คำวินิจฉัย 6 ศพ แสงขับไล่ความมืด ส่องแท้จริง-เท็จ
6 ส.ค.
ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่าน
คำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพ 6 ศพ ที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนารามเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
ได้แก่ นายสุวัน ศรีรักษา-เกษตรกร นายอัฐชัย ชุมจันทร์-บัณฑิตนิติศาสตร์ รามคำแหง นายมงคล เข็มทอง-อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นายรพ สุขสถิต-พนักงานขับรถรับจ้าง น.ส.กมนเกด อัคฮาด-พยาบาลอาสา และนายอัครเดช ขันแก้ว-รับจ้าง
พบว่าไม่มีผู้เสียชีวิตรายใดมีเขม่าดินปืนที่มือ ที่แปลว่าเป็นผู้ใช้อาวุธ
พยานหลายปากและผู้เชี่ยวชาญเบิกความสอดคล้องกันว่า ได้ยินเสียงปืนดังมาจากทิศทางบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส พบรอยกระสุนด้านหน้าวัด
ยิงจากด้านหน้าวัดเข้าไปด้านใน บนถนนหน้าวัด ประตูทางเข้าวัด ประตูทางออกวัด ประตูกระจกมูลนิธิ และใกล้สะพานลอยทางเดินเชื่อมบริเวณแยกเฉลิมเผ่า
จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีผู้ยิงผ่านรางรถไฟฟ้าเข้าไปในวัด
ตั้งแต่วันที่
13 พ.ค.2553 มีการประกาศห้ามใช้เส้นทางคมนาคมหลายแห่ง จึง
เชื่อได้ว่าไม่สามารถมีผู้ใดนำอาวุธเข้าไปในพื้นที่การชุมนุมได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้าไปก็ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานทหาร
ในวันที่เกิดเหตุ 19 พ.ค.2553 เป็นเวลากลางวัน มีทั้งผู้สื่อข่าวชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมาก แต่
ไม่ปรากฏหลักฐานภาพถ่าย และไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดพบเห็นชายชุดดำในบริเวณดังกล่าว
ศาลจึงมีคำสั่งว่า เหตุและพฤติการณ์ของผู้ตายทั้ง 6 สืบเนื่องมาจากถูกยิงด้วย
กระสุนปืนขนาด .223 หรือ 5.56 มม. วิถีกระสุนปืนยิงมาจากเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส หน้าวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร
และบริเวณถนนพระราม 1
ซึ่งเข้าควบคุมพื้นที่ ตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ.
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินคดีต่อไปจะเป็นเช่นเดียวกับคดีการเสียชีวิตของรายอื่นๆ ที่ศาลไต่สวนแล้วว่าเป็นการกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ
ก็คือ
ดีเอสไอจะต้องแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้อง 2 ราย ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผอ.ศอฉ.
ในข้อกล่าวหาเพิ่มเติมฐาน
ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล
เพื่อพิจารณาส่งฟ้องอัยการต่อไป
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้เส้นทางเดินของการค้นหาความจริงขรุขระ
คดเคี้ยวเป็นอย่างยิ่ง
เย็นวันที่ 6 ส.ค. มีผู้นำคลิปที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ให้การต่อคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ออกเผยแพร่
ในคลิปนั้น
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ระบุเต็มปากเต็มคำว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ศพในวัดปทุมวนาราม
ไม่ได้ถูกยิงมาจากข้างบน
แม้แต่รายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อแนวทางปรองดองแห่งชาติ
(คอป.) ซึ่งแถลงเมื่อเดือนตุลาคม 2555 ตอนหนึ่งก็ระบุว่า
"พบรอยแตกคล้ายรอยกระสุนปืนที่ผนังคอนกรีตและใต้คานรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ด้านหน้าวัดปทุมฯ 4 รอย
มีทิศทางการยิงขึ้นไปจากพื้นด้านหน้าหรือในวัดปทุมฯ
"ซึ่งหากเป็นรอยกระสุนจริงก็มีความเป็นได้ว่ามีการยิงมาจากด้านวัดปทุมวนารามไปยังกำแพงรางรถไฟฟ้าซึ่งมีทหารอยู่"
เมื่อเดือนมิถุนายน 2553
นายอภิสิทธิ์เคยลุกขึ้นชี้แจงในสภาผู้แทนราษฎร นำภาพจำลองวิถีกระสุนของศพที่ถูกยิงในวัดปทุมวนาราม
และยืนยันว่าผลชันสูตรไม่ใช่ยิงจากมุมสูง แต่
เป็นการยิงแนวราบ
ขณะที่
นายสุเทพขึ้นให้การต่อศาลเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2556 ว่า ได้รับรายงานการชันสูตรศพคาดว่าจะ
เสียชีวิตจากที่อื่นแล้วนำร่างมาไว้ที่ข้างศาลา
และใน
2 รายมีเขม่าดินปืนที่มือในปริมาณที่น่าจะใช้อาวุธมาก่อน
ความจริงอาจจะมาช้า
แต่เมื่อมาถึงแล้วก็เหมือนแสงสว่างที่ส่องขับไล่ความมืดให้หมดไป
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1375942670&grpid=&catid=12&subcatid=1200
?????????????????????????????????
ย้ำอีกที.....
".....
ความจริงอาจจะมาช้า
แต่เมื่อมาถึงแล้วก็เหมือนแสงสว่างที่ส่องขับไล่ความมืดให้หมดไป....."
คนไหนที่ไม่ใช่มนุษย์ที่มีสติสัมปชัญญะเป็นปกติสามัญ
ไม่ควรมีที่ยืนคอยชี้ผิดถูกอยู่ในสังคม.....
