ช่องสามควรทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง
แฟนละคร/แฟนศิลปิน/แฟนช่อง ให้ชัดเจนมากกว่านี้ เพราะทั้งสามกลุ่มมีพฤติกรรม ความคาดหวัง และขอบเขตที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
แฟนละคร
คือกลุ่มผู้ชมที่ติดตามผลงานเป็นเรื่องๆ ชอบตัวละคร เคมี และเนื้อหา เมื่อละครจบ ความผูกพันก็มักจะจบลงตามไปด้วย ซึ่งเป็นธรรมชาติของผู้ชมทั่วไป
แฟนศิลปิน (แฟนด้อม)
คือกลุ่มที่ผูกพันกับ “ตัวบุคคล” ติดตามการเติบโต การทำงาน และให้การสนับสนุนในระยะยาว ไม่ว่าศิลปินจะอยู่ค่ายไหน เล่นบทแบบใด หรือแม้มีช่วงที่ไม่มีผลงานละคร แฟนด้อมก็ยังคงอยู่ และพร้อมปกป้องศิลปินของตัวเอง
แฟนช่อง
คือผู้ชมที่เลือกเสพผลงานเพราะเชื่อมั่นในแบรนด์ของช่อง ดูละครหลายเรื่อง หลายคู่ หลายแนว โดยไม่ได้ยึดติดกับศิลปินใดศิลปินหนึ่งเป็นหลัก
ปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ คือการที่สื่อหรือช่องมักนำผู้ชมทั้งสามกลุ่มนี้มารวมกันเหมือนเป็นกลุ่มเดียว แล้วสื่อสารหรือจัดการแบบเหมารวม ผลที่ตามมาคือ
• เกิดความเข้าใจผิด
• แฟนด้อมปะทะกันโดยไม่จำเป็น
• ศิลปินถูกดึงเข้าไปอยู่ท่ามกลางดราม่า ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ปัจจุบัน แฟนด้อมไม่ใช่แค่ “คนดู” แต่เป็นผู้สนับสนุนตัวจริง ทั้งในด้านยอดวิว ยอดขาย สปอนเซอร์ และภาพลักษณ์ของช่อง การให้เกียรติและเข้าใจวัฒนธรรมแฟนด้อมจึงไม่ใช่เรื่องตามใจแฟน แต่คือความเป็นมืออาชีพขององค์กรสื่อ
อีกประเด็นสำคัญคือ อยากให้ช่องสาม เลิกยึดติดกับสูตรความสำเร็จแบบเดิม ๆ ที่เคยใช้ได้ในอดีต แล้วนำมาครอบกับบริบทปัจจุบัน
โลกของสื่อและความบันเทิงเปลี่ยนไปมาก พฤติกรรมผู้ชม แฟนด้อม และวิธีการสนับสนุนศิลปินไม่เหมือนเมื่อ 10–20 ปีก่อนอีกแล้ว ความสำเร็จในวันนี้ไม่ได้วัดแค่เรตติ้งหน้าจอ แต่รวมถึง
• พลังของแฟนด้อม
• การมีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มออนไลน์
• ภาพลักษณ์และความเชื่อใจในระยะยาว
การพยายามใช้สูตรเดิม เช่น การดันแบบเหมารวม การแทรกโปรโมตโดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสม หรือการมองแฟนคลับเป็นเพียงผู้เสพสื่อ อาจไม่เพียงพอในบริบทปัจจุบัน และในหลายกรณีกลับก่อให้เกิดความขัดแย้ง มากกว่าการสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืน
#การยอมรับว่าบริบทเปลี่ยน ไม่ได้หมายถึงการปฏิเสธความสำเร็จในอดีต แต่คือการพัฒนาองค์กรให้เดินต่อไปได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
ปล. การสะท้อนครั้งนี้ไม่ได้ต้องการโจมตี แต่หวังให้เกิดการพัฒนา
