สวัสดีครับ ผมเป็นสมาชิกค่อนข้างใหม่ที่เพิ่งจะสมัครสมาชิกได้ไม่กี่อาทิตย์ แต่ติดตามเว็บนี้แบบอ่านอย่างเดียวมานานพอสมควร พอได้สมัครสมาชิกแล้วเห็นในหัวข้อตั้งกระทู้เขาบอกว่าคุณยังไม่เคยตั้งกระทู้ก็กะว่าจะเก็บการตั้งกระทู้แรกแบบปกติ แต่ก็มีเหตุการณ์ที่อยากจะเล่าให้พี่น้องในนี้ฟัง แล้วถ้าท่านใดมีประสบการณ์แบบไหนกับร้านนี้เหมือนกับที่ผมจะเล่าให้ฟังก็ลองเข้ามาเล่าสู่กันฟังได้นะครับ เอาเป็นว่าไม่ได้จะมาโจมตีร้านหรืออะไรแต่แค่มาเล่าสู่กันฟังเฉยๆ ซึ่งถ้าเกิดว่ามีใครที่เกี่ยวข้องกับร้านก็ช่วยปรับปรุงให้ดีขึ้นก็แล้วกันครับ เพราะผมก็ไม่ได้มีอคติอะไรกับร้านนี้
เนื่องจากผมกับแฟนนั้นมีความสุขกับการหาอะไรกินแบบที่ค่อนข้างจะฝังใจ เช่นถ้าช่วงไหนอยากกินชาบูแล้วหล่ะก็ เอาเป็นว่าช่วงนั้นแทบจะตะเวนกินชาบูเกือบทุกวัน ช่วงไหนอยากกินปิ้งย่างก็ปิ้งย่างจนไขมันแทบจุกอกตาย โดยเมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมานั้นผมและแฟนก็อยากกินปิ้งย่างแบบบุฟเฟต์ขึ้นมา จนอาทิตย์ที่แล้วมีแค่สองวันที่่ไม่ได้กิน ซึ่งร้านที่เรากินถึง 5 ครั้งในอาทิตย์กว่าๆก็คือร้านที่ใช้หุ่นในการเสริฟ์ที่อยู่แถวพระราม 3
ถามว่าทำไมถึงกินร้านนี้บ่อย ที่จริงร้านที่กินทั้งหมดก็กินบ่อยเกือบทุกร้านแต่ที่ร้านนี้เห็นว่าใกล้กับที่อยู่มากที่สุด และเป็นร้านที่กินมานานแล้ว ซึ่งร้านนี้มีชื่อทางด้านใช้หุ่นจากประเทศญี่ปุ่นมาเสริฟ์อาหาร ส่วนอาหารนั้นก็เหมือนๆกับร้านปิ้งย่างแบบบุฟเฟต์ทั่วไปซึ่งบางอย่างก็ดีกว่าร้านอื่น บางอย่างร้านอื่นก็ดีกว่า เอาเป็นว่าอยู่ในระดับกลางค่อนข้างมาทางดีหน่อยนะครับ ซึ่งมีให้เลือกทั้งชาบูและยากินิคุ (ปิ้งย่างเนี่ยแหล่ะ) โดยสนนราคารวมทุกอย่างแล้วให้แบ็งค์พันไปก็จะทอนมา 2 บาท (รอบละพันกับยี่สิบค่าทิ๊ป) ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไร แต่ที่ร้านนี้จะรับกรุ๊ปทัวร์จากต่างประเทศด้วยซึ่งจะมีมาทุกวันแบบไม่ขาดสาย ซึ่งวันเกิดเหตุ(คือวันนี้ 12 ก.พ.56 เวลาประมาณช่วง 6 โมงเย็น 2ทุ่ม) นี้ก็เป็นวันหนึ่งที่ทัวร์มาเยอะมากๆๆๆๆๆๆ จนนึกว่าร้านเขาแจกฟรี
ที่จริงหลังจากอาทิตย์ที่แล้วที่ระห่ำกินปิ้งย่างแบบไม่กลัวไขมันนั้น มาถึงอาทิตย์นี้ก็ตกลงกับแฟนว่าจะหยุดพักเพราะว่าเป็นห่วงสุขภาพ แต่มาวันนี้แฟนบอกว่าอยากกินมากกกก เลยเอาวะ อีกสักวันคงไม่เป็นไรเลยตกลงใจพากันมาโดยถือว่าจะเอารถมาล้างด้วย (ที่นี้มีร้านล้างรถด้านล่างซึ่งฝีมือการล้างต่างกับราคามากกก 149 แต่เงาแวปจนแมลงวันแทบลื่นหัวแตก 555) เมื่อมาถึงร้านนี้หลังจากเอารถไปฝากล้างแล้ว พอเข้ามาที่ร้านสังเกตุเห็นคนเยอะมาก ซึ่งพอสังเกตุได้ก็เห็นว่าเป็นกรุ๊ปทัวร์ทั้งนั้น (อันนี้ก็เป็นเรื่องปกติของร้านนี้นะครับ)
