กรรมทันตา อาชีพเชฟ...อาชีพทรหด 2

กรรมทันตา อาชีพเชฟ...อาชีพทรหด 2

ต่อจาก กรรมทันตา อาชีพเชฟ..อาชีพทรหด 1
http://pantip.com/topic/30683816

ช่วงเวลาที่เรียน ปี 1
เริ่มแรกลูกสาวผมก็มัวแต่ตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว
สนุกไปกับกิจกรรมรับน้อง กิจกรรมวี๊ดด..ด ว้ายย..ย วุ่นวายของรุ่นพี่
มัวไปใส่ใจกับเพื่อนใหม่ ๆ ซึ่งพูดได้ว่า 90 % ของนักศึกษาที่นี่เป็น...เด็กต่างจังหวัด
มาจากทุกภาค ทั้งใกล้ไกลกรุงเทพ ฯ
แล้วส่วนใหญ่ก็ฐานะธรรมดา ไม่ได้ร่ำรวยอะไร
ไอ้ที่ทางบ้านฐานะดีหน่อย หรือพอมีสตางค์เหลือ ก็พอมีแต่ไม่มากนัก
นักศึกษาที่นี่ต้องกู้เงิน...กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. กันทั้งนั้น
แล้วก็ต้องมาเช่าบ้าน เช่าหอพักใกล้ๆ มหาวิทยาลัยอยู่กัน
จนกระทั่ง...เกือบจะหมดเทอมแรกอยู่แล้ว ลูกผมก็มัวแต่เพลิดเพลิน
แล้วก็รับเอาปัญหาบ้าบอคอแตกของเพื่อน ๆ มาแบกรับเอาไว้
ทั้งเรื่องแบ่งกลุ่ม บ้ากิจกรรม ปัญหาการเงิน
ความเลื่อมล้ำของวัฒนธรรมแต่ละคน
เอามาเล่า มาบ่นบ้าทุกวัน จนเห็นว่าชักจะไปกันใหญ่แล้ว
คุณหม่อง ภรรยาของผมเรียกน้องโดนัท มานั่งคุยกัน
เตือนว่าลืมความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็น...เชฟ มือหนึ่ง ไปแล้วเหรอ
แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่ ใช่หนทางที่ต้องการหรือเปล่า

จดจ่อกับอะไร สิ่งนั้นก็จะขยายผล...
มัวไปจดจ่อกับเรื่องบ้าบอ ไอ้เรื่องบ้าบอมันก็ขยาย.ย..ย ไปไม่สิ้นสุด
ให้หันมาจับจ้องกับความฝันการเป็น เชฟมือหนึ่ง
ที่สำคัญ...กัลยาณมิตร กลุ่มเพื่อนนี่แหละสำคัญ
สุภาษิตจีนว่าไว้...ใกล้ชาดก็แดง ใกล้ถ่านก็ดำ
ถ้าเข้ากลุ่มที่อ่อย ๆ อ่อน ๆ ไม่มีแรงเหวี่ยง แรงบันดาลใจ
เราก็จะถูกกลืนให้กลายเป็นอย่างกับพวกเค้าด้วย
เราต้องโดดไปหากลุ่มคนที่เก่ง ถึงเก่งที่สุด
คนที่มีแรงบันดาลใจ มีพลังแรงเหวี่ยงให้มากที่สุด
เข้าไปรวมกลุ่มกับพวกหัวกะทิเขาให้ได้
อาจารย์ท่านไหนที่คิดว่า เจ๋งเก่งจริง ดีจริง
ให้เข้าไปหาไปกราบกราน...ไปรับใช้
ให้เสนอตัวช่วยงาน อย่างไม่มีข้อแม้...
เน้นนะครับ....ไม่มีข้อแม้

