ขอความคิดเห็นถ้าบริษัทไม่ให้พกโทรศัพท์เข้าที่ทำงาน

กระทู้สนทนา
กล่าวก่อนผมทำงานที่บริษัทแห่งหนึงปกติก็ให้ใช้โทรศัพท์ปกติ
จนเมื่อประมาณปีที่แล้วบริษัทได้ตั้งกฎขึ้นมาใหม่ห้ามให้พนักงานใช้โทรศัพท์มือถือในขณะทำงาน
ให้เก็บโทรศัพท์ไว้ในล็อกเกอร์ห้ามใช้ แม้กระทั่งเวลาพักก็ห้ามใช้ สามารถใช้ได้อีกทีก็คือเวลาเลิกงานเลย
จนล่าสุดไม่กี่วันที่ผ่านมาก็เพิ่มกฎเข้าไปอีกว่าห้ามพกกระทั่งกระเป๋าหรือของใช้ส่วนตัวอื่นเข้าที่ทำงานให้เก็บใส่ล็อกเกอร์ทั้งหมด
ให้เอาเข้าได้แค่อาหาร น้ำดื่มเพียงแค่นั้น ระหว่างวันจะเป็นฝ่ายบุคคลเดินตรวจ มีการค้นตัวเพื่อค้นหาโทคศัพท์มือถือว่าแอบพกเข้ามาไหม
ถ้าแอบพกเข้ามามีโทษคือไล่ออก

เอาจริงๆ ตรงนี้ผมก็ไมีได้มีปัญหาอะไรนะครับเหมือนกฎบริษัทเราเข้าใจ
กล่าวก่อนบริษัทผมไม่ใช่งานสายผลิต หรืองานอะไรที่ต้องเก็บเป็นความลับ เป็นงานบริการที่ต้องเจอลูกค้า
จนล่าสุดบุคคลในครอบผมคือคุณพ่อป่วยด้วยภาวะโรคหัวใจ และโรคไต มีภาวะน้ำท่วมปอด และเสี่ยงที่หัวใจจะบีบเลือดไม่ทันจนมีอาการช็อก
ผมจึงทำเรื่องขออนุญาตไปทางบริษัทเพื่อขอพกโทรศัพท์มือถือเข้าในที่ทำงาน
เพื่อกรณีฉุกเฉินจะได้รับสายทัน และผมได้ติดกล้องไว้ที่ห้องคุณพ่อ ผมก็จะคอยส่องดูเผื่อเวลาเกิดเหตุผิดปกติ
ผมตั้งเงือนไขว่าจะใช้โทรศัพท์มือถือแค่ตอนว่าง ตอนพักจะไม่ใช้ในเวลาต้องบริการลูกค้า

แต่บริษัทเรียกผมไปคุย พร้อมบอกว่าเรื่องที่ผมเขียนขอไม่สามารถให้ได้ ไม่มีกรณีไหนก็ไม่มีข้อยกเว้นในการพกโทรศัพท์
ผมต้องคำถามกลับถ้ากรณีฉุกเฉินมากๆ ที่ต้องเสี่ยงกับชีวิตคุณพ่อผมจะให้ทำยังไง
สมมุติพ่อผมเข้าต้องรับการผ่าตัดหรืออะไรสักอย่างที่ต้องใช้คนตัดสินใจเร่งด่วยแล้วคนที่ตัดสินใจได้มีแค่ผมจะทำยังไง
เค้าก็ยังตอบผมไม่ได้ ได้แต่ยืนยันว่ายังไงก็ไม่ให้พกโทรศัพท์

โดยถ้าหากมีฉุกเฉินให้โทรเข้าหาผู้จัดการ
แต่ผมถามว่าถ้ามันฉุกเฉินเร่งด่วยมันจะทันการไหม
ตอนนี้วิธีสื่อสารกันภายในที่ทำงานเป็นการใข้วิทยุสื่อสาร ซึ่งต้องบอกว่าบริษัทไม่ได้จัดหาให้ทุกคน
คือมีบ้างไม่มีบ้าง ซึ่งก็ยังไม่รู้เลยถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินจริงๆ ไม่ใช่เรื่องคุณพ่อผม แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกค้าที่มาใช้บีการจะคิดต่อขอความช่วยเหลือยังไง

เลยอยากถามความคิดเห็นว่าคิดยังไงกับกฎนี้
ปล. ก่อนหน้าคุณพ่อผมป่วยผมก็ปฏิบัติตามกฎปกติ แต่ตอนนี้คือผมมีปัญหาที่ผมจะต้องใช้ด้วยเรื่องสุขภาพคุณพ่อผมแต่บริษทกลับตอบว่าไม่สามารถให้ได้ ผมก็เข้าใจนะว่ากฎบริษัทแต่ทำไมบริษัทถึงเห็นความสำคัญของบุคคลในครอบครัวมีความสำคัญน้อยมากๆ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่