เมื่อวิทยาศาสตร์ทลายกำแพง "พ่อสองคน" กับความเป็นไปได้ของการมีลูก

ในโลกที่การแพทย์และเทคโนโลยีชีวภาพก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง คำถามที่ว่า "คู่รักเพศเดียวกันจะมีลูกทางชีวภาพได้อย่างไร" กำลังถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคู่รักชาย-ชาย ที่ตามหลักชีววิทยาแล้วไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ด้วยตนเอง ทว่าแนวคิดที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้นี้ กำลังมีแสงสว่างรำไรจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่น่าตื่นเต้น

เบื้องหลังแนวคิดการสร้าง "เซลล์ไข่" จากเซลล์เพศชาย
หัวใจหลักของความเป็นไปได้นี้อยู่ที่เทคโนโลยีที่เรียกว่า In Vitro Gametogenesis (IVG) หรือการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ (เซลล์ไข่หรืออสุจิ) นอกร่างกาย ซึ่งในกรณีของคู่รักชาย-ชาย เป้าหมายคือการเปลี่ยนเซลล์จากร่างกายของผู้ชายคนหนึ่งให้กลายเป็น "เซลล์ไข่"

กระบวนการนี้จะเริ่มต้นจากการนำเซลล์ร่างกายใดๆ ของผู้ชาย เช่น เซลล์ผิวหนัง มาแปลงให้เป็น Induced Pluripotent Stem Cells (iPSCs) หรือสเต็มเซลล์เหนี่ยวนำ ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีความสามารถพิเศษในการพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดใดก็ได้ในร่างกาย




หลังจากได้ iPSCs แล้ว ขั้นตอนที่ท้าทายที่สุดคือการ ปรับเปลี่ยนโครโมโซม ผู้ชายมีโครโมโซมเพศเป็น XY ในขณะที่เซลล์ไข่จำเป็นต้องมีโครโมโซมเพศเป็น X เท่านั้น ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์จะต้องหาวิธีที่จะทำให้โครโมโซม Y หายไป และโครโมโซม X จำลองตัวเองขึ้นมาแทน เพื่อให้ได้เซลล์ที่มีโครโมโซมเพศเป็น XX ซึ่งเป็นพื้นฐานของการเป็นเซลล์ไข่ จากนั้นจึงกระตุ้นให้เซลล์ XX เหล่านี้พัฒนาไปเป็น "เซลล์ไข่ที่สมบูรณ์"

ความสำเร็จในหนูทดลอง "ลูกหนูจากพ่อสองตัว"
แนวคิดนี้ไม่ใช่แค่จินตนาการอีกต่อไป เพราะในปี 2023 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ได้สร้างความฮือฮาด้วยการประกาศความสำเร็จในการสร้าง ลูกหนูที่มี "พ่อสองตัว" โดยมีขั้นตอนดังนี้
1.นำเซลล์ผิวหนังของหนูตัวผู้ (XY) มาสร้างเป็น iPSCs
2.ดัดแปลงเซลล์ iPSCs เหล่านั้นให้โครโมโซม Y หายไป และสร้างโครโมโซม X เพิ่มขึ้นมาแทน ทำให้ได้เซลล์ที่มีโครโมโซมเพศเป็น XX
3.พัฒนาเซลล์ XX เหล่านี้ให้กลายเป็น เซลล์ไข่
4.นำเซลล์ไข่ที่สร้างขึ้น ไปปฏิสนธิกับอสุจิของหนูตัวผู้ตัวอื่น
5.ฝังตัวอ่อนที่ได้ ลงในมดลูกของแม่หนูรับจ้าง และท้ายที่สุดก็ให้กำเนิดลูกหนูที่มีชีวิตรอด




ความสำเร็จนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็ยังคงอยู่ในระยะเริ่มต้นของการทดลองในสัตว์เท่านั้น

อุปสรรคและข้อจำกัดในมนุษย์
แม้ความสำเร็จในหนูทดลองจะจุดประกายความหวัง แต่การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในมนุษย์ยังคงเผชิญอุปสรรคสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะประเด็นเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยของเซลล์ไข่ที่สร้างขึ้น ซึ่งอาจไม่สมบูรณ์เท่าเซลล์ธรรมชาติและเสี่ยงต่อความผิดปกติของทารกในอนาคต อีกทั้งยังมีข้อจำกัดทางพันธุกรรมที่ซับซ้อน เนื่องจากการเปลี่ยนโครโมโซม Y เป็น X อาจส่งผลกระทบต่อการแสดงออกของยีนอื่นๆ ที่เรายังไม่ทราบแน่ชัด นอกจากนี้ยังมีปัจจัยทางจริยธรรมที่สังคมต้องตั้งคำถามถึงบทบาทของมนุษย์ในการกำหนดพันธุกรรม รวมถึงการยอมรับและการกำกับดูแลทางกฎหมายที่ต้องมีการหารือเพื่อกำหนดมาตรฐานสากลอย่างละเอียดก่อนจะมีการนำมาใช้จริง

บทสรุป
เทคโนโลยี In Vitro Gametogenesis (IVG) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างเซลล์ไข่จากเซลล์เพศชาย ยังคงเป็นวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการวิจัยและยังห่างไกลจากการนำมาใช้จริงในมนุษย์ ถึงแม้ความสำเร็จในหนูทดลองจะเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ แต่หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลและเต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ การแพทย์ จริยธรรม และสังคม ที่ต้องได้รับการแก้ไขก่อนที่ "ลูกจากพ่อสองคน" จะเป็นความจริงสำหรับคู่รักชาย-ชายในอนาคต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่