กระทู้แรกในชีวิต ไม่เคยคิดจะเขียน แต่มันอัดอั้นจริง ๆ (ยาวหน่อยนะคะ)

    ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ จขกท.ทำงานด้านพัฒนาบุคลากรมาประมาณเกือบ 5 ปี ทำงานในบริษัทเอกชนมาหลายบริษัท ทำหน้าที่ทั้งประสานงาน ติดต่อสถาบัน หรือแม้แต่เป็นวิทยากรเอง จากประสบการณ์ที่เคยทำงานมา เราจะถูกสอนมาว่า พนักงานในบริษัทเปรียบเสมือนลูกค้า และลูกค้านี้ก็เปรียบเสมือนพระเจ้า(แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขและขอบเขตที่เราสามารถจัดการให้ได้) ถึงแม้จะไม่ได้เป็น Sales ที่ขายของโดยตรง แต่เราก็ขายบริการให้กับลูกค้าซึ่งก็คือพนักงานนั่นเอง
    
    และ.....ประสบการณ์ล่าสุดที่ได้พบ คือ การติดต่อกับสถาบันอบรมแห่งหนึ่ง ในการฝึกอบรมหลักสูตร "การขับโฟร์คลิฟท์อย่างถูกต้องและปลอดภัย"

    ขอเล่าตั้งแต่ต้นยาวไปเลยนะคะ (ขาดตกอะไรไป จะคอยเสริมไปเรื่อยๆ นะคะ)

    ช่วงต้นเดือนมีนาคม 2556 ที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ(ที่ จขกท.ทำงานอยู่ปัจจุบัน)มีแผนฝึกอบรมโฟร์คลิฟท์ให้กับพนักงานจำนวน 20 ท่าน และแผนกความปลอดภัยฯของบริษัทฯ ได้ส่งใบปลิวของบริษัทฯดังกล่าวมาให้ทางแผนกพัฒนาฯ ประจวบกับทางสถาบันอื่นๆไม่สะดวกในหลาย ๆ ด้านทั้งวันเวลาที่วิทยากรว่าง ลักษณะการสอนที่ผู้บริหารต้องการ จึงลองเปลี่ยนมาใช้ที่นี้ ซึ่งเราก็รู้สึกว่าเป็นความผิดของเราเหมือนกันที่ไม่ได้ขอ Observe ดูก่อน จึงสั่งให้น้องที่แผนกฯ ที่คอยช่วยงานเรา ติดต่อกับทางสถาบันนี้ ก็เรียบร้อยดีไม่มีติดขัดอะไร ตกลงกันเสร็จสรรพได้ อบรมในวันที่ 28 มีนาคม 2556

    และเมื่อถึงวันก่อนที่จะมีการฝึกอบรม 1 วัน.....
    ทางสถาบันดังกล่าว โทรศัพท์มาแจ้งว่า วิทยากรไม่สามารถมาอบรมให้ได้ โดยไม่ได้ระบุเหตุผลโดยชัดเจน แจ้งแค่ว่าวิทยากรท่านที่ตกลงกันไว้มาไม่ได้ จะส่งท่านอื่นมาแทน โดยมีเงื่อนไขว่า ทางบริษัทฯ จะต้องเตรียมอุปกรณ์ในการฝึกอบรมให้ เช่น เชือก และอื่น ๆ บลา ๆ ๆ  ซึ่งทางเราเห็นว่า ไม่ได้อยู่ในใบเสนอราคา และที่ผ่านมา สถาบันอื่น ๆ ที่เคยมาอบรมให้ ก็เตรียมเอง จึงบอกน้องไปว่า ให้โทรไปคุยกับเค้าว่า เราไม่สะดวก ไม่สามารถเตรียมให้ได้ ให้เลื่อนออกไป น้องก็โทรไปคุยได้วันมาใหม่ เป็นวันที่ 1 เม.ย. 2556
     และพอถึงวันที่ 1 เม.ย. ก็ไม่ได้อบรมอีก แต่เราจำเหตุผลไม่ได้ แต่ไม่ได้เกิดจากทางบริษัทฯเราแน่ ๆ จึงให้น้องโทรไปแจ้งว่า เราไม่เอาแล้ว แต่ประเด็นมันอยู่ที่....

