สวัสดีค่ะ พี่ๆเพื่อนๆ ทุกท่าน
วันนี้มีตอนแรกของ หลอน 4.1 : ตัด (เงาที่ไม่มี...ศีรษะ) มาฝากค่ะ
**********************************************************************
หลอนตอนที่ 3.3 : ลอง (จบตอน)
http://pantip.com/topic/30430516
หลอนตอนที่ 3.2 : ลอง
http://pantip.com/topic/30391389
หลอนตอนที่ 3.1 : ลอง
http://pantip.com/topic/30371216
หลอนตอนที่ 2.2 : เงา (จบตอน)
http://pantip.com/topic/30360317
หลอนตอนที่ 2.1 : เงา
http://pantip.com/topic/30340591
หลอนตอนที่ 1 : รอคอย
http://pantip.com/topic/30303497
***********************************************************************
~~ 321 คาเฟ่ ~~
4.1 : ตัด (เงาที่ไม่มี...ศีรษะ)
บนถนนคอนกรีตค่อนข้างคับแคบในซอยเปลี่ยวที่สองข้างทางอุดมไปด้วยป่าละเมาะและพื้นที่ว่างที่มีขยะเสื่อมโทรมถูกทิ้งร้างสลับกันเป็นระยะ รถมอเตอร์ไชค์สี่สูบคันใหญ่หลายคันวิ่งไล่กวดประลองความเร็วกันเสียงดังสนั่นไปทั่วถนนในยามค่ำคืนหลายต่อหลายครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลับไปกลับมา
เนื่องจากบริเวณท้ายซอยเป็นที่ว่างค่อนข้างกว้างสามารถขับวนไปมาได้อย่างสะดวก แถมยังไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกล้ำกลาย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวันนั้นสร้างความรำคาญใจให้ผู้คนในละแวกนั้นที่มีบ้านอยู่ห่างๆตลอดสองฟากฝั่งแนวถนนอยู่เป็นประจำ เสียจนแทบจะกลายเป็นความเคยชินทุกเมื่อเชื่อวัน
คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่เสียงเหล่านี้ยังคงดังไม่หยุดหย่อนเช่นเดิม คืนแห่งความน่ารำคาญใจของพีรัช ที่มีบ้านหลังใหญ่อยู่เกือบสุดซอย บ้านที่เป็นมรดกของครอบครัวที่เขาจำใจต้องมาอยู่เพราะเป็นสถานที่แห่งความทรงจำระหว่างเขาและรรินดา..ภรรยาที่เสียชีวิตไปเกือบสองปีก่อน บ้านที่เขาต้องอาศัยคนเดียวอย่างเปลี่ยวเหงา
“ไอ้พวกนี้มันมาอีกแล้ว บัดซบจริงๆ”
พีรัชสบถเสียงขุ่นหลังจากแอบมองลอดหน้าต่างที่มีผ้าม่านสีเข้มปิดกั้นไม่ให้ผู้ใดเห็นภายในบ้านได้
“สามทุ่มสี่สิบ ตรงเวลาจริงๆ ไอ้พวกว่างงานเอ๊ย ไม่มีอะไรทำรึยังไงไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจคนอื่นบ้าง”
พีรัชเหลือบดูนาฬิกาข้างฝาผนังแล้วทุบโต๊ะอย่างขุ่นเคืองใจเป็นที่สุด ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้นอกจากเฝ้ามองเจ้าพวกเศษสวะซ้ำไปซ้ำมาทุกคืนอย่างเริ่มจะอดรนทนไม่ไหว ชายหนุ่มวัยสามสิบปีที่ดูดีทุกกระเบียดนิ้วสำรวจตรวจตราสภาพของตนเองก่อนจะหยิบกุญแจรถยุโรปสี่ประตูสีดำสนิทออกไปจากบ้านอย่างเคย ในมือมีโทรศัพท์มือถือเครื่องใหญ่ที่พร้อมจะสั่งงานอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลาพร้อมกับปืนเก็บเสียงขนาดเล็กที่เหน็บบั้นเอวเอาไว้ป้องกันตัว
ทันทีที่รถยุโรปสุดหรูสีดำของพีรัชเลี้ยวซ้ายออกถนนใหญ่ที่การจราจรเริ่มบางตา มอเตอร์ไซค์สี่สูบสีแดงเพลิงตัดขาวที่มีคนขับรูปร่างสูงใหญ่สวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้ามิดชิดก็เริ่มขับตามออกไปอย่างไม่ลดละเช่นกัน...
