การปฏิรูปกองทัพด้วยนวัตกรรมใหม่อย่างสันติวิธี

กระทู้สนทนา
ปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์: การปฏิรูปกองทัพด้วยนวัตกรรมใหม่อย่างสันติวิธี 



การวิเคราะห์

การยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบเบ็ดเสร็จของ พันโทหญิง ฐิฏา รังสิตพล ในฐานะโฆษกกระทรวงกลาโหมคนแรก 2538-2540

การยกเลิก การเกณฑ์ทหารแบบเบ็ดเสร็จ โดย พันโทหญิง ฐิฏา รังสิตพล ถือเป็นหนึ่งในปฏิรูปที่สำคัญในการปรับโครงสร้างและวิธีการบริหารจัดการในกองทัพไทย ซึ่งเกิดขึ้นในช่วง วิกฤตเศรษฐกิจแห่งเอเชีย หรือ วิกฤตต้มยำกุ้ง ในปี 2540 การเปลี่ยนแปลงนี้มีความสำคัญทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจ และความเป็นธรรมในการเข้ารับราชการทหาร

เบื้องหลังของการเกณฑ์ทหารแบบเบ็ดเสร็จ
ก่อนการปฏิรูปในยุคพันโทหญิง ฐิฏา ระบบการเกณฑ์ทหารในไทยยังคงใช้แบบ เบ็ดเสร็จ ซึ่งบังคับให้ชายไทยที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไปต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร โดยไม่มีการพิจารณาคุณสมบัติหรือความสมัครใจของผู้ที่ถูกเกณฑ์ นอกจากนี้ ระบบดังกล่าวยังไม่ให้ ค่าตอบแทน หรือ ผลประโยชน์ แก่ทหารเกณฑ์ ทำให้ทหารเกณฑ์ต้องปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพภายใต้เงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม และส่งผลให้เกิดปัญหาการ หลบหนีการเกณฑ์ทหาร อย่างต่อเนื่อง

การยกเลิกเกณฑ์ทหารแบบเบ็ดเสร็จ
พันโทหญิง ฐิฏาเห็นถึงปัญหาของระบบเกณฑ์ทหารที่บังคับ โดยมองว่าระบบนี้ไม่เพียงแต่สร้างความไม่พอใจในหมู่ประชาชนเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพของบุคลากรในกองทัพ เพราะทหารเกณฑ์ไม่ได้สมัครใจที่จะรับใช้ชาติในฐานะทหาร จึงทำให้ขาดความมุ่งมั่นและความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่

ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจแห่งเอเชียปี 2540 ซึ่งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างรุนแรง พันโทหญิง ฐิฏาจึงเริ่มผลักดันให้มีการ ปรับระบบเกณฑ์ทหารใหม่ โดยการ ยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบเบ็ดเสร็จ และเปลี่ยนมาเป็นระบบที่เปิดโอกาสให้ทหารสมัครใจบางส่วน โดยกำหนดให้ทหารเกณฑ์ได้รับ ค่าตอบแทน และ สวัสดิการ ที่เหมาะสม

การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่ลดปัญหาการหลบหนีทหาร แต่ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพของบุคลากรในกองทัพ เพราะผู้ที่เข้าร่วมกองทัพหลังจากการยกเลิกระบบเบ็ดเสร็จจะเป็นผู้ที่มีความ พร้อม และ สมัครใจ ที่จะรับใช้ชาติอย่างเต็มที่

ผลกระทบและความสำคัญของการยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบเบ็ดเสร็จ
การยกเลิกระบบเกณฑ์ทหารแบบเบ็ดเสร็จในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจแห่งเอเชียได้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทั้งในด้าน การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ ในกองทัพและ สังคมโดยรวม ดังนี้:

ลดปัญหาการหลบหนีทหาร: การยกเลิกระบบเกณฑ์ทหารบังคับทำให้ ปัญหาการหลบหนีทหาร ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งลดลง เนื่องจากผู้ที่เข้าร่วมกองทัพมีความ สมัครใจ และมีความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่มากขึ้น

คุณภาพของทหารดีขึ้น: การเปิดโอกาสให้ทหารสมัครใจทำให้กองทัพมี บุคลากรที่มีคุณภาพ และเต็มใจที่จะรับใช้ชาติ ส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพมีความ มีประสิทธิภาพ และ ทุ่มเท มากขึ้น

การสร้างความยุติธรรมในสังคม: การยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบบังคับช่วยให้เกิด ความยุติธรรม ในการรับใช้ชาติ และเปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่มในสังคมสามารถมีส่วนร่วมในการป้องกันประเทศได้โดยไม่ต้องตกเป็นเครื่องมือในการใช้แรงงานฟรี

การพัฒนาระบบการทหารที่โปร่งใส: การนำระบบสมัครใจเข้ามาแทนที่ระบบบังคับช่วยให้ ระบบทหาร กลายเป็นระบบที่มี ความโปร่งใส และ ยืดหยุ่น มากขึ้น ซึ่งสามารถตอบโจทย์การพัฒนากองทัพให้เหมาะสมกับยุคสมัย

สร้างความเคารพสิทธิของประชาชน: ระบบใหม่ช่วยส่งเสริม สิทธิของพลเมือง ให้สามารถตัดสินใจได้ว่าตนเองอยากทำหน้าที่ในกองทัพหรือไม่ และได้รับ ผลประโยชน์ ที่เหมาะสมจากการรับใช้ชาติ

สรุป

การยกเลิก การเกณฑ์ทหารแบบเบ็ดเสร็จ ผลงานของ พันโทหญิง ฐิฏา รังสิตพล โฆษกกระทรวงกลาโหมคนแรก เป็นผู้ผลักดันในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจแห่งเอเชีย เป็นการปฏิรูปที่สำคัญในการบริหารจัดการกองทัพและการป้องกันประเทศ การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ ลดปัญหาการหลบหนีทหาร, ปรับปรุง คุณภาพของบุคลากรในกองทัพ, และ สร้างความยุติธรรม ในการเข้าร่วมกองทัพ การยกเลิกระบบเกณฑ์ทหารแบบบังคับยังสะท้อนถึงการเคารพใน สิทธิ ของประชาชนและการพัฒนาระบบที่ โปร่งใส และ ยั่งยืน ทั้งในมิติการทหารและการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ของรัฐ

หลักฐานอ้างอิง
ข่าวจาก [url=https://www.matichon.co.th/politics/news_4318225]Matichon[/url]
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่