[SR] WorkShop "เรื่องเงิน...เราเอาอยู่" by K-Expert และ Pantip

ก็เพิ่งผ่านไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
กิจกรรมเวิร์คช็อป “เรื่องเงิน...เราเอาอยู่” by K-Expert & Pantip. com
ที่จัดกันที่สำนักงานของ K-bank สาขาพหลโยธิน

ก็มีสมาชิกชาวสินธร Pantip ที่ลงทะเบียนกันทันมานั่งกันซะแน่นห้อง
โดยมีผมเป็นหนึ่งในนั้น  ฟังดูน่าปลื้มปริ่มเสียนี่กะไร

พอถึงวันจริง...

ด้วยความที่เป็นตึกใหญ่ ไร้เงามนุษย์ในวันหยุด

"พี่ครับ.....ชั้น 8  ที่เค้าจัดงานไปทางไหนครับ"

แล้วพี่พี่ รปภ.ก็บุ้ยใบ้ไปที่ลิฟท์ขนของที่อยู่ข้างหลัง
แหม่ .. ผมคงดูดีมีสง่ามาดนักลงทุนมาก แต่ก็กดลิฟท์ขึ้นไปแต่โดยดี
คือมารู้ทีหลังว่าลิฟท์ตัวอื่นที่ดีๆมันก็มี แต่พี่แกไม่บอก!


พอมาถึงปั๊บเหมือนตัวเองเป็นวันเฉลิมตอนพ้นสภาพจากอ้อมอกของแม่ลำยอง
อุต๊ะ...สถานที่จัดงานดูดีมีสกุลเลยทีเดียว
มาลงทะเบียนกันก่อน แล้วรับขนมกล่องกินกันให้อิ่มหมี
สมกับที่แหวกตัวเองขึ้นลิฟท์ขนของมา



ว่าแต่...นี่นั่งกันกริบ ไม่มีงุ้งๆงิ้งๆแบบในกระทู้เลยแฮะ



นั่งอยู่ไม่นานเค้ามาตามเข้าห้อง Work Shop ครับ
กลับเข้าสู่สาระกันเสียที

วิทยากรที่มาบรรยายชี้ทางสว่างจาก K-Expert วันนี้
แกมีหน้าที่ชี้ทางสว่างทางการเงินในฐานะของ "นักวิเคราะห์" ซึ่งเค้ามีประจำสาขา
วิเคราะห์ในแง่นี้คือ การที่เราเอาความต้องการของตัวเอง
มาคุยกับเค้าว่าเราเป็นคนแบบนี้ มีความต้องการแบบนี้ มีโจทย์มาแบบนี้ เจอปัญหามาแบบนี้
มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบไหนที่เหมาะสมบ้าง
แต่ถ้าขนาดกู้ล้างหนี้ มีแบบดอกถูกมั้ย..อันนี้ก็ไม่ไหวนะ
(พอดีคุยกันนอกรอบ เลยได้ฟังเคสแปลกๆอยู่)



เพราะการ WorkShop  การอมรม เรื่องเงิน .. เราเอาอยู่ ครั้งนี้
คือการเรียนรู้ที่จะดึงลู่ทางทางการเงินของแต่ละคนออกมา
ก็จะเริ่มต้นกันที่คำถามว่า


คุณเป็นคนจำพวกไหน...
เงินออกมาใช้หมด ใช้หนี้บ้างใช้ส่วนตัวบ้าง หรือแบ่งออมและลงทุน

เพราะโลกนี้มีทั้งคนที่พอประคองตัวได้ แต่อยากมีทิศทางเป้าหมายชัดเจนต่อไป
กับคนที่ป้อแป้ หรือตุปัดตุเป๋ทางการเงิน อยากจะหลุดพ้นสภาพ อยากเดินตรงทางซักที

