ครอบครัวผมมีกัน 4 คน พ่อ แม่ พี่สาว และผม
เดิมแม่เคยสมรส มีสามีคนแรก และมีลูกสาว 1 คน
ต่อมา แม่ฟ้องหย่า กับสามีคนแรกตั้งแต่ พี่สาวได้ 4 ขวบ
จนกระทั่ง มาจดทะเบียนสมรส กับสามีคนที่สองซึ่ง เป็นพ่อของผม และมีผม ผมเป็นน้องครับ
ครอบครัวเรา อยู่กันอย่างมีความสุขดีมาโดยตลอด ไม่เคยคิดเรื่องพ่อ ใคร พ่อ มัน
บ้านผมนั้นมีแม่เป็นหัวหน้าครอบครัวครับ ส่วนพ่อ ไม่ค่อยมีอะไร เรื่องการเงินแม่จะบริหารคนเดียวตลอด จนกระทั่ง
แม่ป่วยเป็นมะเร็งเสีย ตั้งแต่ตอน ปี 51 ผมมีปัญหาเกี่ยวกับการแบ่งทรัพย์สิน บ้านพร้อมที่ดินครับ
ตอนช่วงที่แม่ผมใกล้จะเสีย นั้น นอนอยู่โรงพยาบาลนะคับ พี่สาว มาโวยวายต่อหน้าแม่ทั้งที่แม่กำลังแย่อยู่
เกี่ยวกับเรื่องสิทธิในทรัพย์สิน เฉพาะ ตัวบ้านพร้อมที่ดิน
ส่วนผมเพิ่งจะกลับมาจากทำงาน ผมทำงานเป็นวิศวกรโรงงานแห่งหนึ่งนะคับ
พี่ของผมต้องการบ้าน ด้วย แกบอกอย่างชัดเจน เรามีปากเสียงกันนิดหน่อย จนกระทั่งอี้คนโตของผม
มาบอกผมว่าให้แบ่งบ้านกันคนละครึ่ง อย่าทะเลาะกันต่อหน้าแม่
ทีแรกผมรู้สึกไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก เหตุผลก็เพราะว่า พ่อผมยังมีชีวิตอยู่นะ มาแบ่งอะไรตอนนี้ แกก็นั่งอยู่ในห้องด้วยกัน
แต่ด้วยความที่ผมเห็นแก่แม่ ไม่อยากให้แม่เสียใจมากในวันนั้น เลยตัดสินใจ โอเค ผมจะทำตามที่อี้บอก เพราะอี้มีบุญคุณกับผม
ช่วยดูแลแม่ผมตอนที่ป่วย ด้วยการที่คิดว่า อย่างน้อยก็มีพี่เรามาช่วยกันดูแลทรัพย์สินสมบัติของพ่อของแม่ + พ่อของผม ไม่ได้ทำงาน
แล้ว บวกกับ แกจิตตก เกี่ยวกับเรื่องแม่ป่วยจน มีอาการทางประสาท ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ยังพอกินข้าวกินปลาได้บ้าง
โดยไม่ได้คิดถึงความถูกต้องอะไรเลย
ผมเป็นคนพาพ่อ ไปโอนโฉนดบ้านเป็นชื่อ พี่สาว + ผม โดยได้ลายเซ็นจากแม่ซึ่งเซ็นให้ได้แค่วันนี้เป็นวัน
สุดท้าย เพราะท่านได้รับ มอร์ฟีนมาเต็มที่แล้ว ผมเศร้ามากครับ เพื่อแม่ผมยอมทุกอย่าง
ปัญหามันมีอยู่ว่า หลังจากนั้นมาพี่สาวไม่ เคยมาดูแล บ้านช่อง ค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่าน้ำ ไฟ ค่าส่วนกลาง ค่าซ่อมแซมบ้าน
ทั้ง เล็ก และ ใหญ่ น้ำท่วม 54 เนื่องมาจากบ้านมีอายุ 9 ปีแล้ว ตามกาลเวลา ติดต่อ ตามตัวยากมาก บ่ายเบี่ยงตลอด
