Life of Pi...เชื่อด้วยใจของคุณเอง(Review)

กระทู้สนทนา

            Life of Pi ผลงานล่าสุดของผกก.อั้งลี่ที่เคยฝากฝีมือไว้กับหนังออสการ์ชื่อดังอย่าง broke back mountainในปีนี้กับผลงานที่งดงามอีกครั้ง Life of Pi สร้าง จากหนังสือชื่อดังซึ่งความโดดเด่นของเวอร์ชั่นหนังคือการถ่ายทอดภาพสุดเหนือ จะจินตนาการจากตัวหนังสือให้กลายเป็นตระการตาบนจอภาพยนตร์ซึ่งก็ไม่ทำให้คน ดูผิดหวังเพราะการตัดต่อภาพและเทคนิคCGขั้น เทพที่สวยเนี๊ยบสมบูรณ์แบบสร้างชีวิตของพายได้อย่างสมศักดิ์ศรีผู้กำกับ รางวัลออสการ์คนนี้ อยากจะยกรางวัลเทคนิคภาพยอดเยี่ยมให้กับหนังเรื่องนี้มากๆ ที่สำคัญคือต้องดูในระบบ 3D เท่านั้น
              หนังเล่าเรื่องเกี่ยวกับการรอดตายของพายที่อยู่บนเรือกลางทะเลเป็นเวลา 227 วันกับเสือเบงกอลที่ชื่อ ริชาร์ด พาคเกอร์(ที่มาที่ไปของชื่อนี้น่าตลกดี) การดำเนินเรื่องผ่านชีวิตของพายในวัยผู้ใหญ่นั่งคุยกับ ยานน์ มาร์เทล นักเขียนที่กำลังหาไอเดียไปเขียนหนังสือตัดสลับเรื่องราวที่พายเล่าLife of Pi ไม่ เพียงแต่เป็นภาพยนตร์ที่หลายคนมองว่าคือการผจญภัยแต่เหนืออื่นใดชีวิตของพาย มีปรัชญชาที่ลุ่มลึก ความเชื่อ ศาสนา ความกล้าหาญ ชัยชนะและการยอมแพ้ การจะเก็บรายละเอียดทุกส่วนของหนังเรื่องนี้ถือได้ว่ายากมากๆขึ้นอยู่กับว่า คนดูจะรับอะไรจากหนังเรื่องนี้ไปได้มากเท่าไหร่ บางคนอาจจะสัมผัสได้แค่เรื่องราวของการผจญภัยแต่บางคนอาจจะได้ข้อคิดในการ ดำรงชีวิตใหม่ ชีวิตของพายไม่ใช่เพียงความเชื่อทางคริสต์แต่เชื่อมโยงกับเรื่องราวของทุก ศาสนา ตอนท้ายของเรื่องพายถามกับ ยานน์ มาร์เทล ผู้เขียนหนังสือซึ่งแทนภาพคนดูที่นั่งฟังเรื่องของเขาว่า จะเชื่อเรื่องไหน เป็นสิ่งที่ย้อนกลับมาถามคนดูว่า คุณเชื่อในพระเจ้าและปาฎิหาริย์มากน้อยแค่ไหน สิ่งที่ผมชอบคือหนังไม่ได้บังคับให้คนดูเชื่อเรื่องไหนระหว่างความจริงที่ โหดร้ายกับปาฎิหาริย์ของพระเจ้า แต่เลือกให้คนดูเชื่อด้วยเหตุผลของตัวเอง เหมือนกับที่พ่อของพายบอกตอนต้นเรื่องว่า คนเราจะเชื่อทุกอย่างไม่ได้แต่ให้เชื่อด้วยเหตุด้วยผล อีกสิ่งหนึ่งที่ผมชอบคือการเชื่อมโยงคติความเชื่อเรื่องเทพเจ้าของฮินดู พระเจ้าของคริสต์เหมือนตอนเกาะปริศนาที่กลางวันเป็นผู้ให้ กลางคืนทำลาย ผมลองตีความดูว่าน่าจะหมายถึงพระวิษณุหรือพระนารายณ์ตามคติความเชื่อที่พาย ได้เล่าตอนต้นเรื่องว่าพระวิษณุบรรทมอยู่ใต้มหาสมุทรและพระวิษณุคือผู้รักษา ความสงบดูแลความเรียบร้อย ความสมดุลของโลกทั้งสาม ผูกโยงเข้ากับประเด็นพระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งเราได้อย่างแนบเนียน
                แม้จะมีความโดดเด่นด้านเทคนิค เนื้อเรื่องที่มีข้อคิดแต่ Life of Pi ก็ ยังดำเนินเรื่องแบบเรื่อยๆชวนให้คนดูได้ง่วงนอนแต่การเล่าเรื่องแบบเรื่อยๆ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนดูได้สัมผัสที่วันเวลาที่ยาวนานบนเรือชูชีพของ พาย ชีวิตที่มีเพียงความหวังและการรอคอย Life of Pi ไม่ ได้ทัชชิ่งหรือสัมผัสความรู้สึกของคนดูมากเท่าไหร่ ไม่เหมือนหนังหลายเรื่องที่เลือกจะจับประสบการณ์ของคนดูไปใส่ไว้ในหนังเพื่อ ให้คนดูมีส่วนร่วม เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเฉพาะเรื่องของพายเท่านั้นคนดูอาจเลยรู้ฟสึกเบื่อๆไป บ้างแต่โดยรวมถือว่า เป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งส่งท้ายปี 2012นี้เลย เท่าที่เคยดูมานอกจากไททานิคที่สร้างเรื่องราวกลางทะเลแล้ว Life of Pi เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่มีทะเลเป็นฉากหลังที่งดงาม น่ากลัว และยอดเยี่ยมที่สุด
คุณเลือกที่จะเชื่อเรื่องไหน…..เพราะมันเชื่อมโยงกับพระเจ้า
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือการไม่ได้บอกลากันและกัน
 
คุยเรื่องหนังกันต่อได้ที่ Twitter : @sanookOs
ฝากรีวิวอื่นๆที่นี่ด้วยครับ : http://isanook.wordpress.com/

 

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่