ติดตามอ่านกระทู้ย้อนหลัง
ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/31964755
ตอนที่ 2
http://pantip.com/topic/32019122
ตื่นเช้ามาวันนี้ คือวันที่เราต้องแบกกระเป๋าย้ายที่นอนกันอีกแล้ว แต่ด้วยเพราะเตรียมการมาเป็นอย่างดี กระเป๋าใบใหญ่จริงๆ ฝากไว้ที่มิวนิคตั้งแต่วันแรกที่มาถึง ตอนนี้ก็ได้แต่ตะเบงเป้ใบเล็กเดินทางเท่านั้น จึงไม่ได้เป็นภาระใหญ่หลวงอะไรเลย
หลังทานมื้อเช้าเสร็จ เราก็นั่งรถไฟไป Salzburg ตามแผนกัน และด้วยความที่ผมคำนวณเวลาในการเดินทางแล้วว่า "มันนาน" เพราะต้องนั่งรถไฟเข้ามิวนิคก่อน แล้วค่อยต่อไป Salzburg ดังนั้น หากจะใช้ Baryern Tickets ที่ถูกบังคับให้เริ่มใช้งานหลัง 9.00 เป็นต้นไป อาจทำให้ไปถึง Salzburg บ่ายๆโน่น แล้วจะทำให้อดเยี่ยมชมสถานที่หลายแห่งใน Salzburg หรือถ้าไปทัน อาจต้องเที่ยวแบบชะโงกทัวร์ ดังนั้น การเดินทางจาก Nurnberg ไป Salzburg ในครั้งนี้ ผมจึงตัดสินใจซื้อตั๋วรถไฟ IEC ไปเลย เพราะนอกจากจะออกเดินทางได้เช้ากว่า 9 โมง แล้วยังเป็นรถด่วน ทำให้ไปถึง Salzburg ได้ไวขึ้น
จัดการซื้อตั๋วในเวปเลยครับ www.bahn.de เวปปกติที่เราใช้เช็คตารางรถไฟออกนั่นแหละครับหากคุณซื้อแต่เนิ่นๆ และไปพร้อมกัน 2 คน จะยิ่งได้ราคาถูกมากครับ
ครั้งนี้ ผมกดซื้อตั๋วก่อนเดินทางจริงล่วงหน้าประมาณ 2 เดือน ตัดเงินผ่านบัตรเครดิต แล้ว print เมลล์ยืนยันที่เค้าส่งมาให้ (ใบที่มี Barcode) เพราะต้องให้พนักงานบนรถไฟแสกน (และอย่าลืมพกบัตรเครดิตที่ใช้ซื้อติดตัวไปด้วย เพราะเค้าจะตรวจพร้อมตั๋วที่ print ออกมา)
ราคาที่ผมได้มาคือ 2 คน 49 ยูโร (จาก Nurnberg ถึง Salzburg เลยนะครับ) เป็นชั้น 2 และไม่ได้จองที่นั่ง ซึ่งปกติ ถ้าเป็นวันธรรมดา ก็ไม่ต้องจองที่นั่งให้เสียเงินเพิ่มหรอกนะครับ เพราะมันก็ว่างโล่งอยู่แล้ว
มีข้อสังเกตนิดนึงในการเดินทางครั้งนี้ คือพอรถไฟไปถึงมิวนิค เราจะต้องเปลี่ยนไปขึ้นอีกขบวน คนละชานชาลา แต่สถานีรถไฟเดียวกัน ดังนั้น ดูให้ดี อย่าลนลานจนขึ้นผิด หรือนั่งค้างอยู่ขบวนเดิม และพอรถไฟขบวนจากมิวนิคออกไปได้สักพัก (จำไมได้ว่าถึงสถานีไหน) จะมีพนักงานรถไฟเข้ามาแจ้งว่า หากจะไป Salzburg ต้องเปลี่ยนไปขึ้นตู้ด้านหน้า ตอนแรกก็งงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงตอนนี้ก็ได้แต่เดาว่า สงสัย เค้าต้องการตัดโบกี้แน่ๆ และโบกี้ที่ผมนั่ง มันจะถูกตัดออก ดังนั้น เราจึงต้องลุกไปนั่งอีกโบกี้
แต่ ณ จุดๆ นี้ไม่ต้องกังวล เพราะเราจะมีเพื่อนร่วมชะตากรรมเกือบทั้งโบกี้ ดังนั้น เค้าลุก เราลุก เค้าเดินไปไหน เราเดินตาม 5555+
ประเด็นคือ โบกี้ที่เรากำลังจะไปนั่ง ก็ไม่ใช่โล่งๆ พอบวกกับพวกเราที่ขนกันไปทั้งโบกี้ เลยได้มียืนกันมั่ง ได้บริหารขากันแต่เช้า 5555+
