[CR] ตะลอนเที่ยวเกาะเชจู

กระทู้รีวิว

สวัสดีครับ หลังจากรีวิวแรกตลาดย้อนยุคนครชุม http://pantip.com/topic/30944386
ซึ่งเป็นครั้งแรกที่โพสใน Pantip ซึ่งคุณแฟนดีใจมากที่มีคนกดไลท์ และแชร์ ในเฟสบุ๊ค ต้องขอบคุณทุกท่านมากๆด้วยครับ
(บางท่านอาจสงสัยว่าทำไมครั้งก่อนใช้คำว่าค่ะ แต่ตอนนี้ครับ ก็เพราะว่าเราใช้ user เดียวกันครับ )
เนื่องจากเมื่อปีที่แล้วแฟนอยากไปเที่ยวเกาหลีมาก จึงได้จองไปกับทัวร์ แห่งหนึ่ง ซึ่งมีโปรแกรมไปเที่ยวที่ “เกาะเจจู” (หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่าเกาะเชจู) ด้วย 2 วัน เราไปกันช่วงต้นเดือนมีนาคม ปีที่แล้ว ดูราคาและโปรแกรมทัวร์แล้วเราจึงเลือกไปกับทัวร์น่าจะประหยัดกว่าไปเอง ครับ ถึงจะเหนื่อยหน่อยแต่ก็สนุกดีครับ

-เดินทางถึงเกาหลีใต้ ประมาณ 6 โมง ผ่าน ตม .ไม่ถามอะไรสักคำแสกนนึ้ว มอง กล้อง ปั้ม ผ่าน มาอย่างรวดเร็ว

- รับกระเป๋าเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะข้างนอกนั้นหนาวมาก อากาศที่ อินชอน -5 องศา

-ออกจากสนามบินอินชอนก็เริ่มเที่ยวตามโปรแกรมในโซล ก่อนจะเดินทางขึ้นเครื่องที่สนามบินกิมโบ ไปที่ เกาะเชจูช่วงบ่าย ก็คล้ายๆ ดอนเมืองบ้านเราครับเก่าหน่อย แต่ก็มีสายการบินให้บริการเยอะเหมือนกันส่วนมาจะเป็น domestic ที่กิมโปเที่ยวบินในประเทศน้ำดื่มเอาขึ้นเครื่องได้ครับผ่านเจ้าหน้าที่ แสกนก็ไม่เห็นเขาเอาทึ้งแบบบ้านเราครับ พอดีพกน้ำไป 2 ขวด แต่ที่อินชอนไม่ได้ครับ

-เกาะต่าง ๆ ระหว่างเดินทาง ก่อนถึง เชจู

-ถึงสนามบินเชจู ใช้เวลา ชั่วโมงกว่า กับการนั่งกินน้ำส้มลอยฟ้า

-ออกจากสนามบินก็เริ่มเที่ยวกันเลยครับ

-ที่แรกก็คือโขดหินหัวมังกร โขดหินแห่งนี้เกิดขึ้นจากการ กัดกร่อนของคลื่นลมทะเล ทำให้มีรูปทรงลักษณะเหมือนหัวมังกร กำลังอ้าปากส่งเสียงร้องคำรามและพยายามที่จะผุดขึ้นจากท้องทะเล เพื่อขึ้นสู่ท้องฟ้า
ระหว่างทางเดินไปดูโขดหิน แวะเข้าห้องน้ำก่อนครับ แม้อากาศที่เชจูจะไม่หนาวเท่าที่โซลแต่ตอนนี้ ก็ประมาณ 4-5 องศา ซึ่งก็หนาวมาก

-ของขึ้นชื่อของเกาะเชจูคือส้มครับ มีขายกันเกือบทุกที่ และก็เห็นเกิดต้นส้มอกผลสีสวยงามทุกที่ในเชจู

-หินทอลฮารุบัง สัญลักษณ์ของเกาะเชจู เดินไปเรื่อยๆครับ

-นางเงือกน้อย

-จุดชมวิวมองเห็นโรงแรมรามาดาพลาซ่า

-ถึงแล้วครับโขดหินหัวมังกร แต่ถ่ายมุมนี้เลยมองไม่เหมือนหัวมังกร

-หาอะไรอุ่นๆ ทานครับใกล้โขดหิน ครับ ติดป้ายไว้ 2000 วอน ให้แบงค์ไป 10000 วอน แต่ทอนมาให้ 5000 ถามว่าราคาเท่าไหร่ก็ตอบมาเป็นภาษาเกาหลี งง เลยครับ ไกด์ก็ไม่ได้อยู่ด้วย แต่ก็ไม่เป็นไร สงสัยทำแบบพิเศษให้ 555 (ที่โซลน่าจะประมาณ 1000 วอนนะ)

