รอยเล่ห์ลวงใจ
ดังปัณณ์:เขียน
บทนำ
วิวาห์...โศก
“คุณปรียาจะหย่ากับคุณณัยค่ะ...แล้วคุณปรียาจะไป...จากที่นี่”
เจ้าของคำพูดดูเหมือนจะถูกซ่อนอยู่ในเงามืด และแม้จะมองเห็นเธอเป็นเพียงแค่เงารางเลือน หากคนฟังกลับเจ็บลึกเข้าไปในหัวใจ มือหนากำกันแน่น เกร็งจนเห็นเส้นเอ็นปูดโปน คิ้วเข้มค่อนข้างยาวขมวดเข้าหากัน หากริมฝีปากบางหยักได้รูปสวยเม้มแน่น
“ถ้าทุกอย่างนี่ มันจะทำให้คุณณัยมีความสุข...และเลิกเกลียดคุณปรียาได้ คุณปรียาก็เต็มใจจะทำ คุณปรียาจะไม่เรียกร้องอะไรทั้งนั้น ขอแค่...อิสระภาพให้คุณปรียาก็พอ”
ดวงตาเรียวยาวสีน้ำตาลอ่อน เช่นเดียวกับสีผมของผู้ฟัง ฉายแววเจ็บปวดกับคำพูดที่ได้ยิน
“ทำไม” ดวงหน้าคมสันเงยขึ้นมอง เรือนร่างสูงใหญ่ขยับเข้าไปหา สองมือยื่นหาจะไขว่คว้าเธอไว้
“เผื่อคุณณัยจะได้มองคุณปรียาดีขึ้นมาหน่อยไงคะ”
เขานิ่งงันไปในทันที พูดไม่ออก รู้สึกแต่ว่าที่หัวใจมันจุก
“ลาก่อนค่ะ...จากกันตรงนี้จะดีที่สุด ให้...เรื่องทุกอย่างมันจบลงแค่นี้ พรุ่งนี้ที่ตื่นลืมตา คุณปรียาจะได้จำไว้แค่ว่า ที่ผ่านมามันเป็นเพียงแค่ความฝัน...ฝันดีที่สุดเท่าที่คุณปรียาเคยฝันมา”
เสียงพูดเจือสะอื้น สายหมอกบางเบาไม่รู้มาจากไหน เริ่มสำแดงตัวเด่นชัด กลบทุกสิ่งให้กลายเป็นสีขาว
“คุณปรียารักคุณณัย และไม่เคยคิดจะเกลียดคุณณัยเลย คุณณัยเป็นคนสำคัญคนสุดท้ายของคุณปรียา...ที่คุณปรียาไม่อยากเสียไป แต่ว่า...คุณปรียาก็ยังรักษาไว้ไม่ได้”
“เดี๋ยว...คุณปรียา”
เสียงห้าวนุ่มหูอ่อนระโหยในตอนนี้ ดวงตาสีอ่อนฉายแววหวั่นเกรง
“อย่าไป...”
“ต้องไปค่ะ...ต้องไป ถึงเวลา...ต้องไป”
“คุณปรียา!” มือหนายื่นออกไปไขว่คว้า หากสายหมอกสีขาวหนาตามากขึ้น และ...สิ่งที่คว้าจับได้มีเพียงแค่อากาศอันว่างเปล่า และเย็นเยียบ “คุณปรียา!!”
