ช่วงนี้ข่าวลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยเหลือ0%กำลังมาแรงอย่างมาก (ในพันทิพย์เองก็มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ส่วนใหญ่สำหรับห้องแป้งคงเป็นข่าวดีที่จะได้ซื้อสินค้าราคาถูกลง แต่สำหรับห้องสินธร สีลมที่พูดถึงเรื่องเศรษฐกิจ หลายๆคนไม่ค่อยเห็นด้วย) หลายๆคนก็ตั้งใจรอลดภาษีก่อนแล้วค่อยไปช็อปสินค้าที่ราคาลดลง 30% ซึ่งอันนี้เป็นข้อมูลที่คิดกันเองแบบผิดๆนะครับ
ผมเห็นหลายคนมากที่บอกว่า “ดีเลยลดภาษีนำเข้า 30% แล้วค่อยไปช็อปของถูกลด 30% แหนะ” จริงๆแล้วการลดภาษีนำเข้าจาก30เหลือ0% นั่นจะทำให้ต้นทุนของสินค้าลดลงไปเพียงประมาณ 5-20% เท่านั้นเองครับ ยกตัวอย่างเช่น สินค้านำเข้าชนิดหนึ่งราคาเฉพาะค่าสินค้าที่นำเข้ามาอยู่ที่ 1000บาท ต้องจ่ายภาษีนำเข้า 30% คือ 300บาท รวมแล้วกลายเป็นทุน 1300บาท ซึ่งต้นทุนนี้ยังไม่รวมค่าจัดส่งสินค้า ค่าซื้อลิขสิทธิ์ตัวแทนจำหน่าย ค่าเช่าพื้นที่ห้าง ค่าจ้างพนักงานและค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกมากมายรวมถึงกำไรที่บริษัทควรจะได้ ซึ่งเมื่อรวมหมดแล้วราคาขายจะออกมาอยู่ที่ประมาณ 3000 - 4000บาท หลังจากลดภาษีนำเข้าเหลือ 0%แล้วนั้นจะทำให้ราคาลดลงไปเพียง 300บาท หรือเท่ากับว่าลดลงไปเพียง 10%ของราคาขายเพียงเท่านั้นเอง ไม่ได้ลดถึง 30%อย่างที่หลายๆคนคิดไว้
การลดภาษีนำเข้าเป็นแค่ การที่ไปลดแค่ต้นทุนเริ่มต้นของสินค้านั้นๆ ไม่ได้ลดต้นทุนทั้งระบบที่จะสามารถทำให้ลดราคาได้ถึง 30% ซึ่งถ้าหากนำการลดภาษีนำเข้ามาใช้จริงอาจจะทำให้ลดราคาลดได้แค่เพียงประมาณ 5 - 20% เท่านั้นเองครับ
พูดถึงเรื่องราคาที่น่าจะปรับลงไม่ได้เยอะอย่างที่หลายคิดไว้แล้วยังมีผลอื่นๆที่ตามมาอีกมากมายถ้าหากลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยเหลือ 0% ที่ผมคิดวิเคราะห์เองแบบไม่ได้จบทางด้านเศรษฐศาสตร์ทางด้านการเงินมาแต่อย่างใดนะครับ โดยแยกเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียนะครับ
ข้อดี
- คนไทยได้ซื้อสินค้าราคาถูกลง (แม้จะนิดเดียวก็ตาม)
ผมคิดข้อดีออกเพียงข้อเดียวเลยครับ
ข้อเสีย
- เงินไหลออกนอกประเทศเป็นจำนวนมากจากการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยที่เพิ่มมากขึ้น ไหลออกจากการซื้อทั้งในห้างและของหิ้ว
- ใครๆที่คิดว่าร้านรับหิ้วจะเจ๊งคิดผิดนะครับ เพราะร้านหิ้วยิ่งสบายในการนำของเข้ามาเพราะไม่ต้องกลัวด่านตรวจอีกต่อไป ทำให้ของในห้างที่มีราคาสูงกว่าขายได้ยากขึ้นกว่าเดิม
- กรมศุลกากรได้รับผลกระทบเต็มๆ ด้าน....