หลังจากที่บอกพนักงานว่าเราต้องการทานปิ้งย่าง 2 ที่ พนักงานในร้านตอนนี้กำลังวุ่นกับลูกค้าพอสมควร (แต่ยังไม่เยอะมากนัก) ซึ่งผมกับแฟนก็เข้าใจ (ที่จริงผมก็เคยมีประสบการณ์ว่ามาแล้วทัวร์ลงจนแน่นร้าน พนักงานมาบอกเราเราก็เข้าใจและไปกินที่อื่นแทนโดยไม่ได้คิดอะไร) แต่วันนี้พนักงานก็มาถามว่าเหลือโต๊ะเล็กพี่ไหวไหม เราก็โอเคไม่เป็นไรเข้าใจในสถานการณ์ดี หลังจากนี้ไปจะเป็นเรื่องที่ผมประสบมาแล้วเกิดความไม่พอใจในบริการแล้วอยากเอามาเล่าสู่กันฟังครับ
1. พอเข้าไปนั่งที่โต๊ะแล้วก็มีพนักงานคนหนึ่งเป็นผู้ฉิง (ชาย + หญิง) มาบอกถึงกติกาการทานของวันนี้ว่าให้เวลาทาน 1 ชั่วโมงครึ่งนะคะ เราก็โอเคเข้าใจว่าวันนี้ลูกค้าจะมาเยอะ (ทุกทีร้านนี้ถ้าลูกค้าไม่เยอะมากส่วนใหญ่จะไม่ค่อยจับเวลาครับ) เสร็จแล้วเขาก็เอาจาน ถ้วยน้ำจิ้ม ตะเกียบ ฯลฯ มาให้ เมื่อผมแกะตะเกียบออกจากซองกระดาษแล้วเห็นว่าตะเกียบมันพิการ คือข้างนึงมันลีบ ไม่เท่ากัน ผมเลยขอตะเกียบอันใหม่โดยที่ผมบอกไปกับน้องพนักงานที่เป็นผู้ฉิง ว่าขอตะเกียบใหม่ครับ เชื่อไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น.....................น้องเขาก็หยิบตะเกียบให้ครับ แต่ว่าตอนที่ร้องเขาเอามาให้นั้น น้องเขาโยนให้กับโต๊ะครับ.......ใช่ครับ ผมใช้คำว่า "โยนให้" ครับ โยนให้จริงๆครับ แล้วก็เดินออกไป ผมกับแฟนได้แต่มองแบบเหวอๆ เล็กน้อย สักครู่น้องเขาเลยเดินมาขอโทษ แต่ขอโทษแบบว่า เมื่อกี้ขอโทษนะคะพี่ (เหมือนว่าขอโทษดีกว่าไม่งั้นตรูซวยแน่) เราก็อ่ะนะ ไหนๆมันก็ขอโทษแล้วก็หยวนๆกันไป (แต่ก็ยังเคืองๆอยู่ว่าทำไมถึงกล้าโยนของแบบนี้ ไม่ใช่ว่าผมเป็นลูกค้าที่เรื่องมากหรืออะไรนะครับ เพราะเวลาผมจะขออะไร หรือว่าจะพูดอะไรผมจะพูดดีๆกับพนักงานบริการทุกคนเสมอ โดยไม่เคยถือเรื่องที่ว่าเป็นลูกค้าที่เป็นพระเจ้าเลย และจะแหย่เล่น จะยิ้มให้ จะขอบคุณทุกครั้งที่เขามาให้บริการ) เอาหล่ะในเมื่อน้องมาขอโทษก็พยายามไม่คิดอะไรมาก แต่ก็มาเคืองในเรื่องต่อไปอีก
2. หลังจากนั้นผมกับแฟนก็กินกันไปโดยที่กินแบบไม่เหมือนที่ผ่านๆมา เพราะว่าครั้งนี้เขาจับเวลาการกิน ซึ่งลูกค้าทัวร์ก็เริ่มจะมากันเยอะแล้วจนต้องนั่งรอ ผมก็เข้าใจก็พยายามกินให้เร็ว ไม่นั่งกินบรรยากาศเหมือนที่เคย แต่ระหว่างที่กินนั้นมันมีความรู้สึกว่าทำไมเตามันไม่ค่อยร้อน ใช้เวลาย่างนานกว่าปกติที่เคย เลยขอให้เขามาเติมถ่านเพิ่มในครั้งแรก ซึ่งเขาก็มาเติมให้ ก็ดีกว่าเดิมครับ ปิ้งสุกเร็วเหมือนปกติที่เคยกิน ซึ่งในระหว่างที่กินอยู่ในครั้งนี้นั้น ผมก็พยายามดูเวลาโดยตลอดว่าหมดเวลาหรือยัง โดยตอนแรกก็ยังไม่สังเกตุเห็นความผิดปกติอะไร แต่พอนั่งได้ประมาณ ชั่วโมงนึงแล้วก็สังเกตุได้ว่า.....