สี่สิบแปดชั่วโมงต่อมา...
เวลาบ่ายคล้อย แสงแดดยังคงแรงกล้า แต่ผู้คนมากมายต่างพากันมามุงดู สังเกตการณ์แถวบริเวณบึงน้ำขนาดใหญ่ปากซอยบ้านของพีรัช เต็มไปหมด หน่วยกู้ภัยกำลังลำเลียงศพที่มีสภาพขึ้นอืดซีดขาวขึ้นมาไม่ไกลจากบริเวณบึงน้ำ หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่มาตกปลาแล้วพบเห็นคนจมน้ำสภาพคว่ำหน้าขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว
ชาญ.. ก้าวลงจากรถเก๋งญี่ปุ่นสีขาวส่วนตัวอย่างเร่งรีบแล้วเข้ามายังจุดเกิดเหตุ ทันทีที่ฝ่าฝูงกำแพงคนเข้ามายังจุดเกิดเหตุที่บริเวณริมบึงปรากฏว่าศพถูกห่อพันด้วยผ้าขาวเตรียมลำเลียงส่งเพื่อตรวจพิสูจน์สภาพศพเรียบร้อยแล้ว ชาญมองไปยังบริเวณรอบๆอย่างสังเกตุการณ์
“หมวด..หมวดครับ ทางนี้ครับ เจอศพที่คูน้ำข้างบึงครับไม่ใช่ในบึง”
จ่าเล็ก..ตำรวจชั้นผู้น้อยประจำสน.เดียวกับชาญกวักมือเรียกผู้บังคับบัญชาหยอยๆด้วยสีหน้ากล้ำกลืนฝืนทนสุดฤทธิ์ มือข้างหนึ่งอุดจมูกตัวเองสีหน้าปุเลี่ยน
“ทำไมจ่า..ดูทำหน้าทำตาเข้า เป็นไงบ้างตรวจสอบที่เกิดเหตุ พยานรึยัง”
ชาญเดินเข้าไปดูใกล้บึงน้ำ และบริเวณข้อต่อของคูน้ำที่เป็นทางยาวจากถนนใหญ่เลาะกับบึงน้ำเป็นแนวยาว ไม่มีท่อปิดคูน้ำแต่อย่างใด ชาญชะเง้อมองไปในคูน้ำที่ค่อนข้างกว้างกว่าเจ็ดสิบเซนติเมตรน้ำปริ่มคูส่งกลิ่นคลุ้งไปทั่ว จากการคำนวณคร่าวๆ และสำรวจตรวจตราสภาพทั่วไปอย่างไม่ให้เสียเวลา พร้อมทั้งรอฟังคำตอบจากจ่าเล็กอยู่ในที มีเพียงน้ำเสียงอึกอักอ้ำอึ้งจากจ่าเล็กที่ยังสงวนท่าทีจนชาญนึกรำคาญไม่น้อย
“ทำไมถึงจมคูน้ำแทนที่จะเป็นในบึงนะ อ้าว แล้วว่าไงล่ะจ่า ผมรอคำตอบอยู่นะ”
“เอ่อ..คือ ท่าทางจะอีกยาวเลยครับหมวด คือศพนี้..คือ..”
