เรื่องสั้น ชุด "ฝัน STory" ตอน ดูทีวีกับน้าอร โดย จ๊ะ เสือไบ

กระทู้สนทนา
๒๖
ดูทีวีกับน้าอร
   ปีพุทธศักราช ๒๕๖๘ นับเป็นปีแห่งความโศกเศร้าอาดูรของข้าพเจ้าอย่างยิ่ง เพราะนอกจากข้าพเจ้าจักตกงานเพราะโดนไล่ออกถึง ๒ ครั้ง ๒ ครา ข้าพเจ้ายังสูญเสียบุคคลสำคัญถึง ๓ คนด้วยกัน
คนแรก ความจริงจักเรียกเป็นคนก็ดูไม่เหมาะสมนัก ต้องเรียกเป็นท่านฤาเป็นพระองค์มากกว่า พระองค์คือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ พระชนมายุ ๙๓ พรรษา ทรงเป็นพระราชินีในดวงใจของข้าพเจ้าแลใครหลายคน สำหรับข้าพเจ้าแล้วนั้น คงมิมีพระราชินีองค์ใดจักเทียบเทียมพระราชินีสิริกิติ์ได้
คนที่สอง ความจริงจักเรียกเป็นคนก็ถือว่าผิดไวยากรณ์ภาษาไทยอย่างใหญ่หลวง มันผู้นี้ไม่ใช่คน ต้องเรียกเป็นตัว คือเจ้าเพชร หมาพันธุ์ผสมระหว่างลาบราดอร์กับหมาบ้าน ตัวมันสีทอง มันจากโลกใบนี้ไปดาวสุนัขในวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๘ ด้วยอายุ ๘ ปี เป็นหมาที่อยู่มานานที่สุดแล้วเนื่องจากหมาตัวอื่นมักจากไปก่อนวัยอันควรเพราะประสบอุบัติเหตุถูกรถชนตายเสียก่อน
แลคนสุดท้าย ซี่งคือคนในเรื่องนี้ เป็นสุภาพสตรีที่ท่านคงรู้จักเธอแล้วในตอน “น้าหมูกินแมว” ท่านคือน้าอร หรือที่ข้าพเจ้ามักเรียกว่า เจ๊อร เนื่องจากท่านอาวุโสกว่าข้าพเจ้าเพียงแค่ ๑๑ ปี ท่านผู้อ่านคงทราบดีว่าน้าอรเป็นเมียของน้าหมู ลูกพี่ลูกน้องของมารดาข้าพเจ้านั่นเอง
คืนวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๘ น้าอรได้จากไปด้วยวัย ๔๐ ปีจากภาวะไตวาย ทิ้งแม็คโคร บุตรชายอายุ ๑๘ ปีผู้เป็นออทิสติก ส่วนผัวอย่างน้าหมู ข้าพเจ้าพูดได้แต่เพียงว่า “ช่างยิ้มเถิดครับ”
แม้ว่าน้าอรจักเสียชีวิตไปแล้ว หากแต่ ๕ วันต่อมา น้าอรได้มาเข้าฝันข้าพเจ้า ในคืนวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๘
 
...
