No.28
จั่วหัว : ค้นหาปริศนาซ่อนเงื่อน ดำเนินเรื่องฉับไว ภาพแสงสีจัดจ้าน พร้อมดราม่าท่ามกลางเสน่ห์แห่งมายากล
Now you see me : อาชญากล ปล้นโลก
คมนิด จี๊ดเลย : ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย
Napat's Rating : (B-) , 7.5 /10
Update เรื่องหนัง ทันใจ คลิิกLIKE!! : https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans
- คำเตือน : นี่คือเรตติ้งและความคิดเห็นส่วนตัวหลังชมหนังของผมคนเดียวเท่านั้น ย้ำว่าส่วนตัวนะครับ บางคนเห็นตรง บางคนอาจเห็นต่าง ถือว่าเอามาแลกเปลี่ยนทัศนะกันเฉยๆ โปรดอย่าได้ถือสากับคำวิจารณ์ของผมเลยนะครับ เพราะเป็นเพียงอีกหนึ่งเสียงจากการชมหนังในฐานะคนดูหนังธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น -
จากใจ..ถึงหนังเรื่องนี้ : นับเป็นหนังอีกเรื่องที่ทำตัวอย่างออกมาได้น่าดูมาก ด้วยแสงสีที่จัดจ้าน และเสน่ห์แพรวพราวของโลกแห่งเมจิก หรือมายากลนั้น มันช่างน่าดึงดูดให้เรามาตีตั๋วเข้าชมเรื่องนี้เสียนี่กระไร
พอได้ชมมาแล้ว ก็คิดว่าหนังทำได้ดีทีเดียวในแง่ของความสนุก เดินเรื่องฉับไว ไม่น่าเบื่อตลอดเรื่อง แถมยังมีภาพล้ำๆ การกำกับภาพที่Alertมากๆในหลายๆฉาก ทำให้เราแทบจะวิ่งเต้นไปกับตัวละครในเรื่องด้วย รวมถึงแสงสีที่ทำออกมาได้อลังการมาก รู้สึกเห็นถึงเสน่ห์ของคำว่ามายากลจนสามารถเพ้อออกมานอกโรงหลังหนังจบได้
ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ดูแล้ว สมน้ำสมเนื้อแบบในตัวอย่าง ไม่มีอะไรเซอร์ไพรต์มากนักจนเหวอช๊อค แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเซอร์ไพรต์เลยซะทีเดียว ด้วยความที่มายากลมันดูลึกลับซ่อนเงื่อนอยู่แล้ว การเล่าเรื่องนี้ที่เหมือนกับพล๊อตหนังโรบินฮู้ด ที่เป็นฮีโร่ฝ่ากฏหมาย แต่ทำสิ่งที่เอื้อประโยชน์ให้กับประชาชน ในกรณีเรื่องนี้คือ ใช้กลปล้นเงินมาแจกชาวบ้านไปทั่ว ถือว่าเป็นการเล่าแบบเหล้าเก่าในขวดใหม่ได้อย่างน่าจับตา มีไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อย และต้องชื่นชมว่าเล่นกับคอนเซป "มายากล" ได้ดีมาก
