คุณเชื่อใน "สันติภาพแท้" หรือเปล่า? แล้วเห็นด้วยไหมที่ "ไทย" ควรริเริ่มแนวคิดนี้เป็นต้นแบบแก่ชาวโลก?

หมายเหตุ : ผม Tag ปัญหาสังคม เพราะว่าเรื่องคนต่างชาติเข้าเมือง เป็นประเด็นที่หลายคนมองไปถึงอาชญากรรมรูปแบบต่างๆ ครับ

-------------------------------

ไม่นานนี้ มีโอกาสฟังบันทึกการสัมมนาทางวิชาการ ของคนภาค NGO กับนักวิชาการบางท่าน ( นักวิชาการจริงๆ เพราะแต่ละท่านมียศ เป็น ดร. เป็น ผศ. , รศ. ทั้งนั้น ) ว่าด้วยเรื่องมุมมองด้านชาติ และสันติภาพ

ในเวทีนี้ พวกเขาเห็นตรงกันว่า "โลกยุคใหม่มันควรจะลบความเป็นชาติ ไม่ว่าจะด้วยเชื้อชาติ หรืออาณาเขตประเทศออกไปได้แล้ว"

โดยยกตัวอย่างประเทศไทย ว่าโลกทัศน์ของคนไทยเรา ยังมองคนต่างชาติว่าเป็นปัญหาความมั่นคง ที่เห็นได้ชัดคือการจำกัดสิทธิการเดินทางของชาวพม่า ลาว กัมพูชา ที่มาทำงานในไทย ว่าจดทะเบียนที่ไหน ก็ให้อยู่ได้แค่พื้นที่นั้นๆ ( เช่นถ้าลงทะเบียนทำงานที่สมุทรสาคร ก็จะมาที่ กทม. ไม่ได้ )

หรือเด็กที่เป็นลูกของคนเหล่านี้ ก็ถือว่าเป็นบุคคลผิดกฏหมายตั้งแต่เกิด ต้องเอาไปเข้ากระบวนการต่างๆ ในการพิสูจน์สัญชาติก่อน ถึงจะถูกกฏหมาย และได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน ( เช่นการศึกษาหรือสาธารณสุข ) ซึ่งตามหลักสิทธิมนุษยชนแล้ว "ไม่ควรมีใครมีความผิดตั้งแต่เกิด"

และความหวาดระแวงนี้ หลังๆ ก็ลามไปถึงเชื้อชาติ - สัญชาติอื่นๆ ด้วย เช่นชาวบังกลาเทศ ( รวมทั้งโรฮิงญาที่มีความเป็นบังกลาเทศมากกว่าพม่า แต่บังกลาเทศไม่รับเป็นพลเมือง จนเป็นปัญหากับไทยอยู่ตอนนี้ ) หรือคนผิวดำ , คนละตินอเมริกาที่มาอยู่ประเทศไทย และหรือแม้กระทั่งคนผิวขาว ( ทั้งฝรั่งและเอเชียตะวันออก ) ซึ่งคนไทยระแวงว่าคนเหล่านี้จะเข้ามาก่อปัญหา แล้วก็ไปออกกฏระเบียบโน่นนี่นั่นเป็นการเฝ้าระวัง

บางท่านในกลุ่มนี้ บอกว่าคนไทยเราถูกครอบงำเรื่อง "ความเป็นชาิติ" มาได้เพียงร้อยกว่าปีเท่านั้น และช่วงที่้เด่นชัดที่สุดคือสมัย "2 จอมพล" ( แปลก พิบูลย์สงคราม + สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ) ที่รัฐไทยได้ทำการ "กวาดล้างและจำกัด" อัตลักษณ์อื่นๆ เพื่อให้เหลือความเป็น "ไทยเดียว" อย่างที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน และคนสมัยนี้ก็ดันเชื่อว่าชาิติไทยเราเ็ป็นแบบนี้จริงๆ

จากนั้นก็ยกตัวอย่างไปที่ "สหภาพยุโรป" ( EU ) โดยบอกว่าที่นั่นเขาถือว่า "ความเป็นชาติ หรือชาตินิยมเป็นสิ่งเลวร้าย เพราะขัดขวางการมีสันติภาพ" ( ย้ำว่าใช้คำว่า "ชาตินิยม" ไม่ใช่ "คลั่งชาติ" ) ดังนั้นกลุ่ม EU จึงสลายพรมแดนของแต่ละชาติ แล้วรวมกันเป็นหนึ่งเดียว

และสรุปว่า..รัฐบาลและคนไทย ควรจะไปให้พ้นจากคำว่าประเทศ , เส้นพรมแดน , เชื้อชาติ ฯลฯ อะไรพวกนี้ได้แล้ว เพราะแต่เดิมมนุษย์เราไม่ว่าที่ไหน หรือแม้แต่ดินแดนแถบนี้ ไม่มีคำว่าการแบ่งชาติ ยกตัวอย่างสมัยอยุธยา เรามีขุนนางทั้งจีน , เปอร์เซีย ( อิห ) , ฝรั่งเศส , ญี่ปุ่น ฯลฯ ชี้ให้เห็นว่าเราเพิ่งถูกแบ่งแยก เมื่อไม่นานนี้เท่านั้น แต่คนรุ่นหลังไปคิดเอาเองว่าเราเป็นแบบนี้ และเราควรจะเป็นต่อไป

