให้แม่ตลอดเวลา3-5 ปีมานี้ เราหมดไป มากขนาดที่ใครก็จิตนาการไม่ถึง ว่าชาวบ้านๆ จะสร้างหนี้ได้มากขนาดนี่เลยหรือ เราควรทำยังไงดี
บอกตรงๆปัญหานี่ใครก็พูดได้ว่าก็ขายที ก็จบ แต่ปัญหาคือที่ดินขายยากมาก แผ่นดินไหวราคาตก เราขายไม่พอใช้หนี้ด้วยซ้ำ แถมที่มรดก ญาติพี่น้องทราปเราจะแก้ไขหรือพูดยังไงดี ตอนนี้ทุกคนดราหน้า เราจะพูดได้ยังไง ว่าหนี้พวกนี่แม่เราก่อ เราจะพูดได้ยังไงว่าฉันพยายามทำดีที่สุดแล้ว เราบอกใครไม่ได้เลยว่าทุกอย่างแม่เราทำ เรารักแม่เรามาก แต่เราไม่รู้ว่าเราจะแก้ไขยังไง ให้เขามาอยู่ด้วยเขาก็ไม่มา มันเหมือนเวรเหมือนกรรม มรดก ที่เราไม่ขายแต่แรกเพราะมันเป็นที่ที่เรารักมา เราฝันกับมันไว้มาก เราอยากรักษาคำพูดที่ให้ไว้กับยายไว้ จนตอนนี้สิ่งเหล่านี่มันกำลังจะฆ่าชีวิตเราทางอ้อม เราไม่มีเงินใช้หนี้ สามล้าน เราไม่มีเงิน จ่ายปิดฟอร์ด เราไม่มีแรงที่เราจะสู้ เราตะทำยังไงดี ปล่อย ทิสโก้ บังคับคดียึดทรัพย์แม่ให้หมดๆไป หรือเอารถไปขายหาเงินมาจ่ายส่วนต่าง ที่ดิน 7 ล้าน ขาย3ล้านยังขายไม่ออกเลย เราจะแก้ไขยังไงได้ทันนะ เราไม่เคยตกโง่ มากขนาดน้มาก่อนในชีวิตเลย
เศร้ามากจนคิดจะฆ่าตัวตายหลายครั้งมาก เพียงแค่เราอยู่เมืองนอกกับลูกเพียงลำพังคิดแค่ว่าถ้าเราตายไป ใครจะพาลูกกลับไทย ใครจะดูแลเขา แต่เราก็แบกปัญหานี้ทั้งหมดไว้ไม่ได้ ตอนนี้เรากับสามีก็แยกกันอยู่ และเป็นสถาณะ เพื่อนเท่านั้น เราว่าชีวิตเราพังไปครึ่งหนึ่งแล้ว เราไม่รู้ว่าเราจะมีชีวิตผ่านพรุ่งนี้ไปได้ยังไง
เราขอปรึกษา ผู้ที่ผ่านประสบการณ์เหล่านี่มาแล้ว ช่วยสอนหนู ชี้แนะหนูเอาบุญเถอะนะคะ เพราะตอนนี้สมองมันตื้อมากๆจริงๆ
---ปล.มีคนถามว่าแม่เอาเงินไปทำอะไร(ขอยกคำพูดที่อธิบาย ออกไปมาแปะไว้นะคะ)
แม่เราไม่บอก ไม่พูดอะไรเลย ได้แต่ร้องไห้ เราสืบทราปมาแค่ว่าแกกู้เงินก้อนแรกไปทำร้านอาหาร ขายได้ดีแต่ไม่มีเงิน ไม่เคยทำงานหนัก หูเบาคิดว่ามันหาเงินได้ก็ลงทุน พอไม่ไหวก็เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น ตามคำแนะนำของสามีหรือช่วยกันคิดกันทำนั้นละคะ แล้วมันก็ทบต้นทบดอก มาเรื่อยๆ จากแสน เป็นสองแสน มากขึ้นมากขึ้น จนมา 3 ล้าน นี่อะคะ ที่ดิน 2แปลง แปลง1 มี7ไร่ อีกแปลงมี 6 ไร่ กู้มาสามล้าน เราคิดว่ายอดขนาดนี่คือ ดอกทบต้น แล้วย้ายเจ้าหนี้ มาคนนี้คะ เท่าที่เราสืบทราปมา ส่วนเงินเอามาเท่าไหร่ เอาไปทำไรเราเค้นถามแม่ แม่เราไม่เคยตอบตรงคำถามหรือตรงกันสักครั้งเดียว ด้วยความเป็นลูกเราก็พอรู้นิสัยแม่ เราเลยไม่ถามต่อ สืบเอา เหนื่อยมากที่ต้องคุย เราอยากตัดความเป็นแม่ลูกมากแต่เราทำไม่ได้ พอเราพูดจริงจังแกก็ด่าทอ ของขึ้น โมโหร้ายมาก จนเราไม่รู้จะเริ่มแก้อะไรยังไง คะ