สิ่งที่ชอบสำหรับเรื่องนี้คือ แสงสี จังหวะเดินเรื่อง ลำดับภาพฉับไว แต่ดูไม่มึนงงปวดหัว รวมถึงนักแสดงเก๋าๆอย่างเจสซี่ ไอเซนเบิร์ก จากเจ้าพ่อเฟซบุ๊ค กลายเป็นเจ้าพ่อมายากล ด้วยท่าทางเนิร์ดๆแบบเดียวกัน มาร์ค รัฟเฟอโรว์ จากเดอะ ฮัล์ค มาเป็นเอฟบีไอ และที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คึอการประชันกันระหว่างสองดาราใหญ่อย่างไมเคิล เคน และมอร์แกน ฟรีแมน ที่ประหนึ่งหลุดออกมาจากหนัง The Dark Knight ทั้งคู่ มาเป็นคู่ปรับกันเอง ลองไปดูในโรง ถือว่าน่าจับตามากในฉากที่เขาทั้งสองมาดวลกัน และหนังยังมีข้อดีอีกอย่างคือดนตรีประกอบของ ไบรอัน ไทเลอร์ ที่ผมเพิ่งฟินไปจากงานดนตรีไอรอนแมน 3 มาเรื่องนี้ผลงานทิ้งช่วงไม่ห่างกันนัก แต่ไบรอันก็สามารถส่งดนตรีที่ชวนค้นหาคำตอบที่ซ่อนเงื่อน ชวนระทึก ชวนไม่นิ่งนอนใจ และชวนสงสัยได้ตลอดเวลา น่าจดจำได้ดีทีเดียว
แต่กระนั้นผลงานเรื่องนี้ก็ยังมีข้อเสียตรงที่หนังยังไม่พีคเท่าที่ควร มีปริศนาบางอย่างที่ยังไม่เคลียร์ และบางส่วนของเนื้อเรื่องก็ดูเว่อร์เกินจนขาดความสมจริงทางด้านบทไป แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่อภัยได้ เพราะภาพมันชวนลุ้นต่อมากกว่าการที่จะมานั่งจับผิดอยู่ที่บางฉาก ก็ถือว่าดูเอามันส์เพลินๆได้ตลอดเรื่อง แต่ก็ยังไม่จี๊ดพอจนน่าจดจำประทับไว้อยุ่ในใจ
และท้ายที่สุดที่จะอดกล่าวถึงไม่ได้คือผู้กำกับเรื่องนี้ นั่นคือ หลุยส์ เลอเตอร์ลิแย ที่เคยผ่านงานกับ The Transporter,The Incredible HULK และ Clash of the Titans ซึ่งแม้ว่างานของแก หลายคนมักจะก่นด่า แต่เอาจริงๆแล้ว ผมค่อนข้างแอบเชียร์ผู้กำกับคนนี้อยู่ลึกๆนะ เพราะด้วยวิชชั่นการนำเสนอหนังของตาคนนี้ มันมักจะมีอะไรที่น่าจดจำและไม่ธรรมดาอยู่เสมอ แม้ว่าแทบทุกเรื่องมักจะไปมีปัญหาที่บททั้งนั้น แต่เขาก็สามารถเล่าหนังออกมาได้สนุก และทำให้เราไม่เบื่อได้ รวมถึงจะมีช๊อตภาพที่น่าจดจำเป็นบางครั้ง แต่ถ้าในอนาคต เขาได้เจอบทที่ดีกว่านี้ และพัฒนาฝีมือจนแก่กล้ากว่านี้ ผลงานของเขาคนนี้อาจจะส่งให้เขาได้กลายเป็นผู้กำกับหนังตลาดชั้นนำของฮอลลีวู้ดอีกคนในวันนึงก็เป็นได้
ปล.สุดท้ายนี้ ขอฝากหนังสั้น(+เบื้องหลัง)ชวนตีความเรื่องนึงไว้ให้ชมกันนะครับ ควรตั้งใจดูและคิดตามไปด้วย น่าจะได้อะไรกลับไปขบคิดกันบ้างไม่มากก็น้อยครับ
และขอฝากหนังตัวอย่างทีเซอร์ "หนังซอมบี้-ไซไฟ" ผลงานเรื่องใหม่ของผมไว้ด้วยนะคร้าบ คาดว่าจะมาในช่วงเดือนสิงหาคมครับ
อันนี้ตัวอย่างหนัง "Now you see me" ครับ
ติดตามผลงานรีวิวอื่นๆและผลงานหนังสั้นต่อได้ที่นี่ครับ
ใครชอบอ่านรีวิวหรืออยากติดตามเรื่องราวข่าวสารดีๆจากผม
ผมจะไป"แชร์"ให้ทุกท่านโดยตรงในเพจด้านล่างนี้นะคร้าบ มาLikeเยอะๆนะคร้าบ คลิกไปแล้วไม่ผิดหวังครับ!!
