“รัก” ตอนที่ 2: ที่รัก...ฉันจะรอเธอตราบจนวันสุดท้ายของชีวิต Part 1

กระทู้สนทนา
ไม่รู้ว่านานเท่าไร ที่ฉันและเธอห่างไกลตั้งแต่วันนั้น อยากขอแค่เพียงสักวัน ให้เราได้มาพบกันเหมือนวันเก่า......
ปอ...ชายหนุ่มวัย 30 ต้นๆ นั่งมองรูปแต่งงานระหว่างเขาและดาอย่างเหงาๆ อยู่ในห้องนั่งเล่น

“ผมเชื่อว่าเรายังรักกันอยู่ และผมก็เชื่อว่าสักวันคุณจะกลับมา ผมรักคุณนะดา” เขาพูดพลางกอดรูปร้องไห้ไป
.......................................................................................................................
มหาวิทยาลัยปีสอง

“ อ้าว น้องๆ เข้าแถวสิครับ ต้องให้พี่ตะโกนสักกี่ครั้ง”
“ใจเย็นๆดิปอ น้องกลัวกันหมดแล้วเนี่ย”
“ แกไม่เกี่ยวว่ะดา ถอยไปเลยไป” พอพูดพลางผลักดาออกไปจากแถวพี่ว๊าก

ผมกับดาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ หลังจากผมเกิดได้ไม่กี่วัน ดาก็เกิดตามมา นอนเตียงใกล้ผมเลย
พ่อกับแม่ของเราก็ทำงานที่เดียวกันอีกต่างหาก พ่อของเราเป็นครู ส่วนแม่ของเราเป็นพยาบาล
เราเรียนด้วยกันตั้งแต่เล็กจนโต จนมามหาวิทยาลัย ก็ยังได้มาเรียนที่เดียวกันอีก
ดาเป็นเด็กเรียนดี เรียบร้อย แต่เสียอย่างเดียวขี้สงสารไปหน่อย แม้แต่ยุงที่กัดผม ดายังไม่ให้ผมตีเลย บอกให้เป่าๆเอา
.......................................................................................................................
มหาวิทยาลัยปีสาม

ขณะที่ดากำลังอ่านหนังสืออยู่ที่สวนของมหาวิทยาลัยนั้น ปอก็เดินเข้ามา..
“เฮ้ยดา...พรุ่งนี้มีเรียนหรือเปล่า ช่วยติวอังกฤษให้เราหน่อยสิ”
“อ๋อ ไม่ได้หรอก...พรุ่งนี้เรามีนัดกับพี่โจไว้”
“หนอย.....เดี๋ยวนี้แฟนสำคัญกว่าเพื่อนเหรอ”
“อย่าพูดงั้นเลยปอ กี่ครั้งแล้วที่ปอนัดดาไปสอนแล้วก็เบี้ยวไปเที่ยวกับเพื่อนอ่ะ รอบนี้เรามีนัด แล้วเราก็นัดกันก่อนด้วย”
“จำไว้เลยนะ ถ้าเทอมนี้ปอสอบตกอีก ปอจะดรอป ไม่เรียนอีกต่อไปแล้ว....” แล้วปอก็กระฟัดกระเฟียดลุกหนีไป

.......................................................................................................................
วันรุ่งขึ้น นาฬิกาปลุกปอตอนเวลา 9 โมงเช้า ปอลุกขึ้นเก็บที่นอนแล้วก็ไปอาบน้ำแต่งตัว
เวลา 9.59 นาที ปอไปยืนที่หน้าประตูห้อง แล้วนับถอยหลัง

"10..9..8..7..6..5..4..3..2..1..ก๊อก ก๊อก ก๊อก"

ปอเปิดประตูแล้วพูดออกไปว่า “นั่นไง...นางฟ้ามาแล้ว ตรงเวลาตลอดเลยนะจ๊ะ”
ภาพที่อยู่เบื้องหน้าคือดาหอบหนังสือวิชาภาษาอังกฤษสองสามเล่มพร้อมกับข้าวกล่อง 1 กล่องมาด้วย

“ก็เรากลัวปอสอบตกนี่นา แล้วก็ยังไม่ได้กินอะไรใช่มั๊ย เราซื้อข้าวหมูกรอบหมูแดงมาฝากด้วย”
“รู้ใจที่สุด คนอะไรน่ารักจริงๆ”
“พอเหอะ อย่าพูดมาก รีบๆติวได้แล้ว”
“เออแล้วพี่โจล่ะ”
“เราเลื่อนนัดเค้าเป็นตอนเย็นแทนอ่ะ”
“เหรอ....เข้ามาสิ”
.......................................................................................................................
มหาวิทยาลัยปีสี่

คืนวันหนึ่งก็มีเสียงโทรศัพท์โทรเข้ามาปลุกปอตอนตี 3 ปอไม่ทันได้ดูเบอร์ก็งัวเงียรับสาย

“ฮือ..........”