    ทางบริษัทฯเราโอนเงินค่าฝึกอบรมไปให้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2556 - -'

    ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะต้องชำระเงินก่อนที่จะอบรม นอกเสียจากจะไม่ทันดีลของบัญชี ก็จะโทรไปขอผ่อนผันกับสถาบันอบรม

    หลังจากนั้น ก็มีการตามเงินคืนตลอด ตั้งแต่ให้น้องโทรไป ทางสถาบันนี้ก็แจ้งว่า คนรับผิดชอบไม่อยู่ ไว้กลับจะแจ้งคนรับผิดชอบให้ทราบ ก็ให้น้องตามอยู่เรื่อยมา

    ขอตัดมาในส่วนของเรา ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2556 เรากำลังหา CD เพื่อนำมาใช้อบรมความรู้พื้นฐานสำหรับพนักงานใหม่และพนักงานปฏิบัติการ เราได้ใบปลิวขายซีดีอบรมมาจากหัวหน้า ก็โทรติดต่อไปในวันที่ 7 พฤษภาคม 2556 เพื่อขอใบเสนอราคา ซึ่งก็ได้รับการพูดคุย ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี ทางสถาบันก็ส่งใบเสนอราคามาให้ในวันที่ 8 พ.ค. หลังจากที่ได้ใบเสนอราคามา เราก็เปิดดู พอดีน้องเดินมาเห็นพอดี น้องก็บอกว่า 'อ้าว บริษัทเดียวกันนี่พี่' เราก็ 'อ้าว เหรอ' มาดูก็เห็นว่า จริงด้วย ยังคุยกับน้องอยู่ว่า ให้เค้าคืนเงินมาก่อน แล้วจะซื้อซีดี

    หลังจากนั้นก็มีการตามเงินคืนมาตลอด วันที่ 9 พ.ค.ก็ยังให้น้องส่งอีเมลไป แล้วเราก็ช่วยน้องตาม โดยการโทรไปที่บริษัทนี้หลายครั้ง ครั้งแรก ๆ โทรไป ทางนั้นก็แจ้งเหมือนเดิมว่า คนรับผิดชอบไม่อยู่ จะแจ้งไว้ให้(แต่ก็ไม่เคยได้รับการติดต่อจากคนๆนี้กลับมาสักที)

