ปชน. ส่งแกนนำกระจายทุกภาค ให้กำลังใจวันรับสมัคร สส.เขต พรุ่งนี้ ส่วน “เท้ง” นำทีม กทม.
.

.
พรรคประชาชน กระจายแกนนำให้กำลังใจวันรับสมัคร สส.เขต พรุ่งนี้ ทุกภาค “เท้ง” นำทีม กทม. 7 โมงเช้าถึง กีฬาเวสน์ 2 “ไหม” บุกถิ่นบุรีรัมย์ “วีระยุทธ” นำทีมผู้สมัคร สส.ภูเก็ต
.
วันที่ 26 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาชนว่า วันรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต ในวันพรุ่งนี้( 27 ธ.ค.) พรรคประชาชน ใช้ยุทธวิธีดาวกระจาย ส่งแกนนำพรรคลงพื้นที่ประกบให้กำลังใจผู้สมัครตามภูมิภาคต่างๆ
.
โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะนำผู้สมัคร สส.กทม. ไปสมัครที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 กทม. เวลา 07.00 น. คาดว่าน่าจะนั่งรถเมล์ไปเหมือนกับปีที่แล้ว ส่วน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 2 ไปให้กำลังใจผู้สมัครที่จังหวัดบุรีรัมย์ นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 3 นำทีมจังหวัดภูเก็ต
.
ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรค ไปที่จังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษ , นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค ไปที่จังหวัดระยองและจันทบุรี , น.ส.รักชนก ศรีนอก อดีต สส.กทม. ไปที่จังหวัดชลบุรี และนายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ให้กำลังใจผู้สมัครที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เป็นบ้านของนายชัยธวัชด้วย
.
.
โพลพระปกเกล้า ชี้ 42.6% ไม่ค่อยพอใจผลงานรบ. เปิด 3 อันดับ นักการเมืองคนอยากฟังดีเบต
https://www.matichon.co.th/politics/election69/news_5522711
.
โพลพระปกเกล้า ชี้ 42.6% ไม่ค่อยพอใจผลงานรบ. เปิด 3 อันดับ นักการเมืองคนอยากฟังดีเบต
.
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม สถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยผลสารวจ เรื่อง เสียงในหัวประชาชนกับการเมืองช่วงเปลี่ยนผ่าน โดย รองศาสตราจารย์ ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ในฐานะประธานศูนย์ KPI Poll มอบนโยบายสาคัญในการทา KPI Poll ให้เป็นโพลเชิงวิชาการที่ออกแบบมาเพื่อสะท้อนความจริงทางการเมืองด้วยความ “เป็นกลาง เป็นจริง เป็นประโยชน์” มีมาตรฐานวิชาการและความแม่นยา ไม่มุ่งเน้นให้เกิดการชี้นาการเมือง แต่จัดทาเพื่อฟังการเมืองจากเสียงของประชาชน โดยให้ข้อมูลจาก KPI Poll เป็นฐานความรู้สาคัญสาหรับนักการเมือง พรรคการเมือง นักวิชาการ และสาธารณชนในการทาความเข้าใจภูมิทัศน์ความรู้สึกและความคาดหวังของประชาชนอย่างรอบด้าน เพื่อทาหน้าที่เป็น คลังสมองทางประชาธิปไตย” ของสังคมไทยอย่างแท้จริง
.
การแถลงผลการสารวจ KPI Poll ครั้งที่ 2 ที่ศูนย์ฯ ได้สำรวจระหว่างวันที่ 30 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายตามภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 2,016 ตัวอย่าง โดยมีบทสรุปสำคัญจากผลสำรวจ ดังนี้
.
1. รัฐบาลยังมีฐาน แต่การเมืองไทยกำลังแตกเป็นหลายรสนิยม
.
• ประชาชนร้อยละ 28.1 แสดงความ “
พึงพอใจ” ต่อการทำงานของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา สะท้อนว่ารัฐบาลยังคงมีฐานความพึงพอใจในระดับหนึ่ง แม้เสียงไม่พอใจจะยังเป็นเสียงส่วนใหญ่
> ประชาชนเน้น “
การจับต้องได้ของผลงาน” โดยเฉพาะเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ในขณะนั้น (มีภัยพิบัติ และปัญหาชายแดนที่ยังไม่คลี่คลาย)
.
