ทวงหนี้ข้าวยกระดับ 27 ม.ค. ปิดตายถนนมิตรภาพ
http://www.nationchannel.com/main/content/politics/378392988/
http://prachatai.com/journal/2014/01/51393
เครือข่ายองค์กรเกษตรกรภาคอีสานเปิดโต๊ะทวงเงินจำนำข้าวและกดดันให้นายกฯพร้อมคณะลาออกทันที ถ้าไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน พร้อมยกระดับการชุมนุม ปิดถนนมิตรภาพที่ลำตะคองทั้งขาขึ้นขาล่องในวันที่ 27 ม.ค.
24 ม.ค.56 เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง บริเวณหน้าสวนชาติชาย อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้มีการเปิดชุมนุมและแถลงการณ์ องค์กรเกษตรกร 20 จังหวัดภาคอีสาน ซึ่งมีสมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน สภาเกษตรกรแห่งชาติ (ภาคอีสาน) กองทุนฟื้นฟูเกษตรกร (ภาคอีสาน) เครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคอีสานและภาคี ในแถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลได้ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกติดต่อกันมา 3 ฤดูกาล (2554/55-2555/56 และ 2556/57) ท่ามกลางเสียงคัดค้านทั้งจากนักวิชาการ-อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง-อดีตผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย รวมไปถึงผู้คนในวงการค้าข้าว
ปรากฏผลการขาดทุนจากการรับจำนำข้าวไม่ต่ำกว่า 250,000-300,000 ล้านบาท ไม่เพียงเท่านี้ การดำเนินโครงการยังส่อทุจริตทุกขั้นตอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายข้าวในสต๊อกรัฐบาล ที่อ้างต่อสาธารณะมาโดยตลอดว่ามีการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ต่อหลายประเทศ ความล้มเหลวในการระบายข้าวไม่เป็นไปตามแผนจนปริมาณข้าวที่เหลืออยู่ในสต๊อกมากเป็นประวัติการณ์ ส่งผลกระทบไปถึงการขาดเงินหมุนเวียนที่จะใช้ในการจำนำข้าวต่อ
เกิดการประท้วงของชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าวตามใบประทวนทั่วทั้งประเทศ อย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของการบริหารนโยบายของรัฐ จนกล่าวได้ว่าโครงการรับจำนำข้าวได้เดินทางมาถึงจุดจบแล้ว แม้คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนคดีทุจริตโครงการจำนำข้าว ถึงผลการระบายข้าวรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยเบื้องต้นพบว่า ไม่ได้มีการระบายข้าวแบบจีทูจี จริง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนนักการเมือง ข้าราชการ และเอกชน จำนวน 15 ราย แต่รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับดื้อดึงไม่แสดงความรับผิดชอบต่อความล้มเหลวของโครงการ
องค์กรเกษตรกร 20 จังหวัดภาคอีสาน จึงได้ประชุมหารือร่วมกันมาอย่างเป็นระยะ เห็นว่า การให้ข้อมูลที่เป็นเท็จต่อประชาชนทั้งประเทศอย่างไร้ความรับผิดชอบ ของนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะรัฐบาล จึงถือเป็นการดูถูก เหยียดหยาม สติปัญญาของประชาชนไทยทั้ง 67 ล้านคน กดขี่เอารัดเอาเปรียบเกษตรกร จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบโดย มี 2 ข้อหลักคือ ให้รัฐบาล จ่ายเงินจำนำข้าวแก่เกษตรกรทันที และให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกทันที และยุติบทบาททางการเมืองตลอดชีวิต เช่นเดียวกับ ครม.ทั้งชุด โดยเกษตรกร 20 จังหวัดภาคอีสานจะจารึกชื่อคณะรัฐมนตรีชุดนี้ไว้ในบัญชีเฉพาะ ให้ถือเป็นรัฐบาลตระบัตรสัตย์ต่อชาวนาไทย และจะยกระดับการชุมนุมต่อต้านอย่างเข้มข้น
