JJNY : รองโฆษกปชน.ฉะนักร้องดัง│ดุสิตโพลเผยเรื่องที่สุดแห่งปี 2568│ไกด์ไทย แฉ"กัมพูชา"สร้างบังเกอร์บนปราสาท│7 จว.ยังเจอฝน

รองโฆษกปชน. ฉะนักร้องดัง เมาไม่ใช่ข้ออ้าง ร่างยิบโทษกม.ใหม่ คุมคามทางเพศ 
https://www.matichon.co.th/politics/news_5528862
.

.
รองโฆษกปชน. ฉะนักร้องดัง เมาไม่ใช่ข้ออ้าง ร่างยิบโทษกม.ใหม่ คุมคามทางเพศ 
.
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2568 น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อเขียน เรื่อง
[ “เมา” ไม่ใช่ข้ออ้าง และ “แค่แซว” ไม่ใช่เรื่องตลก : กฎหมายคุกคามทางเพศฉบับใหม่ บังคับใช้แล้ว! ] แสดงความคิดเห็น โดม ปกรณ์ ลัม นักร้องดังยุค 90 เข้าไปคอมเมนต์ใต้ภาพของ จินนี่ ยศสุดา ในข้อความลักษณะคุกคามทางเพศ ก่อนจะออกมายอมรับว่าทำไปตอนเมาว่า
.
ดิฉันในฐานะของหนึ่งในผู้เข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ และเป็นผู้เสนอร่างโดยทำงานร่วมกับ ส.ส.จอจาน เอกราช อุดมอำนวย ส.ส.กานต์ ภัสริน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผลักดันประเด็นความเท่าเทียมทางเพศมาโดยตลอด
.
ดิฉันขอแสดงความเห็นต่อกรณีที่เกิดขึ้นกับคุณจินนี่ ยศสุดา ซึ่งถูกคุกคามทางเพศผ่านทางโซเชียลมีเดียโดยนักร้องชื่อดัง เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การคุกคามทางเพศไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่นกันได้เพียงเพราะความคึกคะนองหรืออ้างว่ามึนเมา ขอพูดตรงๆ ด้วยความหวังดีต่อสังคมว่า… . “โลกใบเก่าที่คุณคุ้นเคย มันจบลงแล้วค่ะ”
.
ข้ออ้างว่า “เมา” “ไม่ตั้งใจ” หรือ “แค่แซวเล่นแบบผู้ชาย” ไม่สามารถนำมาใช้ลบล้างความผิด หรือลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของใครได้อีกต่อไป เจตนารมณ์ที่ดิฉันและพรรคประชาชน (ก้าวไกลเดิม) ผลักดันกฎหมายฉบับนี้ ก็เพื่อยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการคุกคามทางเพศให้เป็นมาตรฐานสากล เราต้องการ ปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน โดยไม่จำกัดเพียงแค่การสัมผัสเนื้อตัวร่างกายเท่านั้น
.
กฎหมายฉบับนี้มี ขอบเขตความคุ้มครองและเจตจำนง ที่สังคมต้องรับทราบดังนี้
.
• นิยามที่ครอบคลุม: กฎหมายใหม่ระบุชัดเจนว่า “การคุกคามทางเพศ” รวมถึงการกระทำทางวาจา ท่าทาง หรือการกระทำอื่นใดที่ไม่พึงปรารถนาในทางเพศ ซึ่งทำให้ผู้ถูกกระทำอับอาย เสื่อมเสียเกียรติ หรือรู้สึกกลัว
.
• การคุกคามออนไลน์มีโทษหนัก: กรณีที่เกิดขึ้นผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือโซเชียลมีเดีย กฎหมายกำหนดโทษไว้สูงถึง จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากการกระทำนั้นทำให้ผู้อื่นหวาดกลัว กังวลใจ เสียชื่อเสียง หรือได้รับความเดือดร้อนรำคาญ (หนักกว่าการคุกคามต่อหน้าถึง 2 เท่า)
.
