"หัวโอลเมก"
หนึ่งในผลงานศิลปะที่น่าทึ่งและเป็นปริศนาที่สุดชิ้นหนึ่งของโลกโบราณ
🗿
#หัวโอลเมก
(Olmec Colossal Heads) คือประติมากรรมหินขนาดมหึมารูปใบหน้ามนุษย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของ อารยธรรมโอลเมก (Olmec) ซึ่งถือเป็น "อารยธรรมแม่" (Mother Culture) ของเมโซอเมริกา (แถบประเทศเม็กซิโกและอเมริกากลางในปัจจุบัน)
หัวโอลเมกไม่ได้มีแค่ชิ้นเดียว แต่มีการค้นพบแล้วถึง 17 หัว กระจายอยู่ในพื้นที่หลักๆ เช่น San Lorenzo และ La Venta
🗿ขนาดและน้ำหนัก สูงตั้งแต่ 1.17 ไปจนถึง 3.4 เมตร และมีน้ำหนักมหาศาล ตั้งแต่ 6 ตันไปจนถึง 50 ตัน
🗿ใบหน้า มีลักษณะสมจริงอย่างน่าประทับใจ มีโหนกแก้มสูง ริมฝีปากหนา และจมูกแบนกว้าง
🗿ทุกหัวจะสวม "หมวกเกราะ" (Helmet) ที่มีลวดลายแตกต่างกัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวหรือบ่งบอกถึงตำแหน่ง
นักโบราณคดีส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่า หัวเหล่านี้ไม่ใช่รูปปั้นเทพเจ้า แต่เป็น รูปเหมือนของกษัตริย์หรือผู้ปกครอง ที่มีตัวตนจริงในสมัยนั้น
การที่แต่ละใบหน้ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (เช่น บางหัวดูหนุ่ม บางหัวดูมีอายุ) สนับสนุนแนวคิดที่ว่าเป็นภาพเหมือนบุคคล
หมวกเกราะที่สวมใส่อาจใช้เพื่อป้องกันตัวในสงคราม หรือเป็นชุดสำหรับเล่น "เกมบอล" โบราณ ซึ่งเป็นพิธีกรรมสำคัญของชาวโอลเมก
⁉️สิ่งที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทึ่งที่สุดคือ ทำได้อย่างไร ในยุคที่ยังไม่มีเครื่องจักรโลหะหรือล้อ
หัวเหล่านี้สลักจาก หินบะซอลต์ (Basalt) ซึ่งเป็นหินภูเขาไฟที่มีความแข็งมาก
แหล่งหินบะซอลต์อยู่ที่เทือกเขา Tuxtlas ซึ่งห่างจากจุดที่พบหัวประติมากรรมออกไปกว่า 80-100 กิโลเมตร
สันนิษฐานว่าชาวโอลเมกต้องใช้แรงงานคนจำนวนมหาศาลลากหินผ่านป่าดิบชื้น และอาจใช้แพขนาดใหญ่ล่องหินมาตามแม่น้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก
ชาวโอลเมกเชื่อว่า "ศีรษะ" คือส่วนที่เก็บรักษาจิตวิญญาณ ประสบการณ์ และอารมณ์ของบุคคลนั้นไว้ การสร้างหัวขนาดใหญ่จึงเป็นการเชิดชูอำนาจและบารมีของผู้ปกครองให้คงอยู่ตลอดกาล แม้จะสิ้นพระชนม์ไปแล้วก็ตาม
📢เกร็ดน่ารู้
ในช่วงแรกที่มีการค้นพบ (ช่วงปี 1860) ลักษณะใบหน้าที่ปากหนาและจมูกกว้างทำให้เกิดทฤษฎีว่าชาวโอลเมกอาจมาจากแอฟริกา แต่ผลการตรวจ DNA และการศึกษาทางมานุษยวิทยาในภายหลังยืนยันว่า พวกเขาคือชาวพื้นเมืองในภูมิภาคเม็กซิโกนั่นเอง
The Earth