2. มิติภูมิภาค: อีสานคือฐานหลัก เมืองใหญ่ยังต้องพิสูจน์
• อีสาน (10.8%) ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีความพึงพอใจสูงสุด
• ภาคกลาง (5.4%) และภาคใต้ (5.3%) อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
> รัฐบาลมีความได้เปรียบในพื้นที่ที่นโยบาย “เข้าถึงชีวิตจริง” แต่ในหัวเมืองและภาคใต้ โจทย์ไม่ใช่เรื่องอุดมการณ์ หากคือการสร้างผลลัพธ์ที่ “ตอบโจทย์บริบทเฉพาะพื้นที่” มากขึ้น
.
3. มิติช่วงอายุ: รุ่นใหญ่หนุน เสาหลักเศรษฐกิจยังลังเล
• 56 ปีขึ้นไป (10.6%) พึงพอใจรัฐบาลสูงสุด
• 46 55 ปี (7%) ยังเป็นแรงหนุนสาคัญ และ 36 45 ปี (4%) ต่าสุดในกลุ่มหลัก
> รัฐบาล “สื่อสารได้ดี” กับคนรุ่นใหญ่ แต่ยังต้องสร้างความเชื่อมั่นกับคนวัยทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เผชิญแรงกดดันค่าครองชีพและเศรษฐกิจโดยตรงมากที่สุด
.
4. การเมืองเชิงพื้นที่: 3 บุคลิก 3 พื้นที่
• รสนิยมการเมืองไม่ได้รวมศูนย์ แต่กระจายตามภูมิศาสตร์อย่างชัดเจน
• ภาคเหนือ และ กรุงเทพฯ อยากฟัง “
ณัฐพงษ์”: ความหวังต่อการเปลี่ยนแปลง
• ภาคใต้ และ ภาคกลาง อยากฟัง “
อภิสิทธิ์”: มาตรฐาน วุฒิภาวะ และวาทศิลป์
• ภาคอีสาน อยากฟัง ใครก็ได้ และ “
อนุทิน”: ยังไม่มีใครโดดเด่น เปิดพื้นที่ รอฟังผลงาน
> เชิงพื้นที่ไม่ใช่การแบ่งขั้วแบบแข็ง แต่คือการสะท้อนว่า ประชาชนแต่ละพื้นที่คาดหวังผู้นำไม่เหมือนกัน
.
5. การเมืองเชิงช่วงอายุ: เวทีเดียว หลายความหวัง
18 35 ปี อยากฟัง “
ณัฐพงษ์” มากที่สุด > พูดภาษาเดียวกัน หวังความเปลี่ยนแปลง
36 55 ปี อยากฟัง “
อนุทิน” มากที่สุด > มองหาความสมดุล ไม่สุดโต่งเกินไป
56 ปีขึ้นไป อยากฟัง “
อภิสิทธิ์” มากที่สุด > ประสบการณ์ ความน่าเชื่อถือ
> ดีเบตทางการเมืองในวันนี้ ไม่ใช่เวทีตัดสินแพ้ ชนะ แต่เป็นเวทีสะท้อน โจทย์ชีวิตของแต่ละเจเนอเรชัน
.
บทสรุปจาก KPI Poll ครั้งที่ 2
ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ ผลโพลสะท้อนว่า การเมืองไทยกำลังเดินเข้าสู่ยุคที่ประชาชนคิดต่างอย่างมีเหตุผล และเลือกฟังในแบบที่ตอบโจทย์ชีวิตของตนเอง ประชาชนไม่ได้ปฏิเสธการเมือง แต่ปฏิเสธ การเมืองที่ไม่ตอบชีวิตจริง ผู้นาหรือพรรคการเมืองที่ต้องการได้เปรียบต้อง
สามารถเชื่อมโยงนโยบายกับชีวิตประจำวันได้
วางยุทธศาสตร์การสื่อสารที่มีความต่างกันตามรุ่นและพื้นที่
ใช้เวทีดีเบตเป็นพื้นที่สร้างความเชื่อมั่น ไม่ใช่เพียงการโจมตี
.
