6.7 พุทธิปัญญาของผม น้องนัทตี้ กับเจ้าแม่กวนอิมพุทธองค์ องค์จริงองค์ปลอม ( 真假观音娘 )
มีหลายครั้งหลายคราเหลือเกิน ที่ผมได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนนิสิตชาวจีน ซึ่งหลายคนก็ฉลาดปราชญ์เปรื่อง กว่าจะสอบได้มาเป็นนิสิตปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของจีน และของโลก
( World-class University ) เพราะต้องผ่านการแข่งขันมาอย่างโชกโชน และในหลายบทสนทนาที่คุยกับเพื่อนมันสมองชั้นครีม หรือชั้นหัวกะทิ ...
( cream of the cream ) นั้น มีอยู่ 1 เรื่องที่เราคุยกัน คือ เรื่องพระโพธิสัตว์กวนอิม หรือ คนจีนเรียกว่า Guanyin Pusa
เราคุยกันเป็นภาษาจีนครับ
เพื่อนนิสิตชาวจีน : เสี่ยวหลินครับ (ชื่อภาษาจีนของผม )
น้องนัทตี้ : ครับ
เพื่อนนิสิตชาวจีน : รู้มั้ย ทำไมพวกอสูร หรือปีศาจทั้งหลาย เวลาไปเข้าฝันเที่ยวหลอกผู้คนเนี่ย ทำไมชอบแปลงร่างเป็นเจ้าแม่กวนอิม
น้องนัทตี้ : ก็อาจเป็นเพราะว่า เจ้าแม่กวนอิมทรงมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ในโลก ใครๆก็รู้จักดีในน้ำพระทัยอันงดงามของพระองค์ท่าน
เพื่อนนิสิตชาวจีน : ปีศาจร้ายเนี่ยฉลาดเหมือนกัน ใครว่ามนุษย์ฉลาดอยู่คนเดียว
น้องนัทตี้ : เห็นด้วยครับ อย่าว่าแต่ปีศาจร้ายเลย จอมมารก็ใช่ย่อย แล้วผมก็เล่าเรื่องที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดท้าวผกาพรหม ได้มีจอมมารเข้าสิงร่างพรหม
เพื่อนนิสิตชาวจีน : ขนาดพรหมยังโดนสิงเลยเหรอ
เพื่อนชาวจีนท่าทางสนใจมาก
น้องนัทตี้ : ก็พรหมไม่ใช่พระอรหันต์นิ แล้วผมน้องนัทตี้ก็ค่อยๆเล่าเรื่องมารเข้าสิงสู่พรหมให้เพื่อนฟัง เนื่องจากเราเดินทางโดยรถไฟจีน และมีเวลานาน ตอนที่คุยกันอยู่ รถไฟกำลังข้ามแม่น้ำฮวงโหพอดี น้องนัทตี้เล่าว่า จอมมารพูดจาอย่างนี้กับพระพุทธองค์
ดูกรภิกษุ สมณะและพราหมณ์พวกก่อนท่าน เป็นผู้ติเตียนดิน เกลียดดิน เป็นผู้ติเตียนน้ำ เกลียดน้ำ เป็นผู้ติเตียนไฟ เกลียดไฟ เป็นผู้ติเตียนลม เกลียดลม เป็นผู้ติเตียนสัตว์ เกลียดสัตว์ เป็นผู้ติเตียนเทวดา เกลียดเทวดา เป็นผู้ติเตียนปชาบดี เกลียดปชาบดี เป็นผู้ติเตียนพรหม
เกลียดพรหมในโลก (ว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา) สมณะและพราหมณ์เหล่านั้น เมื่อกายแตกขาดจากลมปราณ ต้องไปเกิดในหีนกาย. (จตุราบาย)
เพื่อนนิสิตชาวจีน : แล้วพระพุทธเจ้ารู้มั้ยว่า มีจอมมารมาเข้าสิงพรหมตนนั้น
