ตอนนี้มีอีก 2 กระทู้งอกมาแล้วนะครับบบบ^^
http://pantip.com/topic/32245021
"[แชร์ประสบการณ์] ระบบเผาผลาญพัง ไม่กินไขมันจน ส่งผลให้กินของมัน ของทอด ไม่ได้ตั่งแต่เข้าปาก"
http://pantip.com/topic/32240517
"TS [แบ่งปันความรู้] ตั้งต้นทำความเข้าใจร่างกาย: ทำไมคนที่ น้ำหนักตัว เท่าๆกับเรา แต่ตัวเล็กหรือใหญ่กว่าเรา??
โหมดระบาย และ คำเตือน(เพราะห่วง):
เฮ้ย กันเองนะ ใครชอบออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน อดอาหารฟังทางนี้
จะระบายว่าตอนนี้อดทนมากรู้ป่ะ นี่คือเรื่องรูปร่าง น้ำหนัก อาหารการกินนะ เผื่อจะมีประโยชน์กับคนที่กำลังจะก้าวมาโลกฝั่งนี้ หรือก้าวมาแล้วแบบไม่เต็มเท้า
เริ่มแรก: ผิดวีธีตั้งแต่ตั้งต้น
คือเราลดน้ำหนักจากที่เคยอ้วนมาก(97กิโลกรัม) ลงมาเรื่อยๆ ซึ่งแรกๆเราลดผิดวิธี ซึ่งเป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่นิยมกันเป็นอย่างมาก "อ ด อ า ห า ร" อดแบบเรียกว่าจริงจัง คือกินข้าววันละมื้อตอน 10.30 ที่เหลือ น้ำเปล่า โหยมากก็อัดน้ำ อัดๆๆๆๆๆ มันลดเร็วมาก 5 เดือนหายไป 20 กว่ากิโล แต่มนุษย์อยู่อย่างงั้นทั้งชีวิตไม่ได้ เลยกลับมาทานอาหารมากขึ้น แต่ไม่ได้ทานเหมือนเมื่อก่อน คราวนี้เจอสิ่งที่เรียกว่า "โยโย่เอฟเฟก" เพราะน้ำหนักเด้งกลับมา 10 กว่ากิโล ซึ่งตอนนั้นเราก็ เฮ้ยโอเคนี่นา เพราะบางคนเห็นเขาว่าเด้งเกินกว่าที่เคยหนักที่สุดด้วยซ้ำ
รอบสอง: มาถูกวิธีครึ่งนึง
พอขึ้นมหาลัย ไปฟิตเนสเจอพี่ สต๊าฟฟิตเนส คนนึงเดินเข้ามาทักมาคุยด้วย พี่เขาใจดีมาก เขาก็มาแนะนำแล้วก็ให้ทำนั่นนี่ แล้วเขาก็บอกว่าไหนลองเปิดเสื้อสิ้ เท่านั้นแหละ ความจริงมันปรากฎ เพราะเมื่อก่อนเราเคยมีรอบเอว 44" ตอนที่เราลดลงมามันเหลือ 32" จากการอดอาหารซึ่ีง!!!!!! มันมีสภาพเหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมว่ะ มันย้วย ย้อย หย่อน ยาน สาเหตุมันมาจากการลดน้ำหนักผิดวิธี เป็นเพราะตอนที่คนเราอ้วน มวลภายในร่างกายและผิวหนังมันขยายไปในเวลาและทิศทางเดียวกัน แต่พอเราลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว มวลข้างในเราหายไปไวมาก เพราะน้ำ และ กล้ามเนื้อหายไป แต่หนังมันไม่หด นี่เลยนับเป็นก้าวแรกที่เราก้าวเข้าสุ้ชีวิตฟิตเนสอย่างแท้จริง
เราเล่นฟิตเนสแบบบ้า่คลั่งมาก อยู่มันวันละ 2-3 ชั่วโมง เบิร์นๆๆๆๆ เล่นเป๋ไปเป๋มา คนนั้นบอกไอ่นั่นดี เห้ยลอง เขาบอก ไม่ๆๆอันนี้ดีกว่า เฮ้ยลอง เขาบอกว่าวิ่งไปเลยวันละ 1-2 ชั่วโมง ก็วิ่ง จนไม่เคยมีทิศทาวเป็นของตัวเอง กินเหล้านอนดึก ตื่นเช้าเพื่อจะมาฟิตเนส วันไหนแฮ้งก็ไม่สน ต้องลากสังขารเพื่อไปฟิตเนส เพราะ ณ จุดๆนั้น ฟิตเนสคือทุกสิ่งเลย เล่นมันเข้าไป เล่นๆๆๆ จนน้ำหนักลดลงมาถึง 65 กิโลกรัม ซึ่งมันเป็นจังหวะที่กลายเป็นคนตัวเล็ก หน้าแหลม แล้วเราก็กลายเป็นโรค "เสพติดความผอม" ไปโดยปริยาย
ปัญหาที่ตามมา ไม่ใช่เรื่อง เวลา ที่นอนช้าตื่นเร็ว หรือเรื่องอื่นใดนอกจาก เอฟเฟก ที่เกิดจากการกินอาหาร...........