ช่วงเช้ากำลงแนะแนวสำหรับคนพวกแรก

- ตัวอย่างวิธีเรื่องการเก็บเงินในแบบต่างๆ โดยใช้โมเดลแม่นาก
- การออมเงิน ยิ่งออมก่อนยิ่งรวยกว่าในเวลาเท่ากัน เพราะดอกเบี้ยทบต้น
- การออมเงินถ้าเราต้องการเร่งผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ย
ต้องรู้จักวิธีการลงทุนแบบอื่น มากกว่าการออมทรัพย์
- ใครบอกว่าออมทรัพย์ไม่เสี่ยง .. ลองดู พรบ . เงินฝากก่อน
- เครื่องมือทางการเงิน อะไรคือ สินทรัพย์จริง และสินทรัพย์ทางการเงิน
- อัตราเงินเฟ้อ ตั้งแต่ปี 45-56
- รู้จักความเสี่ยงของตัวเองก่อนลงทุน ว่าเสี่ยงได้แค่ไหน
สำรวจว่าแบบไหนเหมาะกับเรา แล้วดูในกระเป๋ามีเงินเท่าไห
ซึ่งเค้าจะให้เราทำแบบแบบทดสอบฮะ
ว่าคุณสามารถรับระดับความเสี่ยงของตัวเองได้แค่ไหน ก่อนที่จะไปเรียนรู้การลงทุนแบบต่างๆ
- พันธบัตรกับหุ้นกู้ คืออะไร และผลตอบแทนคือแบบไหน
ลักษณะของหุ้นกู้ และสิทธิในการเรียกร้อง
- หุ้นสามัญ ออกโดยบริษัทเอกชน คืออะไร ผู้ลงทุนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการมั้ย
- เคยสงสัยมั้ย ดัชนีราคาหุ้นเค้าคำนวนจากไหน ยังไง
- คำอธิบายของการเป็นนักลงทุนในระต่าบๆ ระยะสั้น กลาง และยาว
- อะไรคือแนวรับ แนวต้านในภาษาหุ้น
- ความแตกต่างจะหว่างซื้อขายหุ้นด้วยตัวเอง และการลงทุน ผ่านกองทุนรวม
- รูปแบบการทุนของกองทุนรวม
- หัวใจของการซื้อขายกองทุนรวม
- อยากซื้อกองทุนต้องดูอะไรบ้าง
- ผลตอบแทนย้อนหลังสิบปี ของ หุ้น ทอง น้ำมัน โละหะเงิน เงินฝากพันธบัตร เงินฝาก
- การลงทุนกองทุนรวม อกับการดู fund fact sheet ก่อนลงทุน
- ปัยจัยที่ผลต่อราคาทอง ข้อต่างกันระหว่างกองทุนทอง กับทองแท่ง

นี่แค่ครึ่งเช้าครับ..จัดกันมาเต็มเหยียดเลย
วิทยากรสอนเข้าใจง่ายดี ไม่ตะบี้ตะบันใส่ศัพท์เทคนนิค
สำหรับคนที่มีพื้นฐานมาระดับนึงจะไปได้ไวหน่อย

หลังจากพักเบรคกันข้าวชั่วโมงนึง มาซัดกันต่อกัยช่วงบ่าย

ภาคบ่ายนี้เป็นเรื่องของคนที่มีอาการป้อแป้ทางการเงิน
จะพ่ายแพ้ หรือว่าแก้ไขได้ มันอยู่ที่วิธีคิดแล้วล่ะครับ
คนมีหนี้ และจัดการหนี้ไม่เป็นสมควรฟังมาก

- 10.4 เท่า คือภาระหนี้ เมื่อเทียบรายได้ต่อหัวของคนไทย  
จากสถิติการสำรวจรายได้ และค่าใช้จ่ายปี 54
- ภาระหนี้ของคนไทยเฉลี่ยต่อหัว 24,1000 บาท จากสถิติการสำรวจรายได้ และค่าใช้จ่ายปี 54
- สถิติการออมของคนไทยปี 55 ออมเงิน 72.16% โดยมากจะเป็นเงินฝากธนาคาร
- รายได้ของคุณเป็นแบบไหน active income =เงินจากการออกแรง หรือ passive income = รายได้จากเงินทำงา
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แต่ละแบบ มันมีการคิดแบบต่างกัน ลองดูตารางเปรียบเทียบ
- หนี้มี 2แบบ คือหนี้จำเป็น หรือเพื่อสร้างรายได้ กับ หนี้ที่ควรเลี่ยง เช่น บัตรเครดิต
-อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แต่ละแบบ มันมีการคิดแบบต่างกัน
- อัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสด บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล
- หน้าที่ของเครดิตบูโร กับการรวมประวัติการชำระสินเชื่อ หรือบัตรเครดิตจากสถาบันการเงิน
- การแก้ blacklist เครดิตบูโร
- การตรวจสอบเครดิตบูโร