มติชนชี้ คำวินิจฉัย 6 ศพ แสงขับไล่ความมืด ส่องแท้จริง-เท็จ...ความจริงที่แม้จะมาช้าเพราะมีเล่ห์กลขวาง แต่ก็คือความจริง
6 ส.ค. ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพ 6 ศพ ที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนารามเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
ได้แก่ นายสุวัน ศรีรักษา-เกษตรกร นายอัฐชัย ชุมจันทร์-บัณฑิตนิติศาสตร์ รามคำแหง นายมงคล เข็มทอง-อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นายรพ สุขสถิต-พนักงานขับรถรับจ้าง น.ส.กมนเกด อัคฮาด-พยาบาลอาสา และนายอัครเดช ขันแก้ว-รับจ้าง
พบว่าไม่มีผู้เสียชีวิตรายใดมีเขม่าดินปืนที่มือ ที่แปลว่าเป็นผู้ใช้อาวุธ
พยานหลายปากและผู้เชี่ยวชาญเบิกความสอดคล้องกันว่า ได้ยินเสียงปืนดังมาจากทิศทางบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส พบรอยกระสุนด้านหน้าวัด ยิงจากด้านหน้าวัดเข้าไปด้านใน บนถนนหน้าวัด ประตูทางเข้าวัด ประตูทางออกวัด ประตูกระจกมูลนิธิ และใกล้สะพานลอยทางเดินเชื่อมบริเวณแยกเฉลิมเผ่า
จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีผู้ยิงผ่านรางรถไฟฟ้าเข้าไปในวัด
ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.2553 มีการประกาศห้ามใช้เส้นทางคมนาคมหลายแห่ง จึงเชื่อได้ว่าไม่สามารถมีผู้ใดนำอาวุธเข้าไปในพื้นที่การชุมนุมได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้าไปก็ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานทหาร
ในวันที่เกิดเหตุ 19 พ.ค.2553 เป็นเวลากลางวัน มีทั้งผู้สื่อข่าวชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมาก แต่ไม่ปรากฏหลักฐานภาพถ่าย และไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดพบเห็นชายชุดดำในบริเวณดังกล่าว
ศาลจึงมีคำสั่งว่า เหตุและพฤติการณ์ของผู้ตายทั้ง 6 สืบเนื่องมาจากถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .223 หรือ 5.56 มม. วิถีกระสุนปืนยิงมาจากเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส หน้าวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร และบริเวณถนนพระราม 1
ซึ่งเข้าควบคุมพื้นที่ ตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ.
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินคดีต่อไปจะเป็นเช่นเดียวกับคดีการเสียชีวิตของรายอื่นๆ ที่ศาลไต่สวนแล้วว่าเป็นการกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ
ก็คือดีเอสไอจะต้องแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้อง 2 ราย ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผอ.ศอฉ.
ในข้อกล่าวหาเพิ่มเติมฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล
เพื่อพิจารณาส่งฟ้องอัยการต่อไป
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้เส้นทางเดินของการค้นหาความจริงขรุขระคดเคี้ยวเป็นอย่างยิ่ง
เย็นวันที่ 6 ส.ค. มีผู้นำคลิปที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ให้การต่อคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ออกเผยแพร่
ในคลิปนั้น พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ระบุเต็มปากเต็มคำว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ศพในวัดปทุมวนารามไม่ได้ถูกยิงมาจากข้างบน
แม้แต่รายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อแนวทางปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ซึ่งแถลงเมื่อเดือนตุลาคม 2555 ตอนหนึ่งก็ระบุว่า
"พบรอยแตกคล้ายรอยกระสุนปืนที่ผนังคอนกรีตและใต้คานรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ด้านหน้าวัดปทุมฯ 4 รอย มีทิศทางการยิงขึ้นไปจากพื้นด้านหน้าหรือในวัดปทุมฯ
"ซึ่งหากเป็นรอยกระสุนจริงก็มีความเป็นได้ว่ามีการยิงมาจากด้านวัดปทุมวนารามไปยังกำแพงรางรถไฟฟ้าซึ่งมีทหารอยู่"
เมื่อเดือนมิถุนายน 2553 นายอภิสิทธิ์เคยลุกขึ้นชี้แจงในสภาผู้แทนราษฎร นำภาพจำลองวิถีกระสุนของศพที่ถูกยิงในวัดปทุมวนาราม
และยืนยันว่าผลชันสูตรไม่ใช่ยิงจากมุมสูง แต่เป็นการยิงแนวราบ
ขณะที่นายสุเทพขึ้นให้การต่อศาลเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2556 ว่า ได้รับรายงานการชันสูตรศพคาดว่าจะเสียชีวิตจากที่อื่นแล้วนำร่างมาไว้ที่ข้างศาลา
และใน 2 รายมีเขม่าดินปืนที่มือในปริมาณที่น่าจะใช้อาวุธมาก่อน
ความจริงอาจจะมาช้า
แต่เมื่อมาถึงแล้วก็เหมือนแสงสว่างที่ส่องขับไล่ความมืดให้หมดไป
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1375942670&grpid=&catid=12&subcatid=1200
?????????????????????????????????
ย้ำอีกที.....
".....ความจริงอาจจะมาช้า
แต่เมื่อมาถึงแล้วก็เหมือนแสงสว่างที่ส่องขับไล่ความมืดให้หมดไป....."
คนไหนที่ไม่ใช่มนุษย์ที่มีสติสัมปชัญญะเป็นปกติสามัญ
ไม่ควรมีที่ยืนคอยชี้ผิดถูกอยู่ในสังคม.....