.
เขมรระดมปืนใหญ่-ปืนครก ยิงใส่ช่องโดนเอาว์ ฝ่ายไทยเจ็บ 1 นาย
.
ชายแดนอีสานใต้ตึงเครียดหลายจุด เขมรระดมปืนใหญ่-ปืนครก ยิงใส่พื้นที่ภูมะเขือ–ช่องโดนเอาว์–พลาญยาว–พลาญหินแปดก้อน ฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ไทยตอบโต้ด้วยปืนใหญ่ตามสัดส่วน ยังคุมพื้นที่หลักได้ทั้งหมด
.
วันนี้ (26 ธ.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์แนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยภาพรวมตลอดทั้งวัน วานนี้ (25 ธ.ค.68) หลายจังหวัดยังคงตึงเครียด มีการใช้อาวุธยิงระยะไกลในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดศรีสะเกษและสุรินทร์ ขณะที่บางจุดยังไม่พบความเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญ มีการปะทะด้วยอาวุธยิงระยะไกลอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่ภูมะเขือ พระวิหาร และปราสาทตาควาย ยังคงเป็นจุดเสี่ยงสูง ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธยิงสนับสนุนหนัก อาทิ ปืนใหญ่ ปืน ค. จรวด หลายลำกล้อง BM-21 และรถถัง รวมถึงการใช้โดรนตรวจการณ์
.
ขณะที่ฝ่ายไทยตอบโต้ด้วยการการยิง ใช้ปืนใหญ่ ปืนครกหนัก และรถถัง เพื่อทำลายที่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนและสกัดการคุกคามจากแนวหลัง แม้จะมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บจากอาวุธยิงไกลและทุ่นระเบิด แต่ฝ่ายไทยยังสามารถควบคุมพื้นที่สำคัญไว้ได้ โดยระบบการบังคับบัญชาและการควบคุมการรบยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
.
ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี
พื้นที่ช่องบกยังคงสงบ ไม่พบความเคลื่อนไหวสำคัญ อย่างไรก็ตาม บริเวณช่องอานม้า ตรวจพบการใช้โดรนบินเฝ้าตรวจฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง
.
ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ จุดปะทะหลักหลายแนว พื้นที่ซำแต–โดนตวล–ภูผี–สัตตะโสม–พนมประสิทธิโส–ช่องตาเฒ่า ฝ่ายกัมพูชาใช้รถถังยิงจากบริเวณภูผีไปยังพื้นที่สัตตะโสม ใช้ปืนใหญ่และปืนครกยิงเป็นระยะ ขณะที่ฝ่ายไทยยิงตอบโต้ต่อที่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง โดยไม่พบการรุกภาคพื้น
.
พื้นที่ผามออีแดง–ห้วยตามาเรีย ตรวจพบการยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ของฝ่ายกัมพูชาตกในพื้นที่ภูมะเขือ กำลังพลปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีการยิงจากบริเวณเขาพระวิหารเข้ามายังยอดภูมะเขือ
.
ส่วนพื้นที่ภูมะเขือ–ช่องโดนเอาว์–พลาญยาว–พลาญหินแปดก้อน เกิดการปะทะด้วยปืนใหญ่และปืนครก ฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ฝ่ายกัมพูชายิงปืนใหญ่เข้ามายังช่องโดนเอาว์ ก่อนที่ฝ่ายไทยจะยิงตอบโต้ไปยังที่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา
.
ขณะที่พื้นที่ช่องสะงำ ยังไม่พบความเคลื่อนไหวที่สำคัญ
.
ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ มีการปะทะประปราย–พบทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องจอม–ช่องเปรอ–ช่องระยี และฝ่ายกัมพูชา ได้ใช้ปืนใหญ่ยิงเป็นช่วง ๆ ส่วนพื้นที่คนา มีการเฝ้าตรวจและติดตามความเคลื่อนไหวฝ่ายไทย
.
บริเวณปราสาทตาควายและเนิน 350 ทั้งสองฝ่ายมีการปะทะด้วยอาวุธปืนเล็กเป็นระยะ ระหว่างการเคลียร์พื้นที่ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 ทำให้กำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
.