มาตรการเชิงป้องกัน: ศาลมีอำนาจสั่ง “งดเว้นการกระทำ” เพื่อคุ้มครองผู้เสียหายจากการถูกรบกวนหรือข่มขู่คุกคามซ้ำ และยังมีบทลงโทษกรณีฉกรรจ์ หากเป็นการคุกคามโดยอาศัยความสัมพันธ์ทางอำนาจที่เหนือกว่า หรือกระทำต่อเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จะมีโทษหนักขึ้น
.
ที่ผ่านมา สังคมมักบอกว่า “หยวนๆ น่า เขาแค่แซว” แต่กฎหมายนี้ยืนยันว่า นี่คือปัญหาระดับโครงสร้างสังคม คือการละเมิดสิทธิเนื้อตัวร่างกาย แม้จะเป็นบนพื้นที่ออนไลน์ก็ตาม กฎหมายนี้ปกป้องทุกคนเท่าเทียม เพราะไม่ว่าผู้ถูกกระทำจะเป็นลูกหลานนักการเมือง เป็นดารา หรือเป็นประชาชนคนธรรมดา กฎหมายนี้คุ้มครองศักดิ์ศรีของทุกคนเท่ากันค่ะ
.
กรณีนี้ ดิฉันขอชื่นชมคุณหญิงสุดารัตน์ที่ลุกขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรีของลูกสาว และขอให้กำลังใจคุณจินนี่ รวมถึงผู้ถูกกระทำทุกคน และขอฝากถึงพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะคุณผู้ชายที่อาจจะยังติดนิสัยเดิมๆ… ระวังนิ้วของท่านให้ดีค่ะ ความคะนองเพียงชั่ววูบ หรือความเมาเพียงชั่วข้ามคืน เมื่อตื่นขึ้นมา ท่านอาจจะต้องรับผิดชอบต่อหน้ากฎหมายและสังคมอย่างหนักหน่วง
.
สังคมที่ปลอดภัย คือสังคมที่เคารพกัน ไม่ใช่สังคมที่ใครจะพ่นคำหยาบคายใส่ใครก็ได้ แล้วจบด้วยคำว่า “ขอโทษครับ ผมเมา”
.
https://www.facebook.com/lisapukkamon/posts/pfbid02KKsJgoSBNL4Meq5WWvrnU7sWfpWPXxpnGjuXDa3Y3rLNYnDaT3xU8Roy6TEEtHJil
.

.
สวนดุสิตโพล เผยเรื่องที่สุดแห่งปี 2568 ‘พระพันปีหลวง-แผ่นดินไหว-ชายแดน’
.
สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจเรื่อง "ที่สุดแห่งปี 2568" พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต แผ่นดินไหวกรุงเทพฯ /ตึก สตง.ถล่ม ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
.
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ที่สุดแห่งปี 2568” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 10,218 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 15-26 ธันวาคม 2568 พบว่า เหตุการณ์ที่สุดแห่งปี 2568 คือ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต ร้อยละ 24.84 แผ่นดินไหวกรุงเทพฯ /ตึก สตง.ถล่ม ร้อยละ 22.92 และปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ร้อยละ 20.14 นักร้องเพลงไทยสากลที่สุดแห่งปี คือ เจฟ ซาเตอร์ ร้อยละ 40.50 นักร้องลูกทุ่งที่สุดแห่งปี คือ ก้านตอง ทุ่งเงิน ร้อยละ 35.66 ดาราที่สุดแห่งปี คือ หลิง หลิง คอง ร้อยละ 37.37 นักกีฬาที่สุดแห่งปี คือ เมย์ รัชนก ร้อยละ 29.56 นักการเมืองที่สุดแห่งปี คือ รักชนก ศรีนอก ร้อยละ 27.35 นักวิชาการที่สุดแห่งปี คือ ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา ร้อยละ 30.16 ผู้ทรงอิทธิพลของไทยแห่งปี คือ ลิซ่า BLACKPINK ร้อยละ 37.31 และความหวังในปีหน้า 2569 คือ ได้นายกรัฐมนตรี/รัฐบาลที่ดี ร้อยละ 29.81 ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ร้อยละ 27.63
.
ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลโพลที่สุดแห่งปีสะท้อนสังคมไทยที่เผชิญทั้งความสูญเสียและความไม่แน่นอน เหตุการณ์ใหญ่ของปีล้วนกระทบความรู้สึกและความมั่นคงของประเทศ ขณะเดียวกันบุคคลในวงการบันเทิงยังทำหน้าที่เป็นพลังบวก ช่วยพยุงความสุขและความหวังของสังคมไว้ ส่วนความคาดหวังว่า “จะได้นายกฯ และรัฐบาลที่ดี” ในปีหน้า จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนเอง
.
ดร.งามประวัณ เอ้สมนึก คณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ผลโพล “ที่สุดแห่งปี 2568” มิใช่เพียงสถิติปลายปี หากคือภาพสะท้อนความรู้สึกของสังคมไทยต่อรัฐในช่วงเวลาที่ความมั่นคงเชิงโครงสร้างกำลังสั่นคลอน เมื่อภัยพิบัติ การพังทลายของโครงสร้างรัฐ และปัญหาชายแดนถูกจัดวางในอันดับต้น ย่อมสะท้อนความเปราะบางของสิทธิในชีวิตและความปลอดภัยซึ่งเป็นแก่นของหลักนิติรัฐ จากความเปราะบางนั้น ความหวังของสังคมจึงมิได้พุ่งไปที่นโยบายใหม่ หากมุ่งตรงสู่การมีรัฐบาลที่ดีและคุณภาพชีวิตที่มั่นคง และเมื่อความชอบธรรมของรัฐกลายเป็นโจทย์ การเมืองรุ่นใหม่จึงถูกยกขึ้นเป็นตัวแทนของการเมืองที่ต้องตรวจสอบได้
.
อย่างไรก็ดี การที่ Soft Power จากศิลปินระดับโลกครองพื้นที่ความเชื่อมั่นเหนือสถาบันการเมือง ยิ่งตอกย้ำว่าพลังทางวัฒนธรรมกำลังนำหน้าพลังเชิงอำนาจ และท่ามกลางกระแสของข้อมูลที่บิดเบือน สังคมจึงหันไปให้คุณค่านักวิชาการสายเหตุผล เพื่อยึดโยงกับการค้นหาความจริง นอกจากนี้ความนิยมในนักกีฬาหญิงที่ติดอันดับต้น ยังสะท้อนการยอมรับความเสมอภาค ในพื้นที่สาธารณะอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้น คือการที่ “บุคคลผู้ทรงอิทธิพล” จากโลกบันเทิงและสื่อสามารถครองพื้นที่ความเชื่อมั่นของสังคมเหนือสถาบันการเมืองได้อย่างเด่นชัด ซึ่งมิใช่เพียงเรื่องรสนิยม หากเป็นคำถามเชิงโครงสร้างว่า สังคมไทยกำลัง “เชื่อใคร” และ “เชื่อบนฐานอะไร
.

.
ไกด์ไทย แฉ "กัมพูชา" สร้างบังเกอร์บนปราสาทพระวิหาร ขัดอนุสัญญากรุงเฮก
.
ไกด์ไทย แฉ "กัมพูชา" สร้างบังเกอร์บนปราสาทพระวิหาร ขัดอนุสัญญาคุ้มครองโบราณสถาน
.
นายโอภาส จริยพฤติ มัคคุเทศก์โบราณคดี สายภารตภิวัฒน์ เจ้าของเฟซบุ๊กเพจ “ไกด์โอ พาเที่ยว” ได้โพสต์ตำหนิทหารกัมพูชา ที่ใช้ปราสาทพระวิหาร เป็นที่มั่นทางทหารมีเนื้อหาระบุว่า เขาสร้างมาไว้เพื่อสักการะบูชา แต่กลับเอามาทำเป็นบังเกอร์ทหาร
.
