สวัสดีคะ วันนี้เราอยากจะมารีวิว รึ เรียกอีกแบบคือ ระบายชีวิตตัวเองในปีนี้ ที่กำลังจะผ่านไป
ขอเกริ่นนำ ก่อนว่า มันเป็นรัก สามเศร้า นะคะ ขอใช้ชื่อแทนตัว ผู้ชายว่า B และ ผู้หญิงอีกคนว่า T เรามีสามีที่คบกันมา 10 ปี และตอนนี้มีลูกสาวที่หน้ารัก 1 คน แต่มื่ต้นปีที่ผ่านมา 7 มรกาคม 2568 ฺB ได้มาส่งเราที่บ้าน เพื่อพาหลานมาหายายและนอนค้างกันเป็นปกติ แต่อยู่ๆ B ได้บอกว่า ปวดหัวมาก เวียนหัวมาก นอนบ้านเราไม่ได้ อยากกลับไปนอนบ้านของ B เอง เรา ก้อ โอเค กลับไปนอนบ้านเถอะจะได้สบายตัว แต่พอเราเอาลูกนอนหลับเสร็จ เราโทรหาB เท่าไหร่ ก้อไม่รับสาย ดูกล้องหน้าบ้าน ปรากฏว่ารถของB ไม่ได้จอดอยู่หน้าบ้าน เราเลยขับรถจากบ้านเราไปบ้านของB ในคืนนั้นเลย เพื่ออยากรู้ว่าเขาเป็นอะไร รึ ไปไหน แต่พอไปถึง B ไม่ได้อยู่บ้านจริงๆ โทรติดต่อเท่าไหร่ ก้อไม่รับสาย เราจึงกลับบ้านมานอนกับลูกต่อ จนเช้า เราเช็คmail เขา เห็นการเช็คอินที่ รร. ย่านบางนา เราจึงพยายามหาข้อมูล จนตามไปเจอ B และ T อยู่ด้วยกันในห้องนั้น ใช่แล้วคะ B และ T ได้นัดกันไว้แล้ว มันเป็นวันที่ หัวใจเราสลายที่สุด ปกติ B ก็เจ้าชู้ หาคนคุยตามเว็บต่างๆไปเรื่อยอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เราไม่ไหวจริงๆ มันเกินเบอร์ไปมาก และ T เราก้อเคยบอกแล้วว่า B ได้มีครอบครัวแล้ว แต่ T อ้างว่า B บอกกับเขาเองว่า เลิกแล้ว T ถามหาทะเบียนสมรส ว่าเราจอทะเบียนด้วยรึป่าว อืมมม แลมีประสบการณ์ดีนะคะ ครั้งนั้น เราตัดสินใจเดินออกมา เอาลูกกลับมาอยู่บ้านของเราเอง แต่ B ก็พยายามติดต่อเรา ตามง้อเรา บอกว่าเขารักครอบครัว เขาจะไม่ยอมเสียครอบครัว เขาพลาด และเขาจะเลิกติดต่อกับ T เราก็ ให้โอกาส เพราะลูกสาวก็ยังเล็ก เขาคงต้องการครอบครัวที่ครบมากฟ่าครอบครัวที่ขาด เราจึงให้โอกาสเขาได้กลับมาแก้ไขในสิ่งที่เขาบอกว่าพลาดไป และในระหว่างนั้น เราก้อจับได้อีก ว่า B และ T ติดต่อกัน แอบโทรหากับในเวลาลับหลังเรา แอบ line หากัน คุยเสจ ลบ คุยประโยคนึง ก้อลบ บางครั้งเราจับได้บ้าง จับไม่ได้บ้าง พอจับได้ทางแอบ line พวกเขา B และ T ก็หันไปคุยกันใน แอพgoodnight พอจับได้ว่าโทรคุยกันที่เบอร์นี้ ก็หันไปเปลี่ยนเบอร์ โทรหากันด้วยเบอร์ใหม่ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ 3 - 4 เบอร์ได้เหมือนว่า พอจับได้ทางไหน เบอร์ไหน ก็เปลี่ยนช่องทางไปเรื่อยๆ ไอเราก็เก่งเนอะ ขนาดเขาแอบกันแล้ว ยังจะจับได้อีก ที่เก่งว่าเรา คือ B และ T คะ ที่ถึงแม้ จะโดนจับได้ขนาดไหน ก็ ยังจะพยายามกันต่อ จนกลางปีที่ผ่านมา เราเริ่มไม่ไหว กับ คสพ นี้แล้ว เราเลือกที่จะเดินออกมาอีกครั้ง บล็อกทุกช่างทางของ B ตัดใจออกมาเด็ดขาด แต่ B พยายามติดต่อ ตามง้อเราทุกช่องทาง ทั้งโทรเข้าออฟฟิต ส่งข้อความทุกทางที่ทำได้ และก็เหมือนเดิม เราใจอ่อน กลับมาให้โอกาส เพราะคิดว่า B จะได้รับบทเรียนและแก้ไขให้ดีขึ้น ในระหว่างที่เรากลับมาใช้ชีวิตครอบครัวกันอีกครั้ง BและT ก็เหมือนเดิม แอบคุยกันทางไลน์ T ไลน์หา B พอB ตอบ Bก็รับลบเลย เป็นแบบนี้ตลอด จนเราไม่ไหว ตัดสินใจ ชวน B ไปจดทะเบียนสมรส และเราได้ถ่ายรูปทะเบียนสมรสส่งให้ T ได้ดู เพื่อเตือนและหวังว่าจะหยุดการกระทำนี้ได้ ในระหว่างนี้ เราใช้ชีวิตครอบครัวปกติ กิน นอน ทำกิจกรรมวันหยุดด้วยกันตลอด ถึงเราจะยังมีความระแวงอยู่ แต่เรา ก็เลือกที่จะไม่พูดถึงชื่อ T เลย เพราะเราคิดว่า หลังจากจดทะเบียนสมรส เราและ B น่าจะได้เยียวยาตัวเองจากเรื่องที่เกิดขึ้น โดยการไม่พูดและไม่นึกถึง แต่เปล่าเลยคะ มันไม่ได้เป็นแบบนั้น เมื่อ 13 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา เช้าวันนี้ B ได้ขับรถมาส่งเราที่ทำงาน และ B ได้ขับรถไปเจอกับ T ที่ รร ย่านวัดสลุด บางนาอีกเหมือนเดิม ใช่คะ เราติดตามดูเขา ด้วย find พิกัดบอกตำแหน่งชัดเจน เราได้โทรหาB บอกว่าเราปวดหัว มารับกลับบ้านหน่อย B ได้บอกกลับเราว่า เขาทำงานดูบ้านลูกค้าอยู่มารับไม่ได้ โอเค ดูบ้านลูกค้าเนอะ เราได้เรียกแก็ป รีบตามไปหาที่ รร ตามที่ตำแหน่งได้ระบุ เลย B ได้จอดรถที่ห้างนึ่งตรงปากซอยวัดสลุด และ ใช่คะ พวกเขา Bและ T ได้เขา รร กันอีกแล้ว เราตามไปเจอ B รีบวิ่งหนีออกจาก รร ส่วน T ไม่ยอมลงมา เรานั่งรออยู่นาน จน B ขับรถ วนมากรับเรากลับ ในระหว่างทางที่ขับรถกลับมากับ B เหมือนเดิม B โทษ เรา ที่ B เข้า รร นี้ เพราะอยากรู้ว่า เราติดตามเขารึป่าว ที่เข้า รร มานี้ เพราะจะมายืม เงิน T เขาได้เปิดห้องนอนที่ รร นี้อยู่แล้ว เราถามกลับว่า แค่ยืมเงิน จะต้องขึ้นไปคุยบนห้องทำไม ทำไม ไมคุยกัน ที่ ข้างล่าง ที่ ร้านอาหาร รึ ห้างที่ B จอดรถทิ้งไว้ B ให้เหตุผลว่า คิดน้อยไปหน่อย อืมมมม คิดน้อยคือ คงไม่คิดว่าจะตามมาเจอสินะ และในวันนั้นเราทะเลาะกัน และตัดสินใจหย่า แต่ B ไม่ยอมหย่ากับเรา เราเลยโทรหา T เพื่อคุย สรุป T บอกว่า B ได้หย่ากับเราแล้ว และ T ได้ไปสืบมาแล้วว่า ทะเบียนสมรสนั้นมันปลอม ไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรสกันจริง T เชื่อว่าทะเบียนนั้นปลอม เชื่อว่าไม่ได้จด แต่ B พูดว่าหย่า ก็เชื่อ เราได้บอกกับเขาทั้ง คู่ว่า เรายอมหย่าให้ ให้บอกกับ B ให้มาหย่ากับเราเถอะ เพราะคนที่ไม่ยอมหย่าในเรื่องนี้ คือ B จะทำยังไง B ก็ไม่ยอมหย่า B บอกกับT ว่าจะเลิกกับT และเลือกครอบครัว B ได้บอกกับ T ว่า ที่ยังอยู่กับเรา เพราะเราติดเงิน B และว่า เราให้ T ฟังต่างๆนานา