เอ.....เราก็เพิ่งมานั่งประมาณชั่วโมงนึง แต่ทำไมมีความรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วจัง ดูที่หน้าจอเลยแปลกใจว่า เฮ้ย!!!! ทำไมมันดึกเร็วอย่างงี้ (ดูเวลาปัจจุบัน ในหน้าจอมันบอก 19.36 น. และในจอบอกว่าหมดเวลา 19.52) เลยตกใจว่าทำไมมันจะหมดเวลาเร็วจัง เพิ่งจะสั่งของเพิ่มไปเองซึ่งผมก็คำนวณแล้วว่าค่อนข้างจะพอดีกับเวลาที่บอกคือชั่วโมงครึ่ง เลยมาดูเวลาในนาฬิกาของตัวเองที่ข้อมือ (ผมตั้งเวลาเร็วกว่าปกติ 6 นาที) ซึ่งบอกเวลาว่า 19.20 น. ซึ่งที่จริงมันก็คือ 19.14 น. นั่นเอง แล้วผมก็ลองชำเลืองดูโต๊ะข้างๆ เวลาก็เท่ากันกับนาฬิกาข้อมือของผม แสดงว่าเวลาที่ผิดไปนั้นเป็นเฉพาะหน้าจอโต๊ะผมโต๊ะเดียว ตอนแรกแฟนผมก็ไม่ได้สังเกตุเหมือนกัน แต่แฟนผมมาดูที่นาฬิกาในโทรศัพท์มือถือก็เท่ากันกับของผม ตอนนี้เลยเริ่มรู้สึกว่าถูกโกงเวลาผมเลยรอให้มันถึงเวลาที่ครบกำหนดคือ 19.52 น. ผมก็ลองกดสั่งของดูปรากฏว่าสั่งไม่ได้ ผมเลยเรียกน้องพนักงานเสริฟ์ที่เป็นผู้หญิงคนนึงมาแกล้งถามว่าทำไมผมสั่งไม่ได้(น้องคนนี่น่ารักมาก ซึ่งจะขอเล่าทีหลังครับ ขอระบายก่อนนะ) น้องเขาเลยขอไปเช็คให้แล้วก็กลับมาบอกว่ามันหมดเวลาแล้วค่ะพี่ (ตามแผน) ผมเลยให้น้องเขาไปดูเวลาที่โต๊ะอื่นว่าเวลาเท่ากันหรือเปล่าน้องเขาก็ไปดูที่โต๊ะข้างๆอีกโต๊ะนึง แล้วเขาก็กลับเข้าไปใหม่ กลับมาอีกครั้งพร้อมกับบอกว่าเดี๋ยวหนูเปิดให้พี่สั่งของได้ใหม่นะคะ ซึ่งตอนนั้นผมรู้สึกไม่ดีจากเรื่องโยนตะเกียบมาแล้วมาเจอเรื่องนี้อีกเลยชักจะไม่ค่อยพอใจแล้วแต่ก็พยายามจะยิ้มและก็ขอบคุณน้องเขาที่เป็นธุระให้ แต่ผมก็ไม่ได้สั่งอะไรใหม่เพราะว่าของที่สั่งมายังไม่หมดเลยครับซึ่งเหตุที่มันยังไม่หมดเพราะว่าเกิดกรณีที่ 3 ครับ
3. ขอย้อนเวลาไปนิดนึงครับก่อนที่จะผิดสังเกตุเรื่องเวลานั้นด้วยความที่คำนวณระหว่างปริมาณอาหารที่สั่งกับเวลาที่กำหนดให้นั้น ไฟในเตาก็เริ่มจะมอดลงอีกเช่นเดิม พวกเนื้อต่างๆที่ย่างเริ่มไม่สุก เลยบอกน้องเขาเป็นรอบที่ 2 ว่าขอเติมไฟอีกครั้งเพื่อที่จะทานของที่สั่งมาให้หมด แต่การขอครั้งนี้นั้นขอไปก็เงียบเหมือนสายลม ผมจำได้ว่าขอเติมไฟไป 3 รอบได้ ก็เงียบเหมือนเดิมจนมาสังเกตุเรื่องเวลาจนน้องเขาจัดการเรื่องเวลาให้ต่อได้แล้ว ผมก็บอกน้องเขาว่าพี่ไม่ได้สั่งอะไรเพิ่มแต่ขอเติมไฟนะครับ เพราะว่าจะได้กินของที่เหลือให้หมดไม่อยากทิ้งขว้าง น้องเขาก็เริ่มจะหน้าเสีย(เพราะว่าน้องคนนี้ค่อยข้างจะจำผมกับแฟนได้เพราะมาบ่อยมากกก) แต่ก็นะ น้องเขาไปบอกให้ก็จริงแต่ก็เงียบเช่มเดิม