เรื่องราวถูกดัดแปลงเล็กน้อยจากตำนานของเมือง นครจำคา หรือจำคานคร สมัยทวารวดี ปัจจุบันคือเมืองดอนคา จังหวัดนครสวรรค์
(ปล. ผกาเป็นตัวละครที่เพิ่มเติมแต่งให้สอดคล้องกับเพลง )
ยุคสมัย: ทวารวดี (ราวพุทธศตวรรษที่ 11-16)
ณ ผืนแผ่นดินโบราณ "เมืองจำคานคร" เจ้าชายประสาททอง ผู้สง่างามและเปี่ยมด้วยยศศักดิ์ ได้รับโจทย์สำคัญจากท้าวไพศาลแห่งเมืองไพศาลี ให้ทำการแข่งขัน "ขุดอ่างน้ำ" เพื่อพิสูจน์รักและชิงนาง ผู้ชนะจะได้อภิเษกสมรสกับ พระนางสร้อยลัดดา หญิงสูงศักดิ์เลอโฉม
เจ้าชายประสาททองเกณฑ์ไพร่พลทหารนับพัน มาตั้งค่ายขุดดิน ณ บริเวณเขาตีคลี (บ้านตุ๊กแก) ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะคู่แข่งอย่างเจ้าชายจิตเกษมให้จงได้
Chapter1
(วางเนื้อเรื่อง สำหรับเพลงพ่อเนื้อทอง (เปาวลีพรพิมล)
ในขณะที่การขุดอ่างน้ำดำเนินไปอย่างเหน็ดเหนื่อย "ผกา" หญิงสาวชาวบ้านผู้มีรูปโฉมงดงามและจิตใจบริสุทธิ์ ได้เข้ามาทำหน้าที่หาบน้ำและลำเลียงเสบียงอาหารมาเลี้ยงดูเหล่าทหารและคนงาน
ท่ามกลางฝุ่นดินและเหงื่อไคล สายตาของผกาได้ไปสะดุดเข้ากับบุรุษผู้หนึ่งที่มีรัศมีโดดเด่นกว่าใคร นั่นคือเจ้าชายประสาททอง ด้วยรูปลักษณ์ที่คมคาย ผิวพรรณผุดผ่องดั่งทอง
ผกาตกหลุมรักเจ้าชายในทันที โดยที่เธอไม่ล่วงรู้เลยว่าเขาคือเจ้าผู้ครองเมือง คิดเพียงว่าเป็นหัวหน้านายกองผู้เก่งกาจ
เจ้าชายประสาททอง เมื่อเห็นความงามและความอ่อนหวานของผกา ก็เกิดความพึงพอใจ จึงเข้ามาเกี้ยวพาราสี พักผ่อนกายใจด้วยคำหวานและการหยอกล้อ เพื่อคลายความเครียดจากการแข่งขัน เขาให้ความหวังและแสดงท่าทีเหมือนมีใจตอบ ทำให้ผกาเชื่อสนิทใจว่านี่คือ "รักแท้" นางปรนนิบัติพัดวี มอบผ้าสไบซับเหงื่อ และเฝ้าฝันถึงวันที่อ่างน้ำเสร็จสมบูรณ์ เพื่อที่จะได้ครองคู่กัน
Chepter2
เมื่ออ่างน้ำขุดเสร็จสิ้นตามกำหนด เสียงโห่ร้องยินดีดังสนั่นหวั่นไหว แต่ไม่ใช่ความยินดีเพื่อความรักของผกา...
ขบวนเกียรติยศจากเมืองไพศาลีปรากฏขึ้น ประกาศชัยชนะของเจ้าชายประสาททอง และเชิญเสด็จกลับเพื่อเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับ พระนางสร้อยลัดดา ตามสัญญา
วินาทีนั้น ความจริงเปิดเผย... ผกาได้รู้ความลับสวรรค์เบี่ยงว่า ชายที่นางรักสุดหัวใจคือ "เจ้าเมือง" และอ่างน้ำที่นางเฝ้าดูเขาขุดด้วยความชื่นชมนั้น แท้จริงแล้วคือ "สินสอด" เพื่อไปสู่ขอผู้หญิงอื่น!