น้องนัทตี้ : ตามตำราพระไตรปิฎก บอกว่า พระพุทธเจ้าทรงทราบ พระพุทธเจ้าก็เลยตรัสว่า ดูกรมารผู้ลามก เรารู้จักท่าน ท่านอย่าเข้าใจว่า พระสมณะไม่รู้จักเรา ท่านเป็นมาร ท่านหามีความอนุเคราะห์ด้วยจิตเกื้อกูลไม่ จึงกล่าวกะเราอย่างนี้ ท่านไม่มีความอนุเคราะห์ด้วยจิตเกื้อกูลจึงกล่าวกะเราอย่างนี้
เพื่อนนิสิตชาวจีน : ได้ความรู้ดี แล้วเรื่องจอมมารมาแปลงร่างเป็นเจ้าแม่กวนอิมเนี่ย จะรู้มั้ยว่า เจ้าแม่กวนอิมเนี่ยท่านเป็นองค์จริงหรือองค์ปลอม
น้องนัทตี้ : ( ใช้เวลาครุ่นคิดอยู่นิดนึง ) อ้าว ก็ไม่เห็นจะยากอะไรเลย ถ้าเจ้าแม่กวนอิมองค์จริงมา ท่านจะถือแจกันไว้ที่พระหัตถ์ซ้าย แต่ถ้าตัวปลอมละก้อ จะถือแจกันที่พระหัตถ์ขวา
เพื่อนนิสิตชาวจีน : แหม เสี่ยวหลินนี่ ฉลาดจริงๆ อืม ขอถามเพิ่มเติมอีกหน่อยนะ
น้องนัทตี้ : มิบังอาจ ก็คุยๆกันได้
เพื่อนนิสิตชาวจีน : แล้วถ้ามารตัวนั้น มีปัญญาล้ำเลิศ เกิดแปลงร่างเป็นเจ้าแม่กวนอิม แล้วถือแจกันพระหัตถ์ซ้ายมา คราวนี้จะแยกยังไงดี
น้องนัทตี้ : วันจันทร๋หน้ามาเฉลยครับ พี่ๆเพื่อนๆ ลุงป้าน้าอาลองคิดดูว่า ผมตอบยังไงดูเพิ่มเติม
ที่ facebook : nuttylim lim
6.7 พุทธิปัญญาของผม น้องนัทตี้ กับเจ้าแม่กวนอิมพุทธองค์ องค์จริงองค์ปลอม ( 真假观音娘 )
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะมีหลายครั้งหลายคราเหลือเกิน ที่ผมได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนนิสิตชาวจีน ซึ่งหลายคนก็ฉลาดปราชญ์เปรื่อง กว่าจะสอบได้มาเป็นนิสิตปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของจีน และของโลก
( World-class University ) เพราะต้องผ่านการแข่งขันมาอย่างโชกโชน และในหลายบทสนทนาที่คุยกับเพื่อนมันสมองชั้นครีม หรือชั้นหัวกะทิ ...
( cream of the cream ) นั้น มีอยู่ 1 เรื่องที่เราคุยกัน คือ เรื่องพระโพธิสัตว์กวนอิม หรือ คนจีนเรียกว่า Guanyin Pusa
เราคุยกันเป็นภาษาจีนครับ
เพื่อนนิสิตชาวจีน : เสี่ยวหลินครับ (ชื่อภาษาจีนของผม )
น้องนัทตี้ : ครับ
เพื่อนนิสิตชาวจีน : รู้มั้ย ทำไมพวกอสูร หรือปีศาจทั้งหลาย เวลาไปเข้าฝันเที่ยวหลอกผู้คนเนี่ย ทำไมชอบแปลงร่างเป็นเจ้าแม่กวนอิม
น้องนัทตี้ : ก็อาจเป็นเพราะว่า เจ้าแม่กวนอิมทรงมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ในโลก ใครๆก็รู้จักดีในน้ำพระทัยอันงดงามของพระองค์ท่าน