B ว่าเราให้ T ฟังมากมาย เพื่อหาข้ออ้างให้ตัวเองดูดี น่าสงสาร รับบทผู้ถูกกระทำ และ มีเหตุผลในการกลับไปคบกับ T
T บอกเราว่า ที่เข้าไปเจอที่ รร นั้น B ได้นัดเข้าไปเจอกันตามประสาคนคบกัน
T รู้อยู่แต่ใจอยู่แล้ว ว่ายังไม่หย่า แต่ ยังคงเมินเฉย และ คบหากับ B ต่อ
พวกเขา 2 คนเหมาะสมกันมากเลย เลวทั้งคู่ ไม่รับผิดทั้งคู่ ต่างคนต่างโทษกัน สิ่งที่ T เล่า B ปฏิเสธหมด และสิ่งที่ B เล่าก็ไม่ตรงกับที่ T พูดเลย เขาทั้ง 2 เหมาะสมกันแล้ว ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิด และ ไม่มีสำนึกที่จะแก้ไข และทำให้ถูกต้อง แค่ B ยอมหย่า พวกเขาทั้งคู่ ก็จะได้ไปใช้ชีวิตตามเวรตามกรรมที่พวกเขาได้ก่อไว้
ส่วนเรา ยอมที่จะออก จาก คสพ แย่ๆ นี้ แต่ B ไม่ยอม เราจึงให้ทนายทำหนังสือเตือน T และจะฟ้องชู้ตามลำดับต่อไป
ขอบคุณที่รับฟังเรื่องของ อาจจะเล่าได้ไม่ดี และ อาจจะงงๆ ขอโทษด้วยนะคะ
ตอนเล่า ใจยังสั่นอยู่เลย
กระทู้แรกของเรา
ขอบคุณคะ
รีวิว ปี 2568(ชีวิตโง่ๆของเราเอง)
ขอเกริ่นนำ ก่อนว่า มันเป็นรัก สามเศร้า นะคะ ขอใช้ชื่อแทนตัว ผู้ชายว่า B และ ผู้หญิงอีกคนว่า T เรามีสามีที่คบกันมา 10 ปี และตอนนี้มีลูกสาวที่หน้ารัก 1 คน แต่มื่ต้นปีที่ผ่านมา 7 มรกาคม 2568 ฺB ได้มาส่งเราที่บ้าน เพื่อพาหลานมาหายายและนอนค้างกันเป็นปกติ แต่อยู่ๆ B ได้บอกว่า ปวดหัวมาก เวียนหัวมาก นอนบ้านเราไม่ได้ อยากกลับไปนอนบ้านของ B เอง เรา ก้อ โอเค กลับไปนอนบ้านเถอะจะได้สบายตัว แต่พอเราเอาลูกนอนหลับเสร็จ เราโทรหาB เท่าไหร่ ก้อไม่รับสาย ดูกล้องหน้าบ้าน ปรากฏว่ารถของB ไม่ได้จอดอยู่หน้าบ้าน เราเลยขับรถจากบ้านเราไปบ้านของB ในคืนนั้นเลย เพื่ออยากรู้ว่าเขาเป็นอะไร รึ ไปไหน แต่พอไปถึง B ไม่ได้อยู่บ้านจริงๆ โทรติดต่อเท่าไหร่ ก้อไม่รับสาย เราจึงกลับบ้านมานอนกับลูกต่อ จนเช้า เราเช็คmail เขา เห็นการเช็คอินที่ รร. ย่านบางนา เราจึงพยายามหาข้อมูล จนตามไปเจอ B และ T อยู่ด้วยกันในห้องนั้น ใช่แล้วคะ B และ T ได้นัดกันไว้แล้ว มันเป็นวันที่ หัวใจเราสลายที่สุด ปกติ B ก็เจ้าชู้ หาคนคุยตามเว็บต่างๆไปเรื่อยอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เราไม่ไหวจริงๆ มันเกินเบอร์ไปมาก