กัมพูชาใช้โบราณสถาน คือ ปราสาทตาควายและปราสาทพระวิหาร เป็นฐานที่มั่นทางการทหาร และใช้เป็นสถานที่โจมตีต่อประเทศไทย โดยไทยสามารถตอบโต้พื้นที่ทางทหารในโบราณสถานนั้นๆ ได้ ใช้ข้อยกเว้นตามอนุสัญญากรุงเฮก ค.ศ. 1954 ว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินทางวัฒนธรรม  
ในกรณีความขัดแย้งทางอาวุธ สามารถกระทำได้ตาม มาตรา 4 วรรค 1
.
มาตรา 4 การเคารพทรัพย์สินทางวัฒนธรรม วรรค 1 ระบุว่า คู่ภาคีผู้ทำสัญญาสูงสุดตกลงที่จะเคารพทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่ตั้งอยู่ภายในดินแดนของตนเอง ตลอดจนภายในดินแดนของคู่ภาคีผู้ทำสัญญาสูงสุดอื่น ๆ โดยงดเว้นจากการใช้ทรัพย์สิน และบริเวณโดยรอบ หรือเครื่องมือที่ใช้ในการปกป้องทรัพย์สินนั้น เพื่อวัตถุประสงค์ที่อาจทำให้ทรัพย์สินนั้นถูกทำลาย หรือเสียหายในกรณีเกิดความขัดแย้งทางอาวุธ และโดยงดเว้นจากการกระทำที่เป็นปรปักษ์ต่อทรัพย์สินดังกล่าว
.
นายโอภาส ยังได้ตั้งคำถามว่า ทำไมโคปุระ ชั้นที่ 1 ตัวราวสะพานนาค และเครนก่อสร้างถึงโดนทำลาย ก็ให้ดูแนวบังเกอร์ในวงสีเหลืองและเครนก่อสร้างที่ไว้ติดตั้งอุปกรณ์​อิเล็กทรอนิกส์​ทางการทหารเอาไว้ด้วย โดยเฉพาะเครนก่อสร้างที่ติดตั้ง​อุปกรณ์​อิเล็กทรอนิกส์ทางการทหาร​ ว่าอยู่ชิดโคปุระและราวสะพานนาคขนาดไหน เชื่อว่าในแนวป่าด้านขวามือของราวสะพานนาคในวงสีขาว ก็จะมีแนวบังเกอร์อีก เพราะจะตรงกับผามออีแดงของเราพอดี แต่ไม่เคยเดินไปดู.
.
ถ้าในเมื่อใช้ตัวปราสาทเป็นฐานที่มั่นทางการทหาร ก็หมดความชอบธรรมในการเป็นโบราณสถาน ตามอนุสัญญา​กรุงเฮก ปี ค.ศ. 1954 พร้อมทิ้งท้ายว่า กัมพูชาใช้ปราสาทเป็นตัวประกัน ในการทำสงคราม
.
นายโอภาส ยังให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เพิ่มเติม เล่าว่า ตนเองนำคณะทัวร์เดินทางไปกัมพูชามานานกว่า 20 ปี และเคยขึ้นไปยังปราสาทพระวิหารเกือบ 20 ครั้ง โดยเฉพาะในช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมา เดินทางขึ้นไปเกือบ 10 ครั้ง ทำให้เห็นสภาพพื้นที่และความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
.
โดยการขึ้นไปยังปราสาทพระวิหาร นักท่องเที่ยวจะต้องนั่งรถบัสไปจอดที่เชิงเขาพระวิหาร เพื่อซื้อบัตรเข้าชมราคา 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 315 บาท
.
จากนั้นต้องเปลี่ยนเป็นรถโฟร์วีลของอุทยานกัมพูชาเท่านั้น เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างชัน ยาวประมาณ 5–7 กิโลเมตร และไม่อนุญาตให้รถอื่นขึ้นไป โดยเส้นทางดังกล่าวมีบางช่วงล้ำเข้าไปในเขตแดนของไทย และไปสิ้นสุดบริเวณหน้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีข้อพิพาท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่