https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans
https://www.facebook.com/S.L.Studios.Ent
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ
Now you see me ดราม่าท่ามกลางเสน่ห์แห่งมายากล [รีวิว+ไม่สปอยส์]
No.28
จั่วหัว : ค้นหาปริศนาซ่อนเงื่อน ดำเนินเรื่องฉับไว ภาพแสงสีจัดจ้าน พร้อมดราม่าท่ามกลางเสน่ห์แห่งมายากล
Now you see me : อาชญากล ปล้นโลก
คมนิด จี๊ดเลย : ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย
Napat's Rating : (B-) , 7.5 /10
Update เรื่องหนัง ทันใจ คลิิกLIKE!! : https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans
- คำเตือน : นี่คือเรตติ้งและความคิดเห็นส่วนตัวหลังชมหนังของผมคนเดียวเท่านั้น ย้ำว่าส่วนตัวนะครับ บางคนเห็นตรง บางคนอาจเห็นต่าง ถือว่าเอามาแลกเปลี่ยนทัศนะกันเฉยๆ โปรดอย่าได้ถือสากับคำวิจารณ์ของผมเลยนะครับ เพราะเป็นเพียงอีกหนึ่งเสียงจากการชมหนังในฐานะคนดูหนังธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น -
จากใจ..ถึงหนังเรื่องนี้ : นับเป็นหนังอีกเรื่องที่ทำตัวอย่างออกมาได้น่าดูมาก ด้วยแสงสีที่จัดจ้าน และเสน่ห์แพรวพราวของโลกแห่งเมจิก หรือมายากลนั้น มันช่างน่าดึงดูดให้เรามาตีตั๋วเข้าชมเรื่องนี้เสียนี่กระไร
พอได้ชมมาแล้ว ก็คิดว่าหนังทำได้ดีทีเดียวในแง่ของความสนุก เดินเรื่องฉับไว ไม่น่าเบื่อตลอดเรื่อง แถมยังมีภาพล้ำๆ การกำกับภาพที่Alertมากๆในหลายๆฉาก ทำให้เราแทบจะวิ่งเต้นไปกับตัวละครในเรื่องด้วย รวมถึงแสงสีที่ทำออกมาได้อลังการมาก รู้สึกเห็นถึงเสน่ห์ของคำว่ามายากลจนสามารถเพ้อออกมานอกโรงหลังหนังจบได้
ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ดูแล้ว สมน้ำสมเนื้อแบบในตัวอย่าง ไม่มีอะไรเซอร์ไพรต์มากนักจนเหวอช๊อค แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเซอร์ไพรต์เลยซะทีเดียว ด้วยความที่มายากลมันดูลึกลับซ่อนเงื่อนอยู่แล้ว การเล่าเรื่องนี้ที่เหมือนกับพล๊อตหนังโรบินฮู้ด ที่เป็นฮีโร่ฝ่ากฏหมาย แต่ทำสิ่งที่เอื้อประโยชน์ให้กับประชาชน ในกรณีเรื่องนี้คือ ใช้กลปล้นเงินมาแจกชาวบ้านไปทั่ว ถือว่าเป็นการเล่าแบบเหล้าเก่าในขวดใหม่ได้อย่างน่าจับตา มีไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อย และต้องชื่นชมว่าเล่นกับคอนเซป "มายากล" ได้ดีมาก