ปอตกใจมาก เลยถ่างตาดูเบอร์อีกครั้งก็พบว่าเป็นเบอร์ของดา

“เป็นอะไรอ่ะ ร้องไห้ทำไม”
“พี่โจมีคนอื่น ฮือ.....”
“เฮ้ย ใจเย็นๆ แล้วนี่อยู่ไหนเนี่ย”
“อยู่ข้างทาง ตรงป้ายรถเมล์แถวหอพี่โจ”
“เฮ้ย ตีสามเนี่ยนะ รอปออยู่ตรงนั้นนะ เดี๋ยวปอไปรับ”

ปอมีความรู้สึกเป็นทุกข์เป็นร้อนใจมาก จึงรีบขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจไปรับดาทันทีที่วางสาย
ภายในเวลาห้านาที ปอก็ไปถึงที่ป้ายรถเมล์ เห็นดานั่งอยู่ที่เก้าอี้ร้องไห้อยู่เพียงลำพัง

“ดา...ปอมาแล้ว ดาเป็นยังไงบ้าง ดาโอเคมั๊ย”
“ปอ...พี่โจเค้ามีคนอื่น เค้าพาผู้หญิงอีกคนไปที่ห้อง เค้าอยู่ด้วยกัน....เค้า.....”
“พอแล้ว ไม่ต้องเล่าแล้ว เดี๋ยวปอจะไปจัดการมัน ไอ้เลว”
“ไม่ต้องหรอกปอ ดาคงไม่ดีเอง ดาผิดเอง ดาไม่น่ามาหาเค้าโดยที่ไม่โทรบอกก่อน”
“นี่แกบ้าปะเนี่ย....แฟนบ้าอะไรต้องโทรบอกก่อนเพราะเค้าจะได้จัดคิวถูกห๊ะ”
“ช่างเถอะๆ เราไม่อยากฟังแล้ว”
“ไปเถอะ กลับหอกัน เดี๋ยวปอไปส่ง”
“เรากลับหอไม่ได้แล้ว....หอปิด เราไม่อยากรบกวนรูมเมทเราด้วย ขอเราไปอยู่ห้องปอสักพักได้มั๊ย”
“อืม ได้ดิ ไป...ไม่ต้องร้องไห้ เดี๋ยวตอนเช้าปอพาไปกินอะไรอร่อยๆนะ”

พอกลับมาถึงห้อง ดาก็นั่งร้องไห้อยู่สักพักจนเหนื่อยและหลับไป
ผมก็ได้แต่มองเธออย่างสงสาร ทำไมคนดีๆถึงต้องมาเจอกับคนไม่ดีอย่างนั้นด้วยนะ

.......................................................................................................................

วัยทำงาน
เนื่องจากบ้านเราอยู่ติดกัน แม้จะเรียนจบไปแล้ว เราก็ยังเจอกันทุกวันอยู่ดี
ด้วยความที่ดาขับรถไม่เป็นและทำงานใกล้ๆผม พ่อกับแม่จึงบังคับให้ผมอาสาไปรับไปส่งดาที่ทำงานทุกวัน
ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงไม่ปฏิเสธที่จะทำแบบนั้น

บ่ายวันหนึ่ง........

“ฮัลโหล ปอ..ลูก”
“ครับแม่”
“เย็นนี้ไม่ต้องไปรับดานะลูก ดาเค้าไม่สบายลุงศักดิ์เค้าไปรับกลับมาแล้ว”
“อ้าว...แม่ แล้วดาเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“ไม่เป็นอะไรมากหรอก เห็นลุงเค้าว่า ดาเค้าเครียดเรื่องงานมากเกินไป”
“คนบ้าอะไรเป็นโรคเครียด....ขอบคุณครับแม่ เดี๋ยวเย็นนี้เจอกัน”
“ขับรถ ดีๆนะลูก”

ตลอดวันทั้งวันผมทำงานอย่างไม่มีสติเลย ผมเอาแต่เป็นห่วงดา
ทั้งๆที่ก็รู้นะว่าไม่เป็นอะไรมาก แต่มันก็ยังอดห่วงไม่ได้อยู่ดี
เย็นวันนั้น ขณะที่ครอบครัวของผมกำลังนั่งทานข้าวอยู่นั้น