    หลังจากวันที่ 9 พ.ค. สัก 3-4 วัน(เราไม่มั่นใจเรื่องวัน) เราก็โทรไปอีก มีผู้หญิงคนนึงรับ แล้วก็ให้เบอร์ติดต่อ(มือถือ)มา โดยบอกว่าคนที่รับผิดชอบบินไปหาดใหญ่ ตอนแรกโทรไปไม่ติด เหมือนปิดเครื่อง เราก็รออยู่หลายชั่วโมง โทรไปอีกครั้ง ทีนี่มีผู้หญิงรับ เขาก็บอกเราว่า เขาไม่รู้เรื่อง เราเลยโทรกลับไปที่ออฟฟิตอีกครั้ง ทางออฟฟิตก็ยืนยันให้โทรเบอร์นี้ เราก็โทรกลับไปที่มือถืออีก ทางนั้นก็บอกว่า ไม่รู้เรื่องจริง ๆ เราก็โทรกลับไปที่ออฟฟิตอีก (ตอนนี้เริ่มอารมณ์ขึ้นละ) ทางออฟฟิต(คนเดิม)ก็บอกว่า เดี๋ยวจะโทรไปบอกที่เบอร์มือถือว่าให้คุย ให้รอประมาณ 5 นาทีแล้วค่อยโทรไป เราก็รอ พอครบ 5 นาที เราก็โทรไป คนที่รับสาย(มือถือ)ก็คุยกับเราว่า เขาไม่รู้เรื่องจริง ๆ เค้าไม่ใช่คนรับผิดชอบเรื่องนี้ ต้องคุยกับอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังนั่งเครื่องบินตามมา เราก็เลยวาง แล้วโทรกลับไปที่ออฟฟิต (อารมณ์ขึ้นละ) เราก็คุยกับเขาว่า ตกลงยังไงกันแน่ ทำไมถึงให้ลูกค้าโทรกลับไปกลับมาอย่างนี้ ประโยคหนึ่งที่เราได้ยินจากคนในบริษัทที่เราเป็นลูกค้าของเขาก็คือ "หยุด ๆ คุณต้องทำตามที่ฉันพูด ไม่อย่างนั้น คุณจะไม่ได้อะไรที่คุณต้องการเลยแม้แต่อย่างเดียว" แล้วก็วางสายใส่เรา ทั้งที่เรากำลังจะคุยต่อ ซึ่งถ้าเค้าพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา เราก็คงจะไม่ว่า แล้วคิดว่าเราแรงเกินไป แต่นี่เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนโมโหแล้วตะโกนกลับมา
    สักพัก เบอร์มือถือที่เราโทรไป เขาก็โทรกลับมา บอกว่า เขาจะช่วยประสานงานให้ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่หน้าที่เขานะ แล้วก็บอกกับเราว่า ไม่ต้องโทรไปที่ออฟฟิตแล้ว มาถึงตอนนี้ อารมณ์เราลงแล้ว เพราะว่า คนนี้เขาคุยดี เราก็เลยเห็นใจเขา หลังจากนั้น เราก็คิดว่า คงไม่ได้คืนแน่ เลยบอกน้องว่า เรียกให้เขามาอบรมให้เสร็จ ๆ ไป จะได้ไม่มีอะไรติดค้างอีก แล้วเราก็คิดว่า เราจะไม่ซื้อ CD จากสถาบันนี้แล้ว ก็พยายามหาจากที่อื่นแทน

    ช่วงเวลาระหว่างที่ตามเงินคืน ทางบัญชีบริษัทฯเราก็ถามหาใบเสร็จรับเงินของเงินจำนวนนี้ เรื่องเริ่มจากพนักงานบัญชีกับน้องที่แผนกจนไปถึงผู้จัดการกับน้องที่แผนกฯ (และคิดว่าบัญชีที่บริษัทฯเราติดต่อไปทางสถาบันนั้นด้วย) น้องเราก็ตามอยู่เรื่อย ๆ จนในที่สุด ก็มาถึงวันนี้(13 มิถุนายน 2556) เราได้รับอีเมลฉบับหนึ่งมีใจความดังนี้

เรียน    1. กรรมการผู้จัดการบริษัท xxx  2. ผู้จัดการโรงงาน 3. ผู้จัดการฝ่ายงานฝึกอบรม
สำเนาถึง   คุณ(เราเอง), คุณ(น้องที่แผนก)

เรื่อง  ขอแลกเปลี่ยน การคืนเงินค่าฝึกอบรมขับรถยก เป็นการฝึกอบรมหลักสูตร เครน  หรือ
แลกกับ สื่อวีซีดี บันทึกการอบรมที่ทางโรงงานท่านเคยจะสั่งซื้อแทน

              สืบเนื่องจากการที่ทางบริษัท  xxx จำกัด ได้ชำระค่า ฝึกอบรมหลักสูตร การขับรถยกด้วยความปลอดภัย ไว้แต่ยังไม่ได้มีการฝึกอบรมดังกล่าว
โดยหนังสือฉบับนี้ จึงใคร่ขอความกรุณาให้ท่านพิจารณา ข้อเสนอต่อไปนี้แทน...
ขอแลกเปลี่ยน การคืนเงินค่าฝึกอบรมขับรถยก เป็นการฝึกอบรมหลักสูตร  เครน ตามที่คุณ(น้องที่แผนก) แจ้งไว้ในอีเมล์ครั้งก่อนว่า ที่รง.ท่านประสงค์จะเรียน หรือ..
แลกกับ สื่อวีซีดี บันทึกการอบรมที่ทางโรงงานท่านสนใจจะใช้โดยได้ขอใบเสนอราคาไปแล้ว ดูเอกสารแนบ

