เมื่อสัญญาณคือเส้นชีวิต ทรูลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ฟื้นฟูการสื่อสารในยามวิกฤต
หลังจากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา สิ่งหนึ่งที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและมีความสำคัญไม่แพ้ความปลอดภัย
นั่นคือการสื่อสาร เพราะไม่ใช่แค่เรื่องโทรศัพท์ติดหรือไม่ติด แต่หมายถึงการติดต่อครอบครัว การเข้าถึงข่าวสาร การประสานความช่วยเหลือ
และการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เองก็ตาม
นี่จึงเป็นที่มาของภารกิจเร่งด่วน เมื่อ ทรู คอร์ปอเรชั่น ผนึกกำลังร่วมกับ กองทัพไทย และสำนักงาน กสทช. ลงพื้นที่ชายแดน 7 จังหวัด
เพื่อฟื้นฟูโครงข่ายสื่อสารที่ได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะ

ซ่อมสัญญาณก่อน ซ่อมความกังวลของประชาชน หลังเกิดเหตุ ทรูส่งทีมวิศวกรลงพื้นที่ทันที เพื่อสำรวจและซ่อมแซม ทั้ง สถานีฐาน เสาสัญญาณ
และโครงข่ายไฟเบอร์ ที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบหนักอย่าง ศรีสะเกษ สุรินทร์ และสระแก้ว
เป้าหมายไม่ใช่แค่ “ให้มีสัญญาณ” แต่ต้อง กลับมาใช้งานได้จริงและเสถียร เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อกันได้ตามปกติ
และให้ภารกิจด้านความมั่นคงเดินหน้าต่อ การสื่อสารได้เท่ากับรับมือสถานการณ์ได้ดีขึ้น
นอกจากการซ่อมโครงข่าย ทรูยังเร่งขยายการช่วยเหลือ ในที่ใกล้ประชาชนมากขึ้น เช่น ติดตั้ง Free Wi-Fi ในศูนย์พักพิง
ติดตั้งจุดชาร์จไฟและพาวเวอร์แบงค์ สำหรับผู้ประสบภัย ติดตั้งทีวี พร้อม TrueVisions NOW เพื่อให้เข้าถึงข่าวสาร
แจกซิมการ์ดพร้อมเน็ต 10GB ใช้ได้ 7 วัน ช่วยให้ติดต่อญาติหรือขอความช่วยเหลือได้ทันที
รายละเอียดเล็ก ๆ เหล่านี้ กลับเป็นเรื่องใหญ่ในวันที่ประชาชนต้องการ “การติดต่อ” มากที่สุด
พร้อมทั้งมีการเสริมทัพด้วยเทคโนโลยีเฉพาะกิจ
ในพื้นที่ที่สัญญาณยังไม่เสถียร โดยทรูเองได้นำ รถสถานีฐานเคลื่อนที่ (COW) และเสาสัญญาณชั่วคราว เข้าเสริมสัญญาณ 4G/5G พร้อมใช้ระบบ BNIC (เครือข่ายอัจฉริยะ) เฝ้าระวังคุณภาพสัญญาณตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้แก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว ไม่ต้องรอให้ประชาชนร้องเรียน
ภารกิจครั้งนี้ในยามวิกฤตนี้ สะท้อนถึงการให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การให้บริการตามปกติ แต่ต้อง ลงพื้นที่จริง ทำงานร่วมกับรัฐ
และอยู่ข้างประชาชนในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพราะในยามวิกฤต “สัญญาณ” ไม่ได้หมายถึงคลื่นโทรศัพท์อย่างเดียว แต่คือ สัญญาณของความห่วงใย
และการไม่ทิ้งกัน
ขอบคุณภาพและข่าวสารจาก
https://www.posttoday.com/pr-news/pr-news/735760
https://www.true.th/blog/thai-cambodian-border/
เมื่อสัญญาณคือเส้นชีวิต ทรูลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ฟื้นฟูการสื่อสารในยามวิกฤต
หลังจากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา สิ่งหนึ่งที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและมีความสำคัญไม่แพ้ความปลอดภัย
นั่นคือการสื่อสาร เพราะไม่ใช่แค่เรื่องโทรศัพท์ติดหรือไม่ติด แต่หมายถึงการติดต่อครอบครัว การเข้าถึงข่าวสาร การประสานความช่วยเหลือ
และการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เองก็ตาม
เพื่อฟื้นฟูโครงข่ายสื่อสารที่ได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะ
ซ่อมสัญญาณก่อน ซ่อมความกังวลของประชาชน หลังเกิดเหตุ ทรูส่งทีมวิศวกรลงพื้นที่ทันที เพื่อสำรวจและซ่อมแซม ทั้ง สถานีฐาน เสาสัญญาณ
และโครงข่ายไฟเบอร์ ที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบหนักอย่าง ศรีสะเกษ สุรินทร์ และสระแก้ว
เป้าหมายไม่ใช่แค่ “ให้มีสัญญาณ” แต่ต้อง กลับมาใช้งานได้จริงและเสถียร เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อกันได้ตามปกติ
และให้ภารกิจด้านความมั่นคงเดินหน้าต่อ การสื่อสารได้เท่ากับรับมือสถานการณ์ได้ดีขึ้น
นอกจากการซ่อมโครงข่าย ทรูยังเร่งขยายการช่วยเหลือ ในที่ใกล้ประชาชนมากขึ้น เช่น ติดตั้ง Free Wi-Fi ในศูนย์พักพิง
ติดตั้งจุดชาร์จไฟและพาวเวอร์แบงค์ สำหรับผู้ประสบภัย ติดตั้งทีวี พร้อม TrueVisions NOW เพื่อให้เข้าถึงข่าวสาร
แจกซิมการ์ดพร้อมเน็ต 10GB ใช้ได้ 7 วัน ช่วยให้ติดต่อญาติหรือขอความช่วยเหลือได้ทันที
รายละเอียดเล็ก ๆ เหล่านี้ กลับเป็นเรื่องใหญ่ในวันที่ประชาชนต้องการ “การติดต่อ” มากที่สุด
พร้อมทั้งมีการเสริมทัพด้วยเทคโนโลยีเฉพาะกิจ
ในพื้นที่ที่สัญญาณยังไม่เสถียร โดยทรูเองได้นำ รถสถานีฐานเคลื่อนที่ (COW) และเสาสัญญาณชั่วคราว เข้าเสริมสัญญาณ 4G/5G พร้อมใช้ระบบ BNIC (เครือข่ายอัจฉริยะ) เฝ้าระวังคุณภาพสัญญาณตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้แก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว ไม่ต้องรอให้ประชาชนร้องเรียน
ภารกิจครั้งนี้ในยามวิกฤตนี้ สะท้อนถึงการให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การให้บริการตามปกติ แต่ต้อง ลงพื้นที่จริง ทำงานร่วมกับรัฐ
และอยู่ข้างประชาชนในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพราะในยามวิกฤต “สัญญาณ” ไม่ได้หมายถึงคลื่นโทรศัพท์อย่างเดียว แต่คือ สัญญาณของความห่วงใย
และการไม่ทิ้งกัน
ขอบคุณภาพและข่าวสารจาก
https://www.posttoday.com/pr-news/pr-news/735760
https://www.true.th/blog/thai-cambodian-border/