พื้นที่ช่องกร่าง ฝ่ายกัมพูชายังคงตรึงกำลังและเฝ้าตรวจความเคลื่อนไหว ขณะที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม มีกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชาตกในพื้นที่ พร้อมการใช้อาวุธต่อสู้อากาศยานและอาวุธต่อสู้รถถังยิงเข้ามา ก่อนจะมีการยิงตอบโต้ด้วยปืนใหญ่ กระสุนตกในเขตปราสาทตาเมือนธมเช่นกัน อย่างไรก็ตาม กำลังพลปลอดภัย และพื้นที่ยังอยู่ในการควบคุมของฝ่ายไทย
.
ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ ยิงกดดันแต่ไม่กระทบพื้นที่ พื้นที่ช่องสายตะกู ฝ่ายกัมพูชาใช้ปืนใหญ่ยิงเข้ามา แต่ไม่พบความเสียหายหรือการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่
JJNY : ปชน.ส่งแกนนำให้กำลังใจ│ชี้ 42.6%ไม่ค่อยพอใจผลงานรบ.│เขมรระดมยิงใส่ช่องโดนเอาว์│ฮุน มาเนตชี้สหรัฐฯอยากเห็นสันติภาพ
.
.
โพลพระปกเกล้า ชี้ 42.6% ไม่ค่อยพอใจผลงานรบ. เปิด 3 อันดับ นักการเมืองคนอยากฟังดีเบต
https://www.matichon.co.th/politics/election69/news_5522711
.
โพลพระปกเกล้า ชี้ 42.6% ไม่ค่อยพอใจผลงานรบ. เปิด 3 อันดับ นักการเมืองคนอยากฟังดีเบต
.
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม สถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยผลสารวจ เรื่อง เสียงในหัวประชาชนกับการเมืองช่วงเปลี่ยนผ่าน โดย รองศาสตราจารย์ ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ในฐานะประธานศูนย์ KPI Poll มอบนโยบายสาคัญในการทา KPI Poll ให้เป็นโพลเชิงวิชาการที่ออกแบบมาเพื่อสะท้อนความจริงทางการเมืองด้วยความ “เป็นกลาง เป็นจริง เป็นประโยชน์” มีมาตรฐานวิชาการและความแม่นยา ไม่มุ่งเน้นให้เกิดการชี้นาการเมือง แต่จัดทาเพื่อฟังการเมืองจากเสียงของประชาชน โดยให้ข้อมูลจาก KPI Poll เป็นฐานความรู้สาคัญสาหรับนักการเมือง พรรคการเมือง นักวิชาการ และสาธารณชนในการทาความเข้าใจภูมิทัศน์ความรู้สึกและความคาดหวังของประชาชนอย่างรอบด้าน เพื่อทาหน้าที่เป็น คลังสมองทางประชาธิปไตย” ของสังคมไทยอย่างแท้จริง
.
การแถลงผลการสารวจ KPI Poll ครั้งที่ 2 ที่ศูนย์ฯ ได้สำรวจระหว่างวันที่ 30 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายตามภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 2,016 ตัวอย่าง โดยมีบทสรุปสำคัญจากผลสำรวจ ดังนี้
.
1. รัฐบาลยังมีฐาน แต่การเมืองไทยกำลังแตกเป็นหลายรสนิยม
.
• ประชาชนร้อยละ 28.1 แสดงความ “พึงพอใจ” ต่อการทำงานของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา สะท้อนว่ารัฐบาลยังคงมีฐานความพึงพอใจในระดับหนึ่ง แม้เสียงไม่พอใจจะยังเป็นเสียงส่วนใหญ่
> ประชาชนเน้น “การจับต้องได้ของผลงาน” โดยเฉพาะเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ในขณะนั้น (มีภัยพิบัติ และปัญหาชายแดนที่ยังไม่คลี่คลาย)
.