 
    ในฝันนี้เกิดขึ้นในบ้านของมารดาข้าพเจ้า ณ ตำบลควนชุม อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช บ้านที่ข้าพเจ้าอาศัยตั้งแต่ ๓ ขวบจวบจนอายุ ๑๙ ปี หลังจากนั้นข้าพเจ้าจึงไปอาศัยอยู่ในภาคกลางเสียส่วนใหญ่ แล้วกลับมาอาศัยอยู่ ณ บ้านหลังนี้เป็นครั้งคราว จนกระทั่งกลับมาอยู่ยาวๆอีกครั้งในพ.ศ. ๒๕๖๕ – ๒๕๖๖ หลังจากข้าพเจ้าอกหักกับงานพากย์หนังที่รักจนกระทั่งไม่อยากอยู่ภาคกลางอีกต่อไปแล้ว แต่ในที่สุดกลางปี ๒๕๖๖ ข้าพเจ้าก็หวนกลับไปอยู่ภาคกลางอีกจวบจนปรัตยุบัน
    บ้านของมารดาหลังนี้มีอายุอานาม ๒๖ ปีแล้ว เป็นบ้านปูนชั้นเดียวแต่มีใต้ถุนสูง ตัวบ้านทาด้วยสีขาว หลังคาหน้าจั่ว มีกระเบื้องสีน้ำเงินปกคลุมไว้ ประตูหน้าบ้านมี ๒ บาน บานแรกเป็นประตูกระจกที่เมื่อเปิดต้องใช้วิธีเลื่อน ภายในเป็นห้องเก็บของซึ่งในอดีตห้องนี้เคยเป็นคลินิกของมารดา (กับบิดาตอนยังไม่หย่าร้าง) นับตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๒ – ๒๕๖๕ ภายในห้องเมื่อเดินลึกเข้าไปจักพบกับประตูไม้บานหนึ่ง ไม้นั้นเป็นไม้สัก และประตูบานนี้เองที่จักพาไปส่วนข้างในของบ้าน
    สำหรับประตูหน้าบ้านบานที่ ๒ เป็นประตูทำด้วยไม้สัก เมื่อเปิดออกมาจักเข้าสู่ห้องรับแขก ที่ตอนนี้กลายเป็นห้องนั่งเล่นสำหรับมารดาแลผัวคนใหม่ของท่าน มีโทรทัศน์จอยักษ์ ๕๕ นิ้ว โซฟาไม้สักกับตู้โชว์ไม้สักที่บิดาข้าพเจ้าเป็นคนซื้อ นอกจากนี้ยังมีภาพมังกรของบิดาที่ติดไว้บนฝาผนังทางทิศตะวันตก มีหน้าต่างเพียง ๒ ด้าน คือด้านตะวันออกกับทิศใต้ แต่ด้านทิศใต้ถูกปิดเอาไว้เนื่องจากเป็นทิศเดียวกับประตูหน้าบ้าน แลด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย แม้นหน้าต่างจักมีลูกกรงก็ตาม
    ส่วนหน้าต่างด้านทิศตะวันออกถูกเปิดไว้ เว้นแต่ผัวของมารดาจักปิดเพื่อเปิดเครื่องปรับอากาศขนาด ๑๒,๐๐๐ BTU ที่ไม่เหมาะสมกับตัวห้องนัก เนื่องจากห้องรับแขกไม่มีประตู แลเชื่อมกับห้องโถงไปสู่ประตูไม้สักอีกบานหนึ่งซึ่งเป็นประตูกลางที่เมื่อเปิดไปแล้วหากเลี้ยวซ้ายจักเจอกับห้องน้ำแลโต๊ะเครื่องแป้ง หากกวาดสายตาไปที่ ๑ นาฬิกาจักเจอกับห้องเก็บของอีกห้อง ซึ่งเดิมทีเป็นห้องของย่าข้าพเจ้า ท่านได้ถึงแก่กรรมตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๔๕ แล้ว ๑ ปีถัดมา บิดามารดาของข้าพเจ้าก็หย่าร้างกัน
