กองทัพเรือสกัดเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนกลางอ่าวไทย ยึดดีเซลกว่า 10,000 ลิตร..

https://www.facebook.com/share/p/1ANqK9vML1/?mibextid=wwXIfr







เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2568 กองทัพเรือ โดย ทัพเรือภาคที่ 1 ภายใต้การอำนวยการของ พลเรือโท เฉลิมชัย สวนแก้ว ผบ.ทรภ.1 บูรณาการร่วมกับ ศรชล.ภาค 1, เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์, กรมสรรพสามิต, สำนักเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา, สภ.สัตหีบ และกรมศุลกากร แถลงผลการจับกุม เรือบรรทุกน้ำมัน M/T PHOENIX พร้อมของกลางน้ำมันดีเซลประมาณ 10,000 ลิตร
การจับกุมเป็นผลจากการปฏิบัติภารกิจตาม คำสั่งจักรพงศ์ภูวนารถ 682 เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยทางทะเล และสกัดกั้นการลักลอบขนส่งน้ำมันหรือยุทธปัจจัยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยทัพเรือภาคที่ 1 จัดกำลังเรือและอากาศยานลาดตระเวนในอ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง

กระทั่งวันที่ 27 ธ.ค. 2568 เวลา 16.00 น. เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ตรวจพบเรือต้องสงสัยลอยลำอยู่ห่างจาก เกาะเสม็ดประมาณ 50 ไมล์ทะเล ไม่แสดงชื่อเรือ เลขทะเบียน ไม่ชักธงชาติ และไม่เปิดระบบ AIS จึงเข้าควบคุมและตรวจค้น จากการตรวจสอบพบลูกเรือรวม 8 คน (ไทย 3 เมียนมา 1 กัมพูชา 4) ไม่มีเอกสารประจำตัว เอกสารการทำงาน และเอกสารประจำเรือ ตรวจพบน้ำมันดีเซลในระวางเรือประมาณ 10,000 ลิตร โดยให้การไม่ตรงกัน ไต๋เรืออ้างว่ารับจ้างขนน้ำมันจากน่านน้ำมาเลเซียเข้ามาในประเทศไทย

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมเรือเข้าเทียบท่า ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม พบความผิดหลายข้อ อาทิ
*ความผิดตาม พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย (ใช้เรือใบอนุญาตหมดอายุ ใช้เรือผิดเงื่อนไข และไม่แสดงชื่อเรือ)
*ความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560

ขณะนี้อยู่ระหว่าง ขยายผลดำเนินคดีถึงขบวนการลักลอบขนส่งน้ำมันเถื่อนและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมย้ำว่า ทัพเรือภาคที่ 1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้มงวดกวดขันอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
ขอให้ประชาชนเชื่อมั่น กองทัพเรือปฏิบัติหน้าที่เต็มกำลัง ภายใต้กรอบกฎหมายอย่างเคร่งครัด 🇹🇭