เจ้าชายประสาททอง เมื่อถึงเวลาต้องเลือก เขาจำต้องทิ้งความรักชั่วคราวริมขอบสระ เพื่อกลับไปสู่ยศถาบรรดาศักดิ์ เขาหันหลังให้ผกาอย่างเย็นชา ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า
Chepter 3
(ช่วงนี้วางเนื้อเรื่องให้ขึ้นเนื้อร้องเพลงด้วย2 ด้วยเพลง ผกา (junenom) ref.การร้องคุณเพลงหัสยา
ผกา หัวใจแตกสลาย ร่างกายแทบทรุดลงกับพื้น นางกรีดร้องไร้เสียงท่ามกลางความยินดีของผู้คน ความรักที่เคยมอบให้กลายเป็นความเจ็บปวดแสนสาหัส นางรู้สึกเหมือนถูกหลอกใช้ เป็นเพียงดอกไม้ริมทางที่เขาเด็ดดมแล้วโยนทิ้ง
นางพยายามวิ่งฝ่าวงล้อมทหารเข้าไปหาเจ้าชาย เพื่อทวงถามสัญญาใจ แต่กลับถูกกีดกันและมองด้วยสายตาเหยียดหยาม ความน้อยเนื้อต่ำใจถาโถมเข้ามา "ทำไมรักนี้จึงไม่สมหวัง เพียงเพราะข้าเป็นหญิงชาวบ้าน หรือเพราะท่านมีใจโลเล?"
เมื่อความเจ็บปวดกัดกินจนเกินต้านทาน และไม่อาจทนเห็นชายคนรักไปครองคู่กับหญิงอื่น ผกาตัดสินใจครั้งสุดท้าย... นางเดินขึ้นไปยังขอบอ่างน้ำที่ลึกและกว้างใหญ่ สายตามองไปยังเจ้าชายเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความอาลัยและตัดพ้อ ก่อนจะทิ้งร่างดิ่งลงสู่อ่างน้ำเบื้องล่าง เพื่อจบชีวิตและลบเลือนรอยอดีตที่ขมขื่น
เจ้าชายประสาททองหันกลับมาเห็นเพียงชายผ้าของผกาที่จมหายไปในสายน้ำ เขาวิ่งมาที่ขอบสระ แต่สายเกินแก้ เหลือทิ้งไว้เพียงตำนานเล่าขานถึงหญิงสาวชื่อ "ผกา" และความรักที่แลกมาด้วยชีวิต ณ เมืองดอนคา
(จบการแสดง)
ส่วนตัวชอบรายการชิงช้าสวรรค์มากอยากมีโอกาสให้เรื่องราวในพื้นถิ่นเล็กๆ ได้เผยแพร่ผ่านโชว์รายการ
(ปล. ผกาเป็นตัวละครที่เพิ่มเติมแต่งให้สอดคล้องกับเพลง )
ยุคสมัย: ทวารวดี (ราวพุทธศตวรรษที่ 11-16)
ณ ผืนแผ่นดินโบราณ "เมืองจำคานคร" เจ้าชายประสาททอง ผู้สง่างามและเปี่ยมด้วยยศศักดิ์ ได้รับโจทย์สำคัญจากท้าวไพศาลแห่งเมืองไพศาลี ให้ทำการแข่งขัน "ขุดอ่างน้ำ" เพื่อพิสูจน์รักและชิงนาง ผู้ชนะจะได้อภิเษกสมรสกับ พระนางสร้อยลัดดา หญิงสูงศักดิ์เลอโฉม
เจ้าชายประสาททองเกณฑ์ไพร่พลทหารนับพัน มาตั้งค่ายขุดดิน ณ บริเวณเขาตีคลี (บ้านตุ๊กแก) ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะคู่แข่งอย่างเจ้าชายจิตเกษมให้จงได้
Chapter1
(วางเนื้อเรื่อง สำหรับเพลงพ่อเนื้อทอง (เปาวลีพรพิมล)
ในขณะที่การขุดอ่างน้ำดำเนินไปอย่างเหน็ดเหนื่อย "ผกา" หญิงสาวชาวบ้านผู้มีรูปโฉมงดงามและจิตใจบริสุทธิ์ ได้เข้ามาทำหน้าที่หาบน้ำและลำเลียงเสบียงอาหารมาเลี้ยงดูเหล่าทหารและคนงาน
ท่ามกลางฝุ่นดินและเหงื่อไคล สายตาของผกาได้ไปสะดุดเข้ากับบุรุษผู้หนึ่งที่มีรัศมีโดดเด่นกว่าใคร นั่นคือเจ้าชายประสาททอง ด้วยรูปลักษณ์ที่คมคาย ผิวพรรณผุดผ่องดั่งทอง
ผกาตกหลุมรักเจ้าชายในทันที โดยที่เธอไม่ล่วงรู้เลยว่าเขาคือเจ้าผู้ครองเมือง คิดเพียงว่าเป็นหัวหน้านายกองผู้เก่งกาจ
เจ้าชายประสาททอง เมื่อเห็นความงามและความอ่อนหวานของผกา ก็เกิดความพึงพอใจ จึงเข้ามาเกี้ยวพาราสี พักผ่อนกายใจด้วยคำหวานและการหยอกล้อ เพื่อคลายความเครียดจากการแข่งขัน เขาให้ความหวังและแสดงท่าทีเหมือนมีใจตอบ ทำให้ผกาเชื่อสนิทใจว่านี่คือ "รักแท้" นางปรนนิบัติพัดวี มอบผ้าสไบซับเหงื่อ และเฝ้าฝันถึงวันที่อ่างน้ำเสร็จสมบูรณ์ เพื่อที่จะได้ครองคู่กัน
Chepter2
เมื่ออ่างน้ำขุดเสร็จสิ้นตามกำหนด เสียงโห่ร้องยินดีดังสนั่นหวั่นไหว แต่ไม่ใช่ความยินดีเพื่อความรักของผกา...