ทำไมน่ะรึ???
ปัญหาจุดPEAK:
เพราะตลอดระยะเวลาตั้งแต่ ปี1 ที่เริ่มเล่นฟิตเนส เราแทบจะ ไ ม่ กิ น แ ป้ ง เ ล ย ! ! !
เพราะเราเชื่อคำคนนั้นคนนี้ที่ว่า อยากผอมหรอ ลดแป้งดิ่ อยากผอมหรอ ห้ามกินแป้งนะ ข้าวนี่ตัดไปได้เลย ขนมปังนี่ห้ามเลยนะ แล้วมันส่งผลกระทบต่อจิตใจเป็นอย่างมาก เพราะถ้าวันไหนเราอยากกินขึ้นมา แล้วได้กินข้าวสัก 1 จาน วันรุ่งขึ้น น้ำหนักเราจะขึ้น 1กิโล!!!!!! ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว..... ไอ้บ้า!!! ข้าวบ้านใครกินจานเดียวขึ้น 1 โล น้ำหนักที่ขึ้นมาต่อวัน ปัจจัย มันเยอะแยะมากมายไปหมด อาจจะมาจาก น้ำ ที่เราดื่มเยอะๆแล้วยังไม่ได้ปัสสาวะก็เป็นได้ แต่สมอง ณ ตอนนั้นมันสั่งไปแล้วว่า ตายๆๆๆๆ เป็นเพราะแป้งแน่ๆเลย ก็เลยเลิกเลย ไม่กินมันเลยละกันตัดปัญหา
เราอยู่ด้วยการฟิตเนส หนักบ้างเบาบ้าง (เพราะอย่างที่บอกโอมเอนง่าย) แต่ที่แน่ๆเลย ไม่กินแป้ง กินแต่เนื้อๆๆๆ ไข่ๆๆๆๆ ซึ่งสำหรับจิตใต้สำนึกตอนนั้น คือเห้ย มันโอเคเว้ย อยุ่ได้ว่ะ..............
ตั้งแต่วันนั้น จนมาถึงเมื่อ 3 เดือนที่แล้วก็ 8 ปีแล้วครับ ที่ผมไม่กินแป้ง แต่ตอนนี้ผมกลับมาทานแป้งแล้ว สาเหตุที่กลับมาทานเพราะได้ซึกษาเรื่องฟิตเนสอย่างจริงจขังมากขึ้น ศึกษาเกี่ยวกับร่างกายมากขึ้น ว่าจริงๆแล้ว ร่างกายที่อยู่กับเราที่เราใช้งานเขาทุกวัน เขาต้องการอะไรจากเรา ซึ่งคำตอบก็คือ เขาต้องการสารอาหารดีๆ การพักผ่อนที่เพียงพอ จากคนที่เป็นเจ้าของร่างกายครับ เพราะงั้นผมเลยตัดสินใจ เล่นฟิตเนสเหมือนเดิม แต่ กลับมาบริโภคแป้ง
และสิ่งที่ผมพบเจอ..........