แล้วตอนท้ายของงานนี่ เป้นเรื่องพิเศษสำหรับคนที่เข้ามา Work Shop จริงๆ เพราะที่อื่นเค้าไม่มีกัน
คือ คลีนิคการเงินแบบวิเคราะห์ส่วนบุคคล
การแนะแนวจะอธิบายในภาพกว้าง แต่ในทางลึกนี่ต้องปิดห้องคุยกันตัวต่อตัว

โดยต้องเตรียมข้อมูลมาประมาณนี้ครับ เค้าจะได้วิเคราะห์ถูก

1. เป้าหมาย (ระบุมูลค่าของเป้าหมายให้เป็นตัวเงิน ระยะเวลาที่ต้องการ เงื่อนไข)
2. รายได้ ทั้งหมด (รายได้ต่อเดือน โบนัส รายได้อื่น)
3. รายจ่ายประจำ(รายเดือน/รายปี) (รายจ่ายจำเป็น ไม่จำเป็น)
4. เงินออมในแต่ละเดือน (ช่องทางการออม ยอดรวมการออม ผลตอบแทนที่ได้)
5. เงินลงทุน เช่น เงินฝาก มูลค่าหุ้น (แยกตามรายสินทรัพย์ ระบุยอดเงินลงทุน ผลตอบแทน ระยะเวลาลงทุน เงื่อนไขการลงทุน)
6. หนี้สิน (ประเภทหนี้ ยอดหนี้สิน ภาระผ่อนชำระต่อเดือน อัตราดอกเบี้ย ยอดคงเหลือ ณ ปัจจุบัน)
7. ภาษี (รายการลดหย่อนที่มีอยู่ในปัจจุบัน ข้อมูลบุพการี เช่น อายุ รายได้ของบุพการี ประกันหรือการลงทุนที่มีในปัจจุบัน บุตร ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน)
8. ประกัน (ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ เบี้ยประกันที่จ่าย ทุนประกัน ระยะเวลาความคุ้มครอง)
9. การลงทุน (ให้ทำแบบประเมินความเสี่ยงจากการลงทุน ตามเอกสารแนบ 1 มาด้วย)


ในภาพรวมๆ ก็เป็น Work Shop ที่วิทยากรเก่ง ฟังง่าย สนุก ลุกนั่งสบาย คลี่คลายหายสงสัย
และไม่ตะยี้ตะบันขายของ  
ผมลองนับในใจดูว่าวิทยากรจะวก เข้าสู่การขายของเชิงลึกมั้ย
ซึ่งผมทำการบ้านมาหมดก่อนที่จะมานั่งฟังว่าที่นี่เค้ามีผลิตภัณฑ์ทางการเงินอะไรบ้าง
ปรากฎว่าไม่มีวกเลยแฮะ อย่างมากก็ชี้แบบผ่านๆ  
ซึ่งน่าจะเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของคนที่ละล้าละลังที่จะมาสมัครในครั้งนี้ว่า
Work Shop ของที่นี่จะไม่ถูกหว่านล้อมให้มานั่งฟังแบบสัมนาขายของหรือเปล่า

ใครพลาดรอบนี้ แล้วอยากให้จัดก็ไปสะกิด K-Expert กับ Pantip นะครับ ว่าจะจัดกันอีกมั้ย

ขอบคุณทีมงาน K-Expert และทีมงาน Pantip.com ที่เอื้อเฟื้อโอกาสครับ