ตอนที่ 10 แล้วค่ะ เรามากันจนเกือบจะจบทริปแล้วสิ ที่ฮาโกดาเตะนี่ถือเป็นไฮไลท์ที่หนึ่งเลยค่ะ เนื่องจากมีที่เที่ยวหลายที่ ของกินอร่อย เดินทางสะดวกสบาย แต่ออกตัวนิดนึงนะคะ ว่าภาพอาจจะดูหม่นๆ ไปบ้าง นอกจากพายุหิมะแล้วยังเจอพายุความเหงาถล่มค่ะ ภาพเลยมัวซัวตามกันไป
ใครอยากเริ่มตั้งต้นการเดินทางกัน ไปที่
http://pantip.com/topic/31803274
ตอนที่ 1 มัทสึโมโตะ
http://pantip.com/topic/31812434
ตอนที่ 2 ชิราคาว่า-คานาซาว่า
http://pantip.com/topic/31807590
ตอนที่ 3 เป็บปุ - ยุฟุอิน
http://pantip.com/topic/31812384
ตอนที่ 4 อะโสะ - คุมาโมโตะ
http://pantip.com/topic/31816159
ตอนที่ 5 ฟุคุโอกะ
http://pantip.com/topic/31816493
ตอนที่ 6 ทาคายาม่า - ชินโฮตาเกะ
http://pantip.com/topic/31819997
ตอนที่ 7 คาวากูชิโกะ - ล่าปลาไหลอาซากุสะ
http://pantip.com/topic/31845547
ตอนที่ 8 รถไฟนอน - อาซาชิคาว่า
http://pantip.com/topic/31907228
ตอนที่ 9 ฟุราโน่
http://pantip.com/topic/31907372
กลับจากฟุราโน่มาแวะที่ซัปโปโรหนึ่งคืนค่ะ ไม่อย่างนั้นการเดินทางจะยาวนานมากเลย อีกเหตุผลหนึ่งคือเพราะเป็นคืนที่จองเป็น business hotel ไว้ค่ะ เพื่อจะได้ส่งกระเป๋ามา และจะได้เป็นคืนซักผ้าด้วยค่ะ ที่ๆนอนคือ best western ใกล้สถานีมาก ค่อนข้างสะดวกสบายทีเดียว 4000Y ค่ะ
มีพร้อมผ้าขนหนูและอุปกรณ์อาบน้ำ ยาสีฟันแปรงสีฟัน น้ำยาล้างเครื่องสำอางค์ ครีมบำรุงผิว ครบครัน
แถมยังมีชุดนอนอีกต่างหาก
ที่ชั้นสองก็มีตู้ซักผ้าหยอดเหรียญแบบผงซักฟอกในตัว แถมเครื่องปั่นครบครัน
เรียกได้ว่าโรงแรมประเภทนี้ราคาย่อมเยาว์ และไปแต่ตัวได้เลยค่ะ มีอุปกรณ์อาปน้ำแต่งตัวพร้อม ใส่ชุดนอนเอาชุดลงไปปั่น ออกจากโรงแรมได้อีกวัน ใครมีทรัพย์หน่อยก็ลองมองที่พักประเภทนี้ได้นะคะ สะดวกเชียว
นอนจนอิ่มหนำกับความสะบายในรอบห้าวัน ก็ออกเดินทางกันแต่เช้า มุ่งหน้าไปฮาโกดาเตะค่ะ
ข้าวเช้าวันนี้ซื้อมาจากห้างเซลส์เมื่อวาน สนนราคา 600Y สองร้อยบาท ในขณะที่บ้านเราชามนี้อย่างต่ำก็สามร้อยอัฟ ไม่ต้องนับความสดอร่อยเพราะเป็นเมืองทะเล
