JJNY : “ไอซ์”เชื่อมวลชนบุกป่วนถูกจ้างมา│“ไอซ์-โรม”เคลียร์ใจ“ชูวิทย์”│ชี้หยุดยิง ยิ่งมีเวลาเตรียมอาวุธ│ปูตินพร้อมใช้กำลัง

กระทู้ข่าว
“ไอซ์ รักชนก” เชื่อมวลชนบุกป่วนถูกจ้างมา พบเคยปิดล้อม “ช่อ-ธนาธร” เล็งดำเนินคดีเป็นตัวอย่าง
.

.
“ไอซ์ รักชนก” เชื่อมวลชนโห่ไล่หลังลงพื้นที่ชลบุรี อาจเป็นการจ้างมา เพราะเป็นกลุ่มเดิมกับที่เคยป่วน “ช่อ - ธนาธร” เผยวินาทีเผชิญหน้า “สุชาติ” อีกฝ่ายลั่นทีเล่นทีจริง ถ้าแพ้รอบนี้ก็เลิกเลย

วันที่ 28 ธ.ค.68 น.ส.รักชนก ศรีนอก เปิดเผยว่า บรรยากาศในวันนี้คึกคัก ทุกพรรคการเมืองระดมพลมาอย่างเต็มที่ เมื่อสอบถามตัวเลขที่อยากได้เป็นเลขอะไรนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา เห็นแล้วว่าตัวเลขไม่มีผลอะไร แต่ถ้าได้เลขตัวเดียวก็จะหาเสียงง่ายกว่า

ส่วนกรณีเมื่อวานนี้ (27 ธ.ค.) ที่ลงพื้นที่ที่จังหวัดชลบุรี และมีมวลชนที่เข้ามานั้น คุณไอซ์ บอกว่า จริงๆ เรารู้อยู่แล้วว่าอาจจะมีโอกาสเกิดแบบนี้ขึ้น เพราะวันก่อนหน้านั้น ก็มีการระดมพล มีการเขียนในเพจข่าวคนชล มีการระดมพลเพื่อขับไล่ตนเอง ก่อนที่เพจจะถูกทัวร์ลง แต่ว่าหน้างานต้องบอกว่าเรารู้อยู่แล้วว่ามีโอกาสที่จะเกิดขึ้น ถ้าดูคลิปคนที่ทำปฏิบัติการเหล่านี้คือกลุ่มคนกลุ่มเดียวกับที่เคยปิดล้อมคุณช่อ พรรณิกา คุณธนาธร ในเวทีดีเบตในอดีต ที่เข้ามาประชิดตัว และเข้ามาถึงเนื้อตัว

สำหรับการดำเนินคดีนั้น ก็มีข้อเสนอว่าควรจะดำเนินคดีให้เป็นเยี่ยงอย่าง หรือทำให้เข็ดหลาบจะได้ไม่ต้องมาทำพฤติกรรมแบบนี้กับใครอีก ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงดี เพราะว่าแน่นอนเรายังไม่อยากดำเนินคดีกับประชาชน แต่ก็มีหลักฐานว่าคนกลุ่มเดิมทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว ก็อาจจะคิดตัดสินใจอยู่ว่า ควรที่จะทำให้เขาไม่ไปแสดงพฤติกรรมแบบนี้กับคนอื่นหรือเปล่า
.
เมื่อวานนี้ ตนเองทราบว่าคนที่มาได้มีสี่คน ตะโกนอยู่ 3 คำ คือประเด็นเรื่องมีทหารไว้ทำไม กับประเด็น เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งตอนแรกคุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะทุกคนตะโกนแข่งกัน แต่จากที่มีโทรโข่ง จึงได้อธิบายเหตุผลไปถึงเหตุผลในการแก้รัฐธรรมนูญ และทำความเข้าใจเรื่องทหารมีไว้ทำไม แต่คิดว่าคงจะไม่เข้าใจ และคงเห็นว่าการที่เข้ามา เขาคงไม่ได้จะเข้ามาเพื่อสันติ และอาจจะเป็นการจ้าง หรือกระบวนการที่ทำให้คนชลบุรีรู้สึกว่าพรรคประชาชนไม่ได้รับการต้อนรับ เพราะเวลามีดีเบตก็จะมีการจ้างกลุ่มคนเหล่านี้มาแสดงพฤติกรรมแบบนี้ จุดประสงค์ชัดเจนว่าต้องการแสดงให้เห็นว่า เราไม่ได้รับการสนับสนุนจากชาวชลบุรี แต่ตนเองกล้าพูดเลยว่า หลังกลุ่มเหล่านี้สลายไป คนยืนอยู่รอบๆ ไม่ได้ใส่เสื้อสีส้ม ก็ให้กำลังใจพวกเรา และ สส.จากพรรคประชาชน ซึ่งก็เชื่อว่าไม่ใช่ตัวแทนชลบุรี
.
เมื่อถามว่า คิดว่ามีใครเป็นคนจ้างมานั้น ตนเองก็ไม่รู้ เพราะว่าตนเองก็ได้ถามนาย สุชาติ ชมกลิ่น ว่าจะมีใครเกณฑ์คนมาทำแบบนี้หรือเปล่า ซึ่งพี่เฮ้ง ก็บอกว่าไม่มี ยุคนี้เขาไม่ทำแบบนี้กันแล้ว ก็เชื่อพี่เฮ้ง
.
แล้วเมื่อวานนี้ ที่เจอพี่เฮ้ง ก็ได้มามาทักทาย หลายคนก็เห็นคลิปแล้วที่มีการสวัสดีกัน ก็เลยแซวว่าจะมีการเกณฑ์คนมาหรือเปล่า จะมาไล่หรือเปล่า พี่เฮ้งก็บอกว่าไม่มี เดี๋ยวนี้เขาไม่ทำอะไรกันแบบนี้กันแล้ว เราก็เลยแซวว่า วันนี้มาลง สส.แบบแบ่งเขต ถ้าแพ้รอบนี้จะไม่ได้เป็นรัฐมนตรีใช่ไหม พี่เฮ้งบอกว่า “ถ้าแพ้รอบนี้ก็เลิกเลย” ก็อาจจะเป็นการพูดทีเล่นทีจริง
.
ก็ต้องฝากพ่อแม่พี่น้องชาวชลบุรี ว่าถ้าอยากให้พี่เฮ้งได้กลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ถ้าชื่นชอบก็อย่าลืมสนับสนุน แต่ถ้าอยากให้พี่เฮ้งได้พักอีกรอบ ก็ฝากตัวแทนจากพรรคประชาชน
.