ผมรอจนไฟมอดแทบหมดแล้ว เห็นของที่ยังไม่หมดก็เสียดายและร้านก็มีการปรับถ้ากินเหลือด้วย แต่มันก็เงียบอีกเหมือนเดิม และด้วยความที่ผมทนไม่ไหวแล้วเพราะว่าวันนี้ร้านนี้พลาดเรื่องแรกผมก็พยายามอภัยให้ เรื่องที่ 2 เหมือนจะโดนโกงเวลา ก็พยายามไม่คิดอะไร แต่ตอนนี้มันครบ 3 ครั้งที่ผมผิดหวังกับร้านนี้แล้ว แฟนผมเลยบอกว่าถ้าอีก 10 นาทีไม่เติมไฟให้ก็เช็คบิล ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นจริงๆครับ เงียบเหมือนเดิม ผมเลยเรียกน้องผู้หญิงที่คุ้นเคยกันดีมาเช็คบิล น้องเขาก็ดีนะครับที่รู้ว่าเราไม่พอใจเข้ามาขอโทษขอโพยว่าวันนี้ลูกค้าทัวร์ลงเยอะมาก ซึ่งก็ยอมรับว่าตอนนั้นผมกับแฟนไม่พอใจจริงๆ แต่พอน้องคนนี้เข้ามาขอโทษขอโพยแบบจริงใจ (จริงใจกว่าน้องผู้ฉิงที่โยนตะเกียบให้) เลยทำให้ใจเย็นลง แต่ผมก็เล่าให้เขาฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันนี้ ทั้งเรื่องโยนตะเกียบให้ลูกค้า ขอเติมไฟไปตั้งหลายรอบ รวมถึงเรื่องเวลาที่จับด้วย ซึ่งน้องเขาก็พยายามขอโทษตลอด และฝากไปถึงน้องผู้ฉิงในเรื่องของเซอร์วิสมายด์ น้องเขาก็บอกว่าเคยเตือนตั้งหลายรอบในเรื่องของอารมณ์เขาซึ่งแสดงว่าเป็นบ่อยๆ
ทั้งหมดนี้ที่ผมมาเล่าให้ฟังซะยืดยาวเพราะว่าแค่อยากจะเล่าให้ฟัง อยากจะระบาย เพราะว่าอ่านแต่ท่านอื่นๆที่เคยเอาร้านอาหาร หรือการบริการร้านไหนๆที่ไม่ค่อยดีมาเล่าสู่กันฟังแล้วไม่นึกว่าจะมาเจอกับตัวเองเพราะว่าผมเป็นคนอย่างที่บอกคือไม่ได้เรื่องมากอะไร แม้กระทั่งจะสั่งของ จะคุย กับพนักงานร้านไหนๆทุกร้านก็จะคุยดีแถมแหย่เล่นบ้างอะเไรบ้างตลอด เพราะว่าเป็นคนอารมณ์ดี แต่มาเจอวันนี้บอกตามตรงว่าปรี๊ดมาก ที่จริงร้านนี้ผมเคยจะมากินแต่ตอนนั้นทัวร์ลงเยอะแบบนี้ พนักงานก็บอกว่าเต็มทั้งวัน ผมก็ไม่มีปัญหาไปร้านอื่นได้ แต่วันนี้ไม่เข้าใจว่าถ้าคุณไม่สามารถรองรับลูกค้าได้ทำไมไม่บอกกันตรงๆ ส่วนน้องผู้ฉิงคนนั้นทางร้านน่าจะอบรมให้บ่อยๆกว่านี้เพราะว่านี้คืองานบริการ ซึ่งก็ไม่ได้ให้มาเอาใจอะไร แต่คงไม่ต้องถึงกับโยนของให้ลูกค้ายนะครับ ส่วนน้องผู้หญิงอีกคนนั้นขอชมเชยมากๆครับที่เข้ามาทำให้อารมณ์เย็นลงได้เยอะ ส่วนร้านนี้นั้นผมคิดว่าเขาคงไม่อยากจะได้เงินผมอีกแล้วมั้งเพราะมันคงเป็นเงินไม่มากเท่าคณะทัวร์ลง (อาทิตย์ที่แล้วก็ประมาณ 4000 บาทได้เพราะไป 4 ครั้ง) เลยทำกันแบบนี้ (ในกรณีที่ผมคิดว่าโกงเวลาเพื่ออยากจะให้ลุกเร็วๆ ) ถ้าเกิดความผิดพลาดในระบบผมก็ไม่ว่าอะไรแต่มันน่าแปลกใจตรงที่เป็นที่โต๊ะผมโต๊ะเดียว (เช็คแล้ว 2 โต๊ะ เป็นปกติ) รูปหลักฐานนั้นผมถ่ายมาให้ดูรูปเดียวครับ สังเกตุเวลาในนาฬิกาผมกับเวลาในหน้าจอนะครับ
ปล.
1. ผมตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้แรก หากท่านใดคิดว่ากระทู้นี้ไม่เหมาะสมหรือต้องแก้ไขอะไรบอกได้ครับ ทั้งเรื่องการพิมพ์ ข้อคิดเห็นของผม ความสำคัญของเรื่องที่ตั้ง (อยากเล่าให้ฟังจริงๆเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์) และอื่นๆ ติชมได้ครับ
2. หากท่านใดที่มีประสบการณ์คล้ายกันในร้านนี้หรือว่ามีประสบการณ์ที่ดี ก็มาเล่ากันฟังได้นะครับ เพราะอยากรู้ว่าเป็นผมคนเดียวที่เจอ หรือว่าเราเรื่องมากไปเอง หรือว่าวันนี้ดันซวยเองที่ไปผิดวัน
3. ไม่ทราบว่าผมตั้งกระทู้ถูกประเภทหรือเปล่าเพราะตั้งเห็นรีวิว ซึ่งส่นใหญ่จะเป็นการแนะนำร้านมากกว่าจะติ ถ้าเกิดไม่เหมาะสมอย่างไรช่วยแชร์ความคิดเห็นด้วยนะครับ
จากรูป นาฬิกาผมกับเวลาที่หน้าจอไม่ตรงกันครับ ซึ่งเป็นแค่โต๊ะผมโต๊ะเดียว พอท้วงไปเลยต่อเวลาให้ครับ
[CR] ผิดหวังกับร้านปิ้งย่างใช้หุ่นยนต์เสริฟ์ แถวพระราม 3 จังครับ
เนื่องจากผมกับแฟนนั้นมีความสุขกับการหาอะไรกินแบบที่ค่อนข้างจะฝังใจ เช่นถ้าช่วงไหนอยากกินชาบูแล้วหล่ะก็ เอาเป็นว่าช่วงนั้นแทบจะตะเวนกินชาบูเกือบทุกวัน ช่วงไหนอยากกินปิ้งย่างก็ปิ้งย่างจนไขมันแทบจุกอกตาย โดยเมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมานั้นผมและแฟนก็อยากกินปิ้งย่างแบบบุฟเฟต์ขึ้นมา จนอาทิตย์ที่แล้วมีแค่สองวันที่่ไม่ได้กิน ซึ่งร้านที่เรากินถึง 5 ครั้งในอาทิตย์กว่าๆก็คือร้านที่ใช้หุ่นในการเสริฟ์ที่อยู่แถวพระราม 3
ถามว่าทำไมถึงกินร้านนี้บ่อย ที่จริงร้านที่กินทั้งหมดก็กินบ่อยเกือบทุกร้านแต่ที่ร้านนี้เห็นว่าใกล้กับที่อยู่มากที่สุด และเป็นร้านที่กินมานานแล้ว ซึ่งร้านนี้มีชื่อทางด้านใช้หุ่นจากประเทศญี่ปุ่นมาเสริฟ์อาหาร ส่วนอาหารนั้นก็เหมือนๆกับร้านปิ้งย่างแบบบุฟเฟต์ทั่วไปซึ่งบางอย่างก็ดีกว่าร้านอื่น บางอย่างร้านอื่นก็ดีกว่า เอาเป็นว่าอยู่ในระดับกลางค่อนข้างมาทางดีหน่อยนะครับ ซึ่งมีให้เลือกทั้งชาบูและยากินิคุ (ปิ้งย่างเนี่ยแหล่ะ) โดยสนนราคารวมทุกอย่างแล้วให้แบ็งค์พันไปก็จะทอนมา 2 บาท (รอบละพันกับยี่สิบค่าทิ๊ป) ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไร แต่ที่ร้านนี้จะรับกรุ๊ปทัวร์จากต่างประเทศด้วยซึ่งจะมีมาทุกวันแบบไม่ขาดสาย ซึ่งวันเกิดเหตุ(คือวันนี้ 12 ก.พ.56 เวลาประมาณช่วง 6 โมงเย็น 2ทุ่ม) นี้ก็เป็นวันหนึ่งที่ทัวร์มาเยอะมากๆๆๆๆๆๆ จนนึกว่าร้านเขาแจกฟรี
ที่จริงหลังจากอาทิตย์ที่แล้วที่ระห่ำกินปิ้งย่างแบบไม่กลัวไขมันนั้น มาถึงอาทิตย์นี้ก็ตกลงกับแฟนว่าจะหยุดพักเพราะว่าเป็นห่วงสุขภาพ แต่มาวันนี้แฟนบอกว่าอยากกินมากกกก เลยเอาวะ อีกสักวันคงไม่เป็นไรเลยตกลงใจพากันมาโดยถือว่าจะเอารถมาล้างด้วย (ที่นี้มีร้านล้างรถด้านล่างซึ่งฝีมือการล้างต่างกับราคามากกก 149 แต่เงาแวปจนแมลงวันแทบลื่นหัวแตก 555) เมื่อมาถึงร้านนี้หลังจากเอารถไปฝากล้างแล้ว พอเข้ามาที่ร้านสังเกตุเห็นคนเยอะมาก ซึ่งพอสังเกตุได้ก็เห็นว่าเป็นกรุ๊ปทัวร์ทั้งนั้น (อันนี้ก็เป็นเรื่องปกติของร้านนี้นะครับ)