“ปอ....พ่อว่าเราก็เรียนจบมา ทำงานมีหลักฐานมั่นคงแล้วนะ ไม่คิดจะแต่งงานเหรอลูก”
“คิดสิพ่อ...แต่ผมยังไม่เจอคนที่ใช่เลย”
“จริงเหรอลูก...แม่ว่าลูกน่าจะเจอเค้าตั้งนานแล้วนะ”
“ตั้งนานตอนไหนแม่...ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“ดาไงลูก.....ไม่สนใจเหรอ”
“เฮ้ย แม่.....จะบ้าเหรอ เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆเลยนะ”
“ก็เพราะเห็นกันมาตั้งนานไงลูก เราก็รู้นิสัยเค้าดี แม่ว่าเค้าใช้ได้เลยนะ”
“ไม่เอาหรอกแม่”
“เนี่ย แม่ก็ไปทาบทามให้แล้วด้วย ทางป้าฤทัยเค้าก็โอเคกับลูกนะ”
“เฮ้ย....ทำไรทำไมไม่ถามผมสักคำอ่ะ ผมเป็นคนที่ต้องแต่งไม่ใช่เหรอ”
“แต่คราวนี้ พ่อเห็นด้วยกับแม่นะ แกควรจะมีใครสักคนได้แล้ว”
“ผมไม่เอาด้วยหรอก......ผมไม่ได้ชอบดาสักหน่อย จะอยู่กันไปได้ยังไง”

.......................................................................................................................

วันถัดมา ดาก็ยังคงไม่ได้ไปทำงานเหมือนเดิม
แต่ด้วยความที่ดาเป็นคนขยัน.... ถึงแม้ว่าจะป่วย ผมก็เห็นดาออกมายืนรดน้ำต้นไม้ตอนเช้า

“เฮ้ย....ดา หายแล้วเหรอ”
“เราก็บอกพ่อกับแม่แล้วนะว่าเราหายแล้ว เราจะไปทำงาน แต่ท่านไม่ให้ไป”
“โห นี่ก็เชื่อฟังพ่อแม่เกิ๊น.....ถ้าพ่อแม่บอกให้แต่งงานกับเรา ดาก็คงแต่งล่ะสิ”
“อืม....ก็คงจะแต่งนะ ปอก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรนี่นา”
“ไอ้บ้า...แค่พ่อแม่บอกให้แต่งก็แต่งเหรอวะ เออดี เดี๋ยวอีกห้าวันจะไปสู่ขอ...รอด้วยนะ”
.......................................................................................................................

ห้าวันถัดมา

โห่ฮิ้ว ขันหมากมาแล้ว ขันหมากมาแล้ว มาแล้ว น้องแก้วรับด้วย วันนี้คนสวย จะใส่ชุดอะไร.....

ใช่ครับ อีกห้าวันถัดมา ครอบครัวผมก็ไปสู่ขอดากันจริงๆ
เราจัดงานไม่ใหญ่ครับ พิธีเช้าก็จัดกันภายในครอบครัว
ตอนเย็นก็เป็นปาร์ตี้ในสวนเฉพาะครอบครัวและเพื่อนสนิทของเรา
ผมจำได้ดีว่าวันนั้น เป็นวันที่สนุกมากและผมเองก็มีความสุขมากจริงๆ
.......................................................................................................................

หลายเดือนต่อมา

คืนหนึ่งผมต้องไปเลี้ยงรับรองลูกค้ากับหัวหน้าที่สถานเริงรมย์แห่งหนึ่ง
ผมเมามาก กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็ตีสองแล้ว พอผมมาถึงที่บ้านก็พบว่าดายังนั่งรอผมอยู่
ดากด Pause วิดีโองานแต่งของเราที่ดากำลังดูอยู่ และรีบลุกมาหาผมทันที

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องรอ”
“มา...ให้ดาช่วยนะ”
“เฮ้ย ก็บอกไม่ต้องยุ่งไง” ผมพูดพร้อมกับผลักเธอออกไปอย่างแรง

วินาทีนั้นผมตกใจมากที่ผมผลักดาออกไป แต่ผมก็ยังเมาไม่ได้สติ
ดาลุกขึ้นมา พร้อมกับจะช่วยหยิบกระเป๋าและเสื้อสูทของผม
แต่ไม่รู้ผีบ้าอะไรเข้าสิงผม ผมกลับผลักเธอออกไปอีกครั้ง
คราวนี้ผมคงผลักเธอแรงเกินไป หัวเธอฝาดลงไปที่พื้น
เธอลุกขึ้นมา และยิ้มให้ผมเหมือนกับว่าไม่เป็นไร
แต่เลือดที่ไหลหยดลงมาจากการที่หัวของดากระแทกพื้น ทำให้ผมตกใจมาก
ผมตกใจสุดขีด ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ผมจึงรีบเดินออกจากบ้านและขับรถออกไป
.......................................................................................................................
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่