ผมเป็นคนทำงานด้านไอทีครับ แต่ชอบขีดเขียน เลยหาที่ระบายครับ ยังไงก็อดทนอ่าน(ฟัง)ผมระบายหน่อยละกันนะครับ รับรองว่ามีเรื่องมาเล่า(ระบาย)ให้ฟังเรื่อยๆครับ
- คนไอทีก็เหมือนหมอ -
“แกนี่ไร้ประโยชน์จริงๆ แค่ให้ช่วยตัดต่อวีดีโอแค่นี้ก็ทำไม่ได้ เป็นไอทีประสาอะไร”
เสียงจากพี่คนหนึ่งในออฟฟิตที่มาขอให้ผมช่วยตัดต่อไฟล์วีดีโอให้แต่ผมปฏิเสธเนื่องจากไม่ใช่งานที่ถนัดและอาจจะใช้เวลามากถ้าให้ผมทำ ผมเป็น ไอทีซับพอร์ทอยู่ในออฟฟิต หน้าที่หลักของผมคือแก้ปัญหาระบบคอมพิวเตอร์พวก Windows, Microsoft Office, email หรือแม้แต่พิมพ์ไม่ออก กระดาษติด เข้าเน็ตไม่ได้ และเรื่องจิปาถะอื่นๆ
คนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้ อย่างที่ขึ้นหัวข้อไว้ว่า คนไอทีก็เหมือนหมอ ใช่ครับ เรามีความสามารถเฉพาะทาง หมอยังแบ่งออกเป็นหลายประเภท ทั้งหมอผ่าตัด หมอกระดุก หมอที่เชี่ยวชาญเรื่องสมอง หมอตา หรือแม้กระทั่งหมอดู หมอโดยทั่วไปก็คงพอที่จะรักษาอาการเจ็บป่วยธรรมดาๆเช่นปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ได้ แต่ถ้าจะให้หมอตาไปผ่าตัดสมอง หรือจะให้หมอดูมารักษาสิว มันก็ดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ หรือถ้าหมอคนนั้นอยากจะทำจริงๆ ก็คงไม่มีใครอยากจะรักษาด้วยอยู่ดี
คนทำงานด้านไอทีก็เหมือนกัน แต่ละคนเรียนมาต่างสาขาต่างความถนัด ไอ้ที่จะเก่งทุกด้านก็คงมีแต่หาได้ยากครับ คนที่เรียนมาทางคอมพิวเตอร์กราฟฟิค เขาก็จะเก่งเรื่องการออกแบบโดยใช้โปรแกรมพวก Photoshop หรือ Illustrator จะให้เขามาออกแบบระบบเน็ตเวิร์คหรือดาต้าเบสเขาก็คงทำไม่ได้ หรืออาจจะทำได้แต่ก็คงทำได้ไม่ดีเพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ หรืออย่างผมที่ทำงานด้านดูแลระบบและแก้ปัญหาทั่วไปสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ ผมสามารถดูระบบเซิร์ฟเวอร์หรือเน็ตเวิร์คในออฟฟิตให้สามารถทำงานได้โดยไม่มีปัญหา หรือถ้ามีปัญหาผมก็มั่นใจว่าผมสามารถแก้ปัญหาได้ แต่ถ้าให้ผมไปตัดต่อไฟล์วีดีโอหรือไฟล์เสียง ถามว่าทำได้หรือเปล่า ก็น่าจะทำได้ แต่คงต้องหาข้อมูลและลองถูกลองผิดกันพอสมควรกว่าจะสำเร็จ หรือจะให้ผมไปเขียนเว็บไซต์ ก็คงทำได้แต่ก็คงทำได้ไม่ดีไปกว่าคนที่เรียนมาทางนี้โดยตรง
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่เจอบ่อยก็คือ เวลาคอมพิวเตอร์มีปัญหา ผมมักจะโดนยูสเซอร์พูดกับผมว่า