- ชนชั้นกลางใช้จ่ายกับสินค้าฟุ่มเฟือยมากขึ้นจนอาจก่อเกิดปัญหาหนี้บัตรเครดิตเพิ่มขึ้น
- รัฐขาดรายได้จากภาษีส่วนที่หายไป
ในที่นี้ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องท่องเที่ยวเลยทั้งที่นโยบายนี้ตั้งใจออกมาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ผมกลับมองว่ามันไม่มีผลอะไรเลยต่อการท่องเที่ยว เพราะประเทศไทยเรามีจุดขายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองไทยในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่สวยงาม วัฒนธรรม วัดวาอาราม มากกว่าที่จะเป็นแหล่งช็อปปิ้ง ส่วนที่อ้างว่าไม่อยากให้คนไทยไปช็อปปิ้งสิงคโปร์ ฮ่องกง อันนี้ผมก็คิดว่าออกมาก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย หลายๆคนไปเที่ยวต่างประเทศเพราะต้องการประสบการณ์ใหม่ๆ การช็อปปิ้งเป็นแค่เรื่องรอง แล้วคนยุโรปเค้าก็สามารถซื้อของที่ประเทศเค้าเองซื้อได้ที่ราคาถูกกว่าจะเสียเวลาบินมาซื้อแล้วแบกของให้กลับให้หนักอีกทำไม
ผมว่าถ้าต้องการเน้นเรื่องท่องเที่ยวจริงๆไปแก้เรื่องที่เป็นข่าวดังตอนนี้จะดีกว่า เช่น ความปลอดภัยทางถนนที่ชาวต่างชาติต้องมาเสียชีวิตปีละหลายคน , มิจฉาชีพที่หลอกลวงนักเที่ยวในลักษณะต่างๆ, การก่ออาชญากรรมกับชาวต่างชาติที่นับวันยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาเหล่านี้ต่างประเทศเค้าประโคมๆใน YouTube กันหลายต่อหลายครั้ง แต่ผมก็ไม่เห็นทางการว่าจะทำอะไรให้มันดีขึ้นได้เลย
โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับนโยบายนี้สักเท่าไหร่เพราะข้อเสียมีมากกว่าข้อดี ท่านอื่นคิดวิเคราะห์ว่าอย่างไรมาแชร์ความคิดกันนะครับ
ปล. ผมเป็นพ่อค้าขายสินค้าฟุ่มเฟือยอยู่ จากนโยบายนี้ที่คิดว่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของผมโดยตรง ผมจึงหานั่งคิดวิเคราะห์แล้วนโยบายนี้กลับมีผลดีต่อกิจการของผมมากกว่าผลเสีย แต่ผมไม่เห็นด้วยเพราะข้อเสียต่อประเทศมันมากกว่าข้อดี
ปล.2 ผมขออนุญาตไม่บอกสินค้าที่ขายและชื่อเว็ปไซต์ที่ขายของนะครับ เพราะผมคิดว่าพันทิพย์เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นกัน ไม่ใช่พื้นที่ที่จะมาโปรโมทขายของ
ปล.3 กระทู้แรกของผมเลย มีอะไรผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยครับ
ถ้าหากลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยเหลือ0% แล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง มาดูและวิเคราะห์กัน
ผมเห็นหลายคนมากที่บอกว่า “ดีเลยลดภาษีนำเข้า 30% แล้วค่อยไปช็อปของถูกลด 30% แหนะ” จริงๆแล้วการลดภาษีนำเข้าจาก30เหลือ0% นั่นจะทำให้ต้นทุนของสินค้าลดลงไปเพียงประมาณ 5-20% เท่านั้นเองครับ ยกตัวอย่างเช่น สินค้านำเข้าชนิดหนึ่งราคาเฉพาะค่าสินค้าที่นำเข้ามาอยู่ที่ 1000บาท ต้องจ่ายภาษีนำเข้า 30% คือ 300บาท รวมแล้วกลายเป็นทุน 1300บาท ซึ่งต้นทุนนี้ยังไม่รวมค่าจัดส่งสินค้า ค่าซื้อลิขสิทธิ์ตัวแทนจำหน่าย ค่าเช่าพื้นที่ห้าง ค่าจ้างพนักงานและค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกมากมายรวมถึงกำไรที่บริษัทควรจะได้ ซึ่งเมื่อรวมหมดแล้วราคาขายจะออกมาอยู่ที่ประมาณ 3000 - 4000บาท หลังจากลดภาษีนำเข้าเหลือ 0%แล้วนั้นจะทำให้ราคาลดลงไปเพียง 300บาท หรือเท่ากับว่าลดลงไปเพียง 10%ของราคาขายเพียงเท่านั้นเอง ไม่ได้ลดถึง 30%อย่างที่หลายๆคนคิดไว้