นายนคร ศรีวิพัฒน์ ตัวแทนสมัชชาเกษตรรายย่อย เปิดเผยว่า แกนนำทุกองค์กรภาคอีสาน ทั้งองค์กรฟื้นฟูเกษตรกรภาคอีสาน สมัชชาเกษตรกรรายย่อย สภาเกษตรกรภาคอีสาน และเครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคอีสาน ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง หน้าสวนชาติชาย เพื่อทวงถามเงินจำนำข้าวจากรัฐบาล เนื่องจากขณะนี้ชาวนาอีสานเดือดร้อนอย่างหนัก ทั่วทุกภาค ถ้ารัฐบาลไม่แก้ปัญหาจ่ายเงิน ก็จะรวมตัวกันหลายพันคน เพื่อยกระดับการชุมนุม ในวันจันทร์ที่ 27 ม.ค. ที่บริเวณริมอ่างลำตะคอง บริเวณหน้าสวนชาติชาย และถึงขั้นปิดถนนมิตรภาพทั้งสองฝั่งทันที
นายคงฤทธิ์ บัวบุญ หนึ่งในแกนนำเครือข่ายชาวนาภาคอีสาน และเป็นประธานสภาเกษตรกรจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า หลังจากตัวแทนชาวนาภาคอีสาน 20 จังหวัด ได้มีการรวมตัวกัน และยื่นหนังสือข้อเรียกร้องเพื่อให้รัฐบาลจ่ายเงินค่าข้าวเปลือกตามโครงการรับจำนำข้าว ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยยื่นข้อเสนอ 3 ข้อให้รัฐบาลเร่งดำเนินการคือ ให้จ่ายเงินค่าจำนำข้าต่อเกษตรกรภายใน 7 วัน ข้อสองให้รัฐบาลจ่ายดอกเบี้ยตั้งแต่วันออกใบประทวนแก่เกษตรกร และข้อสุดท้ายหากรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้อง ทั้งสองข้อ เกษตรกรเครือข่าย 20 จังหวัดจะดำเนินการร่วมกับพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศยกระดับการเรียกร้อง
นายคงฤทธิ์ กล่าวว่า จนถึงวันนี้ยังไม่มีเสียงตอบรับหรือการสื่อสารจากรัฐบาลว่าจะมีการเร่งแก้ปัญหาให้กับชาวนาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งเรื่องกำหนดเวลาได้เงิน รวมทั้งเรื่องของดอกเบี้ยที่จะต้องรับชำระและจ่ายให้กับผู้ที่เข้าร่วมโครงการ ที่ผ่านมาจะอ้างว่าไม่มีเงิน หรือแม้แต่โยนความผิดให้กับ กกต. ว่าไม่ให้กู้เงินรวมทั้งโยนความผิดให้กับการชุมนุม ของ กปปส. มันเป็นเรื่องหลอกเด็ก ที่ผ่านมาแก้ปัญหาไม่ได้ หรือแม้แต่ ให้ธ.ก.ส.ปล่อยกู้ไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ของใบประทวน แต่เก็บดอกเบี้ย 7 เปอร์เซ็นต์ ทุกคนต่างก็อยากได้เงินแต่เห็นว่าถูกเอารัดเอาเปรียบทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของชาวนา ทำไมต้องมาแบกรับดอกเบี้ยเหล่านี้ ทำให้มีคนมาใช้บริการแค่ 9 ราย ประมาณ 3 แสนบาทเท่านั้น และแม้ว่าจะมีการขยายวงเงินเพิ่มเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ก็ยังมีเงื่อนไขที่เป็นภาระของชาวนาอยู่ดี
นายคงฤทธิ์ กล่าวว่า แม้ว่าการปิดถนนมิตรภาพอาจจะยังไม่ได้เงินทันที แต่ก็คงไม่สามารถหยุดยั้งชาวนาจำนวนมากได้ เพราะเดือดร้อนกันจริงๆ เฉพาะจังหวัดมหาสารคาม ตอนนี้มีผู้ถือใบประทวนรอเงินจากการจำนำข้าว กว่า 1,860 ล้านบาท ที่ ทำให้มีคนมาใช้บริการแค่ 9 ราย ประมาณ 3 แสนบาทเท่านั้น จึงจำเป็นต้องมีการรวมตัวเพื่อกดดันให้รัฐบาลได้เร่งแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
นายประจักษ์ ภูแลขำ แกนนำชาวนาจังหวัดกาฬสินธุ์ บอกว่า ได้มีการประสานงานกับเครือข่ายจังหวัดอื่นๆ เพื่อที่จะติดตามทวงถามเงินจำนำข้าวอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะร่วมชุมนุมตามมติของเครือข่ายภาคอีสาน รวมทั้งการร่วมชุมนุมใหญ่ที่ลำตะคองด้วย เพื่อแสดงพลังชาวนาอีสาน ซึ่งฐานเสียงสำคัญของรัฐบาล กำลังได้รับเดือดร้อนอย่างหนัก
**ฉากใกล้จบ จำนำข้าว ชาวนา ทวงหนี้ข้าวยกระดับ 27 ม.ค. ปิดตายถนนมิตรภาพ
http://www.nationchannel.com/main/content/politics/378392988/
http://prachatai.com/journal/2014/01/51393
เครือข่ายองค์กรเกษตรกรภาคอีสานเปิดโต๊ะทวงเงินจำนำข้าวและกดดันให้นายกฯพร้อมคณะลาออกทันที ถ้าไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน พร้อมยกระดับการชุมนุม ปิดถนนมิตรภาพที่ลำตะคองทั้งขาขึ้นขาล่องในวันที่ 27 ม.ค.
