เมื่อไรหนอ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยจะเลิกทำตัวราวกับคนซัดเซพเนจรบินว่อนไปมาเสียที เมื่อไรหนอนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยจะตั้งอกตั้งใจบริหารประเทศชาติให้สมตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหาร เพราะตั้งแต่นายกรัฐมนตรีคนนี้ขึ้นมารับตำแหน่งตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554 จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ปรากฏเป็นหลักเป็นฐานว่าเธอบริหารประเทศโดยมีประสิทธิภาพแต่ประการใด

                คำตอบที่คนไทยต้องการทราบจากปากนายกรัฐมนตรีหญิงก็คือ ทำไมไม่บริหารประเทศให้เต็มกำลังสุดความสามารถ หรือถ้าหากเธอจะตอบว่า ก็ดิฉันมีกำลังเพียงเท่านี้ จึงบริหารได้เท่าที่เห็น ก็โปรดตอบมาตรง ๆ

                มีความจริงเชิงประจักษ์คือ นายกรัฐมนตรีหญิงรายนี้นิยมการเดินสายไปต่างประเทศมากกว่าการเข้ารัฐสภา จึงทำให้มีข้อสรุปจากสาธารณชนว่า นายกรัฐมนตรีผู้นี้ไม่ชอบเข้ารัฐสภา แต่ชอบการเดินทางไปเยือนต่างประเทศมากกว่า ส่วนไปเยือนแล้วประเทศชาติได้ผลประโยชน์อันใดนั้น ยังไม่มีความชัดเจนแม้แต่น้อย

                นายกรัฐมนตรีอาจจะเข้าใจว่าการไปเยือนต่างชาติ เท่ากับไปสานสัมพันธไมตรีทวิภาคีให้แน่นแฟ้น แต่นายกรัฐมนตรีต้องไม่ลืมว่า ประเทศต่าง ๆ ที่ตนและพรรคพวกเดินทางไปเยือนนั้น เขาต้องทราบเบื้องหน้าเบื้องหลังของรัฐบาลไทยเป็นอย่างดี เขารู้จักดีว่าประเทศไทยเป็นอย่างไร คนไทยเป็นอย่างไร และนายกรัฐมนตรีไทยเป็นอย่างไร ขอย้ำว่าต่างชาติเขามิได้โง่เขลา แต่เขารักษามารยาทจึงไม่อยากฉีกหน้ากันตรง ๆ

                แน่นอนว่าการที่รัฐบาลไทยขอไปเยือนเขา หรือการที่รัฐบาลของเขาเชิญรัฐบาลไทยไปเยือนนั้น มันต้องมีที่มาที่ไปอย่างแน่นอน การที่เขาเชิญรัฐบาลไทยไปเยือนก็เพราะเขารู้ว่าบ้านเมืองของเขาต้องได้ผลประโยชน์ตอบแทนในอนาคต แต่คำถามมุมกลับคือ แล้วการที่รัฐบาลไทยขอไปเยือนประเทศอื่นนั้น ประเทศไทยได้ผลประโยชน์อะไรบ้าง ไม่ว่าผลประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ หรือไกล

                ขอตั้งคำถามให้นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะตอบให้ชัดว่า นายกรัฐมนตรีประเมินคุณประโยชน์เป็นรูปธรรมได้ไหมว่า การขยันเดินทางไปเยือนต่างประเทศเป็นประจำแบบถี่ยิบนั้น มันช่วยสร้างคุณประโยชน์อันใดให้ชาติบ้านเมืองไทยบ้าง

                ย้อนกลับไปที่งานสำคัญของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีหญิงจงใจดูดายมาโดยตลอดก็คือการแถลงนโยบายรัฐบาลหลังบริหารประเทศครบ 1 ปี มีผู้คนมากมายถามกันว่าทำไมรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีหญิงจึงประวิงเวลาการแถลงนโยบาย ทั้ง ๆ ที่ประกาศแบบโฆษณาชวนเชื่อมาโดยตลอดว่า รัฐบาลชุดนี้มีผลงานสุดวิเศษมากมายมหาศาล หากผลงานรัฐบาลวิเศษวิโสจริง ๆ แล้ว เหตุใดจึงไม่แถลงผลงานให้ประชาชนรับทราบ หรือกลัวว่าเมื่อแถลงไปแล้วจะกลายเป็นขยายความไม่ชอบมาพากลให้ประชาชนได้รับรู้

                นักข่าวในกลุ่มประเทศอาเซียนหลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมนายกรัฐมนตรีไทยจึงเดินทางไปต่างประเทศบ่อยมาก มากเสียจนเกิดคำถามตามมาว่า นายกรัฐมนตรีไม่อยู่ประเทศบ่อยเช่นนี้ แล้วใครบริหารราชการบ้านเมือง หรือว่าจริง ๆ แล้วนายกรัฐมนตรีหญิงไม่จำเป็นต้องบริหารราชการบ้านเมือง เพราะมีผู้อื่นทำหน้าที่แทน

                เมื่อไรหนอที่นายกรัฐมนตรีหญิงของไทยจะรู้บทบาทหน้าที่สำคัญของตนเองเสียที แล้วหันกลับไปทำหน้าที่ให้เหมาะสมกับสถานภาพ บอกตรง ๆ คนที่เขาวิพากษ์วิจารณ์ความไม่เอาถ่านของนายกรัฐมนตรีนั้นเขาต่างบ่นคล้าย ๆ กันว่า ติติงไปก็เท่านั้น เพราะดูเสมือนการตัดน้ำรดหัวตอ ใจจริงไม่อยากติติงเลย แต่จนใจที่เธอเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าหากเป็นคนทั่วไปแล้ว รับรองว่าจะไม่แตะต้องแม้แต่น้อย

ที่มา:http://www.naewna.com/politic/columnist/6944

ปล.ไม่ต้องมีคำบรรยาย.....เอิ๊ก ๆ ๆ