กินอิ่ม หลับบนรถอีกงีบก็ถึงแล้วค่ะ หน้าสถานี
แดดสะท้อนสวยมาก อีกอันที่ขาดไม่ได้
เข้าที่พักเอากระเป๋าไปฝากก่อนค่ะ โอยาดะ ใช้ได้เหมือนกัน แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูค่ะเพราะหิมะหนามาก คอยแต่จะลื่นตลอดเวลา เสร็จสรรพก็ตั้งต้นเที่ยวกันท่านกลางพายุหิมะค่ะ ที่แรก โกดังอิฐแดง
อ่อ...เรื่องการเดินทางไม่ต้องห่วงนะคะ ในเมืองจะมีรถรางวิ่งอยู่ทุกสิบนาที จอดตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ใครอยากได้แผนที่ในสถานีรถไฟแวะหยิบมาได้เลยค่ะ มีภาษาไทยด้วยขอบอก เลยไม่ได้เอามาลงให้นะคะ

]
ขาวโพลนไปหมด แม้กระทั่งเจ้าเหมียวน้อย
เดินตากหิมะอยู่ข้างนอกสักพักก็ต้องแวบเข้าไปเดินข้างในค่ะ มีขายกล่องดนตรีงดงาม
มีของช้อปปิ้งตลอดทั้งแนวล่ะค่ะ
เดินไปมา แต่ที่เราตามหาคือสิ่งนี้ค่ะ
snaffle สุดยอดดดดด บรรยายไม่ถูก รู้แต่ว่าเสียดายมากที่ซื้อกลับเมืองไทยไม่ได้ อยู่ได้แค่วันเดียว ขอบอก ต้องลองงงงงง
ออกมาเดินข้างนอกค่ะ มุ่งหน้าไปยังถนนชื่อดัง
ปีนบันไดท่ามกลางหิมะ เพื่อ มุมมหาชนนี้
แต่ได้เท่านี้ล่ะค่ะ ไม่กล้ายืนนานเพราะเสียงดัน "เอี๊ยด" เพิ่งเคยเห็นรถชนครั้งแรกในญี่ปุ่นนี่ล่ะค่ะ แต่ตำรวจและประกันมาเร็วมากเลยทีเดียว ไม่อยากจะบอกว่าเขาชนกันเพราะบรรดานักท่องเที่ยวที่เดินบนถนนกันให้ว่อนนี่ล่ะค่ะ ระวังๆ กันหน่อยนะคะ
เดินตามทางไปเรื่อยๆ ก็จะเจอรัฐสภา(รึเปล่าหว่า) ของเขาค่ะ ทุกตึกทำเป็นพิพธภัณฑ์เข้าชมได้หมด แต่เสียเงินนะคะ
ด้านในมีห้องแสดงมากมาย
เดินตามทางไปก็จะเจอ "สวนหิมะ" เหอๆ มีคนนี้เฝ้าสวนอยู่ค่ะ
เดินไปเรื่อยๆ ชมโบสถ์ต่างๆ
ท่ามกลางโบสถ์คริสต์ ก็ปะปนไปด้วยวัดพุทธค่ะ
เหนื่อยและหนาวค่ะ เพราะหิมะไม่หยุดเลยนับเกินสี่ชั่วโมงที่เดินเที่ยวแล้ว ใกล้พระอาทิตย์ตก (สี่โมง) เรามุ่งหน้ามาที่โรปเวย์ค่ะ
ฃ
มีภาษาไทยทุกที่เลย
ขึ้นเคเบิ้ลมา เพื่อมุมมหาชนอีกครั้งค่ะ
ได้มาอวดแค่นี้เองค่ะ เพราะพายุหิมะทำให้ขึ้นดาดฟ้าไม่ได้ เลยไม่ได้รูไฟฟ้าระยิบระยับเพราะโดนแสงสะท้อนที่กระจกค่ะ เสียใจ เสร็จแล้วก็กลับไปนอนเอาแรงค่ะ ที่นอนคืนนี้