.
“ไอซ์-โรม” เคลียร์ใจ “ชูวิทย์” หลังวิจารณ์พรรคประชาชน เจ้าตัวลั่นให้เป็นบทเรียน อยากคุย “ธนาธร”
.
“ไอซ์-โรม” 2 ผู้สมัคร สส. พรรคประชาชน เคลียร์ใจ “ชูวิทย์” เจ้าตัวลั่น เชียร์ แต่ด่าให้เป็นบทเรียน บอกไม่ได้โพสต์ด้วยความแค้นแค่ต้องมีคนเตือน ขอคุยกับคนเดียวคือ “ธนาธร” ด้าน “รักชนก” ยกมือไหว้ ขอให้มองด้านดีๆ บ้าง
.
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต สส. และอดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์การสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ และยื่นรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ทันทีที่มาถึงก็ได้เข้าไปทักทายและจับมือกับนายรังสิมันต์ โรม อดีต สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมพูดคุยเหมือนเป็นการเคลียร์ใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการโพสต์ วิพากษ์วิจารณ์พรรคประชาชน
.
โดยนายชูวิทย์ ระบุว่า เดี๋ยวจะเข้าใจผมผิด นี่คือการเมืองภาคประชาชน นายรังสิมันต์และนางสาวรักชนก ศรีนอก อดีตสส.กทม. พรรคประชาชน เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ตนเห็นว่าพรรคส้มต้องได้รับบทเรียนอะไรบ้างเล็กๆ น้อย ๆ ขณะที่นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรเข้าใจว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์และพยายามนำเสนอ พร้อมยืนยันว่าเรามีความตั้งใจดี ตนเข้าใจและน้อมรับในเสียงวิจารณ์ทั้งหมด ซึ่งตนได้ติดตามที่นายชูวิทย์โพสต์ทุกอัน
.
นายชูวิทย์ ระบุว่า คนบางคนบอกว่าตนแค้นตนจะแค้นเรื่องอะไรตนไม่ใช่คู่แข่ง เพียงแต่ว่ามีผิดหวังบ้างดังนั้นประชาชนแสดงความผิดหวังก็อย่ามาด่าตนเพราะไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย
.
เมื่อถามว่าปีนี้ยังเชียร์พรรคประชาชนอยู่หรือไม่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า แล้วทำไมถึงไม่เชียร์ ตนก็ต้องเชียร์ แต่ว่าเที่ยวนี้ถือเป็นการให้บทเรียน
.
หลังจากนั้นนางสาวรักชนก ก็เดินมาเจอนายชูวิทย์ นายชูวิทย์จึงพูดย้ำว่า ตนยังเชียร์พรรคส้มอยู่ ตนจะไปแค้นเรื่องอะไร นางสาวรักชนก สวนทันทีว่าเข้าใจอาจเป็นความแค้นจากการผิดหวัง เราเข้าใจทุกอย่าง เราจึงได้รับฟัง นายชูวิทย์ก็กล่าวว่า ฉันก็ผิดหวังนั้นต่างกันแค้นมันคุยกันไม่ได้แต่ผิดหวังเราก็มาตั้งความหวังใหม่แต่ตนต้องมีบทเรียนให้บ้าง เพราะเป็นการเมืองเสมอภาคคนแบบนี้แหละคือคนรุ่นใหม่เพียงแต่ว่าเสียงเขาในพรรคยังไม่ดังพอ ก็ต้องรอให้เติบโตให้เวลาก่อน
.
นางสาวรักชนก จึงกล่าวว่า หลังจากที่นายชูวิทย์โพสต์ด่าเรามาตลอดทั้งเดือน ก็ขอให้ลงชื่นชมสักโพสต์ พร้อมยกมือไหว้นายชูวิทย์ ขอให้เห็นสิ่งดี ๆ และความตั้งใจความตั้งใจความพยายามของพวกเรา จากนั้นนายชูวิทย์ ได้ชี้นิวพร้อมบอกว่า เดี๋ยวจะดูละกัน พร้อมบอกว่า คนเราอย่าหวานเป็นลมขมเป็นยา
.
ด้านนางสาวรักชนก ระบุว่า เรารับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ของนายชูวิทย์ที่วิพากษ์วิจารณ์ และ พยายามจะนำมาปรับปรุงตลอดส่วนตัวก็ยังอยากได้รับความสนับสนุนจากนายชูวิทย์อยู่
.
ทั้งนี้นายชูวิทย์ ทิ้งท้ายว่า “ผมจะคุย กับบุคคลคนเดียวในพรรคคุณคือธนาธร
.