หลังจากที่บอกพนักงานว่าเราต้องการทานปิ้งย่าง 2 ที่ พนักงานในร้านตอนนี้กำลังวุ่นกับลูกค้าพอสมควร (แต่ยังไม่เยอะมากนัก) ซึ่งผมกับแฟนก็เข้าใจ (ที่จริงผมก็เคยมีประสบการณ์ว่ามาแล้วทัวร์ลงจนแน่นร้าน พนักงานมาบอกเราเราก็เข้าใจและไปกินที่อื่นแทนโดยไม่ได้คิดอะไร) แต่วันนี้พนักงานก็มาถามว่าเหลือโต๊ะเล็กพี่ไหวไหม เราก็โอเคไม่เป็นไรเข้าใจในสถานการณ์ดี หลังจากนี้ไปจะเป็นเรื่องที่ผมประสบมาแล้วเกิดความไม่พอใจในบริการแล้วอยากเอามาเล่าสู่กันฟังครับ
1. พอเข้าไปนั่งที่โต๊ะแล้วก็มีพนักงานคนหนึ่งเป็นผู้ฉิง (ชาย + หญิง) มาบอกถึงกติกาการทานของวันนี้ว่าให้เวลาทาน 1 ชั่วโมงครึ่งนะคะ เราก็โอเคเข้าใจว่าวันนี้ลูกค้าจะมาเยอะ (ทุกทีร้านนี้ถ้าลูกค้าไม่เยอะมากส่วนใหญ่จะไม่ค่อยจับเวลาครับ) เสร็จแล้วเขาก็เอาจาน ถ้วยน้ำจิ้ม ตะเกียบ ฯลฯ มาให้ เมื่อผมแกะตะเกียบออกจากซองกระดาษแล้วเห็นว่าตะเกียบมันพิการ คือข้างนึงมันลีบ ไม่เท่ากัน ผมเลยขอตะเกียบอันใหม่โดยที่ผมบอกไปกับน้องพนักงานที่เป็นผู้ฉิง ว่าขอตะเกียบใหม่ครับ เชื่อไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น.....................น้องเขาก็หยิบตะเกียบให้ครับ แต่ว่าตอนที่ร้องเขาเอามาให้นั้น น้องเขาโยนให้กับโต๊ะครับ.......ใช่ครับ ผมใช้คำว่า "โยนให้" ครับ โยนให้จริงๆครับ แล้วก็เดินออกไป ผมกับแฟนได้แต่มองแบบเหวอๆ เล็กน้อย สักครู่น้องเขาเลยเดินมาขอโทษ แต่ขอโทษแบบว่า เมื่อกี้ขอโทษนะคะพี่ (เหมือนว่าขอโทษดีกว่าไม่งั้นตรูซวยแน่) เราก็อ่ะนะ ไหนๆมันก็ขอโทษแล้วก็หยวนๆกันไป (แต่ก็ยังเคืองๆอยู่ว่าทำไมถึงกล้าโยนของแบบนี้ ไม่ใช่ว่าผมเป็นลูกค้าที่เรื่องมากหรืออะไรนะครับ เพราะเวลาผมจะขออะไร หรือว่าจะพูดอะไรผมจะพูดดีๆกับพนักงานบริการทุกคนเสมอ โดยไม่เคยถือเรื่องที่ว่าเป็นลูกค้าที่เป็นพระเจ้าเลย และจะแหย่เล่น จะยิ้มให้ จะขอบคุณทุกครั้งที่เขามาให้บริการ) เอาหล่ะในเมื่อน้องมาขอโทษก็พยายามไม่คิดอะไรมาก แต่ก็มาเคืองในเรื่องต่อไปอีก
2. หลังจากนั้นผมกับแฟนก็กินกันไปโดยที่กินแบบไม่เหมือนที่ผ่านๆมา เพราะว่าครั้งนี้เขาจับเวลาการกิน ซึ่งลูกค้าทัวร์ก็เริ่มจะมากันเยอะแล้วจนต้องนั่งรอ ผมก็เข้าใจก็พยายามกินให้เร็ว ไม่นั่งกินบรรยากาศเหมือนที่เคย แต่ระหว่างที่กินนั้นมันมีความรู้สึกว่าทำไมเตามันไม่ค่อยร้อน ใช้เวลาย่างนานกว่าปกติที่เคย เลยขอให้เขามาเติมถ่านเพิ่มในครั้งแรก ซึ่งเขาก็มาเติมให้ ก็ดีกว่าเดิมครับ ปิ้งสุกเร็วเหมือนปกติที่เคยกิน ซึ่งในระหว่างที่กินอยู่ในครั้งนี้นั้น ผมก็พยายามดูเวลาโดยตลอดว่าหมดเวลาหรือยัง โดยตอนแรกก็ยังไม่สังเกตุเห็นความผิดปกติอะไร แต่พอนั่งได้ประมาณ ชั่วโมงนึงแล้วก็สังเกตุได้ว่า.....เอ.....