2. มิติภูมิภาค: อีสานคือฐานหลัก เมืองใหญ่ยังต้องพิสูจน์
• อีสาน (10.8%) ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีความพึงพอใจสูงสุด
• ภาคกลาง (5.4%) และภาคใต้ (5.3%) อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
> รัฐบาลมีความได้เปรียบในพื้นที่ที่นโยบาย “เข้าถึงชีวิตจริง” แต่ในหัวเมืองและภาคใต้ โจทย์ไม่ใช่เรื่องอุดมการณ์ หากคือการสร้างผลลัพธ์ที่ “ตอบโจทย์บริบทเฉพาะพื้นที่” มากขึ้น
.
3. มิติช่วงอายุ: รุ่นใหญ่หนุน เสาหลักเศรษฐกิจยังลังเล
• 56 ปีขึ้นไป (10.6%) พึงพอใจรัฐบาลสูงสุด
• 46 55 ปี (7%) ยังเป็นแรงหนุนสาคัญ และ 36 45 ปี (4%) ต่าสุดในกลุ่มหลัก
> รัฐบาล “สื่อสารได้ดี” กับคนรุ่นใหญ่ แต่ยังต้องสร้างความเชื่อมั่นกับคนวัยทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เผชิญแรงกดดันค่าครองชีพและเศรษฐกิจโดยตรงมากที่สุด
.
4. การเมืองเชิงพื้นที่: 3 บุคลิก 3 พื้นที่
• รสนิยมการเมืองไม่ได้รวมศูนย์ แต่กระจายตามภูมิศาสตร์อย่างชัดเจน
• ภาคเหนือ และ กรุงเทพฯ อยากฟัง “ณัฐพงษ์”: ความหวังต่อการเปลี่ยนแปลง
• ภาคใต้ และ ภาคกลาง อยากฟัง “อภิสิทธิ์”: มาตรฐาน วุฒิภาวะ และวาทศิลป์
• ภาคอีสาน อยากฟัง ใครก็ได้ และ “อนุทิน”: ยังไม่มีใครโดดเด่น เปิดพื้นที่ รอฟังผลงาน
> เชิงพื้นที่ไม่ใช่การแบ่งขั้วแบบแข็ง แต่คือการสะท้อนว่า ประชาชนแต่ละพื้นที่คาดหวังผู้นำไม่เหมือนกัน
.
5. การเมืองเชิงช่วงอายุ: เวทีเดียว หลายความหวัง
18 35 ปี อยากฟัง “ณัฐพงษ์” มากที่สุด > พูดภาษาเดียวกัน หวังความเปลี่ยนแปลง
36 55 ปี อยากฟัง “อนุทิน” มากที่สุด > มองหาความสมดุล ไม่สุดโต่งเกินไป
56 ปีขึ้นไป อยากฟัง “อภิสิทธิ์” มากที่สุด > ประสบการณ์ ความน่าเชื่อถือ
> ดีเบตทางการเมืองในวันนี้ ไม่ใช่เวทีตัดสินแพ้ ชนะ แต่เป็นเวทีสะท้อน โจทย์ชีวิตของแต่ละเจเนอเรชัน
.
บทสรุปจาก KPI Poll ครั้งที่ 2
ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ ผลโพลสะท้อนว่า การเมืองไทยกำลังเดินเข้าสู่ยุคที่ประชาชนคิดต่างอย่างมีเหตุผล และเลือกฟังในแบบที่ตอบโจทย์ชีวิตของตนเอง ประชาชนไม่ได้ปฏิเสธการเมือง แต่ปฏิเสธ การเมืองที่ไม่ตอบชีวิตจริง ผู้นาหรือพรรคการเมืองที่ต้องการได้เปรียบต้อง
สามารถเชื่อมโยงนโยบายกับชีวิตประจำวันได้
วางยุทธศาสตร์การสื่อสารที่มีความต่างกันตามรุ่นและพื้นที่
ใช้เวทีดีเบตเป็นพื้นที่สร้างความเชื่อมั่น ไม่ใช่เพียงการโจมตี
.
.
.