Yoyo ของจริง:
ในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมาผมได้เจอ "โ ย โ ย่ เ อ ฟ เ ฟ ก" ของจริงแล้วครับ น้ำหนักมันขึ้นเร็วมาก เร็วจนหน้าตกใจ บวมๆ ฉุๆ ตันๆ ซึ่งผมกำลังทำใจ อดทนรับกับมันอยู่ครับ สาเหตุที่ โยโย่ คราวนี้เป็นของจริง เพราะหลังจากที่ผมได้มีโอกาสศึกษาแล้ว ผมก็ทราบว่า ตลอดระยะเวลา 7-8 ปีที่ผมไม่บริโภค คาร์บ เลย มันทำให้ร่างกายและสมองของผมสั่งแล้วว่า ร่างกายผมไม่จำเป็นต้อง เผาผลาญ แป้ง นะ เพราะมันไม่เข้ามาในร่างกายอยู่แล้วนี่ คราวนี้พอมันเข้ามาครับ...................... ก็ร่างกายว่าไม่ต้องเผาอ่ะ ก้ไม่เผาสิ มันเลยตกค้างๆๆๆๆๆๆ อยู่อย่างนั้น เท่านั้นล่ะครับ ตอนนี้ผมกำลังปรับระบบการเผาผลาญตัวเองใหม่ ผมทานข้าว ขนมปัง เส้นก๋วยเตี๋ยวในทุกๆมื้ออาหาร ตอนนี้กลับจากจีนมาเกือบ 1ปี น้ำหนักผมจาก 71.1 ขึ้นมาเป็น 75 เรียบร้อยแล้วครับ ใครที่ไม่เห็นผมนาน เจออาจจะตกใจได้ 55555555+
ตอนนี้พูดจริงๆผมต้องอดทนมากครับที่จะให้ร่างกายตัวเองอ้วนเป็นหมีเพื่อปรับระบบเผาผลาญตัวเอง
แล้วทำไมต้องอดทน:
ถ้ามีคนมีคำถามนี้ผมขอตอบว่า เพราะผมรักตัวเองครับ ไม่ใช่ผมไม่อยากมีร่างกายที่ดูดีนะครับ แต่เพราะผมอยากอยู่กับมันไปนานๆ อยากอยู่ด้วยร่างกายที่ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ไม่ผิดแผกแตกแยกเหมือนเมื่อก่อนที่เวลาเขาไปทานอาหารฝรั่งกันแล้วผมต้องนั่งหาแต่ สเต๊ก ทาน ไปทานอาหารไทยแล้วผมต้องนั่งกินแต่กับข้าวที่รสจัดๆโดยไม่ทานข้าว
ผมไม่ได้บอกว่าการไม่กินแป้งเป็นสิ่งไม่ดี สำหรับคนที่ร่างกายและรูปแบบชีวิตเหมาะสมกับแบบนี้ ตามสบายเลยจ้าาา ส่วนผม ผมแค่รู้สึกว่าตัวเองอยากมีระบบเผาผลาญที่เป็นปกติ ครับ
ตอนนี้ต้องอดทนไปก่อนเนอะ พังมาตั้งหลายปี ให้หายในวัน 2วัน คงไม่มีทาง ^^ ยังไงเอาใจช่วยกันและกันนำครับ สำหรับคนรักสุขภาพและร่างกายตัวเองทุกคน อย่าลืมออกกำลังและเลือกอาหารการกินดีๆให้ร่างกายนะครับ
ปล. ตัดสินใจเขียนขึ้นมาเพราะมี Drop Dead Healthy พี่คนนี้เป็นกำลังใจครับ ;)
ปล.2 ปัจจุบันอ้วนกว่ารูปขวาล่างเยอะมากครัช -*- (อดทนโหมด)
ปล.3 รูปแยกเป็นรูปปัจจุบันที่สุดครัช
ปล.4 Fasaifit อันนี้ก็ไอด้อลฮะ
By TS
*** ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และกำลังใจนะครับ มีเพื่อนบางคนขอให้เขียนบทความอีก ผมก็ไม่เคยเลย แต่จะลองดูนะครับ^^
[แชร์ประสบการณ์] ระบบเผาผลาญพังมาหลายปี อยู่ในช่วงปรับ เป็นข้อมูลเผื่อคนที่รักษาสุขภาพครับ
http://pantip.com/topic/32245021
"[แชร์ประสบการณ์] ระบบเผาผลาญพัง ไม่กินไขมันจน ส่งผลให้กินของมัน ของทอด ไม่ได้ตั่งแต่เข้าปาก"
http://pantip.com/topic/32240517
"TS [แบ่งปันความรู้] ตั้งต้นทำความเข้าใจร่างกาย: ทำไมคนที่ น้ำหนักตัว เท่าๆกับเรา แต่ตัวเล็กหรือใหญ่กว่าเรา??