--------------------------

บอกตรงๆ หลังฟังจบ  ผมเครียดครับ

จะว่าผมถูกล้างสมองจาก ปวศ. ยุคชาตินิยมก็แล้วแต่เถอะ แต่ผมไม่เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว "สันติภาพแท้" ซึ่งหมายถึงทั้งโลกรวมกันเป็นหนึ่ง ไม่แ่บ่งแยกเขา - เรา จะเกิดขึ้นได้จริง

ถ้าใครมาถามว่าทุกวันนี้โลกไม่มีสันติภาพหรอ? ผมบอกเลยว่าไม่มี ที่เราสงบๆ กันนี่ คือเราอยู่ใน "ข้อตกลงหยุดยิง" ระหว่างกันเท่านั้น ไม่มีประเทศไหนเป็นมิตรกันจริงๆ พิสูจน์ได้จากรัฐใหญ่ก็ดี รัฐเล็กก็ดี ยังคงสะสม และคิดค้นเทคโนโลยีด้านอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง

( ผมเขียนไว้ในกระทู้เก่า อันนี้ครับ http://pantip.com/topic/30486253 )

ต่างฝ่ายต่างตรึงกำลังเพื่อให้สมดุลอำนาจในพื้นที่ของตนยังอยู่ เพราะเมื่อแต่ละฝ่าย แต่ละรัฐมีแสนยานุภาพที่เข้มแข็งไม่ต่างกัน อย่ากระนั้นเลย หยุดยิงแล้วมาทำสัญญาร่วมในการทำธุรกิจ - ค้าขายกันดีกว่า

สิ่งเหล่านี้เป็นได้แค่ "สันติภาพเทียม" เท่านั้น เพราะแต่ละฝ่าย แต่ละรัฐ ยังมีความหวาดระแวงต่อกัน ถึงต้องมีการจัดหา หรือพัฒนาอาวุธใหม่ๆ ทำลายล้างสูง ขึ้นมาครอบครองไว้ให้อุ่นใจ

หรือด้านการจำกัดการไหลเข้าของประชากรต่างชาติ ด้วยความที่ทรัพยากรในแต่ละรัฐมีจำกัด แม้กระทั่งพื้นที่ก็มีจำกัด รัฐบาลจึงดูแลได้แค่คนที่ถือสัญชาติท้องถิ่น ( หรืออีกนัยหนึ่งคือคนที่มีเชื้อชาติของประเทศนั้นๆ ก็คือคนท้องถิ่นนี่ะ ) การจะปล่อยให้คนจากที่อื่นไหลเข้ามาอยู่ถาวร ย่อมส่งผลกระทบได้ โดยเฉพาะประเทศรัฐขนาดกลางและขนาดเล็กทั้งหลาย

รวมทั้งปัญหาการมีวัฒนธรรมที่ขัดกับ "นิสัยอันพึงประสงค์" ของคนท้ิองถิ่น ซึ่งประเด็นนี้กลุ่มประเทศ EU กำลังปวดหัวมาก เพราะความที่ประกาศแนวนโยบายแห่งรัฐ โดยยกเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นอันดับ 1 เหนือเชื้อชาติหรือเส้นพรมแดน ทำให้คนจากทุกมุมโลก ต้องการจะอพยพเข้าไปอยู่ในกลุ่มประเทศ EU และจากนั้นก็ไปก่อปัญหามากมายให้กับคนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นโสเภณี อาชญากรรม ยาเสพติด คนเร่ร่อน และการไม่ยอมทำงานทำการ เอาแต่จะรอรับสวัสดิการสังคม ( ที่เราก็ทราบกันดีว่า EU รัฐสวัสดิการเขาดีมาก ตกงานยังมีเงินใช้ )

กลับมาทีอาเซียน "สิงคโปร์" ประเทศที่เจริญที่สุดในย่านนี้ ก็ยังไม่อยากให้มีคนต่างชาติเข้าไปอยู่อาศัย เพราะเข้าไปแล้วทำให้เมืองดูไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ( เคยมีคนเอาภาพชุมชนไทยในสิงคโปร์มาลง คือมันเหมือนชุมชนแออัด หรือเคยมีข่าวว่ามีหญิงไทยลักลอบเข้าไปค้าประเวณีในสิงคโปร์ ) แต่ก็เลือกไม่ได้มากนัก เพราะ 1.คนสิงคโปร์ความรู้สูง ไม่มีใครอยากทำงานระดับล่าง 2.สิงคโปร์ก็เหมือนประเทศโลกที่ 1 อื่นๆ ที่มีปัญหาประชากรเกิดน้อย

ยังไม่ันับว่าแต่ละชาติที่ดูจะเจริญขึ้นหน่อย ดีกว่าเพื่อนบ้านรอบภูมิภาค ต่างก็มีมาตรการกีดกันคนต่างชาติทั้งนั้น

ดังนั้นผมถึงถามทุกท่านนี่ะครับ..เห็นด้วยกับ NGO และนักวิชาการกลุ่มนี้ไหม? ที่ว่าไทยควรจะเปลี่ยนมุมมองใหม่เรื่องคนต่างชาติ ด้วยการลบอคติที่เกิดจากการแบ่งเขาแบ่งเรา อันนำไปสู่กฏหมายกีดกันต่างๆ ที่บัญญัติออกมา เพื่อให้ไทยเป็นจุดแรกในโลกที่ริเริ่มเรื่องสันติภาพที่แท้จริง

เห็นด้วยไหมครับ?