จากปัญหาการค้างจ่ายเงินจำนำข้าวให้ชาวนา และมีการโยนปัญหาไปมาระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2556 นายประสิทธิ์ พาโฮม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (สร.ธ.ก.ส.) ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ตอบโต้นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในเรื่องดังกล่าว
นายประสิทธิ์ระบุว่า พนักงาน ธ.ก.ส. ที่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่สาขากว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ รู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับการให้ข่าวของนายยรรยง เพราะจะทำให้เกษตรกรเข้าใจผิดว่า ธ.ก.ส.ไม่ยอมจ่ายเงินตามใบประทวนที่ได้รับจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) ซึ่งจริงๆ แล้ว ธ.ก.ส.มีหน้าที่เพียงการเป็นเคาน์เตอร์จ่ายเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่รัฐบาลเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่รับข้าวเข้าโครงการ หรือระบายข้าวออกไป และตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดให้ใช้เงินในโครงการได้ 5 แสนล้านบาท แต่ที่ผ่านมาได้ใช้ไปถึง 6.8 แสนล้านบาท ทำให้กรอบวงเงินที่ใช้ในปีการผลิต 2556/57 ต้องมาจากการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์
ปัจจุบันมีเกษตรกรที่เข้าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี การผลิต 2556/57 และนำใบประทวนมาขึ้นเงินกับ ธ.ก.ส.แล้วประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยธ.ก.ส.ได้จ่ายเงินให้เกษตรกรไปแล้ว 1.5 หมื่นล้านบาท ยังเหลือเงินเพียง 1.2 หมื่นล้านบาท ที่จะต้องจ่ายให้เกษตรกรไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยธนาคารได้กระจายเงินไปให้แต่ละสาขาทั่วประเทศ เฉลี่ยสาขาละ 1 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้บางสาขาไม่สามารถจ่ายเงินได้ เพราะจำนวนเงินไม่เพียงพอกับยอดเงินในใบประทวนของเกษตรกร ดังนั้นจึงมีบางรายที่ไม่สามารถได้รับเงินได้เป็นเวลา 3 เดือน หลังจากนำใบประทวนมาขึ้นเงินกับธ.ก.ส.
“ตัวเลขต่างๆ ที่คุณยรรยงพูดถึงนั้น เป็นการพูดถึงตัวเลขในอนาคตที่ไม่ได้นำเงินส่งมาจริง เพราะตัวเลขจริงที่เหลือในมือขณะนี้มีเพียง 1.2 หมื่นล้านบาทเท่านั้น จึงต้องการให้รัฐบาลเร่งมาแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพราะขณะนี้ผลกระทบเกิดขึ้นกับพนักงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จากความไม่เข้าใจของการให้ข่าวจากฝ่ายรัฐบาล และอาจจะเกิดเหตุการณ์ปิดล้อมสาขาจนไม่สามารถทำงานได้ และกระทบต่อการให้บริการทางการเงินด้านอื่นๆ ด้วย" นายประสิทธิ์กล่าวและว่า นอกจากเงินที่ยังค้างอยู่กว่า 1 แสนล้านบาทแล้ว ยังคาดว่าจะมีข้าวที่จะเข้าโครงการมาอีกประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ด้าน นายพรม มาบุญช่วย ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวนาจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนจากการขายข้าวให้โครงการรับจำนำแต่ใบประทวนไม่สามารถจะนำไปเบิกเงินกับ ธ.ก.ส.ได้ ซึ่งขณะนี้ชาวนาอยู่ระหว่างรอการแก้ปัญหาของภาครัฐว่าจะจ่ายเงินหรือไม่ในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ หากยังไม่มีความคืบหน้า ชาวนาจะมีการเคลื่อนไหวแน่นอน เบื้องต้นชาวนาในจังหวัดภาคกลางกำลังหารือกันว่าจะรวมตัวเพื่อเรียกร้องตามธ.ก.ส.แต่ละสาขาเพื่อให้จ่ายเงินก่อนได้หรือไม่