เราก็เพิ่งมานั่งประมาณชั่วโมงนึง แต่ทำไมมีความรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วจัง ดูที่หน้าจอเลยแปลกใจว่า เฮ้ย!!!! ทำไมมันดึกเร็วอย่างงี้ (ดูเวลาปัจจุบัน ในหน้าจอมันบอก 19.36 น. และในจอบอกว่าหมดเวลา 19.52) เลยตกใจว่าทำไมมันจะหมดเวลาเร็วจัง เพิ่งจะสั่งของเพิ่มไปเองซึ่งผมก็คำนวณแล้วว่าค่อนข้างจะพอดีกับเวลาที่บอกคือชั่วโมงครึ่ง เลยมาดูเวลาในนาฬิกาของตัวเองที่ข้อมือ (ผมตั้งเวลาเร็วกว่าปกติ 6 นาที) ซึ่งบอกเวลาว่า 19.20 น. ซึ่งที่จริงมันก็คือ 19.14 น. นั่นเอง แล้วผมก็ลองชำเลืองดูโต๊ะข้างๆ เวลาก็เท่ากันกับนาฬิกาข้อมือของผม แสดงว่าเวลาที่ผิดไปนั้นเป็นเฉพาะหน้าจอโต๊ะผมโต๊ะเดียว ตอนแรกแฟนผมก็ไม่ได้สังเกตุเหมือนกัน แต่แฟนผมมาดูที่นาฬิกาในโทรศัพท์มือถือก็เท่ากันกับของผม ตอนนี้เลยเริ่มรู้สึกว่าถูกโกงเวลาผมเลยรอให้มันถึงเวลาที่ครบกำหนดคือ 19.52 น. ผมก็ลองกดสั่งของดูปรากฏว่าสั่งไม่ได้ ผมเลยเรียกน้องพนักงานเสริฟ์ที่เป็นผู้หญิงคนนึงมาแกล้งถามว่าทำไมผมสั่งไม่ได้(น้องคนนี่น่ารักมาก ซึ่งจะขอเล่าทีหลังครับ ขอระบายก่อนนะ) น้องเขาเลยขอไปเช็คให้แล้วก็กลับมาบอกว่ามันหมดเวลาแล้วค่ะพี่ (ตามแผน) ผมเลยให้น้องเขาไปดูเวลาที่โต๊ะอื่นว่าเวลาเท่ากันหรือเปล่าน้องเขาก็ไปดูที่โต๊ะข้างๆอีกโต๊ะนึง แล้วเขาก็กลับเข้าไปใหม่ กลับมาอีกครั้งพร้อมกับบอกว่าเดี๋ยวหนูเปิดให้พี่สั่งของได้ใหม่นะคะ ซึ่งตอนนั้นผมรู้สึกไม่ดีจากเรื่องโยนตะเกียบมาแล้วมาเจอเรื่องนี้อีกเลยชักจะไม่ค่อยพอใจแล้วแต่ก็พยายามจะยิ้มและก็ขอบคุณน้องเขาที่เป็นธุระให้ แต่ผมก็ไม่ได้สั่งอะไรใหม่เพราะว่าของที่สั่งมายังไม่หมดเลยครับซึ่งเหตุที่มันยังไม่หมดเพราะว่าเกิดกรณีที่ 3 ครับ
3. ขอย้อนเวลาไปนิดนึงครับก่อนที่จะผิดสังเกตุเรื่องเวลานั้นด้วยความที่คำนวณระหว่างปริมาณอาหารที่สั่งกับเวลาที่กำหนดให้นั้น ไฟในเตาก็เริ่มจะมอดลงอีกเช่นเดิม พวกเนื้อต่างๆที่ย่างเริ่มไม่สุก เลยบอกน้องเขาเป็นรอบที่ 2 ว่าขอเติมไฟอีกครั้งเพื่อที่จะทานของที่สั่งมาให้หมด แต่การขอครั้งนี้นั้นขอไปก็เงียบเหมือนสายลม ผมจำได้ว่าขอเติมไฟไป 3 รอบได้ ก็เงียบเหมือนเดิมจนมาสังเกตุเรื่องเวลาจนน้องเขาจัดการเรื่องเวลาให้ต่อได้แล้ว ผมก็บอกน้องเขาว่าพี่ไม่ได้สั่งอะไรเพิ่มแต่ขอเติมไฟนะครับ เพราะว่าจะได้กินของที่เหลือให้หมดไม่อยากทิ้งขว้าง น้องเขาก็เริ่มจะหน้าเสีย(เพราะว่าน้องคนนี้ค่อยข้างจะจำผมกับแฟนได้เพราะมาบ่อยมากกก) แต่ก็นะ น้องเขาไปบอกให้ก็จริงแต่ก็เงียบเช่มเดิม ผมรอจนไฟมอดแทบหมดแล้ว เห็นของที่ยังไม่หมดก็เสียดายและร้านก็มีการปรับถ้ากินเหลือด้วย แต่มันก็เงียบอีกเหมือนเดิม และด้วยความที่ผมทนไม่ไหวแล้วเพราะว่าวันนี้ร้านนี้พลาดเรื่องแรกผมก็พยายามอภัยให้ เรื่องที่ 2 เหมือนจะโดนโกงเวลา ก็พยายามไม่คิดอะไร แต่ตอนนี้มันครบ 3 ครั้งที่ผมผิดหวังกับร้านนี้แล้ว แฟนผมเลยบอกว่าถ้าอีก 10 นาทีไม่เติมไฟให้ก็เช็คบิล ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นจริงๆครับ เงียบเหมือนเดิม ผมเลยเรียกน้องผู้หญิงที่คุ้นเคยกันดีมาเช็คบิล น้องเขาก็ดีนะครับที่รู้ว่าเราไม่พอใจเข้ามาขอโทษขอโพยว่าวันนี้ลูกค้าทัวร์ลงเยอะมาก ซึ่งก็ยอมรับว่าตอนนั้นผมกับแฟนไม่พอใจจริงๆ แต่พอน้องคนนี้เข้ามาขอโทษขอโพยแบบจริงใจ (จริงใจกว่าน้องผู้ฉิงที่โยนตะเกียบให้) เลยทำให้ใจเย็นลง แต่ผมก็เล่าให้เขาฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันนี้ ทั้งเรื่องโยนตะเกียบให้ลูกค้า ขอเติมไฟไปตั้งหลายรอบ รวมถึงเรื่องเวลาที่จับด้วย ซึ่งน้องเขาก็พยายามขอโทษตลอด และฝากไปถึงน้องผู้ฉิงในเรื่องของเซอร์วิสมายด์ น้องเขาก็บอกว่าเคยเตือนตั้งหลายรอบในเรื่องของอารมณ์เขาซึ่งแสดงว่าเป็นบ่อยๆ
ทั้งหมดนี้ที่ผมมาเล่าให้ฟังซะยืดยาวเพราะว่าแค่อยากจะเล่าให้ฟัง อยากจะระบาย เพราะว่าอ่านแต่ท่านอื่นๆที่เคยเอาร้านอาหาร หรือการบริการร้านไหนๆที่ไม่ค่อยดีมาเล่าสู่กันฟังแล้วไม่นึกว่าจะมาเจอกับตัวเองเพราะว่าผมเป็นคนอย่างที่บอกคือไม่ได้เรื่องมากอะไร แม้กระทั่งจะสั่งของ จะคุย กับพนักงานร้านไหนๆทุกร้านก็จะคุยดีแถมแหย่เล่นบ้างอะเไรบ้างตลอด เพราะว่าเป็นคนอารมณ์ดี แต่มาเจอวันนี้บอกตามตรงว่าปรี๊ดมาก ที่จริงร้านนี้ผมเคยจะมากินแต่ตอนนั้นทัวร์ลงเยอะแบบนี้ พนักงานก็บอกว่าเต็มทั้งวัน ผมก็ไม่มีปัญหาไปร้านอื่นได้ แต่วันนี้ไม่เข้าใจว่าถ้าคุณไม่สามารถรองรับลูกค้าได้ทำไมไม่บอกกันตรงๆ ส่วนน้องผู้ฉิงคนนั้นทางร้านน่าจะอบรมให้บ่อยๆกว่านี้เพราะว่านี้คืองานบริการ ซึ่งก็ไม่ได้ให้มาเอาใจอะไร แต่คงไม่ต้องถึงกับโยนของให้ลูกค้ายนะครับ ส่วนน้องผู้หญิงอีกคนนั้นขอชมเชยมากๆครับที่เข้ามาทำให้อารมณ์เย็นลงได้เยอะ ส่วนร้านนี้นั้นผมคิดว่าเขาคงไม่อยากจะได้เงินผมอีกแล้วมั้งเพราะมันคงเป็นเงินไม่มากเท่าคณะทัวร์ลง (อาทิตย์ที่แล้วก็ประมาณ 4000 บาทได้เพราะไป 4 ครั้ง) เลยทำกันแบบนี้ (ในกรณีที่ผมคิดว่าโกงเวลาเพื่ออยากจะให้ลุกเร็วๆ ) ถ้าเกิดความผิดพลาดในระบบผมก็ไม่ว่าอะไรแต่มันน่าแปลกใจตรงที่เป็นที่โต๊ะผมโต๊ะเดียว (เช็คแล้ว 2 โต๊ะ เป็นปกติ) รูปหลักฐานนั้นผมถ่ายมาให้ดูรูปเดียวครับ สังเกตุเวลาในนาฬิกาผมกับเวลาในหน้าจอนะครับ
ปล.
1. ผมตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้แรก หากท่านใดคิดว่ากระทู้นี้ไม่เหมาะสมหรือต้องแก้ไขอะไรบอกได้ครับ ทั้งเรื่องการพิมพ์ ข้อคิดเห็นของผม ความสำคัญของเรื่องที่ตั้ง (อยากเล่าให้ฟังจริงๆเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์) และอื่นๆ ติชมได้ครับ
2. หากท่านใดที่มีประสบการณ์คล้ายกันในร้านนี้หรือว่ามีประสบการณ์ที่ดี ก็มาเล่ากันฟังได้นะครับ เพราะอยากรู้ว่าเป็นผมคนเดียวที่เจอ หรือว่าเราเรื่องมากไปเอง หรือว่าวันนี้ดันซวยเองที่ไปผิดวัน
3. ไม่ทราบว่าผมตั้งกระทู้ถูกประเภทหรือเปล่าเพราะตั้งเห็นรีวิว ซึ่งส่นใหญ่จะเป็นการแนะนำร้านมากกว่าจะติ ถ้าเกิดไม่เหมาะสมอย่างไรช่วยแชร์ความคิดเห็นด้วยนะครับ
จากรูป นาฬิกาผมกับเวลาที่หน้าจอไม่ตรงกันครับ ซึ่งเป็นแค่โต๊ะผมโต๊ะเดียว พอท้วงไปเลยต่อเวลาให้ครับ