โหมดระบาย และ คำเตือน(เพราะห่วง):
เฮ้ย กันเองนะ ใครชอบออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน อดอาหารฟังทางนี้
จะระบายว่าตอนนี้อดทนมากรู้ป่ะ นี่คือเรื่องรูปร่าง น้ำหนัก อาหารการกินนะ เผื่อจะมีประโยชน์กับคนที่กำลังจะก้าวมาโลกฝั่งนี้ หรือก้าวมาแล้วแบบไม่เต็มเท้า
เริ่มแรก: ผิดวีธีตั้งแต่ตั้งต้น
คือเราลดน้ำหนักจากที่เคยอ้วนมาก(97กิโลกรัม) ลงมาเรื่อยๆ ซึ่งแรกๆเราลดผิดวิธี ซึ่งเป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่นิยมกันเป็นอย่างมาก "อ ด อ า ห า ร" อดแบบเรียกว่าจริงจัง คือกินข้าววันละมื้อตอน 10.30 ที่เหลือ น้ำเปล่า โหยมากก็อัดน้ำ อัดๆๆๆๆๆ มันลดเร็วมาก 5 เดือนหายไป 20 กว่ากิโล แต่มนุษย์อยู่อย่างงั้นทั้งชีวิตไม่ได้ เลยกลับมาทานอาหารมากขึ้น แต่ไม่ได้ทานเหมือนเมื่อก่อน คราวนี้เจอสิ่งที่เรียกว่า "โยโย่เอฟเฟก" เพราะน้ำหนักเด้งกลับมา 10 กว่ากิโล ซึ่งตอนนั้นเราก็ เฮ้ยโอเคนี่นา เพราะบางคนเห็นเขาว่าเด้งเกินกว่าที่เคยหนักที่สุดด้วยซ้ำ
รอบสอง: มาถูกวิธีครึ่งนึง
พอขึ้นมหาลัย ไปฟิตเนสเจอพี่ สต๊าฟฟิตเนส คนนึงเดินเข้ามาทักมาคุยด้วย พี่เขาใจดีมาก เขาก็มาแนะนำแล้วก็ให้ทำนั่นนี่ แล้วเขาก็บอกว่าไหนลองเปิดเสื้อสิ้ เท่านั้นแหละ ความจริงมันปรากฎ เพราะเมื่อก่อนเราเคยมีรอบเอว 44" ตอนที่เราลดลงมามันเหลือ 32" จากการอดอาหารซึ่ีง!!!!!! มันมีสภาพเหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมว่ะ มันย้วย ย้อย หย่อน ยาน สาเหตุมันมาจากการลดน้ำหนักผิดวิธี เป็นเพราะตอนที่คนเราอ้วน มวลภายในร่างกายและผิวหนังมันขยายไปในเวลาและทิศทางเดียวกัน แต่พอเราลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว มวลข้างในเราหายไปไวมาก เพราะน้ำ และ กล้ามเนื้อหายไป แต่หนังมันไม่หด นี่เลยนับเป็นก้าวแรกที่เราก้าวเข้าสุ้ชีวิตฟิตเนสอย่างแท้จริง
เราเล่นฟิตเนสแบบบ้า่คลั่งมาก อยู่มันวันละ 2-3 ชั่วโมง เบิร์นๆๆๆๆ เล่นเป๋ไปเป๋มา คนนั้นบอกไอ่นั่นดี เห้ยลอง เขาบอก ไม่ๆๆอันนี้ดีกว่า เฮ้ยลอง เขาบอกว่าวิ่งไปเลยวันละ 1-2 ชั่วโมง ก็วิ่ง จนไม่เคยมีทิศทาวเป็นของตัวเอง กินเหล้านอนดึก ตื่นเช้าเพื่อจะมาฟิตเนส วันไหนแฮ้งก็ไม่สน ต้องลากสังขารเพื่อไปฟิตเนส เพราะ ณ จุดๆนั้น ฟิตเนสคือทุกสิ่งเลย เล่นมันเข้าไป เล่นๆๆๆ จนน้ำหนักลดลงมาถึง 65 กิโลกรัม ซึ่งมันเป็นจังหวะที่กลายเป็นคนตัวเล็ก หน้าแหลม แล้วเราก็กลายเป็นโรค "เสพติดความผอม" ไปโดยปริยาย
ปัญหาที่ตามมา ไม่ใช่เรื่อง เวลา ที่นอนช้าตื่นเร็ว หรือเรื่องอื่นใดนอกจาก เอฟเฟก ที่เกิดจากการกินอาหาร...........