24 ม.ค.56 เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง บริเวณหน้าสวนชาติชาย อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้มีการเปิดชุมนุมและแถลงการณ์ องค์กรเกษตรกร 20 จังหวัดภาคอีสาน ซึ่งมีสมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน สภาเกษตรกรแห่งชาติ (ภาคอีสาน) กองทุนฟื้นฟูเกษตรกร (ภาคอีสาน) เครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคอีสานและภาคี ในแถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลได้ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกติดต่อกันมา 3 ฤดูกาล (2554/55-2555/56 และ 2556/57) ท่ามกลางเสียงคัดค้านทั้งจากนักวิชาการ-อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง-อดีตผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย รวมไปถึงผู้คนในวงการค้าข้าว
ปรากฏผลการขาดทุนจากการรับจำนำข้าวไม่ต่ำกว่า 250,000-300,000 ล้านบาท ไม่เพียงเท่านี้ การดำเนินโครงการยังส่อทุจริตทุกขั้นตอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายข้าวในสต๊อกรัฐบาล ที่อ้างต่อสาธารณะมาโดยตลอดว่ามีการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ต่อหลายประเทศ ความล้มเหลวในการระบายข้าวไม่เป็นไปตามแผนจนปริมาณข้าวที่เหลืออยู่ในสต๊อกมากเป็นประวัติการณ์ ส่งผลกระทบไปถึงการขาดเงินหมุนเวียนที่จะใช้ในการจำนำข้าวต่อ
เกิดการประท้วงของชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าวตามใบประทวนทั่วทั้งประเทศ อย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของการบริหารนโยบายของรัฐ จนกล่าวได้ว่าโครงการรับจำนำข้าวได้เดินทางมาถึงจุดจบแล้ว แม้คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนคดีทุจริตโครงการจำนำข้าว ถึงผลการระบายข้าวรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยเบื้องต้นพบว่า ไม่ได้มีการระบายข้าวแบบจีทูจี จริง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนนักการเมือง ข้าราชการ และเอกชน จำนวน 15 ราย แต่รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับดื้อดึงไม่แสดงความรับผิดชอบต่อความล้มเหลวของโครงการ
องค์กรเกษตรกร 20 จังหวัดภาคอีสาน จึงได้ประชุมหารือร่วมกันมาอย่างเป็นระยะ เห็นว่า การให้ข้อมูลที่เป็นเท็จต่อประชาชนทั้งประเทศอย่างไร้ความรับผิดชอบ ของนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะรัฐบาล จึงถือเป็นการดูถูก เหยียดหยาม สติปัญญาของประชาชนไทยทั้ง 67 ล้านคน กดขี่เอารัดเอาเปรียบเกษตรกร จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบโดย มี 2 ข้อหลักคือ ให้รัฐบาล จ่ายเงินจำนำข้าวแก่เกษตรกรทันที และให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกทันที และยุติบทบาททางการเมืองตลอดชีวิต เช่นเดียวกับ ครม.ทั้งชุด โดยเกษตรกร 20 จังหวัดภาคอีสานจะจารึกชื่อคณะรัฐมนตรีชุดนี้ไว้ในบัญชีเฉพาะ ให้ถือเป็นรัฐบาลตระบัตรสัตย์ต่อชาวนาไทย และจะยกระดับการชุมนุมต่อต้านอย่างเข้มข้น