“ช่วยมาดูคอมให้พี่หน่อยสิ ไม่รู้มันเป็นอะไร”
แล้วก็จบแค่นั้นไม่มีการบอกรายละเอียดอะไรอีก ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เวลาพวกคุณไปหาหมอ ไม่เห็นเคยบอกหมอเลยว่า “นี่หมอ ช่วยดูหน่อยสิ วันนี้ไม่รู้ฉันเป็นอะไร แต่รู้สึกไม่ปกติ” เวลาคุณไปหาหมอ คุณก็ต้องบอกอาการว่าคุณเป็นอะไรมา ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ไอ หรือปวดท้อง แล้วหมอถึงจะวินิจฉัยได้ ปัญหาด้านคอมพิวเตอร์ก็ไม่ต่างกัน คุณก็ควรจะบอกว่าปัญหาจริงๆมันคืออะไร เช่นใช้งานอยู่ดีๆแล้วก็เข้าเน็ตไม่ได้ หรือใช้งานอยู่ดีๆแล้วเครื่องมันก็ดับไปเอง คนไอทีจะได้วิเคราะห์ได้ว่าปัญหาคืออะไร
เป็นไปได้มั๊ยว่าที่ไม่ยอมบอกว่าปัญหาจริงๆมันคืออะไร เพราะตัวเองไปทำอะไรกับเครื่องคอมพิวเตอร์มา อย่างเช่นพยายามจะโหลดเกมส์ในเฟสบุ๊คมาลงแต่เครื่องมันดันมีอันเป็นไปซะก่อน เลยไม่อยากจะบอกเพราะกลัวว่าปัญหาที่เกิดขึ้น อาจมีสาเหตุมาจากสิ่งที่ตัวเองทำ
แล้วที่ผมไม่เข้าใจก็คือเวลาคอมพิวเตอร์มีปัญหา ผมมักจะโดนคำพูดกระแทกแดกดัน หรือแม้แต่ตะคอก ว่าคอมมีปัญหาอีกละ มันเป็นอะไรอีกแล้วเนี่ย ช่วยมาดูให้หน่อย ผมขอพูดแทนคน ไอที ด้วยกันนะครับ ว่าพูดกันดีๆก็ได้ เวลาคุณไปหาหมอ ไม่เห็นคุณจะไปตะคอกใส่หมอเลย “หมอรักษาประสาอะไร นี่เห็นมะ ฉันเป็นหวัดอีกละ รักษาให้มันดีๆหน่อยสิ” เห็นเวลาไปหาหมอดูนอบน้อมกันทุกคน หรือกลัวว่าถ้าไปแสดงอาการแบบนั้นอาจจะโดนสั่งยาให้กินแล้วหลับไม่ตื่นอีกเลย
ผมไม่อยากจะบอกว่า ไอทีก็ไม่ต่างจากหมอนะครับ ถ้าพวกคุณแสดงกิริยาที่ไม่สุภาพกับพวกผม ก็เป็นไปได้ว่าเครื่องคุณอาจจะโดนวางยา ทำให้มีปัญหาตลอด ทำงานไม่ราบรื่น ไร้รอยต่อ หรือเคยรู้สึกมั๊ยครับว่าทำไมคนอื่นได้เปลี่ยนเครื่องใหม่กันแล้ว แต่คุณยังใช้เครื่องสมัยพระเจ้าเหาอยู่เลย หรือทำไมเวลาเครื่องคนอื่นมีปัญหา แล้วไอทีมาแก้ปัญหาให้เร็วจัง แต่เวลาเครื่องคุณมีปัญหา เรียกยังไงก็ไม่มีใครมาดูให้สักที ถ้าเคยรู้สึกแบบนี้ ลองคิดดูดีๆนะครับ ว่าคุณไปทำอะไรให้ชาวไอทีเขาเจ็บช้ำน้ำใจหรือเปล่า
“แต่ผมว่าผมยังทำตัวมีประโยชน์มากกว่าพี่นะ”
ผมตอบกลับพี่คนนั้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆครับ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พี่เขาก็ไม่ค่อยคุยกับผมอีกเลย คงไม่ต้องเล่าต่อนะครับ ว่าทุกวันนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ของพี่คนนี้ ยังมีปัญหาอยู่หรือเปล่า