เจอคุณป้าเจ้าของที่ใจดีมากค่ะ เห็นเราซื้อของเซเว่นกลับมากินแกก็ฝานแอปเปิ้ลมาให้ น้ำใจท่ามกลางความเหงาเป็นอะไรที่ซื้งจริงๆ ค่ะ
ตื่นเช้ามามุ่งหน้าตลาดเช้า
ตามหาปูขนค่ะ
จัดไปเลยค่ะ หนึ่งจากใหญ่ๆ ฟินนนนน
เสร็จแล้วมุ่งหน้าไปหอคอยห้าแฉก
หิมะยังคงไม่ปราณีเราค่ะ ระหว่างทางเจอหนุ่มๆ ช่วยกันโกยหิมะหน้าบริษัทแต่เช้า อิอิ
ไปถึงก่อนเวลาหอคอยเปิดค่ะ เลยเข้าไปชมสวนข้างในก่อน
ได้ที่สวยๆ มาเท่านี้ค่ะ เซ็งคำว่าหิมะหรือยังคะ แต่คนเที่ยวเซ็งกว่าค่ะ ขึ้นหาคอยเลยดีกว่า
เห็นเมืองสวยเชียว
และ....มุมมหาชน
เมืองนี้ถือว่าเก็บครบ โบกมือบ๊ายบายค่ะ ตอนแรกคิดว่าได้ออกเร็วจะไปแวะเที่ยวโนโบริเบ็ทสึสักหน่อย ปรากฎว่าเจอมหาชนญี่ปุ่นค่ะ เป็นวันที่ 30 ธันวาพอดี ญี่ปุ่นแห่กลับบ้านค่ะ รถไฟเต็มถึงขั้นขี่คอกันเลยทีเดียว เลยยอมแพ้รอขบวนที่ reserve ที่นั่งไว้ (โชคดีที่จองไว้ก่อน) กลับไปลุยซัปโปโรกันค่ะ
[CR] @@ ลุยเดี่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว ไปให้ไกลต้องเอาให้คุ้ม (15 days 14 nights) @@ ตอนที่ 10 ฮาโกดาเตะ
ตอนที่ 10 แล้วค่ะ เรามากันจนเกือบจะจบทริปแล้วสิ ที่ฮาโกดาเตะนี่ถือเป็นไฮไลท์ที่หนึ่งเลยค่ะ เนื่องจากมีที่เที่ยวหลายที่ ของกินอร่อย เดินทางสะดวกสบาย แต่ออกตัวนิดนึงนะคะ ว่าภาพอาจจะดูหม่นๆ ไปบ้าง นอกจากพายุหิมะแล้วยังเจอพายุความเหงาถล่มค่ะ ภาพเลยมัวซัวตามกันไป
ใครอยากเริ่มตั้งต้นการเดินทางกัน ไปที่ http://pantip.com/topic/31803274
ตอนที่ 1 มัทสึโมโตะ http://pantip.com/topic/31812434
ตอนที่ 2 ชิราคาว่า-คานาซาว่า http://pantip.com/topic/31807590
ตอนที่ 3 เป็บปุ - ยุฟุอิน http://pantip.com/topic/31812384
ตอนที่ 4 อะโสะ - คุมาโมโตะ http://pantip.com/topic/31816159
ตอนที่ 5 ฟุคุโอกะ http://pantip.com/topic/31816493
ตอนที่ 6 ทาคายาม่า - ชินโฮตาเกะ http://pantip.com/topic/31819997
ตอนที่ 7 คาวากูชิโกะ - ล่าปลาไหลอาซากุสะ http://pantip.com/topic/31845547
ตอนที่ 8 รถไฟนอน - อาซาชิคาว่า http://pantip.com/topic/31907228