นายนคร ศรีวิพัฒน์ ตัวแทนสมัชชาเกษตรรายย่อย เปิดเผยว่า แกนนำทุกองค์กรภาคอีสาน ทั้งองค์กรฟื้นฟูเกษตรกรภาคอีสาน สมัชชาเกษตรกรรายย่อย สภาเกษตรกรภาคอีสาน และเครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคอีสาน ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง หน้าสวนชาติชาย เพื่อทวงถามเงินจำนำข้าวจากรัฐบาล เนื่องจากขณะนี้ชาวนาอีสานเดือดร้อนอย่างหนัก ทั่วทุกภาค ถ้ารัฐบาลไม่แก้ปัญหาจ่ายเงิน ก็จะรวมตัวกันหลายพันคน เพื่อยกระดับการชุมนุม ในวันจันทร์ที่ 27 ม.ค. ที่บริเวณริมอ่างลำตะคอง บริเวณหน้าสวนชาติชาย และถึงขั้นปิดถนนมิตรภาพทั้งสองฝั่งทันที
นายคงฤทธิ์ บัวบุญ หนึ่งในแกนนำเครือข่ายชาวนาภาคอีสาน และเป็นประธานสภาเกษตรกรจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า หลังจากตัวแทนชาวนาภาคอีสาน 20 จังหวัด ได้มีการรวมตัวกัน และยื่นหนังสือข้อเรียกร้องเพื่อให้รัฐบาลจ่ายเงินค่าข้าวเปลือกตามโครงการรับจำนำข้าว ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยยื่นข้อเสนอ 3 ข้อให้รัฐบาลเร่งดำเนินการคือ ให้จ่ายเงินค่าจำนำข้าต่อเกษตรกรภายใน 7 วัน ข้อสองให้รัฐบาลจ่ายดอกเบี้ยตั้งแต่วันออกใบประทวนแก่เกษตรกร และข้อสุดท้ายหากรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้อง ทั้งสองข้อ เกษตรกรเครือข่าย 20 จังหวัดจะดำเนินการร่วมกับพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศยกระดับการเรียกร้อง
นายคงฤทธิ์ กล่าวว่า จนถึงวันนี้ยังไม่มีเสียงตอบรับหรือการสื่อสารจากรัฐบาลว่าจะมีการเร่งแก้ปัญหาให้กับชาวนาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งเรื่องกำหนดเวลาได้เงิน รวมทั้งเรื่องของดอกเบี้ยที่จะต้องรับชำระและจ่ายให้กับผู้ที่เข้าร่วมโครงการ ที่ผ่านมาจะอ้างว่าไม่มีเงิน หรือแม้แต่โยนความผิดให้กับ กกต. ว่าไม่ให้กู้เงินรวมทั้งโยนความผิดให้กับการชุมนุม ของ กปปส. มันเป็นเรื่องหลอกเด็ก ที่ผ่านมาแก้ปัญหาไม่ได้ หรือแม้แต่ ให้ธ.ก.ส.ปล่อยกู้ไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ของใบประทวน แต่เก็บดอกเบี้ย 7 เปอร์เซ็นต์ ทุกคนต่างก็อยากได้เงินแต่เห็นว่าถูกเอารัดเอาเปรียบทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของชาวนา ทำไมต้องมาแบกรับดอกเบี้ยเหล่านี้ ทำให้มีคนมาใช้บริการแค่ 9 ราย ประมาณ 3 แสนบาทเท่านั้น และแม้ว่าจะมีการขยายวงเงินเพิ่มเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ก็ยังมีเงื่อนไขที่เป็นภาระของชาวนาอยู่ดี
นายคงฤทธิ์ กล่าวว่า แม้ว่าการปิดถนนมิตรภาพอาจจะยังไม่ได้เงินทันที แต่ก็คงไม่สามารถหยุดยั้งชาวนาจำนวนมากได้ เพราะเดือดร้อนกันจริงๆ เฉพาะจังหวัดมหาสารคาม ตอนนี้มีผู้ถือใบประทวนรอเงินจากการจำนำข้าว กว่า 1,860 ล้านบาท ที่ ทำให้มีคนมาใช้บริการแค่ 9 ราย ประมาณ 3 แสนบาทเท่านั้น จึงจำเป็นต้องมีการรวมตัวเพื่อกดดันให้รัฐบาลได้เร่งแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
นายประจักษ์ ภูแลขำ แกนนำชาวนาจังหวัดกาฬสินธุ์ บอกว่า ได้มีการประสานงานกับเครือข่ายจังหวัดอื่นๆ เพื่อที่จะติดตามทวงถามเงินจำนำข้าวอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะร่วมชุมนุมตามมติของเครือข่ายภาคอีสาน รวมทั้งการร่วมชุมนุมใหญ่ที่ลำตะคองด้วย เพื่อแสดงพลังชาวนาอีสาน ซึ่งฐานเสียงสำคัญของรัฐบาล กำลังได้รับเดือดร้อนอย่างหนัก