มีเพียงเสียงตะโกนของตนเองเท่านั้นที่ดังก้อง เรือนร่างสูงใหญ่ล่ำสัน หันซ้ายหันขวา...หากสิ่งที่พบคงมีเพียงสายหมอกสีขาวบางเบาที่ลอยอ้อยอิ่ง
“คุณปรียา...คุณณัยขอโทษ กลับมาเถอะที่รัก ได้โปรด...กลับมา”
ชายหนุ่มตะโกนก้องร่ำร้องหา เดินสะเปะสะปะไปในหนทางอันถูกปกคลุมด้วยสายหมอกสีขาว อย่างไร้ทิศทาง ดวงตาแดงก่ำ สองมือไขว่คว้าอย่างกับคนบ้า หาก...มีเพียงอากาศเท่านั้นที่สัมผัสได้
“คุณณัยรักคุณปรียา ได้โปรดที่รัก...คุณณัยขอโทษ ขอโอกาส...ขอโอกาสให้คุณณัยอีกสักครั้ง”
เขายังคงพร่ำเพรียกเรียกหาเธอ...เธอที่รักยิ่งดวงใจ ชายหนุ่มเหน็ดเหนื่อยกับการเดินอย่างไร้จุดหมายนั้น จนต้องทรุดลงกับพื้น ดวงตามองไปรอบๆตัว อย่างจะหวังให้เจ้าของชื่อปรากฏตัว
“คุณณัย...ลูกของเราไงคะ ลูกของเรา”
เสียงหวานดังขึ้นตรงโน้น ตรงนั้น จับจุดหมายไม่ได้ เสียงเด็กหัวเราะเอิ้กอ้ากผสมดังขึ้น เหมือนจะได้ยินอยู่ที่ข้างหู หากไม่ใช่ และสักพักก็เปลี่ยนไปเป็นเสียงหัวเราะของผู้หญิง ลมพัดมาวูบหาย สายหมอกเหมือนจะจางลง แล้วเสียงที่ได้ยินกลายเป็นเสียงร่ำไห้
“โธ่! คุณปรียา เคราะห์กรรมอะไรหนักหนา ทูนหัว!!”
ตรงหน้าปรากฏภาพหญิงสูงวัย สวมเสื้อสีขาว ดวงหน้าเหี่ยวย่น นั่งอยู่ที่พื้น กุมกรอบรูปไว้แนบอก
“ทูนหัวของน้อม ทำไมอายุสั้นอย่างนี้!”
ร่างสูงค่อยโงนเงน หัวใจเจ็บแปลบชาหนึบ ก่อนจะทรุดลงกับพื้น สายหมอกสีขาวโอบล้อม หนาทึบขึ้นเรื่อยๆ จนมองไม่เห็นอะไร เสียงต่างๆเงียบหาย เขาไม่ได้ยิน...แม้กระทั่งเสียงลมหายใจของตัวเอง!
“คุณปรียา!”
เสียงตะโกนลั่นดังคับห้องนอนกว้าง ซึ่งตอนนี้มืดสนิท เรือนร่างสูงใหญ่ผุดลุกขึ้นนั่ง พลางหอบหายใจ กลางที่นอนหลังใหญ่ หัวใจของเขาเต้นรัวแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก
“คุณปรียา”
เสียงห้าวนุ่มคร่ำครวญ ใบหน้าคมสันส่ายไปมา ในขณะที่สองมือยกขึ้นกุมขมับ ดวงตาแดงก่ำหากไม่มีน้ำตาสักหยด ต่อเมื่อนานต่อมา เขาถึงได้ถอนหายใจ มือใหญ่แข็งแรงเอื้อมไปเปิดสวิตช์ไฟที่หัวเตียง
