ไม่ลงรอยกันกับแม่สามีเพราะเรื่องหนี้ที่เค้าก่อขึ้นแต่ให้เรากับสามีเป็นคนจ่ายให้ โดยไม่ปรึกษาเราก่อน คือแม่สามีเคยย้ายมาอยู่ด้วยตอนเราท้อง เพราะเค้าบอกว่าจะมาช่วยเลี้ยงลูก ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เราไม่ได้บอกหรือพูดคุยเรื่องนี้กับสามีว่าให้เค้ามาเลี้ยงลูกให้ ซึ่งตอนเราคลอดลูกเค้าดูแลเราและลูก แต่เค้าแอบเอาที่เข้ากูเงินเพื่อมาจ่ายเงินนอกระบบ ซึ่งปัญหาตรงนี้เราก็ปวดหัวมากพอแล้ว แต่มีเรื่องความไม่มีเรียบร้อยภายในบ้าน ไม่ช่วยงานบ้าน ไม่รักษาความสะอาด ในตอนแรกเราอยู่สองคนกับสามมี แต่พอแม่สามีย้ายมาอยู่ด้วยเค้าก็พาแฟนมาให้ด้วย อยู่ได้ประมาณ 7-8 เดือนก็โทรไปชวนลูกชายที่ทำงานอยู่กรุงเทพมาอยู่บ้านเราด้วย มาอยู่คือไม่ช่วยทำอะไร แค่ทำตัวเกียจคร้านไปวัน ๆ นั่งกินนอนกิน เข้าข้างลูก โดยที่เราพูดอะไรไม่ได้เหมือนน้ำท่วมปาก เพราะแม่คอยถือหางโดยไม่คิดตักเตือนลูกเลย เค้าทำงานหามรุ่งหามค่ำก็ไม่ตื่น ใช้งานก็ยากคือใครว่าลูกชายเค้าไม่ได้เลย เอาแต่พูดว่า พี่นอนยังไม่ตื่นจะไปปลุกทำไม ลูกชายกินข้าวลุกหนีโดยไม่เก็บจานก็ไม่บ่นไม่พูด เราท้อใจ เหนื่อยใจ สามีก็ไม่เคยเข้าใจ
พูดแต่ว่า เราต้องมีญาติ ในอนาคตก็พึ่งพากัน อันนี้เราเข้าใจดี แต่การที่มาอยู่บ้านเราแล้วทำตัวแบบนี้มันใช่เหรอ
จนวันหนึ่งผิดใจกันเพราะปัญหาหลายอย่าง ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายของลูก ค่ากิน ค่าเที่ยว ค่าหนี้ก็เป็นเราต้องจ่ายเองทั้งหมด ในบ้านมีกัน 5 คน แต่เราออกค่าใช้จ่ายเพียงคน จะให้เราอดทนไงไหว คือเรามีรายได้ค่อนข้างเยอะ และเยอะกว่าสามี พอแม่สามีเห็นแบบนั้นก็อยากมาอยู่ด้วย จากที่แต่ก่อนไม่ชอบเรา แต่เค้ามาย้ายออกไปตอนเราทะเลาะกับสามีหนัก ๆ เรื่องค่าใช้จ่ายที่เกินจะรับไหว โดยแม่สามีเค้าพูดแทรกโดยที่ทำให้เรารู้สึกว่าทำไมเราจะต้องมาอดทนกับอะไรแบบนี้ด้วยวะ เรามีตอบโต้นิดหน่อยซึ่งนั่นก็ทำให้แม่สามีเค้าย้ายออกไป