และ T เราก้อเคยบอกแล้วว่า B ได้มีครอบครัวแล้ว แต่ T อ้างว่า B บอกกับเขาเองว่า เลิกแล้ว T ถามหาทะเบียนสมรส ว่าเราจอทะเบียนด้วยรึป่าว อืมมม แลมีประสบการณ์ดีนะคะ ครั้งนั้น เราตัดสินใจเดินออกมา เอาลูกกลับมาอยู่บ้านของเราเอง แต่ B ก็พยายามติดต่อเรา ตามง้อเรา บอกว่าเขารักครอบครัว เขาจะไม่ยอมเสียครอบครัว เขาพลาด และเขาจะเลิกติดต่อกับ T เราก็ ให้โอกาส เพราะลูกสาวก็ยังเล็ก เขาคงต้องการครอบครัวที่ครบมากฟ่าครอบครัวที่ขาด เราจึงให้โอกาสเขาได้กลับมาแก้ไขในสิ่งที่เขาบอกว่าพลาดไป และในระหว่างนั้น เราก้อจับได้อีก ว่า B และ T ติดต่อกัน แอบโทรหากับในเวลาลับหลังเรา แอบ line หากัน คุยเสจ ลบ คุยประโยคนึง ก้อลบ บางครั้งเราจับได้บ้าง จับไม่ได้บ้าง พอจับได้ทางแอบ line พวกเขา B และ T ก็หันไปคุยกันใน แอพgoodnight พอจับได้ว่าโทรคุยกันที่เบอร์นี้ ก็หันไปเปลี่ยนเบอร์ โทรหากันด้วยเบอร์ใหม่ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ 3 - 4 เบอร์ได้เหมือนว่า พอจับได้ทางไหน เบอร์ไหน ก็เปลี่ยนช่องทางไปเรื่อยๆ ไอเราก็เก่งเนอะ ขนาดเขาแอบกันแล้ว ยังจะจับได้อีก ที่เก่งว่าเรา คือ B และ T คะ ที่ถึงแม้ จะโดนจับได้ขนาดไหน ก็ ยังจะพยายามกันต่อ จนกลางปีที่ผ่านมา เราเริ่มไม่ไหว กับ คสพ นี้แล้ว เราเลือกที่จะเดินออกมาอีกครั้ง บล็อกทุกช่างทางของ B ตัดใจออกมาเด็ดขาด แต่ B พยายามติดต่อ ตามง้อเราทุกช่องทาง ทั้งโทรเข้าออฟฟิต ส่งข้อความทุกทางที่ทำได้ และก็เหมือนเดิม เราใจอ่อน กลับมาให้โอกาส เพราะคิดว่า B จะได้รับบทเรียนและแก้ไขให้ดีขึ้น ในระหว่างที่เรากลับมาใช้ชีวิตครอบครัวกันอีกครั้ง BและT ก็เหมือนเดิม แอบคุยกันทางไลน์ T ไลน์หา B พอB ตอบ Bก็รับลบเลย เป็นแบบนี้ตลอด จนเราไม่ไหว ตัดสินใจ ชวน B ไปจดทะเบียนสมรส และเราได้ถ่ายรูปทะเบียนสมรสส่งให้ T ได้ดู เพื่อเตือนและหวังว่าจะหยุดการกระทำนี้ได้ ในระหว่างนี้ เราใช้ชีวิตครอบครัวปกติ กิน นอน ทำกิจกรรมวันหยุดด้วยกันตลอด ถึงเราจะยังมีความระแวงอยู่ แต่เรา ก็เลือกที่จะไม่พูดถึงชื่อ T เลย เพราะเราคิดว่า หลังจากจดทะเบียนสมรส เราและ B น่าจะได้เยียวยาตัวเองจากเรื่องที่เกิดขึ้น โดยการไม่พูดและไม่นึกถึง แต่เปล่าเลยคะ มันไม่ได้เป็นแบบนั้น เมื่อ 13 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา เช้าวันนี้ B ได้ขับรถมาส่งเราที่ทำงาน และ B ได้ขับรถไปเจอกับ T ที่ รร ย่านวัดสลุด บางนาอีกเหมือนเดิม ใช่คะ เราติดตามดูเขา ด้วย find พิกัดบอกตำแหน่งชัดเจน เราได้โทรหาB