    เมื่ออยู่ที่ประตูกลางแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆจักเจอกับประตูไม้สัก เมื่อเปิดประตูไปจักเจอกับห้องครัว ด้านซ้ายมือเป็นประตูหลังบ้านทำด้วยไม้อะไรก็ไม่ทราบ (ข้าพเจ้าถามมารดาแล้ว) ซึ่งทรุดโทรมเต็มที ประตูบานนี้เมื่อเปิดออกไปจักพบบันไดที่พาไปยังใต้ถุนได้
    เมื่อเดินกลับไปยังประตูกลางซึ่งเป็นประตูไม้ที่มีกรอบกระจกอยู่ด้วย มันทำให้มองเห็นบริเวณห้องโถงชัดเจน อีกฝั่งหนึ่งก็มองเห็นประตูห้องที่เป็นทางเข้าห้องครัว แลประตูอีกบานที่เข้าไปยังห้องย่าอย่างชัดเจน แม้นกระจกบานหนึ่งจักถูกข้าพเจ้าต่อยจนแตก เนื่องจากข้าพเจ้าโมโหมารดาด้วยเหตุผลอันใดข้าพเจ้าก็จำความไม่ได้เสียแล้ว เคราะห์ดีที่ครั้งนั้นข้าพเจ้ามิได้บาดเจ็บอันใดมาก ไม่ต้องเย็บแผล แต่โลหิตออกแล้วมีแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
    ส่วนที่กระจกแตกนั้นแต่ละด้านได้ถูกปิดไว้ด้วยรูปของนักแสดงชาย-หญิงที่พรินต์มาจากคอมพิวเตอร์ ฝั่งห้องโถงเป็นใบหน้าของนักแสดง เจนนา ออร์เตก้า ซึ่งรับบทเป็นนางเอกในซีรี่ส์ Wednesday ส่วนอีกฝั่งของประตูเมื่อเดินย่างมาจากห้องครัว จักเห็นภาพใบหน้าของ ภีมวสุ หรือ วสุพล พรพนานุรักษ์ นักร้องสมาชิกวง BUS อันอุโฆษ
    เมื่อเดินจากห้องครัวเปิดประตูกลางมาถึงห้องโถง ขวามือจักพบกับห้องนอนของน้อย น้องชายของข้าพเจ้า ประตูเป็นประตูไม้สัก ภายในมีเตียง โต๊ะเขียนหนังสือ พัดลมแลเครื่องปรับอากาศ อย่างไรก็ตามห้องนี้มีข้อเสียคือในช่วงบ่ายอากาศร้อนมาก เนื่องจากอยู่ทิศตะวันตก แลแสงแดดยามบ่ายจักส่องผ่านหน้าต่างสามบานเข้ามาที่ห้อง
    ถัดจากห้องของน้อย เดินไป ๓-๔ ก้าว ขวามือเป็นประตูไม้สักเข้าไปที่ห้องเก็บของซึ่งในอดีตเป็นคลินิกนั่นเอง ส่วนทางซ้ายเป็นประตูไม้สัก เข้าไปยังห้องนอนของมารดาแลผัวของท่าน อย่างไรก็ดีเมื่อข้าพเจ้ายังเด็ก ทั้งข้าพเจ้าแลน้อยก็เคยนอนห้องนี้กับมารดา (แลบิดา) และห้องนี้นี่เองที่จักเป็นฉากหลังอันสำคัญของฝัน Story ตอนนี้
    หน้าต่างไม้สัก ๔ บาน ตัวหน้าต่างมีกรอบกระจกสี่เหลี่ยม ๔ อันที่สามารถมองทะลุไปยังสวนรอบบ้านซึ่งอยู่ข้างนอก จักแลเห็นต้นมะพร้าวที่ยืนต้นสูงชะลูดชัดเจน เมื่อมองไกลไปข้างหน้าจักเห็นสวนของตาทิ่น น้องชายของยายข้าพเจ้า สวนแห่งนั้นถูกปรับปรุงใหม่จนไร้ความรกชัฏ กลายเป็นสวนร่มรื่นที่มีเก้าอี้เหล็กทรงยาวให้นั่งชมทัศนียภาพของสวนแห่งนั้น