ตอนที่ 9 ฟุราโน่ http://pantip.com/topic/31907372
กลับจากฟุราโน่มาแวะที่ซัปโปโรหนึ่งคืนค่ะ ไม่อย่างนั้นการเดินทางจะยาวนานมากเลย อีกเหตุผลหนึ่งคือเพราะเป็นคืนที่จองเป็น business hotel ไว้ค่ะ เพื่อจะได้ส่งกระเป๋ามา และจะได้เป็นคืนซักผ้าด้วยค่ะ ที่ๆนอนคือ best western ใกล้สถานีมาก ค่อนข้างสะดวกสบายทีเดียว 4000Y ค่ะ
มีพร้อมผ้าขนหนูและอุปกรณ์อาบน้ำ ยาสีฟันแปรงสีฟัน น้ำยาล้างเครื่องสำอางค์ ครีมบำรุงผิว ครบครัน
แถมยังมีชุดนอนอีกต่างหาก
ที่ชั้นสองก็มีตู้ซักผ้าหยอดเหรียญแบบผงซักฟอกในตัว แถมเครื่องปั่นครบครัน
เรียกได้ว่าโรงแรมประเภทนี้ราคาย่อมเยาว์ และไปแต่ตัวได้เลยค่ะ มีอุปกรณ์อาปน้ำแต่งตัวพร้อม ใส่ชุดนอนเอาชุดลงไปปั่น ออกจากโรงแรมได้อีกวัน ใครมีทรัพย์หน่อยก็ลองมองที่พักประเภทนี้ได้นะคะ สะดวกเชียว
นอนจนอิ่มหนำกับความสะบายในรอบห้าวัน ก็ออกเดินทางกันแต่เช้า มุ่งหน้าไปฮาโกดาเตะค่ะ
ข้าวเช้าวันนี้ซื้อมาจากห้างเซลส์เมื่อวาน สนนราคา 600Y สองร้อยบาท ในขณะที่บ้านเราชามนี้อย่างต่ำก็สามร้อยอัฟ ไม่ต้องนับความสดอร่อยเพราะเป็นเมืองทะเล
กินอิ่ม หลับบนรถอีกงีบก็ถึงแล้วค่ะ หน้าสถานี
แดดสะท้อนสวยมาก อีกอันที่ขาดไม่ได้
เข้าที่พักเอากระเป๋าไปฝากก่อนค่ะ โอยาดะ ใช้ได้เหมือนกัน แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูค่ะเพราะหิมะหนามาก คอยแต่จะลื่นตลอดเวลา เสร็จสรรพก็ตั้งต้นเที่ยวกันท่านกลางพายุหิมะค่ะ ที่แรก โกดังอิฐแดง
อ่อ...เรื่องการเดินทางไม่ต้องห่วงนะคะ ในเมืองจะมีรถรางวิ่งอยู่ทุกสิบนาที จอดตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ใครอยากได้แผนที่ในสถานีรถไฟแวะหยิบมาได้เลยค่ะ มีภาษาไทยด้วยขอบอก เลยไม่ได้เอามาลงให้นะคะ
ขาวโพลนไปหมด แม้กระทั่งเจ้าเหมียวน้อย
เดินตากหิมะอยู่ข้างนอกสักพักก็ต้องแวบเข้าไปเดินข้างในค่ะ มีขายกล่องดนตรีงดงาม
มีของช้อปปิ้งตลอดทั้งแนวล่ะค่ะ
เดินไปมา แต่ที่เราตามหาคือสิ่งนี้ค่ะ
snaffle สุดยอดดดดด บรรยายไม่ถูก รู้แต่ว่าเสียดายมากที่ซื้อกลับเมืองไทยไม่ได้ อยู่ได้แค่วันเดียว ขอบอก ต้องลองงงงงง
