👜 แบรนด์หรูอยู่ยากขึ้น เมื่อชนชั้นกลางจีนเปลี่ยนวิถีการใช้เงิน

กระทู้สนทนา
แบรนด์หรูอยู่ยากขึ้น เมื่อชนชั้นกลางจีนเปลี่ยนวิถีการใช้เงิน
.
แนวคิดการบริโภคของชนชั้นกลางจีนกำลังเปลี่ยนจากการใช้จ่ายเพื่ออวดสถานะสู่การใช้จ่ายที่คำนึงถึงความคุ้มค่า เมื่อยุคทองของสินค้าหรูได้จบลง ในหลายแบรนด์จึงต่างเร่งปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร และย้ายไปรวมกันที่ห้างสรรพสินค้าหรูใจกลางเมือง พร้อมทั้งเริ่มส่งบัตรเชิญลูกค้าทั่วไปมาซื้อของ
.
ดังเช่นกรณีของ เจนนี่ ชนชั้นกลางจีนที่ได้รับคำเชิญให้ไปงานแสดงเครื่องประดับจาก คาร์เทียร์ (Cartier) ทั้งที่เคยซื้อเพียงครั้งเดียว เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงแรงกดดันด้านยอดขายของแบรนด์หรู โดยในช่วงครึ่งปีนี้ กลุ่ม LVMH ซึ่งมีแบรนด์ในเครืออย่าง Louis Vuitton และกลุ่ม Kering ซึ่งมีแบรนด์ในเครืออย่าง Balenciaga ต่างมีผลประกอบการลดลงในอัตราเลขสองหลัก
.
รายงานการวิเคราะห์ตลาดสินค้าหรูโลกปี 2025 ของ Bain & Company บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก ร่วมกับ Altagamma สมาคมแบรนด์หรูชั้นนำของอิตาลี ระบุว่าตลาดจะมีแนวโน้มคงที่หลังช่วงฟื้นตัวจากยุคโควิด แต่การชะลอการใช้จ่ายของชนชั้นกลางได้เพิ่มแรงกดดันต่อแบรนด์หรูอย่างชัดเจน
.
แม้ยอดซื้อจะลดลง แต่คำเชิญเข้าร่วมกิจกรรมจากแบรนด์กลับเพิ่มขึ้นและยังคงจัดอีเวนต์อย่างหรูหราเพื่อรักษาภาพลักษณ์ ขณะเดียวกันกลับตัดงบกิจกรรมภายในองค์กร ทั้งการลดงบประมาณ เปลี่ยนสถานที่จัดงาน และปรับลดระดับที่พัก เพื่อควบคุมต้นทุนและรักษากระแสเงินสดภายในองค์กร
.
แรงกดดันด้านยอดขาย
.
นายหน้าอสังหาริมทรัพย์รายหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันภายใต้แรงกดดันต่างๆ  แบรนด์หรูจึงกำลังหั่นราคาสู้กัน โดยแบรนด์มักเรียกร้องต่อศูนย์การค้าให้จัดสรรเงินสนับสนุน หรือมอบสิทธิพิเศษให้ เช่น ของสัมนาคุณสำหรับลูกค้าของแบรนด์ บริการสำหรับสมาชิกพรีเมียมของห้าง รวมถึงการวางแผนกิจกรรมทางการตลาดและโปรโมชันเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย
.
การวางกลยุทธ์
.
รายงานเรื่อง Luxury Brands in China Power Ranking 2025H1 จาก Luxe.Co (华丽志) ระบุว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ จำนวนร้านใหม่ของแบรนด์หรูที่เปิดในจีนลดลง 38% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ในเมืองที่ไม่ใช่เมืองเทียร์ 1 (เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเซินเจิ้น) มีร้านเปิดใหม่เพียง 42 แห่ง ซึ่งลดลงถึง 48%
.
จงฟางฟาง ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทด้านบริการอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า การปรับตัวของแบรนด์เหล่านี้คือการปิดสาขาและย้ายไปยังพื้นที่ใจกลางเมืองมากขึ้น โดยเพิ่มการลงทุนในเมืองเทียร์ 1 ที่ผู้บริโภคมีกำลังการจับจ่ายใช้สอยมากกว่า
.
เขาเสริมด้วยว่า แบรนด์ต่างๆ ยังหันไปเน้นกลยุทธ์ขยายสาขาในสนามบินของเมืองเทียร์ 1 โดยให้เหตุผลรองรับว่าเนื่องจากสนามบินมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี และมีกำลังซื้อสูง
.
ทัศนคติที่เปลี่ยนไป
.
ปัจจุบันผู้พัฒนาโครงการหันมาให้ความสำคัญกับกระแสเงินสดมากกว่าภาพลักษณ์ โดยเลือกปล่อยเช่าพื้นที่ให้เร็วที่สุดแทนการรอผู้เช่าระดับเดียวกันเหมือนในอดีต สะท้อนให้เห็นว่าในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลงภาพลักษณ์มักมีความสำคัญลดลง
.
หนึ่งในทิศทางที่แต่ละแบรนด์การปรับตัวคือ การหันไปลงทุนในกลุ่มของเล่นกระแสอย่าง Art Toy กลุ่มสินค้า IT กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มระดับพรีเมียมมากขึ้น เพราะหมวดหมู่ดังกล่าวสอดรับกับแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
.
รายงานคาดการณ์ว่าแม้ตลาดสินค้าหรูทั่วโลกจะเผชิญความไม่แน่นอนและพฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนไป แต่หลายแบรนด์ยังคงแสดงศักยภาพในการปรับตัว โดยปี 2025 คาดว่ามูลค่าการบริโภคจะคงที่และมีมูลค่าใกล้เคียงกับปีก่อน แต่แนวโน้มนี้จะผลต่อภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์อย่างไร ยังคงต้องติดตามต่อไป
.
.
📧 ติดต่อเรา Email: info@jeenthainews.com
.
#วัยรุ่นจีนยุคใหม่ #แบรนด์เนม
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่