
TITLE: ใครว่าหนังเกาหลีมีแต่รักโรแมนติก? "The Sand Castle" (2018) นี่แหละครับ พลิกมุมมองหนุ่มๆ ได้เลย!
สวัสดีครับพี่น้องชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้ผมมีหนังเกาหลีดีๆ ที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟังครับ พอดีเพิ่งมีโอกาสได้ดู "The Sand Castle" หรือชื่อเกาหลีว่า "모래성" ที่ฉายในปี 2018 ครับ ปกติเวลาพูดถึงหนังเกาหลี หลายคนอาจจะนึกถึงซีรีส์รักหวานๆ น้ำเน่าๆ หรือไม่ก็หนังแอ็คชั่นดราม่าเข้มข้น แต่เรื่องนี้มันฉีกแนวออกไปเลยครับ เป็นแนวที่อาจจะไม่ได้หวือหวามาก แต่ดูจบแล้วมันให้ข้อคิดอะไรบางอย่างที่ทำให้เราต้องกลับมาทบทวนตัวเองเหมือนกันครับ
เรื่องย่อคร่าวๆ เลยนะครับ "The Sand Castle" เล่าเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังอยู่ในช่วงชีวิตที่สับสนครับ เขาต้องเผชิญหน้ากับความกดดันรอบด้าน ทั้งเรื่องงาน เรื่องครอบครัว และเรื่องความสัมพันธ์ที่กำลังจะไปไม่รอด คือชีวิตมันเหมือนปราสาททรายที่สร้างขึ้นมาอย่างสวยงาม แต่พร้อมจะพังทลายได้ทุกเมื่อถ้าคลื่นซัดเข้ามาแรงพอ หนังจะพาเราไปสำรวจจิตใจของตัวละครนี้ครับ ว่าเขากำลังคิดอะไร รู้สึกยังไง และจะจัดการกับปัญหาที่ประดังเข้ามาได้อย่างไรบ้าง
สิ่งที่ผมชอบในเรื่องนี้เลยนะครับ คือการนำเสนอที่ค่อนข้างสมจริงครับ มันไม่ได้มีฉากดราม่าที่โอเวอร์แอคติ้ง หรือเหตุการณ์ที่เหนือธรรมชาติอะไรเลยครับ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันของเรานี่แหละครับ ความรู้สึกเบื่อหน่าย ท้อแท้ สิ้นหวัง หรือแม้กระทั่งความรู้สึกผิด หลงเหลือไว้แต่ความว่างเปล่า มันถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างละเมียดละไมมากๆ ครับ ตัวละครหลักนี่เหมือนเราเลยครับ บางทีก็ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนดี ทำอะไรก็ผิดไปหมด รู้สึกว่าตัวเองมันไม่มีค่า หรือทำอะไรก็ไม่เคยดีพอสักที
แล้วการแสดงของนักแสดงนำนี่ผมต้องขอชมเลยครับ เขาถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกออกมาได้ดีมากๆ ครับ สีหน้า แววตา ท่าทาง มันดูเป็นธรรมชาติจนเราอินตามไปกับเขาได้เลยครับ บางฉากที่เขาดูว่างเปล่า หรือกำลังคิดอะไรหนักๆ นี่ผมดูแล้วรู้สึกอึดอัดตามไปด้วยเลยครับ มันเหมือนเรากำลังยืนอยู่ตรงนั้นกับเขา มองเห็นความทุกข์ที่เขาแบกรับอยู่
อีกอย่างที่ผมประทับใจคือการใช้ภาพและเสียงประกอบครับ หนังไม่ได้มีฉากหวือหวาอะไร แต่การจัดองค์ประกอบภาพ การใช้แสงเงา มันช่วยเสริมบรรยากาศของความเหงา ความโดดเดี่ยว และความอึดอัดของตัวละครได้เป็นอย่างดีครับ เพลงประกอบก็ไม่ได้เยอะแยะ แต่ทุกครั้งที่เพลงขึ้นมา มันเหมือนเข้ามาตอกย้ำความรู้สึกของตัวละครให้เราได้สัมผัสชัดเจนขึ้นไปอีก
"The Sand Castle" อาจจะไม่ใช่หนังที่เหมาะกับทุกคนนะครับ ถ้าใครชอบหนังที่ดูสนุก เร้าใจ มีจุดหักมุม หรือมีฉากแอ็คชั่นตื่นเต้น อาจจะรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเนือยๆ ไปหน่อยครับ แต่มันเป็นหนังที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังรู้สึกหลงทางในชีวิต หรือกำลังเผชิญกับปัญหาที่รู้สึกว่ามันหนักหนาเกินไปครับ มันจะทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้โดดเดี่ยวครับ ยังมีคนอื่นที่กำลังเผชิญกับปัญหาคล้ายๆ กัน
หนังเรื่องนี้มันเหมือนกระจกเงาครับ ที่สะท้อนให้เราเห็นถึงความเปราะบางของชีวิต ความไม่แน่นอน และการต่อสู้ดิ้นรนของมนุษย์เรานี่แหละครับ มันทำให้เราได้คิดถึงความหมายของชีวิต ความสัมพันธ์ที่เรามี และคุณค่าของตัวเราเอง ว่าจริงๆ แล้วเรากำลังวิ่งตามหาอะไรอยู่กันแน่