ปล่อยให้ผม ดูแล ซ่อมแซมอยู่คนเดียว บวกกับดูแลพ่อที่ป่วยทางจิต ซ่อมจนเสร็จ เงินก็ไม่จ่ายต้องให้ผมไปทวงถึงร้าน
ส่วนตัวผมก็ต้องไปทำงานต่างจังหวัด ย้ายไปมา นวนคร ปทุมธานี โรจนะ อยุธยา จนกระทั่ง ปัจจุบัน มาอยู่อมตะนคร ชลบุรี
เป็นเวลารวม 3 ปี 9 เดือน
ผมได้มีการตกลงกับพี่สาว แบบมีปากเสียงกันนิดหน่อยช่วงต้นปี ว่าเรื่องบ้านจะเอาอย่างไร จะให้คนอื่น เช่า หรือ ว่าจะขาย ใครจะดูแล
ตกลงกันว่าจะขาย เพราะ ต่างคนต่างไม่มีเวลาดูแล
จนกระทั่งปัจจุบัน มีคนจะซื้อบ้าน ผมติดต่อแกให้ไปทำสัญญาจะซื้อจะขาย แกเปลี่ยนใจไม่ขายอีก ผมควรทำอย่างไรดีครับ
มีการตกลงกันเองบ้างแล้ว แต่พี่ไม่ทำตามที่ตกลง
พี่สาวมีธุรกิจ เป็นคนมีรายได้สูงครับ
อยากปรึกษาทนายสักท่านนะคับ เดือดร้อนครับ อยากถามดังนี้ครับ
1.เรื่องการแบ่งมรดก ทรัพย์สิน บ้านพร้อมที่ดินนั้น แบ่งก่อนแม่ผมจะเสีย แบ่งแบบนี้ถูกต้องมั้ยครับ
2.ผมอยากจะจบปัญหา เรื่องบ้านผมควรทำอย่างไรดีครับ โฉนด เป็นชื่อ พี่สาว+ผมครับ
3.ถ้าต้องการขายบ้านเพื่อนำเงินส่วนแบ่ง มาซื้อบ้านอยู่กับครอบครัว ผม ภรรยา ลูกแฝด พ่อ แม่ยาย 5 คนครับ แบบนี้ควรทำมั้ยครับ
ไม่รู้จะปรึกษาใครดีช่วยหน่อยนะคับ
ขอคำปรึกษาเรื่อง มรดกบ้าน กับพี่น้องต่างบิดา
เดิมแม่เคยสมรส มีสามีคนแรก และมีลูกสาว 1 คน
ต่อมา แม่ฟ้องหย่า กับสามีคนแรกตั้งแต่ พี่สาวได้ 4 ขวบ
จนกระทั่ง มาจดทะเบียนสมรส กับสามีคนที่สองซึ่ง เป็นพ่อของผม และมีผม ผมเป็นน้องครับ
ครอบครัวเรา อยู่กันอย่างมีความสุขดีมาโดยตลอด ไม่เคยคิดเรื่องพ่อ ใคร พ่อ มัน
บ้านผมนั้นมีแม่เป็นหัวหน้าครอบครัวครับ ส่วนพ่อ ไม่ค่อยมีอะไร เรื่องการเงินแม่จะบริหารคนเดียวตลอด จนกระทั่ง
แม่ป่วยเป็นมะเร็งเสีย ตั้งแต่ตอน ปี 51 ผมมีปัญหาเกี่ยวกับการแบ่งทรัพย์สิน บ้านพร้อมที่ดินครับ
ตอนช่วงที่แม่ผมใกล้จะเสีย นั้น นอนอยู่โรงพยาบาลนะคับ พี่สาว มาโวยวายต่อหน้าแม่ทั้งที่แม่กำลังแย่อยู่
เกี่ยวกับเรื่องสิทธิในทรัพย์สิน เฉพาะ ตัวบ้านพร้อมที่ดิน
ส่วนผมเพิ่งจะกลับมาจากทำงาน ผมทำงานเป็นวิศวกรโรงงานแห่งหนึ่งนะคับ
พี่ของผมต้องการบ้าน ด้วย แกบอกอย่างชัดเจน เรามีปากเสียงกันนิดหน่อย จนกระทั่งอี้คนโตของผม
มาบอกผมว่าให้แบ่งบ้านกันคนละครึ่ง อย่าทะเลาะกันต่อหน้าแม่
ทีแรกผมรู้สึกไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก เหตุผลก็เพราะว่า พ่อผมยังมีชีวิตอยู่นะ มาแบ่งอะไรตอนนี้ แกก็นั่งอยู่ในห้องด้วยกัน