“อะไรจ่า..อย่าอ้ำอึ้ง ตำรวจไทยเป็นที่พึ่งของประชาชน ต้องชัดเจนฉะฉานไม่มีคำว่ากลัวเข้าใจมั๊ย”
น้ำเสียงอึกอักที่จะพูดก็ไม่พูดเสียที ชาญนึกฉุนในความอืดอาดของผู้ใต้บังคับบัญชาของตนไม่น้อย แต่เมื่อเหลือบมองใบหน้าจ่าเล็กก็เห็นสายตาที่มองสบมาอย่างหวาดหวั่นไม่น้อย ชาญได้แต่มองอย่างฉงนใจจะเอ่ยถามออกไปแต่ไม่ทันเมื่อจ่าเล็กโพล่งขึ้นมาเสียก่อน
“ก็ไม่ได้อยากจะกลัวนะหมวด แต่ศพเนี้ยไม่สมประกอบ คือ..ศพน่ะทั้งเหม็นเน่าขึ้นอืด แถมยังมีแต่ตัว ไม่มีหัวอีกตะหาก”
จ่าเล็กป้องปากกระซิบกระซาบ ชาญได้ยินถึงกับเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“ห๊ะ!! อะไรนะ!!”
“หมวดได้ยินไม่ผิดหรอก ศพนี้..ไม่มีหัว คือยังเรายังงมหาหัวทั้งในคูและในบึงยังไม่เจอเลยครับ ไม่รู้ไปทำอิท่าไหนถึงหัวหายไปก็ไม่รู้”
ชาญถึงกับกุมขมับก่อนจะถอนหายใจหนักหน่วง สายตาสอดส่องมองไปยังบึงน้ำกว้างหาเบาะแสทีและมองไปรอบๆบริเวณอย่างครุ่นคิด ไม่มีสิ่งใดผิดปกตินอกจากสายตาของเขาจะเหลือบไปเห็นใครบางคนที่มองมายังจุดเกิดเหตุผ่านกระจกรถยุโรปสีดำของตนด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ
ใครคนนั้นที่ชาญคุ้นหน้าคุ้นตาเขาเป็นอย่างดี นักธุรกิจเจ้าของอสังหาริมทรัพย์มากมายทั่วกรุงเทพมหานคร พ่อหม้ายเนื้อหอมที่สาวๆเมืองกรุงต่างพากันหมายปอง เขาคือ...
พีรัช...

~~321 คาเฟ่~~ คาเฟ่นี้มี...หลอน (หลอน 4.1 : ตัด)
วันนี้มีตอนแรกของ หลอน 4.1 : ตัด (เงาที่ไม่มี...ศีรษะ) มาฝากค่ะ
**********************************************************************
หลอนตอนที่ 3.3 : ลอง (จบตอน)
http://pantip.com/topic/30430516
หลอนตอนที่ 3.2 : ลอง
http://pantip.com/topic/30391389
หลอนตอนที่ 3.1 : ลอง
http://pantip.com/topic/30371216
หลอนตอนที่ 2.2 : เงา (จบตอน)
http://pantip.com/topic/30360317
หลอนตอนที่ 2.1 : เงา
http://pantip.com/topic/30340591
หลอนตอนที่ 1 : รอคอย
http://pantip.com/topic/30303497
***********************************************************************
~~ 321 คาเฟ่ ~~
4.1 : ตัด (เงาที่ไม่มี...ศีรษะ)
บนถนนคอนกรีตค่อนข้างคับแคบในซอยเปลี่ยวที่สองข้างทางอุดมไปด้วยป่าละเมาะและพื้นที่ว่างที่มีขยะเสื่อมโทรมถูกทิ้งร้างสลับกันเป็นระยะ รถมอเตอร์ไชค์สี่สูบคันใหญ่หลายคันวิ่งไล่กวดประลองความเร็วกันเสียงดังสนั่นไปทั่วถนนในยามค่ำคืนหลายต่อหลายครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลับไปกลับมา
เนื่องจากบริเวณท้ายซอยเป็นที่ว่างค่อนข้างกว้างสามารถขับวนไปมาได้อย่างสะดวก แถมยังไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกล้ำกลาย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวันนั้นสร้างความรำคาญใจให้ผู้คนในละแวกนั้นที่มีบ้านอยู่ห่างๆตลอดสองฟากฝั่งแนวถนนอยู่เป็นประจำ เสียจนแทบจะกลายเป็นความเคยชินทุกเมื่อเชื่อวัน
คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่เสียงเหล่านี้ยังคงดังไม่หยุดหย่อนเช่นเดิม คืนแห่งความน่ารำคาญใจของพีรัช ที่มีบ้านหลังใหญ่อยู่เกือบสุดซอย บ้านที่เป็นมรดกของครอบครัวที่เขาจำใจต้องมาอยู่เพราะเป็นสถานที่แห่งความทรงจำระหว่างเขาและรรินดา..ภรรยาที่เสียชีวิตไปเกือบสองปีก่อน บ้านที่เขาต้องอาศัยคนเดียวอย่างเปลี่ยวเหงา
“ไอ้พวกนี้มันมาอีกแล้ว บัดซบจริงๆ”
พีรัชสบถเสียงขุ่นหลังจากแอบมองลอดหน้าต่างที่มีผ้าม่านสีเข้มปิดกั้นไม่ให้ผู้ใดเห็นภายในบ้านได้
“สามทุ่มสี่สิบ ตรงเวลาจริงๆ ไอ้พวกว่างงานเอ๊ย ไม่มีอะไรทำรึยังไงไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจคนอื่นบ้าง”
พีรัชเหลือบดูนาฬิกาข้างฝาผนังแล้วทุบโต๊ะอย่างขุ่นเคืองใจเป็นที่สุด ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้นอกจากเฝ้ามองเจ้าพวกเศษสวะซ้ำไปซ้ำมาทุกคืนอย่างเริ่มจะอดรนทนไม่ไหว ชายหนุ่มวัยสามสิบปีที่ดูดีทุกกระเบียดนิ้วสำรวจตรวจตราสภาพของตนเองก่อนจะหยิบกุญแจรถยุโรปสี่ประตูสีดำสนิทออกไปจากบ้านอย่างเคย ในมือมีโทรศัพท์มือถือเครื่องใหญ่ที่พร้อมจะสั่งงานอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลาพร้อมกับปืนเก็บเสียงขนาดเล็กที่เหน็บบั้นเอวเอาไว้ป้องกันตัว
ทันทีที่รถยุโรปสุดหรูสีดำของพีรัชเลี้ยวซ้ายออกถนนใหญ่ที่การจราจรเริ่มบางตา มอเตอร์ไซค์สี่สูบสีแดงเพลิงตัดขาวที่มีคนขับรูปร่างสูงใหญ่สวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้ามิดชิดก็เริ่มขับตามออกไปอย่างไม่ลดละเช่นกัน...
สี่สิบแปดชั่วโมงต่อมา...
เวลาบ่ายคล้อย แสงแดดยังคงแรงกล้า แต่ผู้คนมากมายต่างพากันมามุงดู สังเกตการณ์แถวบริเวณบึงน้ำขนาดใหญ่ปากซอยบ้านของพีรัช เต็มไปหมด หน่วยกู้ภัยกำลังลำเลียงศพที่มีสภาพขึ้นอืดซีดขาวขึ้นมาไม่ไกลจากบริเวณบึงน้ำ หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่มาตกปลาแล้วพบเห็นคนจมน้ำสภาพคว่ำหน้าขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว
ชาญ.. ก้าวลงจากรถเก๋งญี่ปุ่นสีขาวส่วนตัวอย่างเร่งรีบแล้วเข้ามายังจุดเกิดเหตุ ทันทีที่ฝ่าฝูงกำแพงคนเข้ามายังจุดเกิดเหตุที่บริเวณริมบึงปรากฏว่าศพถูกห่อพันด้วยผ้าขาวเตรียมลำเลียงส่งเพื่อตรวจพิสูจน์สภาพศพเรียบร้อยแล้ว ชาญมองไปยังบริเวณรอบๆอย่างสังเกตุการณ์
“หมวด..หมวดครับ ทางนี้ครับ เจอศพที่คูน้ำข้างบึงครับไม่ใช่ในบึง”
จ่าเล็ก..ตำรวจชั้นผู้น้อยประจำสน.เดียวกับชาญกวักมือเรียกผู้บังคับบัญชาหยอยๆด้วยสีหน้ากล้ำกลืนฝืนทนสุดฤทธิ์ มือข้างหนึ่งอุดจมูกตัวเองสีหน้าปุเลี่ยน
“ทำไมจ่า..ดูทำหน้าทำตาเข้า เป็นไงบ้างตรวจสอบที่เกิดเหตุ พยานรึยัง”
ชาญเดินเข้าไปดูใกล้บึงน้ำ และบริเวณข้อต่อของคูน้ำที่เป็นทางยาวจากถนนใหญ่เลาะกับบึงน้ำเป็นแนวยาว ไม่มีท่อปิดคูน้ำแต่อย่างใด ชาญชะเง้อมองไปในคูน้ำที่ค่อนข้างกว้างกว่าเจ็ดสิบเซนติเมตรน้ำปริ่มคูส่งกลิ่นคลุ้งไปทั่ว จากการคำนวณคร่าวๆ และสำรวจตรวจตราสภาพทั่วไปอย่างไม่ให้เสียเวลา พร้อมทั้งรอฟังคำตอบจากจ่าเล็กอยู่ในที มีเพียงน้ำเสียงอึกอักอ้ำอึ้งจากจ่าเล็กที่ยังสงวนท่าทีจนชาญนึกรำคาญไม่น้อย
“ทำไมถึงจมคูน้ำแทนที่จะเป็นในบึงนะ อ้าว แล้วว่าไงล่ะจ่า ผมรอคำตอบอยู่นะ”
“เอ่อ..คือ ท่าทางจะอีกยาวเลยครับหมวด คือศพนี้..คือ..”
“อะไรจ่า..อย่าอ้ำอึ้ง ตำรวจไทยเป็นที่พึ่งของประชาชน ต้องชัดเจนฉะฉานไม่มีคำว่ากลัวเข้าใจมั๊ย”
น้ำเสียงอึกอักที่จะพูดก็ไม่พูดเสียที ชาญนึกฉุนในความอืดอาดของผู้ใต้บังคับบัญชาของตนไม่น้อย แต่เมื่อเหลือบมองใบหน้าจ่าเล็กก็เห็นสายตาที่มองสบมาอย่างหวาดหวั่นไม่น้อย ชาญได้แต่มองอย่างฉงนใจจะเอ่ยถามออกไปแต่ไม่ทันเมื่อจ่าเล็กโพล่งขึ้นมาเสียก่อน
“ก็ไม่ได้อยากจะกลัวนะหมวด แต่ศพเนี้ยไม่สมประกอบ คือ..ศพน่ะทั้งเหม็นเน่าขึ้นอืด แถมยังมีแต่ตัว ไม่มีหัวอีกตะหาก”
จ่าเล็กป้องปากกระซิบกระซาบ ชาญได้ยินถึงกับเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“ห๊ะ!! อะไรนะ!!”
“หมวดได้ยินไม่ผิดหรอก ศพนี้..ไม่มีหัว คือยังเรายังงมหาหัวทั้งในคูและในบึงยังไม่เจอเลยครับ ไม่รู้ไปทำอิท่าไหนถึงหัวหายไปก็ไม่รู้”
ชาญถึงกับกุมขมับก่อนจะถอนหายใจหนักหน่วง สายตาสอดส่องมองไปยังบึงน้ำกว้างหาเบาะแสทีและมองไปรอบๆบริเวณอย่างครุ่นคิด ไม่มีสิ่งใดผิดปกตินอกจากสายตาของเขาจะเหลือบไปเห็นใครบางคนที่มองมายังจุดเกิดเหตุผ่านกระจกรถยุโรปสีดำของตนด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ
ใครคนนั้นที่ชาญคุ้นหน้าคุ้นตาเขาเป็นอย่างดี นักธุรกิจเจ้าของอสังหาริมทรัพย์มากมายทั่วกรุงเทพมหานคร พ่อหม้ายเนื้อหอมที่สาวๆเมืองกรุงต่างพากันหมายปอง เขาคือ...พีรัช...