ผมดูเรื่องนี้จบแล้วมันทำให้ผมคิดถึงคำว่า "การประนีประนอม" ครับ บางทีชีวิตเราก็ต้องมีการประนีประนอมกับหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่าง ทั้งกับคนอื่น และกับตัวเอง การยอมรับในข้อจำกัดของตัวเอง การปล่อยวางบางอย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้ มันอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในบางสถานการณ์
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือเรื่องของ "ความคาดหวัง" ครับ เรามักจะมีความคาดหวังกับชีวิต คาดหวังกับความสัมพันธ์ คาดหวังกับคนรอบข้าง พออะไรไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง เราก็ผิดหวัง เราก็เสียใจ หนังเรื่องนี้มันเหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ครับว่า การลดความคาดหวังลงมาบ้าง อาจจะทำให้เรามีความสุขกับชีวิตได้มากขึ้น
สำหรับใครที่กำลังมองหาหนังที่ดูแล้วได้ข้อคิด ได้กลับมาทบทวนตัวเอง ผมแนะนำ "The Sand Castle" เลยครับ มันอาจจะไม่ได้ให้คำตอบสำเร็จรูป แต่จะทำให้คุณได้ตั้งคำถามกับตัวเอง และอาจจะค้นพบทางออกบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในใจของคุณก็ได้ครับ เป็นหนังที่ดูแล้วอาจจะรู้สึกหน่วงๆ นิดหน่อย แต่ผมว่ามันคุ้มค่าครับ
สุดท้ายนี้ก็อยากจะบอกว่า หนังเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่ง แต่มันคือเรื่องราวของพวกเราทุกคนครับ ที่กำลังต่อสู้ ดิ้นรน และพยายามหาความหมายของชีวิตไปเรื่อยๆ ครับ ลองหามาดูกันนะครับ แล้วมาคุยกันได้ครับว่าใครดูแล้วรู้สึกยังไงบ้าง
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับ แล้วเจอกันใหม่รีวิวหน้าครับ สวัสดีครับ
ใครว่าหนังเกาหลีมีแต่รักโรแมนติก? "The Sand Castle" (2018) นี่แหละครับ พลิกมุมมองหนุ่มๆ ได้เลย!
TITLE: ใครว่าหนังเกาหลีมีแต่รักโรแมนติก? "The Sand Castle" (2018) นี่แหละครับ พลิกมุมมองหนุ่มๆ ได้เลย!
สวัสดีครับพี่น้องชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้ผมมีหนังเกาหลีดีๆ ที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟังครับ พอดีเพิ่งมีโอกาสได้ดู "The Sand Castle" หรือชื่อเกาหลีว่า "모래성" ที่ฉายในปี 2018 ครับ ปกติเวลาพูดถึงหนังเกาหลี หลายคนอาจจะนึกถึงซีรีส์รักหวานๆ น้ำเน่าๆ หรือไม่ก็หนังแอ็คชั่นดราม่าเข้มข้น แต่เรื่องนี้มันฉีกแนวออกไปเลยครับ เป็นแนวที่อาจจะไม่ได้หวือหวามาก แต่ดูจบแล้วมันให้ข้อคิดอะไรบางอย่างที่ทำให้เราต้องกลับมาทบทวนตัวเองเหมือนกันครับ
เรื่องย่อคร่าวๆ เลยนะครับ "The Sand Castle" เล่าเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังอยู่ในช่วงชีวิตที่สับสนครับ เขาต้องเผชิญหน้ากับความกดดันรอบด้าน ทั้งเรื่องงาน เรื่องครอบครัว และเรื่องความสัมพันธ์ที่กำลังจะไปไม่รอด คือชีวิตมันเหมือนปราสาททรายที่สร้างขึ้นมาอย่างสวยงาม แต่พร้อมจะพังทลายได้ทุกเมื่อถ้าคลื่นซัดเข้ามาแรงพอ หนังจะพาเราไปสำรวจจิตใจของตัวละครนี้ครับ ว่าเขากำลังคิดอะไร รู้สึกยังไง และจะจัดการกับปัญหาที่ประดังเข้ามาได้อย่างไรบ้าง
สิ่งที่ผมชอบในเรื่องนี้เลยนะครับ คือการนำเสนอที่ค่อนข้างสมจริงครับ มันไม่ได้มีฉากดราม่าที่โอเวอร์แอคติ้ง หรือเหตุการณ์ที่เหนือธรรมชาติอะไรเลยครับ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันของเรานี่แหละครับ ความรู้สึกเบื่อหน่าย ท้อแท้ สิ้นหวัง หรือแม้กระทั่งความรู้สึกผิด หลงเหลือไว้แต่ความว่างเปล่า มันถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างละเมียดละไมมากๆ ครับ ตัวละครหลักนี่เหมือนเราเลยครับ บางทีก็ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนดี ทำอะไรก็ผิดไปหมด รู้สึกว่าตัวเองมันไม่มีค่า หรือทำอะไรก็ไม่เคยดีพอสักที