สิ่งที่ชอบสำหรับเรื่องนี้คือ แสงสี จังหวะเดินเรื่อง ลำดับภาพฉับไว แต่ดูไม่มึนงงปวดหัว รวมถึงนักแสดงเก๋าๆอย่างเจสซี่ ไอเซนเบิร์ก จากเจ้าพ่อเฟซบุ๊ค กลายเป็นเจ้าพ่อมายากล ด้วยท่าทางเนิร์ดๆแบบเดียวกัน มาร์ค รัฟเฟอโรว์ จากเดอะ ฮัล์ค มาเป็นเอฟบีไอ และที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คึอการประชันกันระหว่างสองดาราใหญ่อย่างไมเคิล เคน และมอร์แกน ฟรีแมน ที่ประหนึ่งหลุดออกมาจากหนัง The Dark Knight ทั้งคู่ มาเป็นคู่ปรับกันเอง ลองไปดูในโรง ถือว่าน่าจับตามากในฉากที่เขาทั้งสองมาดวลกัน และหนังยังมีข้อดีอีกอย่างคือดนตรีประกอบของ ไบรอัน ไทเลอร์ ที่ผมเพิ่งฟินไปจากงานดนตรีไอรอนแมน 3 มาเรื่องนี้ผลงานทิ้งช่วงไม่ห่างกันนัก แต่ไบรอันก็สามารถส่งดนตรีที่ชวนค้นหาคำตอบที่ซ่อนเงื่อน ชวนระทึก ชวนไม่นิ่งนอนใจ และชวนสงสัยได้ตลอดเวลา น่าจดจำได้ดีทีเดียว
แต่กระนั้นผลงานเรื่องนี้ก็ยังมีข้อเสียตรงที่หนังยังไม่พีคเท่าที่ควร มีปริศนาบางอย่างที่ยังไม่เคลียร์ และบางส่วนของเนื้อเรื่องก็ดูเว่อร์เกินจนขาดความสมจริงทางด้านบทไป แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่อภัยได้ เพราะภาพมันชวนลุ้นต่อมากกว่าการที่จะมานั่งจับผิดอยู่ที่บางฉาก ก็ถือว่าดูเอามันส์เพลินๆได้ตลอดเรื่อง แต่ก็ยังไม่จี๊ดพอจนน่าจดจำประทับไว้อยุ่ในใจ
และท้ายที่สุดที่จะอดกล่าวถึงไม่ได้คือผู้กำกับเรื่องนี้ นั่นคือ หลุยส์ เลอเตอร์ลิแย ที่เคยผ่านงานกับ The Transporter,The Incredible HULK และ Clash of the Titans ซึ่งแม้ว่างานของแก หลายคนมักจะก่นด่า แต่เอาจริงๆแล้ว ผมค่อนข้างแอบเชียร์ผู้กำกับคนนี้อยู่ลึกๆนะ เพราะด้วยวิชชั่นการนำเสนอหนังของตาคนนี้ มันมักจะมีอะไรที่น่าจดจำและไม่ธรรมดาอยู่เสมอ แม้ว่าแทบทุกเรื่องมักจะไปมีปัญหาที่บททั้งนั้น แต่เขาก็สามารถเล่าหนังออกมาได้สนุก และทำให้เราไม่เบื่อได้ รวมถึงจะมีช๊อตภาพที่น่าจดจำเป็นบางครั้ง แต่ถ้าในอนาคต เขาได้เจอบทที่ดีกว่านี้ และพัฒนาฝีมือจนแก่กล้ากว่านี้ ผลงานของเขาคนนี้อาจจะส่งให้เขาได้กลายเป็นผู้กำกับหนังตลาดชั้นนำของฮอลลีวู้ดอีกคนในวันนึงก็เป็นได้
ปล.สุดท้ายนี้ ขอฝากหนังสั้น(+เบื้องหลัง)ชวนตีความเรื่องนึงไว้ให้ชมกันนะครับ ควรตั้งใจดูและคิดตามไปด้วย น่าจะได้อะไรกลับไปขบคิดกันบ้างไม่มากก็น้อยครับ
และขอฝากหนังตัวอย่างทีเซอร์ "หนังซอมบี้-ไซไฟ" ผลงานเรื่องใหม่ของผมไว้ด้วยนะคร้าบ คาดว่าจะมาในช่วงเดือนสิงหาคมครับ
อันนี้ตัวอย่างหนัง "Now you see me" ครับ
ติดตามผลงานรีวิวอื่นๆและผลงานหนังสั้นต่อได้ที่นี่ครับ
ใครชอบอ่านรีวิวหรืออยากติดตามเรื่องราวข่าวสารดีๆจากผม
ผมจะไป"แชร์"ให้ทุกท่านโดยตรงในเพจด้านล่างนี้นะคร้าบ มาLikeเยอะๆนะคร้าบ คลิกไปแล้วไม่ผิดหวังครับ!!
https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans
https://www.facebook.com/S.L.Studios.Ent
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