.
ชาวบ้านชายแดน ชี้ ข้อตกลงหยุดยิง ยิ่งทำให้กัมพูชามีเวลาเตรียมอาวุธ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_10078628
.
ชาวบ้านชายแดน ชี้ ข้อตกลงหยุดยิง ยิ่งทำให้กัมพูชามีเวลาเตรียมเสบียง อาวุธ มั่นใจเดี๋ยวมีรบกันต่อ ไม่เคยคิดเชื่อใจฝั่งกัมพูชาสักนิด

ศรีสะเกษ – ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังมีการเจรจาและลงนามข้อตกลงหยุดยิงตลอดแนวชายแดนเป็นเวลา 72 ชั่วโมง พบว่าประชาชนที่อพยพออกจากพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. เริ่มทยอยขนของกลับบ้าน แม้หลายคนยังคงมีความกังวลอยู่ก็ตาม
.
นางพรรณนา อายุ 49 ปี เปิดเผยว่า ยอมรับว่ายังคงมีความกลัวและไม่สบายใจ จึงตัดสินใจให้ผู้สูงอายุในครอบครัวยังพักอยู่ที่ศูนย์อพยพ ส่วนตนจะขอกลับมาตรวจดูบ้านก่อน หากมีเสียงปืนหรือเหตุการณ์ผิดปกติจะรีบอพยพอีกครั้ง ส่วนตัวมองว่าการลงนามหยุดยิงครั้งนี้ไทยอาจเสียเปรียบ เนื่องจากไม่สามารถเชื่อใจฝ่ายกัมพูชาได้เต็มที่ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา
.
นายหงวนอายุ 54 ปี กล่าวว่า ยังเชื่อว่ามีโอกาสสูงถึงร้อยละ 80 ที่สถานการณ์จะกลับมาปะทะกันอีก แต่เนื่องจากที่ผ่านมาไม่สามารถออกไปทำงานได้ จึงจำเป็นต้องกลับไปดูบ้านและเริ่มใช้ชีวิตตามปกติก่อน แม้จะรู้ว่ามีความเสี่ยงก็ตาม แม้ส่วนตัวอยากให้รอครบ 72 ชั่วโมงก่อนจึงค่อยกลับ แต่พอเห็นคนจำนวนมากเริ่มทยอยกลับบ้านแล้ว จึงตัดสินใจกลับด้วย
.
ในมุมตนตั้งข้อสังเกต ว่าการหยุดยิงครั้งนี้อาจเป็นเพียงการเปิดโอกาสให้ฝ่ายกัมพูชากลับไปเตรียมเสบียง อาวุธ ตั้งหลักใหม่ เพราะในอดีตแม้ผู้นำทั้งสองประเทศลงนามข้อตกลงร่วมกันแล้ว แต่ยังมีการยิงปืนเข้ามาในฝั่งไทย ทำให้ตนและคนพื้นที่ชายแดนส่วนใหญ่ ยังไม่เชื่อในการหยุดยิงครั้งนี้
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่