ทำไมน่ะรึ???
ปัญหาจุดPEAK:
เพราะตลอดระยะเวลาตั้งแต่ ปี1 ที่เริ่มเล่นฟิตเนส เราแทบจะ ไ ม่ กิ น แ ป้ ง เ ล ย ! ! !
เพราะเราเชื่อคำคนนั้นคนนี้ที่ว่า อยากผอมหรอ ลดแป้งดิ่ อยากผอมหรอ ห้ามกินแป้งนะ ข้าวนี่ตัดไปได้เลย ขนมปังนี่ห้ามเลยนะ แล้วมันส่งผลกระทบต่อจิตใจเป็นอย่างมาก เพราะถ้าวันไหนเราอยากกินขึ้นมา แล้วได้กินข้าวสัก 1 จาน วันรุ่งขึ้น น้ำหนักเราจะขึ้น 1กิโล!!!!!! ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว..... ไอ้บ้า!!! ข้าวบ้านใครกินจานเดียวขึ้น 1 โล น้ำหนักที่ขึ้นมาต่อวัน ปัจจัย มันเยอะแยะมากมายไปหมด อาจจะมาจาก น้ำ ที่เราดื่มเยอะๆแล้วยังไม่ได้ปัสสาวะก็เป็นได้ แต่สมอง ณ ตอนนั้นมันสั่งไปแล้วว่า ตายๆๆๆๆ เป็นเพราะแป้งแน่ๆเลย ก็เลยเลิกเลย ไม่กินมันเลยละกันตัดปัญหา
เราอยู่ด้วยการฟิตเนส หนักบ้างเบาบ้าง (เพราะอย่างที่บอกโอมเอนง่าย) แต่ที่แน่ๆเลย ไม่กินแป้ง กินแต่เนื้อๆๆๆ ไข่ๆๆๆๆ ซึ่งสำหรับจิตใต้สำนึกตอนนั้น คือเห้ย มันโอเคเว้ย อยุ่ได้ว่ะ..............
ตั้งแต่วันนั้น จนมาถึงเมื่อ 3 เดือนที่แล้วก็ 8 ปีแล้วครับ ที่ผมไม่กินแป้ง แต่ตอนนี้ผมกลับมาทานแป้งแล้ว สาเหตุที่กลับมาทานเพราะได้ซึกษาเรื่องฟิตเนสอย่างจริงจขังมากขึ้น ศึกษาเกี่ยวกับร่างกายมากขึ้น ว่าจริงๆแล้ว ร่างกายที่อยู่กับเราที่เราใช้งานเขาทุกวัน เขาต้องการอะไรจากเรา ซึ่งคำตอบก็คือ เขาต้องการสารอาหารดีๆ การพักผ่อนที่เพียงพอ จากคนที่เป็นเจ้าของร่างกายครับ เพราะงั้นผมเลยตัดสินใจ เล่นฟิตเนสเหมือนเดิม แต่ กลับมาบริโภคแป้ง
และสิ่งที่ผมพบเจอ..........