วันนี้ (26 ธ.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์แนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยภาพรวมตลอดทั้งวัน วานนี้ (25 ธ.ค.68) หลายจังหวัดยังคงตึงเครียด มีการใช้อาวุธยิงระยะไกลในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดศรีสะเกษและสุรินทร์ ขณะที่บางจุดยังไม่พบความเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญ มีการปะทะด้วยอาวุธยิงระยะไกลอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่ภูมะเขือ พระวิหาร และปราสาทตาควาย ยังคงเป็นจุดเสี่ยงสูง ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธยิงสนับสนุนหนัก อาทิ ปืนใหญ่ ปืน ค. จรวด หลายลำกล้อง BM-21 และรถถัง รวมถึงการใช้โดรนตรวจการณ์
.
ขณะที่ฝ่ายไทยตอบโต้ด้วยการการยิง ใช้ปืนใหญ่ ปืนครกหนัก และรถถัง เพื่อทำลายที่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนและสกัดการคุกคามจากแนวหลัง แม้จะมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บจากอาวุธยิงไกลและทุ่นระเบิด แต่ฝ่ายไทยยังสามารถควบคุมพื้นที่สำคัญไว้ได้ โดยระบบการบังคับบัญชาและการควบคุมการรบยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
.
ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี
พื้นที่ช่องบกยังคงสงบ ไม่พบความเคลื่อนไหวสำคัญ อย่างไรก็ตาม บริเวณช่องอานม้า ตรวจพบการใช้โดรนบินเฝ้าตรวจฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง
.
ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ จุดปะทะหลักหลายแนว พื้นที่ซำแต–โดนตวล–ภูผี–สัตตะโสม–พนมประสิทธิโส–ช่องตาเฒ่า ฝ่ายกัมพูชาใช้รถถังยิงจากบริเวณภูผีไปยังพื้นที่สัตตะโสม ใช้ปืนใหญ่และปืนครกยิงเป็นระยะ ขณะที่ฝ่ายไทยยิงตอบโต้ต่อที่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง โดยไม่พบการรุกภาคพื้น
.
พื้นที่ผามออีแดง–ห้วยตามาเรีย ตรวจพบการยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ของฝ่ายกัมพูชาตกในพื้นที่ภูมะเขือ กำลังพลปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีการยิงจากบริเวณเขาพระวิหารเข้ามายังยอดภูมะเขือ
.
ส่วนพื้นที่ภูมะเขือ–ช่องโดนเอาว์–พลาญยาว–พลาญหินแปดก้อน เกิดการปะทะด้วยปืนใหญ่และปืนครก ฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ฝ่ายกัมพูชายิงปืนใหญ่เข้ามายังช่องโดนเอาว์ ก่อนที่ฝ่ายไทยจะยิงตอบโต้ไปยังที่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา
.
ขณะที่พื้นที่ช่องสะงำ ยังไม่พบความเคลื่อนไหวที่สำคัญ
.
ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ มีการปะทะประปราย–พบทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องจอม–ช่องเปรอ–ช่องระยี และฝ่ายกัมพูชา ได้ใช้ปืนใหญ่ยิงเป็นช่วง ๆ ส่วนพื้นที่คนา มีการเฝ้าตรวจและติดตามความเคลื่อนไหวฝ่ายไทย
.
บริเวณปราสาทตาควายและเนิน 350 ทั้งสองฝ่ายมีการปะทะด้วยอาวุธปืนเล็กเป็นระยะ ระหว่างการเคลียร์พื้นที่ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 ทำให้กำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
.
พื้นที่ช่องกร่าง ฝ่ายกัมพูชายังคงตรึงกำลังและเฝ้าตรวจความเคลื่อนไหว ขณะที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม มีกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชาตกในพื้นที่ พร้อมการใช้อาวุธต่อสู้อากาศยานและอาวุธต่อสู้รถถังยิงเข้ามา ก่อนจะมีการยิงตอบโต้ด้วยปืนใหญ่ กระสุนตกในเขตปราสาทตาเมือนธมเช่นกัน อย่างไรก็ตาม กำลังพลปลอดภัย และพื้นที่ยังอยู่ในการควบคุมของฝ่ายไทย
.
ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ ยิงกดดันแต่ไม่กระทบพื้นที่ พื้นที่ช่องสายตะกู ฝ่ายกัมพูชาใช้ปืนใหญ่ยิงเข้ามา แต่ไม่พบความเสียหายหรือการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่