The Ballad of IT Support - คนไอทีก็เหมือนหมอ
- คนไอทีก็เหมือนหมอ -
“แกนี่ไร้ประโยชน์จริงๆ แค่ให้ช่วยตัดต่อวีดีโอแค่นี้ก็ทำไม่ได้ เป็นไอทีประสาอะไร”
เสียงจากพี่คนหนึ่งในออฟฟิตที่มาขอให้ผมช่วยตัดต่อไฟล์วีดีโอให้แต่ผมปฏิเสธเนื่องจากไม่ใช่งานที่ถนัดและอาจจะใช้เวลามากถ้าให้ผมทำ ผมเป็น ไอทีซับพอร์ทอยู่ในออฟฟิต หน้าที่หลักของผมคือแก้ปัญหาระบบคอมพิวเตอร์พวก Windows, Microsoft Office, email หรือแม้แต่พิมพ์ไม่ออก กระดาษติด เข้าเน็ตไม่ได้ และเรื่องจิปาถะอื่นๆ
คนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้ อย่างที่ขึ้นหัวข้อไว้ว่า คนไอทีก็เหมือนหมอ ใช่ครับ เรามีความสามารถเฉพาะทาง หมอยังแบ่งออกเป็นหลายประเภท ทั้งหมอผ่าตัด หมอกระดุก หมอที่เชี่ยวชาญเรื่องสมอง หมอตา หรือแม้กระทั่งหมอดู หมอโดยทั่วไปก็คงพอที่จะรักษาอาการเจ็บป่วยธรรมดาๆเช่นปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ได้ แต่ถ้าจะให้หมอตาไปผ่าตัดสมอง หรือจะให้หมอดูมารักษาสิว มันก็ดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ หรือถ้าหมอคนนั้นอยากจะทำจริงๆ ก็คงไม่มีใครอยากจะรักษาด้วยอยู่ดี
คนทำงานด้านไอทีก็เหมือนกัน แต่ละคนเรียนมาต่างสาขาต่างความถนัด ไอ้ที่จะเก่งทุกด้านก็คงมีแต่หาได้ยากครับ คนที่เรียนมาทางคอมพิวเตอร์กราฟฟิค เขาก็จะเก่งเรื่องการออกแบบโดยใช้โปรแกรมพวก Photoshop หรือ Illustrator จะให้เขามาออกแบบระบบเน็ตเวิร์คหรือดาต้าเบสเขาก็คงทำไม่ได้ หรืออาจจะทำได้แต่ก็คงทำได้ไม่ดีเพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ หรืออย่างผมที่ทำงานด้านดูแลระบบและแก้ปัญหาทั่วไปสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ ผมสามารถดูระบบเซิร์ฟเวอร์หรือเน็ตเวิร์คในออฟฟิตให้สามารถทำงานได้โดยไม่มีปัญหา หรือถ้ามีปัญหาผมก็มั่นใจว่าผมสามารถแก้ปัญหาได้ แต่ถ้าให้ผมไปตัดต่อไฟล์วีดีโอหรือไฟล์เสียง ถามว่าทำได้หรือเปล่า ก็น่าจะทำได้ แต่คงต้องหาข้อมูลและลองถูกลองผิดกันพอสมควรกว่าจะสำเร็จ หรือจะให้ผมไปเขียนเว็บไซต์ ก็คงทำได้แต่ก็คงทำได้ไม่ดีไปกว่าคนที่เรียนมาทางนี้โดยตรง
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่เจอบ่อยก็คือ เวลาคอมพิวเตอร์มีปัญหา ผมมักจะโดนยูสเซอร์พูดกับผมว่า
“ช่วยมาดูคอมให้พี่หน่อยสิ ไม่รู้มันเป็นอะไร”
