[My First Japan Trip] สิ่งที่ชอบและไม่ชอบในญี่ปุ่น

เพิ่งกลับจากเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกค่ะ ไปมาสองอาทิตย์ ตอนที่อยู่ญี่ปุ่น เจออะไรก็เขียนสเตตัสลงเฟซบุ๊กให้ครอบครัวกับเพื่อน ๆ อ่าน คนที่อ่านบอกว่าสนุกดีเลยชักได้ใจ อยากเอามาแชร์ให้คนอื่นอ่านบ้าง

ก็ไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่นะคะ เพ้อเจ้อบ้างอะไรบ้าง อินเนอร์ล้วน ๆ ของคนบ้าญี่ปุ่นค่ะ ถือว่าอ่านสนุก ๆ ละกันนะคะ
ขอให้ทุกท่านสนุกสนานกับการไปเที่ยวญี่ปุ่นค่ะ

สิ่งที่ชอบในญี่ปุ่น 1: Kawaguchiko Station Inn
รู้จักโรงแรมนี้จากรีวิว สนใจเพราะเป็นห้องญี่ปุ่น ราคาไม่แพง ทำเลเป็นเลิศ รวมทั้งเห็นอ่างออนเซ็นวิวภูเขาไฟฟูจิแล้วก็อยากมาพักให้ได้ ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเลย ประทับใจมาก
คุณลุงเจ้าของหน้าดุแต่น่ารักมาก ภาษาอังกฤษดี อธิบายได้ชัดเจน สอนกินสาหร่ายแห้งกับข้าวด้วย ตอนจะกลับยังให้โปสการ์ดมาคนละใบอีกต่างหาก
โรงแรมนี้เหมือนเป็นกิจการครอบครัว ช่วยกันทำตั้งแต่คุณพ่อคุณลุง คุณลุง ลูกชาย และหลานชาย
หลานชายคุณลุงน่ารักมาก อายุน่าจะประมาณสองสามขวบ ชื่อโซทาโร่ หรือ โซจัง พอถามชื่อจากพ่อเค้าก็เลยไปคุยด้วย
นุ่น: โซจัง ฮาจิเมะมัตชิเตะ นุ่นเดส
โซจัง: (ไม่ตอบ ยื่นกุญแจให้ ทำหน้างง ๆ)
น่าร้ากกกก~ >___<
คงเห็นปู่กับพ่อทำจนชิน ถ้าโตขึ้นจะเป็นยังไงน้า~
อายุสักแปดขวบอาจต้องเขียนเรียงความ "ผมชื่อโซทาโร่ บ้านของผมเป็นโรงแรม มีแขกมาพักมากมาย คนที่มาพักชอบโรงแรมของผมมาก เพราะคุณปู่กับคุณพ่อต้อนรับแขกที่มาพักเป็นอย่างดี"
แต่ถ้าน้องโตขึ้น ความคิดก็อาจจะเปลี่ยนไป "ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ผมไม่อยากรับช่วงโรงแรม ผมจะไปตามหาความฝัน ผมจะไปโตเกียว!"
ฮา ~
อีกสักสิบปีข้างหน้าจะไปหานะ โซจัง ^O^
Recommended Hotel in Kawaguchiko, who goes there, please say hi to So-chan for me!