บอกว่าเราปวดหัว มารับกลับบ้านหน่อย B ได้บอกกลับเราว่า เขาทำงานดูบ้านลูกค้าอยู่มารับไม่ได้ โอเค ดูบ้านลูกค้าเนอะ เราได้เรียกแก็ป รีบตามไปหาที่ รร ตามที่ตำแหน่งได้ระบุ เลย B ได้จอดรถที่ห้างนึ่งตรงปากซอยวัดสลุด และ ใช่คะ พวกเขา Bและ T ได้เขา รร กันอีกแล้ว เราตามไปเจอ B รีบวิ่งหนีออกจาก รร ส่วน T ไม่ยอมลงมา เรานั่งรออยู่นาน จน B ขับรถ วนมากรับเรากลับ ในระหว่างทางที่ขับรถกลับมากับ B เหมือนเดิม B โทษ เรา ที่ B เข้า รร นี้ เพราะอยากรู้ว่า เราติดตามเขารึป่าว ที่เข้า รร มานี้ เพราะจะมายืม เงิน T เขาได้เปิดห้องนอนที่ รร นี้อยู่แล้ว เราถามกลับว่า แค่ยืมเงิน จะต้องขึ้นไปคุยบนห้องทำไม ทำไม ไมคุยกัน ที่ ข้างล่าง ที่ ร้านอาหาร รึ ห้างที่ B จอดรถทิ้งไว้ B ให้เหตุผลว่า คิดน้อยไปหน่อย อืมมมม คิดน้อยคือ คงไม่คิดว่าจะตามมาเจอสินะ และในวันนั้นเราทะเลาะกัน และตัดสินใจหย่า แต่ B ไม่ยอมหย่ากับเรา เราเลยโทรหา T เพื่อคุย สรุป T บอกว่า B ได้หย่ากับเราแล้ว และ T ได้ไปสืบมาแล้วว่า ทะเบียนสมรสนั้นมันปลอม ไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรสกันจริง T เชื่อว่าทะเบียนนั้นปลอม เชื่อว่าไม่ได้จด แต่ B พูดว่าหย่า ก็เชื่อ เราได้บอกกับเขาทั้ง คู่ว่า เรายอมหย่าให้ ให้บอกกับ B ให้มาหย่ากับเราเถอะ เพราะคนที่ไม่ยอมหย่าในเรื่องนี้ คือ B จะทำยังไง B ก็ไม่ยอมหย่า B บอกกับT ว่าจะเลิกกับT และเลือกครอบครัว B ได้บอกกับ T ว่า ที่ยังอยู่กับเรา เพราะเราติดเงิน B และว่า เราให้ T ฟังต่างๆนานา
B ว่าเราให้ T ฟังมากมาย เพื่อหาข้ออ้างให้ตัวเองดูดี น่าสงสาร รับบทผู้ถูกกระทำ และ มีเหตุผลในการกลับไปคบกับ T
T บอกเราว่า ที่เข้าไปเจอที่ รร นั้น B ได้นัดเข้าไปเจอกันตามประสาคนคบกัน
T รู้อยู่แต่ใจอยู่แล้ว ว่ายังไม่หย่า แต่ ยังคงเมินเฉย และ คบหากับ B ต่อ
พวกเขา 2 คนเหมาะสมกันมากเลย เลวทั้งคู่ ไม่รับผิดทั้งคู่ ต่างคนต่างโทษกัน สิ่งที่ T เล่า B ปฏิเสธหมด และสิ่งที่ B เล่าก็ไม่ตรงกับที่ T พูดเลย เขาทั้ง 2 เหมาะสมกันแล้ว ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิด และ ไม่มีสำนึกที่จะแก้ไข และทำให้ถูกต้อง แค่ B ยอมหย่า พวกเขาทั้งคู่ ก็จะได้ไปใช้ชีวิตตามเวรตามกรรมที่พวกเขาได้ก่อไว้
ส่วนเรา ยอมที่จะออก จาก คสพ แย่ๆ นี้ แต่ B ไม่ยอม เราจึงให้ทนายทำหนังสือเตือน T และจะฟ้องชู้ตามลำดับต่อไป
ขอบคุณที่รับฟังเรื่องของ อาจจะเล่าได้ไม่ดี และ อาจจะงงๆ ขอโทษด้วยนะคะ
ตอนเล่า ใจยังสั่นอยู่เลย
กระทู้แรกของเรา
ขอบคุณคะ