หลังจากค่อย ๆ คุยกันอยู่หลายวันก็ยอมรับว่ามัวหลงเพลิดเพลินไปหน่อย
จากนั้นก็พยายามทำอย่างที่แม่เค้าสอน
เข้าจับกลุ่มกับพวกหัวกะทิ  พวกที่เอาจริงเอาจัง
เข้าไปหาอาจารย์ ไปขออาสารับใช้
ซี่งที่ ม.ราชภัฏสวนดุสิต นี่ไม่ใช่มีแต่การสอนเฉพาะนักศึกษาเท่านั้น นะ
ยังมีหน่วยงานเล็กๆ ที่เปิดสอนให้กับบุคคลทั่วไปที่สนใจ เรียนการทำอาหารในวันหยุด
เป็นหน่วยเล็กๆ ที่แข็งแกร่งชื่อ...โรงเรียนการอาหารนานาชาติสวนดุสิต
มีหลักสูตรสอนทำอาหารต่าง ๆ ทั้ง ไทย ยุโรป เบเกอรี่ ฯลฯ
อาจารย์ที่มาสอนมีทั้งอาจารย์ของสวนดุสิต และเชิญเชฟดัง ๆ ทั้งไทยและฝรั่ง
เช่น เชฟจากโรงแรมใหญ่ๆ หรือเชฟจากครัวการบินไทย
เชฟฝรั่ง หลายท่านพูดไทยไม่ได้ด้วยซ้ำ ต้องมีผู้ช่วยหรือล่ามช่วยแปล
แต่ค่าเรียนไม่ใช่ถูก ๆ นะครับ คอร์สละหมื่นกว่า
หรือคิดแล้วเฉลี่ย เมนูละ 3,000 บาท
แล้วคนที่มาเรียนจะต้องใส่ ชุดเชฟ ด้วยนะครับ
คนที่มาเรียนนี่ส่วนใหญ่แล้วแต่ละคนไม่ใช่กระจอก ๆ
เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างดี มีสตางค์แต่ใจรักอยากทำอาหารแบบถูกต้อง
หรือเป็นเจ้าของกิจการร้านอาหาร ภัตตาคาร รีสอร์ท ผับ บาร์หรู ๆ
ต้องการมาเติมไฟ เติมความรู้ใหม่ ๆ
และที่สำคัญ...เค้ามามองหาคนเก่ง ๆ เชฟเก่ง ๆ ไปช่วยงานด้วย

ลูกสาวของผม หาทางเข้ามาอาสาทำงานกับอาจารย์ที่ดูแล โรงเรียนการอาหารนานาชาติ
เริ่มจากเป็นแรงงานแบก ยก ล้าง หั่น สารพัดอยู่นานจนได้เป็นผู้ช่วยเชฟ
คอยยืนอยู่ข้างๆ คอยส่งจานชามถ้วย วัตถุดิบ เครื่องปรุง
วิ่งหาน้ำเย็นมาเสริฟ หาผ้ามาคอยซับเหงื่อให้เชฟผู้สอน
คอยจดรายละเอียด ทำเอกสาร เป็นล่าม ทำทู๊กก..ก อย่าง
ครูพักลักจำ ตาดูหูฟัง
ได้ความรู้ ได้เทคนิคใหม่ ๆ นอกหลักสูตร
แต่...เหนื่อยหนัก เหนื่อยสายตัวแทบขาด
วันธรรมดา เรียนเช้าถึงเย็น
วันหยุดมาเป็นแรงงาน เป็นผู้ช่วย
หลาย ๆ ครั้งต้องยืนเลาะกระดูกวัว กระดูกไก่ เป็นสิบกิโลฯ
ต้องยืนเฝ้าหม้อต้มสต๊อก 4 – 5 ชั่วโมง
ต้องเตรียมวัตถุดิบที่จะใช้สอน หลังจากเลิกเรียนวันศุกร์ไปจนถึงดึกดื่นเที่ยงคืน
เสาร์ – อาทิตย์ หรือวันหยุด ต้องยืนเป็นผู้ช่วยสอนทั้งวัน
พอตกเย็นก็ยังกลับบ้านไม่ได้ ต้องเก็บล้างอีกจนมืดค่ำ....
เรียกว่าเรียนหนัก ทำงานหนัก ทู๊กกก..วัน
บางวันค่ำ บางวันดึกดื่น...เฮ้อ เหนื่อย