สิ่งที่ชอบในญี่ปุ่น 2: ออนเซ็น
ตั้งใจมานานแล้วว่าจะต้องไปลองแช่น้ำร้อนแบบญี่ปุ่นดูสักครั้งให้ได้ เรื่องที่คนอื่นเค้ากลัว ๆ กัน เช่น อายที่จะต้องแช่กับคนอื่น ไม่ชอบที่ต้องเปลือยหมด ฯลฯ ไม่เคยมีอยู่ในหัวเลย
พอได้ไปลองดูจริง ๆ แล้วต้องบอกเลยว่าชอบมาก เป็นประสบการณ์ที่ดีจริง ๆ ได้ลองทำแบบที่คนญี่ปุ่นเค้าทำกัน
ขั้นตอนของการแช่ออนเซ็น
1. ถอดเสื้อผ้าที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เปลือยหมดทั้งตัวเลย เอาเสื้อผ้าเก็บไว้ในตะกร้า วางเอาไว้บนชั้น
2. เข้าไปในห้องน้ำ ข้างในจะมีฝักบัวให้เป็นจุด ๆ พร้อมสบู่และแชมพูสระผม ให้นั่งอาบน้ำขัดสีฉวีวรรณตรงนี้ก่อนจนตัวสะอาด ระวังอย่าให้น้ำกระเด็นโดนคนข้าง ๆ ใครผมยาว มัดผมหรือหนีบเก็บผมให้เรียบร้อย
3. ค่อย ๆ ก้าวลงอ่างน้ำร้อน ค่อย ๆ จุ่มตัวลงไปช้า ๆ จนถึงคอ บางที่มีผ้าผืนเล็ก ๆ ให้ เอาจุ่มน้ำ แล้วโปะไว้บนหัวก็ได้
4. อย่าแช่นาน จะเป็นลม ให้ขึ้นมาอาบน้ำเย็นบ้าง แล้วค่อยกลับลงไปแช่น้ำร้อนใหม่
หลังจากเดินเหนื่อย ๆ หนาว ๆ มาทั้งวัน การได้แช่น้ำร้อนมันช่างมีความสุข
Aaa, kimochi~
ครั้งแรกแช่ที่ Kawaguchiko Station Inn ครั้งที่สองที่ BB Pension สองครั้งนี่ต่างกัน ที่แรกเป็นโรงแรมเล็ก ๆ ไม่ค่อยมีคน คนไทยไปพักกันเยอะ พอเห็นมีคนอยู่ก็จะไม่เข้ามา แต่กระนั้นก็ยังได้แช่ร่วมกับโอบะซังคนนึง คุณป้าบอกว่า เวลารู้สึกสบาย ให้พูดว่า คิมูจี๊
ส่วนที่บีบีเพนชั่นนั้นบรรยากาศวุ่นวายมีชีวิตชีวากว่ามาก ประหนึ่งห้องอาบน้ำสาธารณะประจำเมืองที่เคยอ่านในการ์ตูน บรรดาโอบ้าซังเดินกันพรึ่บพรั่บ ต้องแช่ร่วมกับคนเยอะ ๆ ก็สนุกไปอีกแบบ
และจากการแช่ออนเซ็นนั้น ทำให้รู้ว่า คนปกติเค้าก็หุ่นไม่ดีหรอก พุงพลุ้ย ขาใหญ่ ต้นขามีแต่เซลลูไลท์ ผู้หญิงที่หุ่นเป๊ะไม่มีไขมันส่วนเกินนั่นต่างหากเป็นพวกผิดปกติ!
สรุป อย่าได้แคร์ แม้พุงจะห้อย ขาจะใหญ่ เราเป็นคนส่วนใหญ่ในสังคม!