แล้วก็จบแค่นั้นไม่มีการบอกรายละเอียดอะไรอีก ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เวลาพวกคุณไปหาหมอ ไม่เห็นเคยบอกหมอเลยว่า “นี่หมอ ช่วยดูหน่อยสิ วันนี้ไม่รู้ฉันเป็นอะไร แต่รู้สึกไม่ปกติ” เวลาคุณไปหาหมอ คุณก็ต้องบอกอาการว่าคุณเป็นอะไรมา ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ไอ หรือปวดท้อง แล้วหมอถึงจะวินิจฉัยได้ ปัญหาด้านคอมพิวเตอร์ก็ไม่ต่างกัน คุณก็ควรจะบอกว่าปัญหาจริงๆมันคืออะไร เช่นใช้งานอยู่ดีๆแล้วก็เข้าเน็ตไม่ได้ หรือใช้งานอยู่ดีๆแล้วเครื่องมันก็ดับไปเอง คนไอทีจะได้วิเคราะห์ได้ว่าปัญหาคืออะไร
เป็นไปได้มั๊ยว่าที่ไม่ยอมบอกว่าปัญหาจริงๆมันคืออะไร เพราะตัวเองไปทำอะไรกับเครื่องคอมพิวเตอร์มา อย่างเช่นพยายามจะโหลดเกมส์ในเฟสบุ๊คมาลงแต่เครื่องมันดันมีอันเป็นไปซะก่อน เลยไม่อยากจะบอกเพราะกลัวว่าปัญหาที่เกิดขึ้น อาจมีสาเหตุมาจากสิ่งที่ตัวเองทำ
แล้วที่ผมไม่เข้าใจก็คือเวลาคอมพิวเตอร์มีปัญหา ผมมักจะโดนคำพูดกระแทกแดกดัน หรือแม้แต่ตะคอก ว่าคอมมีปัญหาอีกละ มันเป็นอะไรอีกแล้วเนี่ย ช่วยมาดูให้หน่อย ผมขอพูดแทนคน ไอที ด้วยกันนะครับ ว่าพูดกันดีๆก็ได้ เวลาคุณไปหาหมอ ไม่เห็นคุณจะไปตะคอกใส่หมอเลย “หมอรักษาประสาอะไร นี่เห็นมะ ฉันเป็นหวัดอีกละ รักษาให้มันดีๆหน่อยสิ” เห็นเวลาไปหาหมอดูนอบน้อมกันทุกคน หรือกลัวว่าถ้าไปแสดงอาการแบบนั้นอาจจะโดนสั่งยาให้กินแล้วหลับไม่ตื่นอีกเลย
ผมไม่อยากจะบอกว่า ไอทีก็ไม่ต่างจากหมอนะครับ ถ้าพวกคุณแสดงกิริยาที่ไม่สุภาพกับพวกผม ก็เป็นไปได้ว่าเครื่องคุณอาจจะโดนวางยา ทำให้มีปัญหาตลอด ทำงานไม่ราบรื่น ไร้รอยต่อ หรือเคยรู้สึกมั๊ยครับว่าทำไมคนอื่นได้เปลี่ยนเครื่องใหม่กันแล้ว แต่คุณยังใช้เครื่องสมัยพระเจ้าเหาอยู่เลย หรือทำไมเวลาเครื่องคนอื่นมีปัญหา แล้วไอทีมาแก้ปัญหาให้เร็วจัง แต่เวลาเครื่องคุณมีปัญหา เรียกยังไงก็ไม่มีใครมาดูให้สักที ถ้าเคยรู้สึกแบบนี้ ลองคิดดูดีๆนะครับ ว่าคุณไปทำอะไรให้ชาวไอทีเขาเจ็บช้ำน้ำใจหรือเปล่า
“แต่ผมว่าผมยังทำตัวมีประโยชน์มากกว่าพี่นะ”
ผมตอบกลับพี่คนนั้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆครับ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พี่เขาก็ไม่ค่อยคุยกับผมอีกเลย คงไม่ต้องเล่าต่อนะครับ ว่าทุกวันนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ของพี่คนนี้ ยังมีปัญหาอยู่หรือเปล่า