...จดจ่อกับอะไร สิ่งนั้นก็จะขยายผล...
ลูกสาวของผม และกลุ่มเพื่อนหัวกะทิ มีพัฒนาการด้านเรียน และฝีมือขึ้นรวดเร็วมาก
สิ่งที่เสียไปคือ...เวลาเที่ยวเล่น และชีวิตวัยรุ่น
แต่ว่าไปแล้วก็เป็นที่รัก และเมตตาของอาจารย์ และเชฟทั้งหลาย
รวมถึงบรรดาบุคคลผู้มีสตางค์ที่มาเรียน
จนถูกทาบทามชวนให้ไปทำงานด้วยมากมาย แต่ติดว่ายังเรียนไม่จบ
อีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ และเหนื่อยหนักคือ...งานพิเศษ
ในบรรดาอาจารย์ และเชฟที่เชิญมาสอนแต่ละคน แต่ละท่าน
มีงานอีกอย่างคือ การรับจ้างไปออกงาน ออกอีเว้นท์ แสดงการทำอาหารให้กับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
เช่นเครือซีพี เบทาโกร ผลิตภัณฑ์นม เนย น้ำมันพืช ซอส .........สารพัดจัดงานโชว์
มีทั้งงานเล็ก งานใหญ่ งานถ่ายโฆษณา ถ่ายรายการ
ตัวอย่างเช่นรายการ จูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ช่อง 3
น้องโดนัทกับเพื่อน ๆ ก็ไปเป็นผู้ช่วย เพราะอาจารย์บิ๊บ ชัชชญา รักตะกนิษฐ์
อาจารย์ที่รักและเคารพยิ่งเป็นพิธีกรหลัก ท่านช่วยชี้แนะสอนสั่งสารพัด
หรือไปเป็นสต๊าฟ ทีมงานเบื้องหลังการถ่ายโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารต่าง ๆ
อย่างที่เราดูกันโทรทัศน์นั่นแหละ
ทำให้ได้เปิดหูเปิดตา ได้ความรู้แปลก ๆ ใหม่ ๆ เข้าสู่วงการบันเทิง...โลกมายา
แต่ถ้าไปถ่ายรายการ ไปแต่เช้ากว่าจะเสร็จก็โน่นเกือบสองยาม ทุกครั้ง
หรือไปเป็นสต๊าฟ ทีมงานในการแข่งขันทำอาหาร ทั้งงานเล็กงานใหญ่
ถึงงานการแข่งระดับประเทศต่าง ๆ ด้วยกัน
ก็ยิ่งทำให้ได้รู้เห็นอาหารเมนูแปลก ๆ ของชาติอื่น
ได้เทคนิคใหม่ ทันสมัย ที่กำลังเป็นไปในโลก
ตื่นตาตื่นใจเห็นการใช้วัตถุดิบ และอุปกรณ์พิศดารมากหลายหลาก
งานประเภทแรงงานก็มีเยอะ
พวกงานจัดเลี้ยงใหญ่ ๆ ตามโรงแรม หรือการแสดงที่มีงานเลี้ยงแขกผู้ชมไปด้วย
เช่น โรงละครสยามนิรมิตร .......
ทางเชฟใหญ่ต้องระดมคนที่มีความรู้ทางอาหาร มาช่วยงานเพิ่มเป็นพิเศษ
ก็จะโทร.มาตามให้ช่วยหาเพื่อน ๆ หรือรุ่นพี่ รุ่นน้อง ไปทำงาน
ค่าแรงรายได้ไม่เลวทีเดียว แล้วก็มีบ่อย ๆ ซะด้วยซิ
พวกเด็กที่ไปช่วยงาน ก็จะได้ทั้งเงินค่าแรงอย่างดี
และความรู้ ทั้งโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น
มีรุ่นน้องบางคนมีแววดี บุคคลิกเข้าตาเชฟใหญ่บางท่าน
ก็จะได้โอกาสไปฝึกงานในครัวโรงแรม หรือร้านอาหารดัง ๆ ซะด้วยซ้ำไป