ออกมาเดินข้างนอกค่ะ มุ่งหน้าไปยังถนนชื่อดัง
ปีนบันไดท่ามกลางหิมะ เพื่อ มุมมหาชนนี้
แต่ได้เท่านี้ล่ะค่ะ ไม่กล้ายืนนานเพราะเสียงดัน "เอี๊ยด" เพิ่งเคยเห็นรถชนครั้งแรกในญี่ปุ่นนี่ล่ะค่ะ แต่ตำรวจและประกันมาเร็วมากเลยทีเดียว ไม่อยากจะบอกว่าเขาชนกันเพราะบรรดานักท่องเที่ยวที่เดินบนถนนกันให้ว่อนนี่ล่ะค่ะ ระวังๆ กันหน่อยนะคะ
เดินตามทางไปเรื่อยๆ ก็จะเจอรัฐสภา(รึเปล่าหว่า) ของเขาค่ะ ทุกตึกทำเป็นพิพธภัณฑ์เข้าชมได้หมด แต่เสียเงินนะคะ
ด้านในมีห้องแสดงมากมาย
เดินตามทางไปก็จะเจอ "สวนหิมะ" เหอๆ มีคนนี้เฝ้าสวนอยู่ค่ะ
เดินไปเรื่อยๆ ชมโบสถ์ต่างๆ
ท่ามกลางโบสถ์คริสต์ ก็ปะปนไปด้วยวัดพุทธค่ะ
เหนื่อยและหนาวค่ะ เพราะหิมะไม่หยุดเลยนับเกินสี่ชั่วโมงที่เดินเที่ยวแล้ว ใกล้พระอาทิตย์ตก (สี่โมง) เรามุ่งหน้ามาที่โรปเวย์ค่ะ
มีภาษาไทยทุกที่เลย
ขึ้นเคเบิ้ลมา เพื่อมุมมหาชนอีกครั้งค่ะ
ได้มาอวดแค่นี้เองค่ะ เพราะพายุหิมะทำให้ขึ้นดาดฟ้าไม่ได้ เลยไม่ได้รูไฟฟ้าระยิบระยับเพราะโดนแสงสะท้อนที่กระจกค่ะ เสียใจ เสร็จแล้วก็กลับไปนอนเอาแรงค่ะ ที่นอนคืนนี้
เจอคุณป้าเจ้าของที่ใจดีมากค่ะ เห็นเราซื้อของเซเว่นกลับมากินแกก็ฝานแอปเปิ้ลมาให้ น้ำใจท่ามกลางความเหงาเป็นอะไรที่ซื้งจริงๆ ค่ะ
ตื่นเช้ามามุ่งหน้าตลาดเช้า
ตามหาปูขนค่ะ
จัดไปเลยค่ะ หนึ่งจากใหญ่ๆ ฟินนนนน
เสร็จแล้วมุ่งหน้าไปหอคอยห้าแฉก
หิมะยังคงไม่ปราณีเราค่ะ ระหว่างทางเจอหนุ่มๆ ช่วยกันโกยหิมะหน้าบริษัทแต่เช้า อิอิ
ไปถึงก่อนเวลาหอคอยเปิดค่ะ เลยเข้าไปชมสวนข้างในก่อน
ได้ที่สวยๆ มาเท่านี้ค่ะ เซ็งคำว่าหิมะหรือยังคะ แต่คนเที่ยวเซ็งกว่าค่ะ ขึ้นหาคอยเลยดีกว่า
เห็นเมืองสวยเชียว
และ....มุมมหาชน
เมืองนี้ถือว่าเก็บครบ โบกมือบ๊ายบายค่ะ ตอนแรกคิดว่าได้ออกเร็วจะไปแวะเที่ยวโนโบริเบ็ทสึสักหน่อย ปรากฎว่าเจอมหาชนญี่ปุ่นค่ะ เป็นวันที่ 30 ธันวาพอดี ญี่ปุ่นแห่กลับบ้านค่ะ รถไฟเต็มถึงขั้นขี่คอกันเลยทีเดียว เลยยอมแพ้รอขบวนที่ reserve ที่นั่งไว้ (โชคดีที่จองไว้ก่อน) กลับไปลุยซัปโปโรกันค่ะ