-ไปทานอาหารเย็นกันครับ ปกติผมกับแฝนก็ชอบอาหารเกาหลีอยู่แล้วส่วนมากก็ที่สุขุมวิท 12 มาทานต้นตำหรับจริงๆ ขอบอกว่าที่ไทยชิดซ้ายเลยครับ

-ทานอาหารเสร็จก็เข้าที่พัก ครับ คืนนี้พักที่ KAL Hotel Seogwipo อยู่อีกฝากของเกาะ

-ถึงห้องพักเหนื่อยมากครับ เพราะไม่ได้นอนมาทั้งคืน มีเรื่องเล่าครับ ระหว่างรอแฟนอาบน้ำอยู่ ผมก็สังเกตว่าทำไมอาบน้ำนานจังเกือบครึ่งชั่วโมง เลยเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปดูโชคดีที่ไม่ได้ล็อค คุณพระช่วยผมเห็นเธอนอนหลับแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำและเปิดน้ำทิ้งไว้น้ำท่วมกำลังจะถึงคางแล้ว เจ้าตัวยังหลับสนิทไม่รู้เรื่อง ถ้าผมเข้ามาปลุกไม่ทันหรือมาช้ากว่านี้สัก 5 นาที .......ไม่อยากคิดต่อ เราพักที่นี่ทั้ง 2 คืนเลย

-บรรยากาศยามเช้า หน้าโรงแรมครับ

-หลังห้องพักมองเห็นภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ เขาฮัลลาซาน

-บรรยากาศรอบๆโรงแรมยามเช้า

-เช้าวันที่ 2 บนเกาะเชจู ก็มีโปรแกรมเที่ยวทั้ง วันครับ เริ่มจาก ปากปล่องภูเขาไฟ ซองซานอินจูบองแต่ไม่ได้เดินขึ้นไปถึงปากภูเขาไฟเลยครับ เพราะเหนื่อยนอนไม่พอ และอากาศหนาวลมแรง เลยเก็บบรรยากาศรอบๆแทน

-แวะซื้อขนมชื่ออะไรไม่รู้ เรียกเอาเองว่าสายไหมสอดใส้ล่ะกัน ซื้อแล้วแนะนำให้กินเลยครับ เพราะผมเก็บไว้ลืมกินประมาณ 3 มันจะแข็งตัวกินไม่ได้ อดกินเลยซื้อมาตั้ง 10000 วอน

-7 Eleven VS Family mart

-ซื้อของที่ระลึกหนักมาก

-เที่ยวต่อที่ แท่งเสาหินลาวา Jusangjeollidae ที่เกิดจากลาวาภูเขาไฟที่ร้อนจัด ไหลมากระทบกับ ความเย็นของน้ำทะเล จนกลายเป็นกำแพงแท่งหินรูปทรงแปลกตา

-สาวๆเกาหลีจิบโซจูแต่เช้า

-ทานข้าวเที่ยงกันครับ ส้มเกิดทุกที่ แม้แต่หน้าห้องน้ำ

-ทานข้าวเสร็จเที่ยวต่อ วัดหยักชอนซา

-ที่เกาะเชจู พิพิธภัณฑ์ (Museum) เยอะมากเป็นร้อยเลยก็ว่าได้ แต่เราไปพิพิธภัณฑ์หมีเท็ดดี้ ตรงข้ามเป็น Ripley

-ต่อด้วยสถานตากอากาศจองมุล

-ทานข้าวเย็นวันี้เป็นชาบู

-กลับที่พักหมดไปอีกวัน ที่จริงไปเยอะกว่านี้ นะครับแต่ไม่ได้ถ่ายมาบ้างถ่ายมีแต่รูปตัวเองบ้าง เช่นไร่ชา สวนส้ม หมู่บ้านวัฒนธรรม
-เช้าวันใหม่ไปเที่ยวชมน้ำตกก่อนกลับโซล เจอทีมฟุตบอลด้วย