เนื่องจากทางบริษัทฯไม่สามารถจะคืนค่าอบรมแก่ท่านได้จริงๆ แม้ว่าทางเราอยากจะคืนเป็นเงินให้ท่านในวันนี้/ พรุ่งนี้ ก็ตาม

ดังนั้น จึงไคร่ขอความกรุณาท่าน ช่วยพิจารณาข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับท่านและทางเราพอจะบริหารจัดการงานนี้ให้ไท่านหากพิจารณาแล้ว  สนใจโอกาสทองที่จะมีแค่ครั้งเดียวนี้ กรอกใบสมัครที่แนบมาแล้วสแกน ส่งเมล์กลับมาได้เลยค่ะ
ราคาค่าฝึกอบรม หลักสูตรเครน 1 วัน ราคาสูงกว่าค่าฝึกอบรมรถยกมาก ส่วนค่าวีซีดี ที่ท่านสั่งซื้อก็ราคาพอๆกับค่าฝึกอบรมรถยกค่ะ
                         จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาข้อเสนออันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่ท่านจะได้รับแน่นอน  อีกทั้งการรับข้อเสนอนี้ก็เป็นหนทางเดียวที่ผู้จัดพอจะสามารถจัดการให้ท่านได้เร็วไวที่สุด


ขอแสดงความนับถือ
ชื่อผู้ส่งอีเมล/ หน.ฝ่ายประชาสัมพันธ์
02-748-xxx
085-661-xxxx
085-661-xxxx
084-716-xxxx
ปล. ผลการพิจารณาของทุกฝ่าย (ของฝ่ายที่เกี่ยวข้องนะคะ ไม่ใช่ของทางบัญชีฝ่ายเดียว) เป็นเช่นไร รบกวนตอบกลับเมล์นี้ด้วยนะคะ
--
Factory Safeclub co.,ltd.
Tel:  662 - 748 - xxxx  
Fax: 662 - 748 - xxxx
www.isohotnews.com

    ตรงที่ทำตัวหนากับขีดเส้นใต้ เขาทำมาให้เราเป็นตัวสีแปร๊ด ๆ ตัวหนาและขีดเส้นใต้ด้วยนะ เราก็เลยตอบอีเมลกลับเนื่องจากมีส่วนต่างอยู่ ดังนี้

เรียน ผู้ที่เกี่ยวข้อง

                อยากจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมว่า เงินส่วนต่างที่หักลบจากการซื้อซีดี จะจัดการอย่างไรค่ะ (ค่าฝึกอบรม 14,716 บาท, ค่าซีดี 12,572 บาท) และสืบเนื่องจากข้อความในจดหมาย(ด้านล่าง) ทางบริษัท มากอตโต จำกัด รู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ที่ทาง AD4 ได้ให้ความกรุณาให้โอกาสทองที่จะมีแค่ครั้งเดียวนี้ หรือ ข้อเสนอนี้ก็เป็นหนทางเดียว ก็ตามแก่เรา และทางผู้รับผิดชอบก็คิดว่า นี้คงเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายที่ทางบริษัท มากอตโต จำกัด จะได้ใช้บริการจากทาง AD4 ซึ่งได้ให้บริการเราอย่างน่าประทับใจอย่างไม่มีวันลืม

Do not hesitate to contact me if you have any questions,

Ms.xxx

    จริง ๆ แล้ว เราเองก็มีส่วนผิด ในช่วงที่โทรไปที่ออฟฟิต ที่ปล่อยให้อารมณ์ขึ้น และแสดงกิริยาทางน้ำเสียงที่ไม่เหมาะสม แต่รับรองว่า ไม่ได้ใช้คำหยาบเลย

    เสริมนิดหนึ่งว่า สถาบันนี้มีเว็บไซต์และโฆษณาไว้อย่างดี สำหรับคุณภาพที่เขาสามารถจัดให้ได้(ซึ่งเรามองว่า เกินจริง สคบ.น่าจะมาตรวจ 555)

    อ่านแล้วคิดเห็นอย่างไรกันบ้างค่ะ หรือเราเรื่องมากเกินไป???