การลดภาษีนำเข้าเป็นแค่ การที่ไปลดแค่ต้นทุนเริ่มต้นของสินค้านั้นๆ ไม่ได้ลดต้นทุนทั้งระบบที่จะสามารถทำให้ลดราคาได้ถึง 30% ซึ่งถ้าหากนำการลดภาษีนำเข้ามาใช้จริงอาจจะทำให้ลดราคาลดได้แค่เพียงประมาณ 5 - 20% เท่านั้นเองครับ
พูดถึงเรื่องราคาที่น่าจะปรับลงไม่ได้เยอะอย่างที่หลายคิดไว้แล้วยังมีผลอื่นๆที่ตามมาอีกมากมายถ้าหากลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยเหลือ 0% ที่ผมคิดวิเคราะห์เองแบบไม่ได้จบทางด้านเศรษฐศาสตร์ทางด้านการเงินมาแต่อย่างใดนะครับ โดยแยกเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียนะครับ
ข้อดี
- คนไทยได้ซื้อสินค้าราคาถูกลง (แม้จะนิดเดียวก็ตาม)
ผมคิดข้อดีออกเพียงข้อเดียวเลยครับ
ข้อเสีย
- เงินไหลออกนอกประเทศเป็นจำนวนมากจากการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยที่เพิ่มมากขึ้น ไหลออกจากการซื้อทั้งในห้างและของหิ้ว
- ใครๆที่คิดว่าร้านรับหิ้วจะเจ๊งคิดผิดนะครับ เพราะร้านหิ้วยิ่งสบายในการนำของเข้ามาเพราะไม่ต้องกลัวด่านตรวจอีกต่อไป ทำให้ของในห้างที่มีราคาสูงกว่าขายได้ยากขึ้นกว่าเดิม
- กรมศุลกากรได้รับผลกระทบเต็มๆ ด้าน....
- ชนชั้นกลางใช้จ่ายกับสินค้าฟุ่มเฟือยมากขึ้นจนอาจก่อเกิดปัญหาหนี้บัตรเครดิตเพิ่มขึ้น
- รัฐขาดรายได้จากภาษีส่วนที่หายไป
ในที่นี้ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องท่องเที่ยวเลยทั้งที่นโยบายนี้ตั้งใจออกมาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ผมกลับมองว่ามันไม่มีผลอะไรเลยต่อการท่องเที่ยว เพราะประเทศไทยเรามีจุดขายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองไทยในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่สวยงาม วัฒนธรรม วัดวาอาราม มากกว่าที่จะเป็นแหล่งช็อปปิ้ง ส่วนที่อ้างว่าไม่อยากให้คนไทยไปช็อปปิ้งสิงคโปร์ ฮ่องกง อันนี้ผมก็คิดว่าออกมาก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย หลายๆคนไปเที่ยวต่างประเทศเพราะต้องการประสบการณ์ใหม่ๆ การช็อปปิ้งเป็นแค่เรื่องรอง แล้วคนยุโรปเค้าก็สามารถซื้อของที่ประเทศเค้าเองซื้อได้ที่ราคาถูกกว่าจะเสียเวลาบินมาซื้อแล้วแบกของให้กลับให้หนักอีกทำไม
ผมว่าถ้าต้องการเน้นเรื่องท่องเที่ยวจริงๆไปแก้เรื่องที่เป็นข่าวดังตอนนี้จะดีกว่า เช่น ความปลอดภัยทางถนนที่ชาวต่างชาติต้องมาเสียชีวิตปีละหลายคน , มิจฉาชีพที่หลอกลวงนักเที่ยวในลักษณะต่างๆ, การก่ออาชญากรรมกับชาวต่างชาติที่นับวันยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาเหล่านี้ต่างประเทศเค้าประโคมๆใน YouTube กันหลายต่อหลายครั้ง แต่ผมก็ไม่เห็นทางการว่าจะทำอะไรให้มันดีขึ้นได้เลย
โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับนโยบายนี้สักเท่าไหร่เพราะข้อเสียมีมากกว่าข้อดี ท่านอื่นคิดวิเคราะห์ว่าอย่างไรมาแชร์ความคิดกันนะครับ
ปล. ผมเป็นพ่อค้าขายสินค้าฟุ่มเฟือยอยู่ จากนโยบายนี้ที่คิดว่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของผมโดยตรง ผมจึงหานั่งคิดวิเคราะห์แล้วนโยบายนี้กลับมีผลดีต่อกิจการของผมมากกว่าผลเสีย แต่ผมไม่เห็นด้วยเพราะข้อเสียต่อประเทศมันมากกว่าข้อดี
ปล.2 ผมขออนุญาตไม่บอกสินค้าที่ขายและชื่อเว็ปไซต์ที่ขายของนะครับ เพราะผมคิดว่าพันทิพย์เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นกัน ไม่ใช่พื้นที่ที่จะมาโปรโมทขายของ
ปล.3 กระทู้แรกของผมเลย มีอะไรผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยครับ