เมื่อกลางเดือนมกราคม 2556 ที่ผ่านมา ผมขึ้นไปเถลไถลอยู่เชียงใหม่หลายวัน ไปแวะเยี่ยมเพื่อนๆ ที่ไม่ได้เจอกันมานาน
และถือโอกาสถ่ายรูปเก็บเข้าคลังรูปส่วนตัวไว้ด้วย แต่ทริปนี้เน้นไปที่รูปวัดเพราะไม่ค่อยมีเวลาเดินทางออกไปไหน
ได้ติดต่อกับน้า tamrong น้าก็ชี้ทำเลให้เลย ว่าอย่างน้านิกนี่ต้องวัดต้นเกว๋นเลย
พอได้ลายแทงมา ผมก็ไปตามโพยทันที ขับรถออกจากเชียงใหม่ไปทางหางดง สันปาตอง จนถึงแยกสะเมิง ก็เลี้ยวขวาไป
จากนั้นข้ามคลองชลประทานก็ชิดซ้ายเลี้ยวที่แยกแรก ประมาณร้อยเมตรจากไฟแดง จากนั้นตรงเข้าไปก็เห็นเอง
เวลาแนะนำในการถ่ายรูปคือไปแต่เช้าๆ สักสายหน่อย

ผมว่าประมาณสักก่อน 7 โมง จะได้มีเวลาเตรียมอุปกรณ์ก่อนแดดเริ่มลงจับที่ตัวโบสถ์
หรือสายกว่านั้นก็ยังได้ ไปจนถึงก่อนเที่ยง
ถ้าไปหลังเที่ยงแล้ว พระอาทิตย์ท่านจะทรงรถเลยไปทางด้านหลังโบสถ์ ทำให้ถ่ายภาพลายไม้แกะสลักที่หน้าโบสถ์ลำบากมาก
อย่าลืมพก polarizing filter ไปด้วย หากได้ graduate filter ด้วยจะยิ่งแจ่ม ขาตั้งก็มีโอกาสใช้เวลาถ่ายภาพในโบสถ์
ที่จะถ่ายรูปได้เยอะๆ ก็เป็นพวกงานไม้แกะสลักครับ
ที่นี่ยังดิบๆ อยู่มาก ตัวโบสถ์ยังไม่ได้ทำใหม่สักเท่าไหร่
ถ้าไปเช้าหน่อย แล้วโชคดี อาจจะได้ภาพหมอกยามเช้าด้วย
บันได 'มกรคายนาค' ซ้ายขวา
วิหารคด (Cloister)
ศาลาจตุรมุข
สาวเกาหลี ลี เจยอง กับคุณแม่
อ้างอิงจากความคิดเห็นที่ 19 ของน้าลีโอ ผมเพิ่มข้อมูลหน่อย พอดีเพิ่งนึกได้
ปกติวัดทางเหนือแท้ๆ แต่เดิมมาจะใช้พื้นทรายนะครับ จะไม่เทปูนเหมือนวัดในเมือง
มีประโยชน์หลายอย่าง อย่างหนึ่งคือเป็นการระบายน้ำ และความชื้น เพื่อไม่ให้รากฐานของโบสถ์ทรุด
อีกอย่างหนึ่งเป็นปริศนาธรรมครับ
มะพร้าวเอ๋ย มะพร้าวนาฬิเกร์
ต้นเดียวโนเน กลางทะเลขี้ผึ้ง
ฝนตกไม่ต้อง ฟ้าร้องไม่ถึง
อยู่กลางทะเลขี้ผึ้ง ถึงแต่ผู้พ้นบุญเอย
“ มะพร้าวนาฬิเกร์ กลางทะเลขี้ผึ้ง นั้นมันอย่างไร มีใจความสำคัญว่า ความทุกข์อยู่ที่ไหน ความดับทุกข์อยู่ที่ตรงนั้น เพราะฉะนั้นให้หาพระนิพพานให้พบจากท่ามกลางแห่งวัฏฏสงสารนั่นเอง ”
“ มะพร้าวนาฬิเกร์ที่อยู่กลางทะเลขี้ผึ้ง ที่ว่าต้นมะพร้าวนาฬิเกร์ อยู่กลางทะเลขี้ผึ้ง ก็หมายความว่า นิพพานนั้นอยู่กลางวัฏฏสงสาร วัฏฏสงสารเหมือนทะเลขี้ผึ้ง คือเป็นได้ทั้งบุญทั้งบาป เมื่อร้อนมันก็เป็นอย่างหนึ่ง เมื่อเย็นมันก็เป็นอีกอย่างหนึ่งตามธรรมดาของขี้ผึ้ง แต่แล้วมันก็ต้องเป็นขี้ผึ้งอยู่นั่นเอง เมื่อสักว่าเป็นขี้ผึ้ง แล้วมันก็เป็นวัฏฏสงสาร ส่วนต้นมะพร้าวอยู่กลางทะเลขี้ผึ้งนั้น มันไม่ร้อน จึงเรียกว่าฝนตกไม่ต้องฟ้าร้องไม่ถึง อยู่ได้กลางทะเลขี้ผึ้ง ซึ่งเต็มไปด้วยความร้อน ความเย็น ชนิดที่เป็นความทุกข์"
พุทธทาสภิกขุ พจนานุกรมธรรมของท่านพุทธทาส ( หน้า ๑๙๔ ) ธรรมสภา ๑ / ๔ – ๕ ถนนบรมราชชนนี กรุงเทพ
หากมองในแง่วัฒนธรรม วัดจะสร้างตามผังมณฑลจักรวาล หรือมณฑลแห่งการตรัสรู้ - Mandala
ที่ได้รับอิทธิพลจากคติพุทธวัชรญาณสายธิเบต ก็จะใช้ทรายเป็นส่วนหนึ่งในการวาดมณฑลจักรวาล
ชี้เป้า... ที่วัดต้นเกว๋น จังหวัดเชียงใหม่
และถือโอกาสถ่ายรูปเก็บเข้าคลังรูปส่วนตัวไว้ด้วย แต่ทริปนี้เน้นไปที่รูปวัดเพราะไม่ค่อยมีเวลาเดินทางออกไปไหน
ได้ติดต่อกับน้า tamrong น้าก็ชี้ทำเลให้เลย ว่าอย่างน้านิกนี่ต้องวัดต้นเกว๋นเลย
พอได้ลายแทงมา ผมก็ไปตามโพยทันที ขับรถออกจากเชียงใหม่ไปทางหางดง สันปาตอง จนถึงแยกสะเมิง ก็เลี้ยวขวาไป
จากนั้นข้ามคลองชลประทานก็ชิดซ้ายเลี้ยวที่แยกแรก ประมาณร้อยเมตรจากไฟแดง จากนั้นตรงเข้าไปก็เห็นเอง
เวลาแนะนำในการถ่ายรูปคือไปแต่เช้าๆ สักสายหน่อย
ผมว่าประมาณสักก่อน 7 โมง จะได้มีเวลาเตรียมอุปกรณ์ก่อนแดดเริ่มลงจับที่ตัวโบสถ์
หรือสายกว่านั้นก็ยังได้ ไปจนถึงก่อนเที่ยง
ถ้าไปหลังเที่ยงแล้ว พระอาทิตย์ท่านจะทรงรถเลยไปทางด้านหลังโบสถ์ ทำให้ถ่ายภาพลายไม้แกะสลักที่หน้าโบสถ์ลำบากมาก
อย่าลืมพก polarizing filter ไปด้วย หากได้ graduate filter ด้วยจะยิ่งแจ่ม ขาตั้งก็มีโอกาสใช้เวลาถ่ายภาพในโบสถ์
ที่จะถ่ายรูปได้เยอะๆ ก็เป็นพวกงานไม้แกะสลักครับ
ที่นี่ยังดิบๆ อยู่มาก ตัวโบสถ์ยังไม่ได้ทำใหม่สักเท่าไหร่
ถ้าไปเช้าหน่อย แล้วโชคดี อาจจะได้ภาพหมอกยามเช้าด้วย
บันได 'มกรคายนาค' ซ้ายขวา
วิหารคด (Cloister)
ศาลาจตุรมุข
สาวเกาหลี ลี เจยอง กับคุณแม่
อ้างอิงจากความคิดเห็นที่ 19 ของน้าลีโอ ผมเพิ่มข้อมูลหน่อย พอดีเพิ่งนึกได้
ปกติวัดทางเหนือแท้ๆ แต่เดิมมาจะใช้พื้นทรายนะครับ จะไม่เทปูนเหมือนวัดในเมือง
มีประโยชน์หลายอย่าง อย่างหนึ่งคือเป็นการระบายน้ำ และความชื้น เพื่อไม่ให้รากฐานของโบสถ์ทรุด
อีกอย่างหนึ่งเป็นปริศนาธรรมครับ
ต้นเดียวโนเน กลางทะเลขี้ผึ้ง
ฝนตกไม่ต้อง ฟ้าร้องไม่ถึง
อยู่กลางทะเลขี้ผึ้ง ถึงแต่ผู้พ้นบุญเอย
“ มะพร้าวนาฬิเกร์ กลางทะเลขี้ผึ้ง นั้นมันอย่างไร มีใจความสำคัญว่า ความทุกข์อยู่ที่ไหน ความดับทุกข์อยู่ที่ตรงนั้น เพราะฉะนั้นให้หาพระนิพพานให้พบจากท่ามกลางแห่งวัฏฏสงสารนั่นเอง ”
“ มะพร้าวนาฬิเกร์ที่อยู่กลางทะเลขี้ผึ้ง ที่ว่าต้นมะพร้าวนาฬิเกร์ อยู่กลางทะเลขี้ผึ้ง ก็หมายความว่า นิพพานนั้นอยู่กลางวัฏฏสงสาร วัฏฏสงสารเหมือนทะเลขี้ผึ้ง คือเป็นได้ทั้งบุญทั้งบาป เมื่อร้อนมันก็เป็นอย่างหนึ่ง เมื่อเย็นมันก็เป็นอีกอย่างหนึ่งตามธรรมดาของขี้ผึ้ง แต่แล้วมันก็ต้องเป็นขี้ผึ้งอยู่นั่นเอง เมื่อสักว่าเป็นขี้ผึ้ง แล้วมันก็เป็นวัฏฏสงสาร ส่วนต้นมะพร้าวอยู่กลางทะเลขี้ผึ้งนั้น มันไม่ร้อน จึงเรียกว่าฝนตกไม่ต้องฟ้าร้องไม่ถึง อยู่ได้กลางทะเลขี้ผึ้ง ซึ่งเต็มไปด้วยความร้อน ความเย็น ชนิดที่เป็นความทุกข์"
พุทธทาสภิกขุ พจนานุกรมธรรมของท่านพุทธทาส ( หน้า ๑๙๔ ) ธรรมสภา ๑ / ๔ – ๕ ถนนบรมราชชนนี กรุงเทพ
หากมองในแง่วัฒนธรรม วัดจะสร้างตามผังมณฑลจักรวาล หรือมณฑลแห่งการตรัสรู้ - Mandala
ที่ได้รับอิทธิพลจากคติพุทธวัชรญาณสายธิเบต ก็จะใช้ทรายเป็นส่วนหนึ่งในการวาดมณฑลจักรวาล