"หัวโอลเมก" หนึ่งในผลงานศิลปะที่น่าทึ่งและเป็นปริศนาที่สุดชิ้นหนึ่งของโลกโบราณ 🗿
หนึ่งในผลงานศิลปะที่น่าทึ่งและเป็นปริศนาที่สุดชิ้นหนึ่งของโลกโบราณ
🗿
#หัวโอลเมก
(Olmec Colossal Heads) คือประติมากรรมหินขนาดมหึมารูปใบหน้ามนุษย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของ อารยธรรมโอลเมก (Olmec) ซึ่งถือเป็น "อารยธรรมแม่" (Mother Culture) ของเมโซอเมริกา (แถบประเทศเม็กซิโกและอเมริกากลางในปัจจุบัน)
หัวโอลเมกไม่ได้มีแค่ชิ้นเดียว แต่มีการค้นพบแล้วถึง 17 หัว กระจายอยู่ในพื้นที่หลักๆ เช่น San Lorenzo และ La Venta
🗿ขนาดและน้ำหนัก สูงตั้งแต่ 1.17 ไปจนถึง 3.4 เมตร และมีน้ำหนักมหาศาล ตั้งแต่ 6 ตันไปจนถึง 50 ตัน
🗿ใบหน้า มีลักษณะสมจริงอย่างน่าประทับใจ มีโหนกแก้มสูง ริมฝีปากหนา และจมูกแบนกว้าง
🗿ทุกหัวจะสวม "หมวกเกราะ" (Helmet) ที่มีลวดลายแตกต่างกัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวหรือบ่งบอกถึงตำแหน่ง
นักโบราณคดีส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่า หัวเหล่านี้ไม่ใช่รูปปั้นเทพเจ้า แต่เป็น รูปเหมือนของกษัตริย์หรือผู้ปกครอง ที่มีตัวตนจริงในสมัยนั้น
การที่แต่ละใบหน้ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (เช่น บางหัวดูหนุ่ม บางหัวดูมีอายุ) สนับสนุนแนวคิดที่ว่าเป็นภาพเหมือนบุคคล
หมวกเกราะที่สวมใส่อาจใช้เพื่อป้องกันตัวในสงคราม หรือเป็นชุดสำหรับเล่น "เกมบอล" โบราณ ซึ่งเป็นพิธีกรรมสำคัญของชาวโอลเมก
⁉️สิ่งที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทึ่งที่สุดคือ ทำได้อย่างไร ในยุคที่ยังไม่มีเครื่องจักรโลหะหรือล้อ
หัวเหล่านี้สลักจาก หินบะซอลต์ (Basalt) ซึ่งเป็นหินภูเขาไฟที่มีความแข็งมาก
แหล่งหินบะซอลต์อยู่ที่เทือกเขา Tuxtlas ซึ่งห่างจากจุดที่พบหัวประติมากรรมออกไปกว่า 80-100 กิโลเมตร
สันนิษฐานว่าชาวโอลเมกต้องใช้แรงงานคนจำนวนมหาศาลลากหินผ่านป่าดิบชื้น และอาจใช้แพขนาดใหญ่ล่องหินมาตามแม่น้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก
ชาวโอลเมกเชื่อว่า "ศีรษะ" คือส่วนที่เก็บรักษาจิตวิญญาณ ประสบการณ์ และอารมณ์ของบุคคลนั้นไว้ การสร้างหัวขนาดใหญ่จึงเป็นการเชิดชูอำนาจและบารมีของผู้ปกครองให้คงอยู่ตลอดกาล แม้จะสิ้นพระชนม์ไปแล้วก็ตาม
📢เกร็ดน่ารู้
ในช่วงแรกที่มีการค้นพบ (ช่วงปี 1860) ลักษณะใบหน้าที่ปากหนาและจมูกกว้างทำให้เกิดทฤษฎีว่าชาวโอลเมกอาจมาจากแอฟริกา แต่ผลการตรวจ DNA และการศึกษาทางมานุษยวิทยาในภายหลังยืนยันว่า พวกเขาคือชาวพื้นเมืองในภูมิภาคเม็กซิโกนั่นเอง
The Earth