เด็กนักศึกษาที่เรียนในสายงานอาชีพนี้ หรือใกล้เคียง
อาจจะไม่ใช่ เชฟ แต่อาจเป็น คหกรรม การโรงแรม
ถ้าขยันจะมีงานพิเศษให้ทำเยอะแยะ หรืองานพาร์ทไทม์ตามร้านอาหาร
ร้านพิซซ่า คอฟฟี่ชอป หรือภัตตาคาร...แย่งตัวกันซะด้วยซ้ำไป
สามารถหาเงินมาช่วยค่าเล่าเรียน
ค่าอุปกรณ์ ค่าวัตถุดิบ หรือค่าเช่าหอพักได้แน่นอน
เค้าต้องการคนที่เรียนทางด้านนี้อีกมาก งานน่ะมีเยอะจนไม่มีเวลาพักผ่อนนอนเล่น
ได้ทั้งเงิน ทั้งความรู้ ทั้งพัฒนาฝีมือตัวเอง
อ้อ...ค่าแรงเยอะพอสมควรเชียวแหละ

ขอย้อนกลับมาถึง ในช่วงเรียนปี 1
ถูกบังคับให้เรียนหนักเกี่ยวกับวิชาการทางวิทยาศาสตร์
เพราะทางหน่วยงานที่ควบคุมการศึกษามองว่า สายงานด้านอาหาร เป็นวิทยาศาสตร์
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นพวกวิเคราะห์ วิจัย ทดลองแยกย่อยโมเลกุล
แต่ก็มองว่าอาหารที่คนเรากิน หรือเอาเข้าปากสู่ร่างกาย
เป็นสิ่งที่อาจก่อให้เกิดประโยชน์ และโทษมหาศาล
พูดแล้วก็นึกได้นะ ลูกสาวผมต้องเอา เนื้อสัตว์ ใส่ถุงพลาสติกพกติดตัวไป
แล้วคอยดู คอยดม จดบันทึกทุก ๆ 2 ชั่วโมง
ว่ามันเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง ตั้งแต่ที่มันยังสดจนกระทั่งค่อย ๆ เน่าไปเรื่อย ๆ
ทั้งสี ทั้งกลิ่น...ไอ้เนื้อหมู เนื้อวัว ยังไม่เท่าไหร่
แต่อีเนื้อกุ้ง หอย ปู ปลา นี่ซิ โอ๊ย...ย อย่าให้พูดเลย
วิชาคำนวนก็สำคัญเพราะ ต้องชั่ง ตวง วัด อย่างละเอียดยิบ
ยังเรื่องการนำพาความร้อนอีก แน่ะ
การต้ม ทอด นึ่ง อบ ย่าง ฯลฯ การควบคุมอุณหภูมิไฟ
แล้วก็ต้องเข้าใจนะครับ เค้าสอนให้ใช้ครัวสมัยใหม่ให้เป็น
อุปกรณ์ เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า หม้อหุงข้าว อะไรต่อมิอะไรมันไม่ใช่ที่เราเคยรู้จัก
มันสุดแสนพิศดารพันลึก
ยังจะระบบท่อ ระบบอากาศ แสงสว่าง
แม้แต่...เขียง มันยังมีตั้ง 5 สี
แล้วก็ มีด ที่ถือว่าเป็นอาวุธประจำตัวแต่ละประเภทของการใช้งาน
หั่น สับ ตัด แล่ เลาะ เซาะซอน ไปจนถึง แกะสลัก
จาน ชาม ช้อน ส้อม หม้อ กระทะ ตะหลิว ตะแกรง ฯล...ฯ
อู๊ยย ย...วุ่นวายดีแท้
ยัง...ยังไม่หมด ยิ่งพวกเครื่อง เบเกอรี่ นี่ยิ่งยุ่งยุบยับไปหมด
มาถึง เครื่องดื่ม ก็พวกแก้วน้ำ แก้วไวน์ แก้วบรั่นดี อีกสารพัดสารพันแบบ
ก้นตื้น ก้นลึก ก้านยาว ก้านสั้น ปากแคบ ปากบาน อีกมากมายก่ายกอง
ในรุ่นที่น้องโดนัท เรียนนั้นปีแรกยังไม่ต้องเข้าครัวจริง ๆ
แต่เห็นว่ารุ่นปัจจุบันนี้ ต้องเข้าครัวปรุงอาหารกันตั้งแต่ปีแรก
ต้องใส่ ชุดเชฟ กันด้วย