[CR] แบคแพคเมษาล่าฝัน พาตะลุยยุโรป 18 วัน 12 เมือง 3 ประเทศ ตอนที่ 3 Salzburg และ Munich
ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/31964755
ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/32019122
ตื่นเช้ามาวันนี้ คือวันที่เราต้องแบกกระเป๋าย้ายที่นอนกันอีกแล้ว แต่ด้วยเพราะเตรียมการมาเป็นอย่างดี กระเป๋าใบใหญ่จริงๆ ฝากไว้ที่มิวนิคตั้งแต่วันแรกที่มาถึง ตอนนี้ก็ได้แต่ตะเบงเป้ใบเล็กเดินทางเท่านั้น จึงไม่ได้เป็นภาระใหญ่หลวงอะไรเลย
หลังทานมื้อเช้าเสร็จ เราก็นั่งรถไฟไป Salzburg ตามแผนกัน และด้วยความที่ผมคำนวณเวลาในการเดินทางแล้วว่า "มันนาน" เพราะต้องนั่งรถไฟเข้ามิวนิคก่อน แล้วค่อยต่อไป Salzburg ดังนั้น หากจะใช้ Baryern Tickets ที่ถูกบังคับให้เริ่มใช้งานหลัง 9.00 เป็นต้นไป อาจทำให้ไปถึง Salzburg บ่ายๆโน่น แล้วจะทำให้อดเยี่ยมชมสถานที่หลายแห่งใน Salzburg หรือถ้าไปทัน อาจต้องเที่ยวแบบชะโงกทัวร์ ดังนั้น การเดินทางจาก Nurnberg ไป Salzburg ในครั้งนี้ ผมจึงตัดสินใจซื้อตั๋วรถไฟ IEC ไปเลย เพราะนอกจากจะออกเดินทางได้เช้ากว่า 9 โมง แล้วยังเป็นรถด่วน ทำให้ไปถึง Salzburg ได้ไวขึ้น
จัดการซื้อตั๋วในเวปเลยครับ www.bahn.de เวปปกติที่เราใช้เช็คตารางรถไฟออกนั่นแหละครับหากคุณซื้อแต่เนิ่นๆ และไปพร้อมกัน 2 คน จะยิ่งได้ราคาถูกมากครับ
ครั้งนี้ ผมกดซื้อตั๋วก่อนเดินทางจริงล่วงหน้าประมาณ 2 เดือน ตัดเงินผ่านบัตรเครดิต แล้ว print เมลล์ยืนยันที่เค้าส่งมาให้ (ใบที่มี Barcode) เพราะต้องให้พนักงานบนรถไฟแสกน (และอย่าลืมพกบัตรเครดิตที่ใช้ซื้อติดตัวไปด้วย เพราะเค้าจะตรวจพร้อมตั๋วที่ print ออกมา)
ราคาที่ผมได้มาคือ 2 คน 49 ยูโร (จาก Nurnberg ถึง Salzburg เลยนะครับ) เป็นชั้น 2 และไม่ได้จองที่นั่ง ซึ่งปกติ ถ้าเป็นวันธรรมดา ก็ไม่ต้องจองที่นั่งให้เสียเงินเพิ่มหรอกนะครับ เพราะมันก็ว่างโล่งอยู่แล้ว
มีข้อสังเกตนิดนึงในการเดินทางครั้งนี้ คือพอรถไฟไปถึงมิวนิค เราจะต้องเปลี่ยนไปขึ้นอีกขบวน คนละชานชาลา แต่สถานีรถไฟเดียวกัน ดังนั้น ดูให้ดี อย่าลนลานจนขึ้นผิด หรือนั่งค้างอยู่ขบวนเดิม และพอรถไฟขบวนจากมิวนิคออกไปได้สักพัก (จำไมได้ว่าถึงสถานีไหน) จะมีพนักงานรถไฟเข้ามาแจ้งว่า หากจะไป Salzburg ต้องเปลี่ยนไปขึ้นตู้ด้านหน้า ตอนแรกก็งงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงตอนนี้ก็ได้แต่เดาว่า สงสัย เค้าต้องการตัดโบกี้แน่ๆ และโบกี้ที่ผมนั่ง มันจะถูกตัดออก ดังนั้น เราจึงต้องลุกไปนั่งอีกโบกี้
แต่ ณ จุดๆ นี้ไม่ต้องกังวล เพราะเราจะมีเพื่อนร่วมชะตากรรมเกือบทั้งโบกี้ ดังนั้น เค้าลุก เราลุก เค้าเดินไปไหน เราเดินตาม 5555+
ประเด็นคือ โบกี้ที่เรากำลังจะไปนั่ง ก็ไม่ใช่โล่งๆ พอบวกกับพวกเราที่ขนกันไปทั้งโบกี้ เลยได้มียืนกันมั่ง ได้บริหารขากันแต่เช้า 5555+