แสงสว่างที่เกิดขึ้นขจัดความมือให้หายไป กรอบรูปบนโต๊ะข้างหัวเตียง ถูกหยิบขึ้นมา ริมฝีปากหยักสวยประทับจูบลงไปยังคนในภาพถ่าย น้ำตาหยดหนึ่งหยดต้องยังตำแหน่งดวงตาคู่สวย ของเธอ...อัลิปรียา
ผู้หญิงที่เขารัก...ภรรยาของเขา เจ้าของหัวใจทั้งดวงของเขา
“กลับมาได้มั้ย...ทำไม ทำไมคุณปรียาต้องทิ้งคุณณัยไว้คนเดียว ที่รัก...ได้โปรด คุณณัยขอโทษ”
เรียงหัวใจฝัน:รอยเล่ห์ลวงใจ บทนำ วิวาห์โศก
ดังปัณณ์:เขียน
บทนำ
วิวาห์...โศก
“คุณปรียาจะหย่ากับคุณณัยค่ะ...แล้วคุณปรียาจะไป...จากที่นี่”
เจ้าของคำพูดดูเหมือนจะถูกซ่อนอยู่ในเงามืด และแม้จะมองเห็นเธอเป็นเพียงแค่เงารางเลือน หากคนฟังกลับเจ็บลึกเข้าไปในหัวใจ มือหนากำกันแน่น เกร็งจนเห็นเส้นเอ็นปูดโปน คิ้วเข้มค่อนข้างยาวขมวดเข้าหากัน หากริมฝีปากบางหยักได้รูปสวยเม้มแน่น
“ถ้าทุกอย่างนี่ มันจะทำให้คุณณัยมีความสุข...และเลิกเกลียดคุณปรียาได้ คุณปรียาก็เต็มใจจะทำ คุณปรียาจะไม่เรียกร้องอะไรทั้งนั้น ขอแค่...อิสระภาพให้คุณปรียาก็พอ”
ดวงตาเรียวยาวสีน้ำตาลอ่อน เช่นเดียวกับสีผมของผู้ฟัง ฉายแววเจ็บปวดกับคำพูดที่ได้ยิน
“ทำไม” ดวงหน้าคมสันเงยขึ้นมอง เรือนร่างสูงใหญ่ขยับเข้าไปหา สองมือยื่นหาจะไขว่คว้าเธอไว้
“เผื่อคุณณัยจะได้มองคุณปรียาดีขึ้นมาหน่อยไงคะ”
เขานิ่งงันไปในทันที พูดไม่ออก รู้สึกแต่ว่าที่หัวใจมันจุก
“ลาก่อนค่ะ...จากกันตรงนี้จะดีที่สุด ให้...เรื่องทุกอย่างมันจบลงแค่นี้ พรุ่งนี้ที่ตื่นลืมตา คุณปรียาจะได้จำไว้แค่ว่า ที่ผ่านมามันเป็นเพียงแค่ความฝัน...ฝันดีที่สุดเท่าที่คุณปรียาเคยฝันมา”
เสียงพูดเจือสะอื้น สายหมอกบางเบาไม่รู้มาจากไหน เริ่มสำแดงตัวเด่นชัด กลบทุกสิ่งให้กลายเป็นสีขาว
“คุณปรียารักคุณณัย และไม่เคยคิดจะเกลียดคุณณัยเลย คุณณัยเป็นคนสำคัญคนสุดท้ายของคุณปรียา...ที่คุณปรียาไม่อยากเสียไป แต่ว่า...คุณปรียาก็ยังรักษาไว้ไม่ได้”
“เดี๋ยว...คุณปรียา”
เสียงห้าวนุ่มหูอ่อนระโหยในตอนนี้ ดวงตาสีอ่อนฉายแววหวั่นเกรง
“อย่าไป...”
“ต้องไปค่ะ...ต้องไป ถึงเวลา...ต้องไป”
“คุณปรียา!” มือหนายื่นออกไปไขว่คว้า หากสายหมอกสีขาวหนาตามากขึ้น และ...สิ่งที่คว้าจับได้มีเพียงแค่อากาศอันว่างเปล่า และเย็นเยียบ “คุณปรียา!!”