    แต่หน้าต่างไม่ได้มีเพียง ๔ บานทางทิศตะวันออกดังที่กล่าวมา ทางทิศใต้ยังมีหน้าต่างบานเกล็ด ๑ บาน เมื่อมองทะลุผ่านกระจกของหน้าต่างบานนั้นจักเห็นต้นไม้บริเวณหน้าบ้าน เช่นต้นลั่นทมหลายสายพันธุ์ มีทั้งพันธุ์สีขาวแซมเหลืองที่มีกลิ่นหอม พันธุ์คุ้นเคยที่มักปลูกตามวัดวาอาราม, พันธุ์สีขาวต้นสูงชะลูดที่มารดาของข้าพเจ้าเรียกมันว่า “ลั่นทมลูกศร” ลีลาวดีพันธุ์นี้ไม่มีกลิ่นหอมแต่อย่างใด และสุดท้ายคือลั่นทมดอกสีชมพู มีกลิ่นเฉพาะตัวแต่ไม่ได้หอมเหมือนลั่นทมขาวแซมเหลืองที่ปลูกตามวัด
    เมื่อมองไปไกลจักเห็นถนนลาดยาง สายสถานีรถไฟบ้านทุ่งหล่อ – บ้านห้วยไม้แก่น ตรงข้ามถนนคือบ้านของน้าหมู
    ด้านบนหน้าต่างบานเกล็ดมีเครื่องปรับอากาศ ๑ เครื่องสีขาว เดิมเป็นยี่ห้อ MITSUBISHI MR. SLIM แต่ราว พ.ศ. ๒๕๖๒ แอร์เครื่องดังกล่าวก็เสียอย่างถาวร ภายหลังได้เปลี่ยนเป็นเครื่องปรับอากาศยี่ห้อ SHARP ที่มีระบบฟอกอากาศในตัว
    พื้นของห้องนอนแห่งนี้เป็นพื้นปาร์เกต์ทำจากไม้มะค่าแลไม้แดง ทางด้านตะวันออกของห้องชิดกับหน้าต่าง มีฟูกที่นอนขนาด ๖ ฟุตวางอยู่ ตรงข้ามฟูกที่นอนมีชั้นวางของซึ่งมีบรรดาแผ่น CD แล DVD วางเรียงรายอยู่ ซึ่งวันดีคืนดีก็จักมี “ปลวก” มาเยี่ยมเยือนชั้นวางของอันนี้
    ข้างๆชั้นวางแผ่น CD แล DVD มีกล่องใบใหญ่แข็งๆสีขาววางอยู่ บนกล่องมีโทรทัศน์ยี่ห้อ SONY รุ่น TRINITRON ขนาด ๒๕ นิ้วสีเทาวางอยู่
    บนที่นอนมีคนอยู่ ๓ คนกำลังนอนดูทีวีอยู่อย่างบันเทิงเริงใจ สามคนกอปรด้วยข้าพเจ้า น้าอร แลน้อย โดยน้าอรนอนตรงกลาง มือขวาถือรีโมตคอนโทรลเอาไว้ ข้าพเจ้านอนทางด้านขวาของน้าอรแลน้อยนอนทางด้านซ้าย เราทั้งสามคนแต่งกายอย่างไรไม่อาจทราบได้ เพราะผ้าห่มสีชมพูยี่ห้อปิกัสโซ่ปมคลุมตัวเราทั้งสามอยู่ สันนิษฐานว่าเครื่องปรับอากาศซึ่งน่าจักเป็นยี่ห้อ MITSUBISHIคงถูกเปิดด้วยกระมัง
 
...
 
    รายการทีวีที่น้าอรชอบดู มักเป็นละครน้ำเน่าที่มีการตบกันสุดมัน โดยเฉพาะละครที่มีนางเอกตบกับนางร้าย น้าอรดูไปก็ส่งเสียงเชียร์ให้นางเอกตบชนะนางร้ายไป ข้าพเจ้าเห็นเจ๊อรเชียร์ก็นึกสนุกอยากเชียร์กับเขาบ้าง ในขณะที่น้อยนั่งมองจอแก้วด้วยตาแป๋ว
    ความฝันพลันจบลงในเช้าวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๘ เหลือไว้เพียงความทรงจำของคนเป็นที่ระลึกถึงคนตาย
                จ๊ะ เสือไบ
             ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่