เพื่อนนิสิตชาวจีน : ปีศาจร้ายเนี่ยฉลาดเหมือนกัน ใครว่ามนุษย์ฉลาดอยู่คนเดียว
น้องนัทตี้ : เห็นด้วยครับ อย่าว่าแต่ปีศาจร้ายเลย จอมมารก็ใช่ย่อย แล้วผมก็เล่าเรื่องที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดท้าวผกาพรหม ได้มีจอมมารเข้าสิงร่างพรหม
เพื่อนนิสิตชาวจีน : ขนาดพรหมยังโดนสิงเลยเหรอ
เพื่อนชาวจีนท่าทางสนใจมาก
น้องนัทตี้ : ก็พรหมไม่ใช่พระอรหันต์นิ แล้วผมน้องนัทตี้ก็ค่อยๆเล่าเรื่องมารเข้าสิงสู่พรหมให้เพื่อนฟัง เนื่องจากเราเดินทางโดยรถไฟจีน และมีเวลานาน ตอนที่คุยกันอยู่ รถไฟกำลังข้ามแม่น้ำฮวงโหพอดี น้องนัทตี้เล่าว่า จอมมารพูดจาอย่างนี้กับพระพุทธองค์
ดูกรภิกษุ สมณะและพราหมณ์พวกก่อนท่าน เป็นผู้ติเตียนดิน เกลียดดิน เป็นผู้ติเตียนน้ำ เกลียดน้ำ เป็นผู้ติเตียนไฟ เกลียดไฟ เป็นผู้ติเตียนลม เกลียดลม เป็นผู้ติเตียนสัตว์ เกลียดสัตว์ เป็นผู้ติเตียนเทวดา เกลียดเทวดา เป็นผู้ติเตียนปชาบดี เกลียดปชาบดี เป็นผู้ติเตียนพรหม
เกลียดพรหมในโลก (ว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา) สมณะและพราหมณ์เหล่านั้น เมื่อกายแตกขาดจากลมปราณ ต้องไปเกิดในหีนกาย. (จตุราบาย)
เพื่อนนิสิตชาวจีน : แล้วพระพุทธเจ้ารู้มั้ยว่า มีจอมมารมาเข้าสิงพรหมตนนั้น
น้องนัทตี้ : ตามตำราพระไตรปิฎก บอกว่า พระพุทธเจ้าทรงทราบ พระพุทธเจ้าก็เลยตรัสว่า ดูกรมารผู้ลามก เรารู้จักท่าน ท่านอย่าเข้าใจว่า พระสมณะไม่รู้จักเรา ท่านเป็นมาร ท่านหามีความอนุเคราะห์ด้วยจิตเกื้อกูลไม่ จึงกล่าวกะเราอย่างนี้ ท่านไม่มีความอนุเคราะห์ด้วยจิตเกื้อกูลจึงกล่าวกะเราอย่างนี้
เพื่อนนิสิตชาวจีน : ได้ความรู้ดี แล้วเรื่องจอมมารมาแปลงร่างเป็นเจ้าแม่กวนอิมเนี่ย จะรู้มั้ยว่า เจ้าแม่กวนอิมเนี่ยท่านเป็นองค์จริงหรือองค์ปลอม
น้องนัทตี้ : ( ใช้เวลาครุ่นคิดอยู่นิดนึง ) อ้าว ก็ไม่เห็นจะยากอะไรเลย ถ้าเจ้าแม่กวนอิมองค์จริงมา ท่านจะถือแจกันไว้ที่พระหัตถ์ซ้าย แต่ถ้าตัวปลอมละก้อ จะถือแจกันที่พระหัตถ์ขวา
เพื่อนนิสิตชาวจีน : แหม เสี่ยวหลินนี่ ฉลาดจริงๆ อืม ขอถามเพิ่มเติมอีกหน่อยนะ
น้องนัทตี้ : มิบังอาจ ก็คุยๆกันได้
เพื่อนนิสิตชาวจีน : แล้วถ้ามารตัวนั้น มีปัญญาล้ำเลิศ เกิดแปลงร่างเป็นเจ้าแม่กวนอิม แล้วถือแจกันพระหัตถ์ซ้ายมา คราวนี้จะแยกยังไงดี
น้องนัทตี้ : วันจันทร๋หน้ามาเฉลยครับ พี่ๆเพื่อนๆ ลุงป้าน้าอาลองคิดดูว่า ผมตอบยังไงดูเพิ่มเติม
ที่ facebook : nuttylim lim