สิ่งที่ชอบในญี่ปุ่น 3: รถไฟ นายสถานี พนักงานตรวจตั๋ว พนักงานรับฝากกระเป๋า
วันนี้เป็นวันแห่งการเดินทางด้วยรถไฟ ข้ามฟากจากฮาโกเน่มาคานาซาว่าซึ่งอยู่คนละฝั่งประเทศ ต้องเปลี่ยนรถไฟหลายขบวน เริ่มจากรถไฟท้องถิ่นจากสถานีฮาโกเน่ยูโมโตะ ไปที่โอดาวาระ แล้วเปลี่ยนไปเป็นรถด่วนปลายทางชินจูกุ จากนั้นนั่งรถไฟเจอาร์มาลงที่โอมิยะ เปลี่ยนเป็นชินคันเซ็นไปลงที่นางาโอกะ แล้วเปลี่ยนเป็นรถด่วนพิเศษไปถึงคานาซาว่า
ถ้าเปรียบรถไฟไทยที่เก่า เหม็น สกปรก เสียงดัง และมีกระจั๊วเป็นเพื่อนเดินทางเหมือนกับนรกแล้ว รถไฟญี่ปุ่นก็เหมือนกับสรวงสวรรค์เลยทีเดียว แม้ว่าจะเป็นสวรรค์ที่ค่อนข้างน่าเวียนหัวอยู่สักหน่อยเพราะมีหลายเส้นหลายสายหลายบริษัทเหลือเกิน แต่ถ้าใจเย็น ๆ ตั้งสติ และศึกษาดี ๆ การเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องยากเลยและยังสะดวกสบายมากด้วย ขอเพียงรู้ชื่อสายที่จะขึ้น สถานีถัดไปชื่ออะไรหรือรู้ชื่อสถานีปลายสายก็ได้ แล้วก็มองหาป้ายว่ามันอยู่ Track ที่เท่าไหร่ เราก็มุ่งไปทางนั้นเลย ป้ายเขียนชัดเจนทั้งภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ ตั้งแต่มาถึงยังไม่เคยหลงหรือขึ้นผิดขบวนเลย แม้ว่าจะเป็นที่ชินจูกุที่โคตรแห่งความวุ่นวายก็ตาม แสดงว่าของเขาดีจริงและง่ายจริง คอนเฟิร์ม!
แต่ถ้าหากงงจริง ๆ หรือไม่ต้องการเสียเวลาเดินหาก็ถามนายสถานีเลย ทุกคนยินดีช่วยเหลือมาก ๆ แม้ว่าแต่ละคนจะพูดภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่นแค่ไหนก็ตาม บางคนพูดไม่ได้ก็พาเดินไปชี้ให้ดูเลย อย่างนายสถานีประจำสายโอดะคิวที่ชินจูกุ เราหาช่องทางออกสำหรับตั๋วฟูจิฮาโกเน่พาสไม่เจอ เห็นแต่ช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติเลยไปถามคุณลุง คุณลุงนายสถานีพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ยินดีเดินนำไปส่งจนถึงที่
พนักงานตรวจตั๋วกับพนักงานประจำขบวนก็น่าทึ่งมาก เวลาเดินทะลุผ่านโบกี้รถไฟก่อนจะเปิดประตูออกไปก็หันมาโค้งงาม ๆ ให้ผู้โดยสารในโบกี้นั้นก่อน ส่วนพนักงานตรวจตั๋วพอก้าวเท้าเข้ามาในโบกี้ก็ประกาศก่อนเลยว่าจะตรวจตั๋วละน้า~ (ตอนพูดฟังไม่ออก แต่เดาว่าน่าจะประมาณนี้) แล้วก็ตรวจไปทีละคน ตรวจเสร็จโค้งทีนึงและพูดว่าอาริกาโต้โกไซมัสให้ผู้โดยสารทุกคน *O*
สมกับเป็นประเทศที่มารยาทสูงส่งจริง ๆ!
ไม่ใช่แต่รถไฟธรรมดาที่พนักงานน่ารัก นายสถานีรถไฟใต้ดินก็น่ารักเหมือนกัน สอนวิธีการสอดตั๋วเข้าไปในเครื่องตรวจตั๋วอัตโนมัติ สอนการใช้บัตร Suica แตะบัตรที่ไหนยังไง พอทำได้ก็ชมว่า "Good job!"
จะน่ารักไปไหนค้า~ >___<
พอได้มาสัมผัสรถไฟญี่ปุ่นแล้วก็อยากให้รถไฟไทยเป็นยังงี้มั่งจัง
P.S. แถมพิเศษ
พนักงานรับฝากกระเป๋าที่สถานีฮาโกเน่ยูโมโตะหล่อมาก ผิวขาว ตาตี่ ปากแดง เป็นหนุ่มน้อยที่หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักน่ากินมาก ๆ ถ้าผู้ใดสนใจ น้องเขาอยู่กะเช้า ไปถึงสักราว ๆ สิบเอ็ดโมงน่าจะได้เจอ และถ้าอยากคุยด้วย ต้องเสียเงินค่าฝากกระเป๋าก่อน ใบเล็ก 350 เยน ใบใหญ่ 500
เยน แล้วน้องเค้าจะคุยด้วย แถมถามชื่อและเบอร์โทรของเราด้วยล่ะ! \^O^/


สิ่งที่ชอบในญี่ปุ่น 4: ห้องอาบน้ำสาธารณะ
นอนเกสต์เฮาส์ ห้องน้ำเล็ก ๆ มีอยู่ห้องเดียว อาบน้ำไม่มันส์เลย กลัวคนอื่นต้องรอและไม่อยากรอคนอื่น ทำไงดีน้า~
ไปห้องอาบน้ำสาธารณะโลดค่า!
ห้องอาบน้ำสาธารณะก็คล้ายออนเซ็นน่ะแหละ
ในห้องอาบน้ำสาธารณะมีฝักบัวให้อาบ มีอ่างน้ำร้อนให้แช่ แต่แค่น้ำร้อนธรรมดา ไม่มีผสมน้ำแร่ให้ผิวพรรณนุ่มลื่นน่าสัมผัสเหมือนออนเซ็นดี ๆ ในโรงแรมนะ ไม่หรูด้วย อันนี้บ้าน ๆ เลย
ใช้บริการนี้ตอนอยู่ที่คานาซาว่า ไปกับนานะซังที่รู้จักกันที่เกสต์เฮาส์ ซึ่งพอมีคนญี่ปุ่นไปเป็นเพื่อนด้วยทำให้รู้สึกอุ่นใจว่า เราจะไม่ไปปล่อยไก่เอาที่ร้าน
เข้าไปข้างในเราจะเจอห้องโถงเป็นเหมือนห้องรับแขกอยู่ด้านหน้า มีล็อกเกอร์เก็บรองเท้า มีโซฟาให้นั่งรอ ทีวี และตู้กดเครื่องดื่ม ข้างในแบ่งเป็นสองฝั่งชายหญิง เปิดประตูเข้าไปปุ๊บจะเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย และมีเคาน์เตอร์เก็บตังค์ เสียค่าบริการไป 420 เยน
ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าจะมีล็อกเกอร์เก็บของ มีตะกร้าใส่เสื้อผ้า เครื่องชั่งน้ำหนัก ไดร์เป่าผมหยอดเหรียญ
ขั้นตอนก็เหมือนเเช่ออนเซ็น เปลือยให้หมด เก็บเสื้อผ้าใส่ในตะกร้า แล้วเข้าไปอาบน้ำล้างตัวก่อน ที่ร้านจะไม่มีสบู่ยาสระผมอะไรไว้ให้ ต้องเอาไปเอง เอาผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก ๆ เข้าไปได้ เอาไว้โพกหัวเก็บผมเวลาลงแช่น้ำร้อน อาบน้ำเสร็จก็ลงแช่น้ำร้อนเลย
ความสนุกอยู่ที่มันเป็นร้านบ้าน ๆ เลย คนท้องถิ่นมาใช้บริการกันเพียบ บรรดาโอบะซังโอบ้าซังเดินกันให้ว่อน คุยกันโขมงโฉงเฉง บรรยากาศคึกคักสุด ๆ เราเองก็พบว่าอาบน้ำไปด้วยเม้าธ์ไปด้วยนี่มันสนุกเหลือหลาย คุยไปแช่น้ำร้อนไป เพลิน ๆ จนตัวแดงเป็นกุ้งต้มเลย
อา คิมูจิ๊~