มีเพียงเสียงตะโกนของตนเองเท่านั้นที่ดังก้อง เรือนร่างสูงใหญ่ล่ำสัน หันซ้ายหันขวา...หากสิ่งที่พบคงมีเพียงสายหมอกสีขาวบางเบาที่ลอยอ้อยอิ่ง
“คุณปรียา...คุณณัยขอโทษ กลับมาเถอะที่รัก ได้โปรด...กลับมา”
ชายหนุ่มตะโกนก้องร่ำร้องหา เดินสะเปะสะปะไปในหนทางอันถูกปกคลุมด้วยสายหมอกสีขาว อย่างไร้ทิศทาง ดวงตาแดงก่ำ สองมือไขว่คว้าอย่างกับคนบ้า หาก...มีเพียงอากาศเท่านั้นที่สัมผัสได้
“คุณณัยรักคุณปรียา ได้โปรดที่รัก...คุณณัยขอโทษ ขอโอกาส...ขอโอกาสให้คุณณัยอีกสักครั้ง”
เขายังคงพร่ำเพรียกเรียกหาเธอ...เธอที่รักยิ่งดวงใจ ชายหนุ่มเหน็ดเหนื่อยกับการเดินอย่างไร้จุดหมายนั้น จนต้องทรุดลงกับพื้น ดวงตามองไปรอบๆตัว อย่างจะหวังให้เจ้าของชื่อปรากฏตัว
“คุณณัย...ลูกของเราไงคะ ลูกของเรา”
เสียงหวานดังขึ้นตรงโน้น ตรงนั้น จับจุดหมายไม่ได้ เสียงเด็กหัวเราะเอิ้กอ้ากผสมดังขึ้น เหมือนจะได้ยินอยู่ที่ข้างหู หากไม่ใช่ และสักพักก็เปลี่ยนไปเป็นเสียงหัวเราะของผู้หญิง ลมพัดมาวูบหาย สายหมอกเหมือนจะจางลง แล้วเสียงที่ได้ยินกลายเป็นเสียงร่ำไห้
“โธ่! คุณปรียา เคราะห์กรรมอะไรหนักหนา ทูนหัว!!”
ตรงหน้าปรากฏภาพหญิงสูงวัย สวมเสื้อสีขาว ดวงหน้าเหี่ยวย่น นั่งอยู่ที่พื้น กุมกรอบรูปไว้แนบอก
“ทูนหัวของน้อม ทำไมอายุสั้นอย่างนี้!”
ร่างสูงค่อยโงนเงน หัวใจเจ็บแปลบชาหนึบ ก่อนจะทรุดลงกับพื้น สายหมอกสีขาวโอบล้อม หนาทึบขึ้นเรื่อยๆ จนมองไม่เห็นอะไร เสียงต่างๆเงียบหาย เขาไม่ได้ยิน...แม้กระทั่งเสียงลมหายใจของตัวเอง!
“คุณปรียา!”
เสียงตะโกนลั่นดังคับห้องนอนกว้าง ซึ่งตอนนี้มืดสนิท เรือนร่างสูงใหญ่ผุดลุกขึ้นนั่ง พลางหอบหายใจ กลางที่นอนหลังใหญ่ หัวใจของเขาเต้นรัวแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก
“คุณปรียา”
เสียงห้าวนุ่มคร่ำครวญ ใบหน้าคมสันส่ายไปมา ในขณะที่สองมือยกขึ้นกุมขมับ ดวงตาแดงก่ำหากไม่มีน้ำตาสักหยด ต่อเมื่อนานต่อมา เขาถึงได้ถอนหายใจ มือใหญ่แข็งแรงเอื้อมไปเปิดสวิตช์ไฟที่หัวเตียง
แสงสว่างที่เกิดขึ้นขจัดความมือให้หายไป กรอบรูปบนโต๊ะข้างหัวเตียง ถูกหยิบขึ้นมา ริมฝีปากหยักสวยประทับจูบลงไปยังคนในภาพถ่าย น้ำตาหยดหนึ่งหยดต้องยังตำแหน่งดวงตาคู่สวย ของเธอ...อัลิปรียา
ผู้หญิงที่เขารัก...ภรรยาของเขา เจ้าของหัวใจทั้งดวงของเขา
“กลับมาได้มั้ย...ทำไม ทำไมคุณปรียาต้องทิ้งคุณณัยไว้คนเดียว ที่รัก...ได้โปรด คุณณัยขอโทษ”