Yoyo ของจริง:
ในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมาผมได้เจอ "โ ย โ ย่ เ อ ฟ เ ฟ ก" ของจริงแล้วครับ น้ำหนักมันขึ้นเร็วมาก เร็วจนหน้าตกใจ บวมๆ ฉุๆ ตันๆ ซึ่งผมกำลังทำใจ อดทนรับกับมันอยู่ครับ สาเหตุที่ โยโย่ คราวนี้เป็นของจริง เพราะหลังจากที่ผมได้มีโอกาสศึกษาแล้ว ผมก็ทราบว่า ตลอดระยะเวลา 7-8 ปีที่ผมไม่บริโภค คาร์บ เลย มันทำให้ร่างกายและสมองของผมสั่งแล้วว่า ร่างกายผมไม่จำเป็นต้อง เผาผลาญ แป้ง นะ เพราะมันไม่เข้ามาในร่างกายอยู่แล้วนี่ คราวนี้พอมันเข้ามาครับ...................... ก็ร่างกายว่าไม่ต้องเผาอ่ะ ก้ไม่เผาสิ มันเลยตกค้างๆๆๆๆๆๆ อยู่อย่างนั้น เท่านั้นล่ะครับ ตอนนี้ผมกำลังปรับระบบการเผาผลาญตัวเองใหม่ ผมทานข้าว ขนมปัง เส้นก๋วยเตี๋ยวในทุกๆมื้ออาหาร ตอนนี้กลับจากจีนมาเกือบ 1ปี น้ำหนักผมจาก 71.1 ขึ้นมาเป็น 75 เรียบร้อยแล้วครับ ใครที่ไม่เห็นผมนาน เจออาจจะตกใจได้ 55555555+
ตอนนี้พูดจริงๆผมต้องอดทนมากครับที่จะให้ร่างกายตัวเองอ้วนเป็นหมีเพื่อปรับระบบเผาผลาญตัวเอง
แล้วทำไมต้องอดทน:
ถ้ามีคนมีคำถามนี้ผมขอตอบว่า เพราะผมรักตัวเองครับ ไม่ใช่ผมไม่อยากมีร่างกายที่ดูดีนะครับ แต่เพราะผมอยากอยู่กับมันไปนานๆ อยากอยู่ด้วยร่างกายที่ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ไม่ผิดแผกแตกแยกเหมือนเมื่อก่อนที่เวลาเขาไปทานอาหารฝรั่งกันแล้วผมต้องนั่งหาแต่ สเต๊ก ทาน ไปทานอาหารไทยแล้วผมต้องนั่งกินแต่กับข้าวที่รสจัดๆโดยไม่ทานข้าว
ผมไม่ได้บอกว่าการไม่กินแป้งเป็นสิ่งไม่ดี สำหรับคนที่ร่างกายและรูปแบบชีวิตเหมาะสมกับแบบนี้ ตามสบายเลยจ้าาา ส่วนผม ผมแค่รู้สึกว่าตัวเองอยากมีระบบเผาผลาญที่เป็นปกติ ครับ
ตอนนี้ต้องอดทนไปก่อนเนอะ พังมาตั้งหลายปี ให้หายในวัน 2วัน คงไม่มีทาง ^^ ยังไงเอาใจช่วยกันและกันนำครับ สำหรับคนรักสุขภาพและร่างกายตัวเองทุกคน อย่าลืมออกกำลังและเลือกอาหารการกินดีๆให้ร่างกายนะครับ
ปล. ตัดสินใจเขียนขึ้นมาเพราะมี Drop Dead Healthy พี่คนนี้เป็นกำลังใจครับ ;)
ปล.2 ปัจจุบันอ้วนกว่ารูปขวาล่างเยอะมากครัช -*- (อดทนโหมด)
ปล.3 รูปแยกเป็นรูปปัจจุบันที่สุดครัช
ปล.4 Fasaifit อันนี้ก็ไอด้อลฮะ
By TS
*** ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และกำลังใจนะครับ มีเพื่อนบางคนขอให้เขียนบทความอีก ผมก็ไม่เคยเลย แต่จะลองดูนะครับ^^