สิ่งที่ชอบในญี่ปุ่น 5: Guest House Pongyi Kanazawa
เป็นเกสต์เฮาส์เล็ก ๆ ทาสีแดงเข้ม อยู่ริมคลองเล็ก ๆ ห่างจากสถานีเจอาร์คานาซาว่าประมาณ 5 นาที
รู้จักจากรีวิวเช่นเดิม รับจองล่วงหน้านานกว่าสามเดือนด้วย (เกสต์เฮาส์บางที่ไม่รับจองล่วงหน้านาน ๆ) อดีตเคยเป็นร้านกิโมโน ตัวบ้านเก่าเป็นแบบญี่ปุ่น ปูพื้นด้วยเสื่อตาตามิ ใช้ประตูบานเลื่อนกระดาษ อายุของบ้านเกินกว่าหนึ่งร้อยปีแล้ว คำขอร้องแรกเลยคือ ขอให้ระวัง อย่าลงไม้ลงมือกับบ้าน สถานที่ค่อนข้างแคบ แต่จัดได้ลงตัวเน้นประโยชน์ใช้สอยทุกตารางเซ็นติเมตรและน่ารักมากด้วย ชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่นสองห้องเล็ก ๆ มีครัว ห้องน้ำ ห้องนอนรวมผู้ชาย ชั้นสองเป็นห้องนอนรวมผู้หญิงและมีห้องส่วนตัวสำหรับพักประมาณสามคนด้วย
เจ้าของที่นี่ใจดีและเป็นคนสนุกสนานมาก ชื่อมาซากิซัง สตาฟที่คอยช่วยงานชื่อมารุซังก็เป็นคนที่สุดยอดเฟรนด์ลี่ ช่วยแนะนำและตอบคำถาม รวมทั้งช่วยเหลือสารพัดสิ่งตามที่ถูกขอร้อง
แขกที่มาพักที่นี่จะถูกแนะนำให้รู้จักกันหมด มีมาซากิซังเป็นหัวโจก ชวนคุยโน่นนี่ ตอนค่ำ ๆ ราว ๆ สามทุ่ม หลังเกสต์เฮาส์ปิดจะมีปาร์ตี้เล็ก ๆ เกือบทุกคืน คืนแรกเป็นปาร์ตี้น้ำชา แต่มัววุ่นกับเรื่องซักผ้าเลยไม่ได้ร่วมด้วย คืนที่สอง ปาร์ตี้โอริกามิ สอนพับนกกระดาษ ดูเหมือนจะเป็นประเพณีไปแล้ว ใครมาที่นี่จะต้องพับนก มาซากิซังจะเตรียมกระดาษลายน่ารัก ๆ ไว้ให้เลือก ก่อนพับให้เราเขียนคำอธิษฐานลงไปในกระดาษก่อน
ของนุ่น "Success in work and good health"
พับเสร็จก็เขียนชื่อกับประเทศไว้ที่ปีกนกเป็นอันเสร็จ หลังจากนั้นก็จะถ่ายรูปด้วยกัน
Say Pongyi! (ยิ้มหวาน ๆ)
Recommended Guesthouse. You will fall in love with Kanazawa and Pongyi!

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่