การฝึกสมาธิอย่างถูกต้อง มีอยู่ ๔ ลักษณะ

กระทู้คำถาม
พระพุทธเจ้าตรัสว่า
การฝึกสมาธิอย่างถูกต้อง มีอยู่ ๔ ลักษณะ แต่ละอย่างให้ผลต่างกันดังนี้

๑. สมาธิเพื่อความอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน

คือการฝึกสมาธิที่ทำให้ ใจสงบ มีความสุขในชีวิตประจำวัน ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ทุกข์ร้อน

ภิกษุหรือผู้ปฏิบัติ
    - สงัดจากกามและอกุศลธรรม
    -  เข้าสู่ ฌานที่ ๑–๔ ตามลำดับ
    ฌานที่ ๑ : มีความคิดประกอบ มีปีติ สุขจากความสงัด
    ฌานที่ ๒ : จิตนิ่ง ผ่องใส ไม่มีความคิดฟุ้ง มีปีติ สุขจากสมาธิ
    ฌานที่ ๓ : ปีติจาง เหลือความสุข สติตั้งมั่น มีอุเบกขา
    ฌานที่ ๔ : วางสุขวางทุกข์ เหลือความรู้ตัวบริสุทธิ์ เป็นกลางอย่างยิ่ง

สมาธิระดับนี้ ทำให้ใจสงบ เย็น เป็นสุขทันทีในปัจจุบัน


๒. สมาธิเพื่อเกิดญาณทัสสนะ (ความรู้แจ้งเห็นจริง)

คือการฝึกสมาธิที่ทำให้ จิตสว่าง เห็นชัด ไม่มืดบอด

ผู้ปฏิบัติ
    - ฝึก อาโลกสัญญา (กำหนดความสว่าง)
    - ทำใจให้เหมือนกลางวันตลอดเวลา
    - ไม่ปล่อยให้จิตมืด ทึบ ง่วง หรือคลุมเครือ

สมาธิแบบนี้ช่วยให้
    จิตแจ่มใส เห็นสิ่งต่าง ๆ ชัดเจน และเป็นฐานให้เกิดปัญญาและความรู้พิเศษได้


๓. สมาธิเพื่อสติและสัมปชัญญะ

คือการฝึกสมาธิที่ทำให้ รู้ตัวทั่วพร้อมในทุกอิริยาบถ

ผู้ปฏิบัติ
    เห็นชัดว่า เวทนา (สุข ทุกข์ เฉย ๆ) เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป สัญญา (การจำ การรับรู้) เกิดแล้วดับ และความคิดปรุงแต่ง เกิดแล้วดับ

สมาธิแบบนี้ทำให้
    มีสติทันทุกอาการของใจ ไม่เผลอไหลไปตามอารมณ์และใช้ชีวิตด้วยความรู้ตัวจริง ๆ


๔. สมาธิเพื่อความสิ้นอาสวะ (เพื่อการหลุดพ้น)

นี่คือสมาธิขั้นสูงสุด
เป็นสมาธิที่ใช้ เจริญปัญญาโดยตรง

ผู้ปฏิบัติ
    พิจารณาเห็น ขันธ์ ๕ ตามความเป็นจริงว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไปไม่มีสิ่งใดเป็นตัวตนถาวร

เมื่อเห็นซ้ำ ๆ อย่างชัดเจน
    ความยึดมั่นคลาย กิเลสและอาสวะสิ้นไป เข้าสู่ความหลุดพ้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่