แต่ด้วยความที่ผมเห็นแก่แม่ ไม่อยากให้แม่เสียใจมากในวันนั้น เลยตัดสินใจ โอเค ผมจะทำตามที่อี้บอก เพราะอี้มีบุญคุณกับผม
ช่วยดูแลแม่ผมตอนที่ป่วย ด้วยการที่คิดว่า อย่างน้อยก็มีพี่เรามาช่วยกันดูแลทรัพย์สินสมบัติของพ่อของแม่ + พ่อของผม ไม่ได้ทำงาน
แล้ว บวกกับ แกจิตตก เกี่ยวกับเรื่องแม่ป่วยจน มีอาการทางประสาท ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ยังพอกินข้าวกินปลาได้บ้าง
โดยไม่ได้คิดถึงความถูกต้องอะไรเลย
ผมเป็นคนพาพ่อ ไปโอนโฉนดบ้านเป็นชื่อ พี่สาว + ผม โดยได้ลายเซ็นจากแม่ซึ่งเซ็นให้ได้แค่วันนี้เป็นวัน
สุดท้าย เพราะท่านได้รับ มอร์ฟีนมาเต็มที่แล้ว ผมเศร้ามากครับ เพื่อแม่ผมยอมทุกอย่าง
ปัญหามันมีอยู่ว่า หลังจากนั้นมาพี่สาวไม่ เคยมาดูแล บ้านช่อง ค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่าน้ำ ไฟ ค่าส่วนกลาง ค่าซ่อมแซมบ้าน
ทั้ง เล็ก และ ใหญ่ น้ำท่วม 54 เนื่องมาจากบ้านมีอายุ 9 ปีแล้ว ตามกาลเวลา ติดต่อ ตามตัวยากมาก บ่ายเบี่ยงตลอด
ปล่อยให้ผม ดูแล ซ่อมแซมอยู่คนเดียว บวกกับดูแลพ่อที่ป่วยทางจิต ซ่อมจนเสร็จ เงินก็ไม่จ่ายต้องให้ผมไปทวงถึงร้าน
ส่วนตัวผมก็ต้องไปทำงานต่างจังหวัด ย้ายไปมา นวนคร ปทุมธานี โรจนะ อยุธยา จนกระทั่ง ปัจจุบัน มาอยู่อมตะนคร ชลบุรี
เป็นเวลารวม 3 ปี 9 เดือน
ผมได้มีการตกลงกับพี่สาว แบบมีปากเสียงกันนิดหน่อยช่วงต้นปี ว่าเรื่องบ้านจะเอาอย่างไร จะให้คนอื่น เช่า หรือ ว่าจะขาย ใครจะดูแล
ตกลงกันว่าจะขาย เพราะ ต่างคนต่างไม่มีเวลาดูแล
จนกระทั่งปัจจุบัน มีคนจะซื้อบ้าน ผมติดต่อแกให้ไปทำสัญญาจะซื้อจะขาย แกเปลี่ยนใจไม่ขายอีก ผมควรทำอย่างไรดีครับ
มีการตกลงกันเองบ้างแล้ว แต่พี่ไม่ทำตามที่ตกลง
พี่สาวมีธุรกิจ เป็นคนมีรายได้สูงครับ
อยากปรึกษาทนายสักท่านนะคับ เดือดร้อนครับ อยากถามดังนี้ครับ
1.เรื่องการแบ่งมรดก ทรัพย์สิน บ้านพร้อมที่ดินนั้น แบ่งก่อนแม่ผมจะเสีย แบ่งแบบนี้ถูกต้องมั้ยครับ
2.ผมอยากจะจบปัญหา เรื่องบ้านผมควรทำอย่างไรดีครับ โฉนด เป็นชื่อ พี่สาว+ผมครับ
3.ถ้าต้องการขายบ้านเพื่อนำเงินส่วนแบ่ง มาซื้อบ้านอยู่กับครอบครัว ผม ภรรยา ลูกแฝด พ่อ แม่ยาย 5 คนครับ แบบนี้ควรทำมั้ยครับ
ไม่รู้จะปรึกษาใครดีช่วยหน่อยนะคับ