แต่.... สองเดือนต่อมา เค้าก็ต้องอพยพกันเพราะสงคราม แต่เค้าไม่ได้มาอยู่บ้านเรานะคะ เพราะไม่ลงรอยกัน ตอนแรกเห็นสามีบอกว่าแม่จะมาอยู่ด้วยเค้าอพยพกันน่ะ เราก็ไม่ว่าอะไร แต่สรุปเค้าไปอยู่สถานที่อพยพ แต่ 5 วันต่อมา ทำทีเป็นมาหาย่าซึ่งบ้านเรากับบ้านย่าติดกันใครพูดอะไรก็จะได้ยินหมด ถ้านั่งคุยอยู่หน้าบ้าน เค้ามาหากับลูกเราแต่เราไม่ได้ออกไปทำงานอยู่ในห้อง (ในมุมของเค้าหรือคนอื่น เราอาจจะผิดที่ไม่ไปถามไถ่ อื่น ๆ ) แต่ในมุมมองของเราที่ถูกกระทำ (เรายังโกรธ ทั้งคำพูดของเค้าที่ค่อยบั่นทอนจิตใจเรา เรื่องลูก เรื่องลูกคนโตของเค้า และอื่น ๆ อีกมากมาย) ตรงนี้เรายอมรับว่าเรายังไม่พร้อมคุยจริง ๆ และไม่รู้เมื่อไหร่ ยิ่งเรามาได้ยินคำพูดแซะ กระแนะกระแหนเราแบบนั้นเรายิ่งปิดกั้น พูดทำนองว่าเราอวดดี ไม่ได้ดีไปตลอดหรอก เงินก็ไม่ให้ใช้ เงินออกไม่โอนให้เลยสักบาท อพยพมาก็ไม่ไปเยี่ยม ไม่เอาข้าวไปส่ง ไม่เคยถาม ยามเจ็บไข้ได้ป่วยใครพาไปหาหมอ ป่วยมาใครดูแล อวดดี หนี้สินไม่ยอมจ่ายให้ มาพูดให้เราแบบนี้ เราต้องรู้สึกยังไง
เราเลี้ยงลูกเอง ทำงานเอง แต่มาบั่นทอนเราด้วถ้อยคำแบบนี้ ซึ่งหนี้เราจ่ายทุกงวดให้ทุกเดือน ตรงนี้เราพยายามอดทนรอให้ลูกโต 2-3 ขวบ แล้วจะย้ายออกไปอยู่คนเดียว หนี้ที่เหลือก็จะให้สามีหาคนผ่อนจ่ายเอง เพราะสามีไม่เคยมองเราในแง่ดีเลย คอยพูดว่าเราไม่เอาใคร ไม่คบญาติ ใกล้ตายไปใครจะดูแล ไม่ใช่เราไม่เอาญาติ ไม่เอาใคร แต่เราแบกรับภาระของคนอื่นไม่ไหว ในขณะที่ตัวเองก็กำลังมีลูก มัวแต่แบกรับภาระคนอื่น แบกความหวังของคนอื่น แต่ในขณะเดียวกัน ครอบครัวอื่นเค้ามีทุกอย่างแล้ว เรามีลูกเราเองก็อยากสร้างอนาคตให้ลูกให้กับตัวเอง ความคิดเรา เงินที่เราหามา มันผิดมากไหมที่เราไม่ต้องการแบกรับภาระของใคร อยากไปชีวิตสองคนกับลูก เพราะสามีไม่เคยเข้าใจอะไรเลย
ที่ผ่านมา เราให้เงินแม่สามีใช้ทุกเดือนเพราะเค้าขอไว้ เนื่องจากแม่สามีไม่มีรายได้ ไม่ได้ทำงาน แต่หนี้สินมาจากไหน หนี้ก้อนแรกก็จ่ายให้ด้วยความสงสาร เห็นใจ เพราะมีลูกสองคนอีกคนก็พึ่งพาไม่ค่อยได้ ส่วนสามีเงินเดือนไม่เยอะ แม่สามีขอ เราให้เพราะเห็นว่าไม่มากมายอะไร เดือนละ 2000-3000 บาท มันคงผิดที่เราเองที่ไปให้ท้ายเค้าตั้งแต่แรก เราเองไม่คิดว่าแม่สามีจะเป็นถึงขนาดนี้ คือเค้าไม่เคยมีความเกรงอกเกรงใจอะไรเลย อยากเที่ยวต้องได้เที่ยว อยากกินอะไรต้องได้กิน ต่อให้ลูกจะทะเลาะกันเค้าก็ไม่สน
เรากับสามีอยู่ด้วยกัน 10 ปี ตลอดเวลาที่คบกันสามีไม่เคยขออะไรเราเลย ต่างคนต่างให้กัน คบกันตั้งแต่เราเงินเดือนน้อยกว่าเค้าอีก เคยลำบากด้วยกัน พอมาวันนัช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัวได้แล้ว กลับมาแบกหนี้ให้แม่สามี (มันถูกต้องเราใช่ไหมคะ) ทั้งที่เราสองคนกำลังมีลูกด้วยกัน คือเราไม่มีญาติ มีญาติห่าง ๆ เราออกมาใช้ชีวิตคนเดียวจนกระทั่งคบกับสามี ทุกวันนี้เราจมอยู่กับความคิดของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งจะทิ้งเค้าไปเลย ยอมรับเราทำใจลำบาก และยากมาก ด้วยความผูกพัน เรื่องความรักเรามองว่ามันตัดขาดได้ง่าย แต่ความผูกพันที่อยู่ด้วยกันมามันยากจริงๆ
ไม่ลงรอยกันกับแม่สามีเพราะเรื่องหนี้ที่เค้าก่อขึ้นแต่ให้เรากับสามีเป็นคนจ่ายให้
พูดแต่ว่า เราต้องมีญาติ ในอนาคตก็พึ่งพากัน อันนี้เราเข้าใจดี แต่การที่มาอยู่บ้านเราแล้วทำตัวแบบนี้มันใช่เหรอ
จนวันหนึ่งผิดใจกันเพราะปัญหาหลายอย่าง ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายของลูก ค่ากิน ค่าเที่ยว ค่าหนี้ก็เป็นเราต้องจ่ายเองทั้งหมด ในบ้านมีกัน 5 คน แต่เราออกค่าใช้จ่ายเพียงคน จะให้เราอดทนไงไหว คือเรามีรายได้ค่อนข้างเยอะ และเยอะกว่าสามี พอแม่สามีเห็นแบบนั้นก็อยากมาอยู่ด้วย จากที่แต่ก่อนไม่ชอบเรา แต่เค้ามาย้ายออกไปตอนเราทะเลาะกับสามีหนัก ๆ เรื่องค่าใช้จ่ายที่เกินจะรับไหว โดยแม่สามีเค้าพูดแทรกโดยที่ทำให้เรารู้สึกว่าทำไมเราจะต้องมาอดทนกับอะไรแบบนี้ด้วยวะ เรามีตอบโต้นิดหน่อยซึ่งนั่นก็ทำให้แม่สามีเค้าย้ายออกไป
แต่.... สองเดือนต่อมา เค้าก็ต้องอพยพกันเพราะสงคราม แต่เค้าไม่ได้มาอยู่บ้านเรานะคะ เพราะไม่ลงรอยกัน ตอนแรกเห็นสามีบอกว่าแม่จะมาอยู่ด้วยเค้าอพยพกันน่ะ เราก็ไม่ว่าอะไร แต่สรุปเค้าไปอยู่สถานที่อพยพ แต่ 5 วันต่อมา ทำทีเป็นมาหาย่าซึ่งบ้านเรากับบ้านย่าติดกันใครพูดอะไรก็จะได้ยินหมด ถ้านั่งคุยอยู่หน้าบ้าน เค้ามาหากับลูกเราแต่เราไม่ได้ออกไปทำงานอยู่ในห้อง (ในมุมของเค้าหรือคนอื่น เราอาจจะผิดที่ไม่ไปถามไถ่ อื่น ๆ ) แต่ในมุมมองของเราที่ถูกกระทำ (เรายังโกรธ ทั้งคำพูดของเค้าที่ค่อยบั่นทอนจิตใจเรา เรื่องลูก เรื่องลูกคนโตของเค้า และอื่น ๆ อีกมากมาย) ตรงนี้เรายอมรับว่าเรายังไม่พร้อมคุยจริง ๆ และไม่รู้เมื่อไหร่ ยิ่งเรามาได้ยินคำพูดแซะ กระแนะกระแหนเราแบบนั้นเรายิ่งปิดกั้น พูดทำนองว่าเราอวดดี ไม่ได้ดีไปตลอดหรอก เงินก็ไม่ให้ใช้ เงินออกไม่โอนให้เลยสักบาท อพยพมาก็ไม่ไปเยี่ยม ไม่เอาข้าวไปส่ง ไม่เคยถาม ยามเจ็บไข้ได้ป่วยใครพาไปหาหมอ ป่วยมาใครดูแล อวดดี หนี้สินไม่ยอมจ่ายให้ มาพูดให้เราแบบนี้ เราต้องรู้สึกยังไง
เราเลี้ยงลูกเอง ทำงานเอง แต่มาบั่นทอนเราด้วถ้อยคำแบบนี้ ซึ่งหนี้เราจ่ายทุกงวดให้ทุกเดือน ตรงนี้เราพยายามอดทนรอให้ลูกโต 2-3 ขวบ แล้วจะย้ายออกไปอยู่คนเดียว หนี้ที่เหลือก็จะให้สามีหาคนผ่อนจ่ายเอง เพราะสามีไม่เคยมองเราในแง่ดีเลย คอยพูดว่าเราไม่เอาใคร ไม่คบญาติ ใกล้ตายไปใครจะดูแล ไม่ใช่เราไม่เอาญาติ ไม่เอาใคร แต่เราแบกรับภาระของคนอื่นไม่ไหว ในขณะที่ตัวเองก็กำลังมีลูก มัวแต่แบกรับภาระคนอื่น แบกความหวังของคนอื่น แต่ในขณะเดียวกัน ครอบครัวอื่นเค้ามีทุกอย่างแล้ว เรามีลูกเราเองก็อยากสร้างอนาคตให้ลูกให้กับตัวเอง ความคิดเรา เงินที่เราหามา มันผิดมากไหมที่เราไม่ต้องการแบกรับภาระของใคร อยากไปชีวิตสองคนกับลูก เพราะสามีไม่เคยเข้าใจอะไรเลย
ที่ผ่านมา เราให้เงินแม่สามีใช้ทุกเดือนเพราะเค้าขอไว้ เนื่องจากแม่สามีไม่มีรายได้ ไม่ได้ทำงาน แต่หนี้สินมาจากไหน หนี้ก้อนแรกก็จ่ายให้ด้วยความสงสาร เห็นใจ เพราะมีลูกสองคนอีกคนก็พึ่งพาไม่ค่อยได้ ส่วนสามีเงินเดือนไม่เยอะ แม่สามีขอ เราให้เพราะเห็นว่าไม่มากมายอะไร เดือนละ 2000-3000 บาท มันคงผิดที่เราเองที่ไปให้ท้ายเค้าตั้งแต่แรก เราเองไม่คิดว่าแม่สามีจะเป็นถึงขนาดนี้ คือเค้าไม่เคยมีความเกรงอกเกรงใจอะไรเลย อยากเที่ยวต้องได้เที่ยว อยากกินอะไรต้องได้กิน ต่อให้ลูกจะทะเลาะกันเค้าก็ไม่สน
เรากับสามีอยู่ด้วยกัน 10 ปี ตลอดเวลาที่คบกันสามีไม่เคยขออะไรเราเลย ต่างคนต่างให้กัน คบกันตั้งแต่เราเงินเดือนน้อยกว่าเค้าอีก เคยลำบากด้วยกัน พอมาวันนัช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัวได้แล้ว กลับมาแบกหนี้ให้แม่สามี (มันถูกต้องเราใช่ไหมคะ) ทั้งที่เราสองคนกำลังมีลูกด้วยกัน คือเราไม่มีญาติ มีญาติห่าง ๆ เราออกมาใช้ชีวิตคนเดียวจนกระทั่งคบกับสามี ทุกวันนี้เราจมอยู่กับความคิดของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งจะทิ้งเค้าไปเลย ยอมรับเราทำใจลำบาก และยากมาก ด้วยความผูกพัน เรื่องความรักเรามองว่ามันตัดขาดได้ง่าย แต่ความผูกพันที่อยู่ด้วยกันมามันยากจริงๆ