เครดิต
http://www.komchadluek.net/detail/20131219/175157.html
ธ.ก.ส.อัดพาณิชย์โบ้ยเงินจำนำข้าว ห่วงสร้างความเข้าใจผิด-ชาวนาขีดเส้นเล็งบุกกดดัน
นายประสิทธิ์ระบุว่า พนักงาน ธ.ก.ส. ที่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่สาขากว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ รู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับการให้ข่าวของนายยรรยง เพราะจะทำให้เกษตรกรเข้าใจผิดว่า ธ.ก.ส.ไม่ยอมจ่ายเงินตามใบประทวนที่ได้รับจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) ซึ่งจริงๆ แล้ว ธ.ก.ส.มีหน้าที่เพียงการเป็นเคาน์เตอร์จ่ายเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่รัฐบาลเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่รับข้าวเข้าโครงการ หรือระบายข้าวออกไป และตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดให้ใช้เงินในโครงการได้ 5 แสนล้านบาท แต่ที่ผ่านมาได้ใช้ไปถึง 6.8 แสนล้านบาท ทำให้กรอบวงเงินที่ใช้ในปีการผลิต 2556/57 ต้องมาจากการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์
ปัจจุบันมีเกษตรกรที่เข้าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี การผลิต 2556/57 และนำใบประทวนมาขึ้นเงินกับ ธ.ก.ส.แล้วประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยธ.ก.ส.ได้จ่ายเงินให้เกษตรกรไปแล้ว 1.5 หมื่นล้านบาท ยังเหลือเงินเพียง 1.2 หมื่นล้านบาท ที่จะต้องจ่ายให้เกษตรกรไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยธนาคารได้กระจายเงินไปให้แต่ละสาขาทั่วประเทศ เฉลี่ยสาขาละ 1 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้บางสาขาไม่สามารถจ่ายเงินได้ เพราะจำนวนเงินไม่เพียงพอกับยอดเงินในใบประทวนของเกษตรกร ดังนั้นจึงมีบางรายที่ไม่สามารถได้รับเงินได้เป็นเวลา 3 เดือน หลังจากนำใบประทวนมาขึ้นเงินกับธ.ก.ส.
“ตัวเลขต่างๆ ที่คุณยรรยงพูดถึงนั้น เป็นการพูดถึงตัวเลขในอนาคตที่ไม่ได้นำเงินส่งมาจริง เพราะตัวเลขจริงที่เหลือในมือขณะนี้มีเพียง 1.2 หมื่นล้านบาทเท่านั้น จึงต้องการให้รัฐบาลเร่งมาแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพราะขณะนี้ผลกระทบเกิดขึ้นกับพนักงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จากความไม่เข้าใจของการให้ข่าวจากฝ่ายรัฐบาล และอาจจะเกิดเหตุการณ์ปิดล้อมสาขาจนไม่สามารถทำงานได้ และกระทบต่อการให้บริการทางการเงินด้านอื่นๆ ด้วย" นายประสิทธิ์กล่าวและว่า นอกจากเงินที่ยังค้างอยู่กว่า 1 แสนล้านบาทแล้ว ยังคาดว่าจะมีข้าวที่จะเข้าโครงการมาอีกประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ด้าน นายพรม มาบุญช่วย ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวนาจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนจากการขายข้าวให้โครงการรับจำนำแต่ใบประทวนไม่สามารถจะนำไปเบิกเงินกับ ธ.ก.ส.ได้ ซึ่งขณะนี้ชาวนาอยู่ระหว่างรอการแก้ปัญหาของภาครัฐว่าจะจ่ายเงินหรือไม่ในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ หากยังไม่มีความคืบหน้า ชาวนาจะมีการเคลื่อนไหวแน่นอน เบื้องต้นชาวนาในจังหวัดภาคกลางกำลังหารือกันว่าจะรวมตัวเพื่อเรียกร้องตามธ.ก.ส.แต่ละสาขาเพื่อให้จ่ายเงินก่อนได้หรือไม่
เครดิต http://www.komchadluek.net/detail/20131219/175157.html