ขบวนเกียรติยศจากเมืองไพศาลีปรากฏขึ้น ประกาศชัยชนะของเจ้าชายประสาททอง และเชิญเสด็จกลับเพื่อเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับ พระนางสร้อยลัดดา ตามสัญญา
วินาทีนั้น ความจริงเปิดเผย... ผกาได้รู้ความลับสวรรค์เบี่ยงว่า ชายที่นางรักสุดหัวใจคือ "เจ้าเมือง" และอ่างน้ำที่นางเฝ้าดูเขาขุดด้วยความชื่นชมนั้น แท้จริงแล้วคือ "สินสอด" เพื่อไปสู่ขอผู้หญิงอื่น!
เจ้าชายประสาททอง เมื่อถึงเวลาต้องเลือก เขาจำต้องทิ้งความรักชั่วคราวริมขอบสระ เพื่อกลับไปสู่ยศถาบรรดาศักดิ์ เขาหันหลังให้ผกาอย่างเย็นชา ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า
Chepter 3
(ช่วงนี้วางเนื้อเรื่องให้ขึ้นเนื้อร้องเพลงด้วย2 ด้วยเพลง ผกา (junenom) ref.การร้องคุณเพลงหัสยา
ผกา หัวใจแตกสลาย ร่างกายแทบทรุดลงกับพื้น นางกรีดร้องไร้เสียงท่ามกลางความยินดีของผู้คน ความรักที่เคยมอบให้กลายเป็นความเจ็บปวดแสนสาหัส นางรู้สึกเหมือนถูกหลอกใช้ เป็นเพียงดอกไม้ริมทางที่เขาเด็ดดมแล้วโยนทิ้ง
นางพยายามวิ่งฝ่าวงล้อมทหารเข้าไปหาเจ้าชาย เพื่อทวงถามสัญญาใจ แต่กลับถูกกีดกันและมองด้วยสายตาเหยียดหยาม ความน้อยเนื้อต่ำใจถาโถมเข้ามา "ทำไมรักนี้จึงไม่สมหวัง เพียงเพราะข้าเป็นหญิงชาวบ้าน หรือเพราะท่านมีใจโลเล?"
เมื่อความเจ็บปวดกัดกินจนเกินต้านทาน และไม่อาจทนเห็นชายคนรักไปครองคู่กับหญิงอื่น ผกาตัดสินใจครั้งสุดท้าย... นางเดินขึ้นไปยังขอบอ่างน้ำที่ลึกและกว้างใหญ่ สายตามองไปยังเจ้าชายเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความอาลัยและตัดพ้อ ก่อนจะทิ้งร่างดิ่งลงสู่อ่างน้ำเบื้องล่าง เพื่อจบชีวิตและลบเลือนรอยอดีตที่ขมขื่น
เจ้าชายประสาททองหันกลับมาเห็นเพียงชายผ้าของผกาที่จมหายไปในสายน้ำ เขาวิ่งมาที่ขอบสระ แต่สายเกินแก้ เหลือทิ้งไว้เพียงตำนานเล่าขานถึงหญิงสาวชื่อ "ผกา" และความรักที่แลกมาด้วยชีวิต ณ เมืองดอนคา
(จบการแสดง)