อยากให้ช่องสามเข้าใจ “วัฒนธรรมแฟนด้อม” ให้ชัดเจนกว่านี้
แฟนละคร/แฟนศิลปิน/แฟนช่อง ให้ชัดเจนมากกว่านี้ เพราะทั้งสามกลุ่มมีพฤติกรรม ความคาดหวัง และขอบเขตที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
แฟนละคร
คือกลุ่มผู้ชมที่ติดตามผลงานเป็นเรื่องๆ ชอบตัวละคร เคมี และเนื้อหา เมื่อละครจบ ความผูกพันก็มักจะจบลงตามไปด้วย ซึ่งเป็นธรรมชาติของผู้ชมทั่วไป
แฟนศิลปิน (แฟนด้อม)
คือกลุ่มที่ผูกพันกับ “ตัวบุคคล” ติดตามการเติบโต การทำงาน และให้การสนับสนุนในระยะยาว ไม่ว่าศิลปินจะอยู่ค่ายไหน เล่นบทแบบใด หรือแม้มีช่วงที่ไม่มีผลงานละคร แฟนด้อมก็ยังคงอยู่ และพร้อมปกป้องศิลปินของตัวเอง
แฟนช่อง
คือผู้ชมที่เลือกเสพผลงานเพราะเชื่อมั่นในแบรนด์ของช่อง ดูละครหลายเรื่อง หลายคู่ หลายแนว โดยไม่ได้ยึดติดกับศิลปินใดศิลปินหนึ่งเป็นหลัก
ปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ คือการที่สื่อหรือช่องมักนำผู้ชมทั้งสามกลุ่มนี้มารวมกันเหมือนเป็นกลุ่มเดียว แล้วสื่อสารหรือจัดการแบบเหมารวม ผลที่ตามมาคือ
• เกิดความเข้าใจผิด
• แฟนด้อมปะทะกันโดยไม่จำเป็น
• ศิลปินถูกดึงเข้าไปอยู่ท่ามกลางดราม่า ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ปัจจุบัน แฟนด้อมไม่ใช่แค่ “คนดู” แต่เป็นผู้สนับสนุนตัวจริง ทั้งในด้านยอดวิว ยอดขาย สปอนเซอร์ และภาพลักษณ์ของช่อง การให้เกียรติและเข้าใจวัฒนธรรมแฟนด้อมจึงไม่ใช่เรื่องตามใจแฟน แต่คือความเป็นมืออาชีพขององค์กรสื่อ
อีกประเด็นสำคัญคือ อยากให้ช่องสาม เลิกยึดติดกับสูตรความสำเร็จแบบเดิม ๆ ที่เคยใช้ได้ในอดีต แล้วนำมาครอบกับบริบทปัจจุบัน
โลกของสื่อและความบันเทิงเปลี่ยนไปมาก พฤติกรรมผู้ชม แฟนด้อม และวิธีการสนับสนุนศิลปินไม่เหมือนเมื่อ 10–20 ปีก่อนอีกแล้ว ความสำเร็จในวันนี้ไม่ได้วัดแค่เรตติ้งหน้าจอ แต่รวมถึง
• พลังของแฟนด้อม
• การมีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มออนไลน์
• ภาพลักษณ์และความเชื่อใจในระยะยาว
การพยายามใช้สูตรเดิม เช่น การดันแบบเหมารวม การแทรกโปรโมตโดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสม หรือการมองแฟนคลับเป็นเพียงผู้เสพสื่อ อาจไม่เพียงพอในบริบทปัจจุบัน และในหลายกรณีกลับก่อให้เกิดความขัดแย้ง มากกว่าการสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืน
#การยอมรับว่าบริบทเปลี่ยน ไม่ได้หมายถึงการปฏิเสธความสำเร็จในอดีต แต่คือการพัฒนาองค์กรให้เดินต่อไปได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
ปล. การสะท้อนครั้งนี้ไม่ได้ต้องการโจมตี แต่หวังให้เกิดการพัฒนา