พูดถึง ชุดเชฟ นี่ประกอบไปด้วย...
หมวก เสื้อเชฟ ผ้ากันเปื้อน ผ้าเช็ดมือ
กางเกงแสล็ค และรองเท้ากันลื่นชนิดพิเศษ
ที่ว่าพิเศษ คือหัวเป็นเหล็กกันของตกใส่เท้า และต้องเหยียบน้ำมันแล้วยังไม่ลื่น
ซึ่งสำคัญมาก แต่มันราคาไม่ค่อยจะถูกเลยนะ
ยิ่งพอเข้าครัวเรียนกันจริง ๆ จัง ๆ
มันก็ต้องมี...มีด ประจำตัว
ขอบอกนะครับ...มีดเชฟ ยาว 8 นิ้ว ที่ซื้อแล้วใช้ได้ตลอดหลาย ๆ ปี
ต้องเป็นมีดชนิดพิเศษ ทั้งเนื้อเหล็ก น้ำหนัก สันมีด คอมีด ด้ามจับ
ทุกอย่างต้องถนัดมือ...คมกริ๊บ.บ..บ คมนาน.น..น
ราคาก็ตั้งแต่ 3,000 กว่า ไปจนถึง 7 – 8,000
เอาที่พอได้ก็ประมาณ 5,000 กว่านั่นแหละ นี่แค่เล่มเดียวนะจ๊ะ
ถ้าเป็นพวกมือโปร.ซะหน่อยก็ต้องมีร่วม 5 – 6 เล่มไม่รวมเหล็กลับมีดอีกต่างหาก

ช่วงที่เรียนปีแรกก็ต้องมี...ฝึกงาน ด้วยเหมือนกัน
แต่เป็นงานประเภทแรงงาน แบก ยก ล้าง...ล้างทุกอย่าง
จาน ชาม หม้อ กะทะ ตะหลิว กระบวย กระบอก ถาด...สารพัด
ต้องหัดล้างให้หมดจดทุกซอกทุกมุม
แล้วก็เช็ดให้แห้ง ยกไปเก็บให้เข้าที่เข้าทาง
เรียนรู้ระบบ ศัพท์เฉพาะต่างๆ ของห้องครัว
อย่างที่บอกเล่าไว้ในตอนต้นแล้วว่า น้องโดนัท ได้พยายามเข้าไปช่วยใน ร.ร.การอาหารนานาชาติ
ที่สอนการทำอาหารให้กับบุคคลธรรมดาในวันหยุด
ซึ่งเค้าจะสอนตั้งแต่เบสิค ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ
เลยได้ย้อนทบทวนความรู้ที่เรียนมาอีกรอบไปในตัวด้วย
บางเรื่องก็ได้เรียนรู้ล่วงหน้าไปก่อน
บางเรื่องก็ได้รู้เห็นเทคนิคใหม่ ๆ แปลก ๆ จากเชฟพิเศษที่มาสอนด้วย

.....ขอเตือนใจกันไว้ก่อนนะครับ...งานหนัก ถึงหนักมาก
ขนาดว่าลูกสาวผมออกแนว บึกถึก ตัวใหญ่ไซด์ฝรั่ง ยังกลับมาสลบทุกวัน
ใครที่สำอางค์ หรือสำออย ทำอาชีพนี้ไม่ได้ .......


กรรมทันตา อาชีพเชฟ...อาชีพทรหด 3
http://pantip.com/topic/30686306


อนณ 093-149-9564
tobeteam@yahoo.com
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่