แล้วการแสดงของนักแสดงนำนี่ผมต้องขอชมเลยครับ เขาถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกออกมาได้ดีมากๆ ครับ สีหน้า แววตา ท่าทาง มันดูเป็นธรรมชาติจนเราอินตามไปกับเขาได้เลยครับ บางฉากที่เขาดูว่างเปล่า หรือกำลังคิดอะไรหนักๆ นี่ผมดูแล้วรู้สึกอึดอัดตามไปด้วยเลยครับ มันเหมือนเรากำลังยืนอยู่ตรงนั้นกับเขา มองเห็นความทุกข์ที่เขาแบกรับอยู่
อีกอย่างที่ผมประทับใจคือการใช้ภาพและเสียงประกอบครับ หนังไม่ได้มีฉากหวือหวาอะไร แต่การจัดองค์ประกอบภาพ การใช้แสงเงา มันช่วยเสริมบรรยากาศของความเหงา ความโดดเดี่ยว และความอึดอัดของตัวละครได้เป็นอย่างดีครับ เพลงประกอบก็ไม่ได้เยอะแยะ แต่ทุกครั้งที่เพลงขึ้นมา มันเหมือนเข้ามาตอกย้ำความรู้สึกของตัวละครให้เราได้สัมผัสชัดเจนขึ้นไปอีก
"The Sand Castle" อาจจะไม่ใช่หนังที่เหมาะกับทุกคนนะครับ ถ้าใครชอบหนังที่ดูสนุก เร้าใจ มีจุดหักมุม หรือมีฉากแอ็คชั่นตื่นเต้น อาจจะรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเนือยๆ ไปหน่อยครับ แต่มันเป็นหนังที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังรู้สึกหลงทางในชีวิต หรือกำลังเผชิญกับปัญหาที่รู้สึกว่ามันหนักหนาเกินไปครับ มันจะทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้โดดเดี่ยวครับ ยังมีคนอื่นที่กำลังเผชิญกับปัญหาคล้ายๆ กัน
หนังเรื่องนี้มันเหมือนกระจกเงาครับ ที่สะท้อนให้เราเห็นถึงความเปราะบางของชีวิต ความไม่แน่นอน และการต่อสู้ดิ้นรนของมนุษย์เรานี่แหละครับ มันทำให้เราได้คิดถึงความหมายของชีวิต ความสัมพันธ์ที่เรามี และคุณค่าของตัวเราเอง ว่าจริงๆ แล้วเรากำลังวิ่งตามหาอะไรอยู่กันแน่
ผมดูเรื่องนี้จบแล้วมันทำให้ผมคิดถึงคำว่า "การประนีประนอม" ครับ บางทีชีวิตเราก็ต้องมีการประนีประนอมกับหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่าง ทั้งกับคนอื่น และกับตัวเอง การยอมรับในข้อจำกัดของตัวเอง การปล่อยวางบางอย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้ มันอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในบางสถานการณ์
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือเรื่องของ "ความคาดหวัง" ครับ เรามักจะมีความคาดหวังกับชีวิต คาดหวังกับความสัมพันธ์ คาดหวังกับคนรอบข้าง พออะไรไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง เราก็ผิดหวัง เราก็เสียใจ หนังเรื่องนี้มันเหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ครับว่า การลดความคาดหวังลงมาบ้าง อาจจะทำให้เรามีความสุขกับชีวิตได้มากขึ้น
สำหรับใครที่กำลังมองหาหนังที่ดูแล้วได้ข้อคิด ได้กลับมาทบทวนตัวเอง ผมแนะนำ "The Sand Castle" เลยครับ มันอาจจะไม่ได้ให้คำตอบสำเร็จรูป แต่จะทำให้คุณได้ตั้งคำถามกับตัวเอง และอาจจะค้นพบทางออกบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในใจของคุณก็ได้ครับ เป็นหนังที่ดูแล้วอาจจะรู้สึกหน่วงๆ นิดหน่อย แต่ผมว่ามันคุ้มค่าครับ
สุดท้ายนี้ก็อยากจะบอกว่า หนังเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่ง แต่มันคือเรื่องราวของพวกเราทุกคนครับ ที่กำลังต่อสู้ ดิ้นรน และพยายามหาความหมายของชีวิตไปเรื่อยๆ ครับ ลองหามาดูกันนะครับ แล้วมาคุยกันได้ครับว่าใครดูแล้วรู้สึกยังไงบ้าง
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับ แล้วเจอกันใหม่รีวิวหน้าครับ สวัสดีครับ