นั่นแหละ ตามหัวข้อเลย
เชื่อว่ามีคนอีกเยอะมาก ที่เดี๋ยวนี้ ใช้เน็ตมือถือ เพราะความสะดวก และแน่นอนว่า หลายคนซื้อซิมที่เติมรายเดือน เพราะมันถูกและสะดวก
และนั่นแหละ ทุกคนคิดว่า เราคอนโทรล "ค่าเน็ต" ได้ ถ้าไม่มีบริการ "ปรสิต" ที่มาดูดยอดเงินในกระเป๋ายอดเงินโทรศัพท์ของเรา แบบ เอาไปดื้อๆ
แล้วไงต่อหน่ะเหรอ ......... เราก็ไม่มีเงินพอที่จะโดนตัดซื้อบริการรายเดือน จากที่เราเติมไว้สำหรับยอดรายเดือนที่จะจ่าย และแน่นอนว่า แม้เงินมันจะเหลือ แต่ก็จะหมดไปอย่างรวดเร็ว ในไม่กี่ชั่วโมง เพราะคิดค่าบริการแสนโหด (โดนไปเมื่อกี้เลย ไม่ถึงชั่วโมง.......หมด)
ถามว่า ทำไมไม่เอะใจ ?
หลายคนก็น่าจะใช้วิธีการเหมือนกัน คือ ใช้เครื่องเก่า ในการปล่อย ฮอตสปอต และเล่นเครื่องอื่นที่เร็วกว่า และลดอาการความร้อนของเครื่องน้อยกว่าใช่หรือเปล่าล่ะ
อ่ะ หลายคนคงสงสัย บริการ"ปรสิต" นี่คือบริการอะไร คำตอบง่ายๆคือ "บริการSMSกินเงิน" ที่ส่งมาแล้ว เราต้องเสียเงินให้มัน ข้อความละ 3 บาท และส่งมาครั้งละ 3 ข้อความ แบบรุมกระหน่ำ แค่โดน 3 เบอร์ 3 ข้อความ ใน 1 วัน ก็เพียงพอให้คนที่เติมเงินให้ใช้เน็ตมือถือ เงินในเบอร์นั้นๆ ไม่พอให้ค่ายมือถือหักเพื่อซื้อแพ็กเกจรายเดือนได้
อันนี้ยังไม่นับ คนแก่คนเฒ่า ที่อยู่บ้านนอก ที่โดนหักโดยไม่รู้ตัว ลูกหลานเติมให้เท่าไหร่ ก็หมดอย่างไว โทรคุยได้ไม่เท่าไหร่ ก็แจ้งหมด
และพวกคนแก่ มีอายุ ก็มักไปเติมแค่ครั้งละ 50-100 บาท และถ้าโดนSMS แค่ เบอร์ละ 3 ข้อความ ก็หักไปเลย วันละ 27 บาท
หลายครั้งลูกหลาน ที่ดูแลพ่อแม่ปู่ย่า โดนเรียกให้ไปเติมเงินโทรศัพท์บ่อยๆ ทั้งๆที่ไม่ได้โทรอะไรมาก ก็เพราะโดน SMS ปรสิต พวกนี้ดูดเงินนี่แหละ
คำถาม ที่อยากถามไปยัง กสทช. และ ค่ายโทรศัพท์มือถือ คือ บริการSMS แบบนี้ มีประโยชน์อะไร ที่ยังต้องเปิดให้บริการดูดเงินจากประชาชนอยู่
ห็แค่สงสัยนะ (ไม่กล่าวหา) ว่าเขาหลับตาข้างหนึ่งไหม เพราะเขาได้ผลประโยชน์จากการคิดค่าบริการเน็ตที่ต้องเติมซ้ำ และค่าบริการจากเบอร์ปรสิตที่ส่งSMS มา
เงินที่ดูดไปคำนวนเล่นๆว่าถ้าส่งได้ 10,000 เบอร์ในแต่ละวัน ต่อ 1 บริการ คือ 3 SMS นั่นคือ เงิน 90,000 บาท/วัน สำหรับเจ้าของบริการปรสิตนี้
และถ้า มีซัก 3 บริการ ก็ตกวันละ 270,000 บาทต่อวัน
เอาจริงๆเลยนะ นี่มันคือ ระดับโจรปล้นประชาชนที่แค่สมมติว่าโดนแค่ 10,000 คนเท่านั้น ที่ได้เงินไปอย่างต่ำๆ ปีละ 98 ล้านบาทเลยนะ (ซึ่งมีมากว่า 10-20 ปี ตั้งแต่สมัยโทรศัพท์ Nokia 3310 ก็จำได้ว่าโปรโตคอลนี้มันมีมาแล้วนะ)
และเชื่อว่า ส่วนใหญ่เลย ประชาชนทั่วไป ไม่ได้สมัครด้วยตัวเองด้วยซ้ำ จู่ๆก็มี SMS มาบอกว่าได้รับบริการนี้
ซึ่งเลวร้ายกว่านั้น คือมาตรการทางค่ายมือถือ
ถ้าเป็นรายเดือน ก็ต้องยื่นต่อสาขาค่ายโทรศัพท์ เพื่อขอRefund คืน ได้เฉพาะ ค่าSMS ซึ่งน้อยมาก เมื่อเทียบกับค่ารถ ค่าเดินทาง เจ้าของต้องปิดบริการเอง (และก็กาชาปอง มาใหม่อีก)
ถ้าเป็นเติมเงิน บอกเลยว่า บรรเทิง เพราะส่วนตัวก็เคยมาทั้งคู่ ไม่ได้ยอดเงินคืน ได้แค่ปิดบริการเสริมปรสิตที่ว่า แถมยังโดนเสนอโปรใหม่ที่แพงกว่า และเดือนนั้น น่าจะเป็นเดือนสุดท้าย ที่คุณจะได้ใช้โปรที่คุณคิดว่ายังคุ้มอยู่โดยเฉพาะโปรลับ เพราะมันจะไม่มีอีก เพื่อบีบให้คุณเปลี่ยนโปรแพงกว่า ไม่ก็ย้ายไปรายเดือน
นั่นแหละ ผู้บริโภค กลายเป็นเหยื่อ และ ไม่มีใครหาทางป้องกัน ทั้งๆที่ มันเข้าข่าย "ฉ้อโกงประชาชนชัดเจนมากๆ" กสทช. ไม่มีมาตรการอะไรเลย ในการห้าม หรือปิดบริการนี้ ไม่ให้มีการคิดเงินจากการส่ง SMS ไปยังผู้ใช้งาน เพื่อขโมยยอดเงินในเบอร์โทรศัพท์ระบบเติมเงิน
และความ........อีกอย่างคือ เวลาที่ระบบตัดโปรเน็ตเนี่ย มันคือ 23.59 น. ไง มันกลางดึกอะ กว่าจะรู้ตัวเช็คเสร็จ ก็ปาเข้าไปตี 1 กว่า เชื่อไหมว่าหัวร้อนแค่ไหนอ่ะ
พิมพ์มากก็เหนื่อย เพื่อนๆล่ะ เล่าประสบการณ์ตัวเองแชร์กันหน่อย............
อ้อ.......
เสริมอีกเรื่อง เน็ตรายวัน ดันไม่ใช่ 24 ชั่วโมง นี่ก็ไม่เป็นธรรมกับผู้ใช้นะ สมมติ ต้องใช้ตอนบ่าย 3 จะใช้ได้จริงๆแค่ 9 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่ค่อยแฟร์นะฝากไว้ให้คิด
โดนบริการปรสิต กินตังในมือถือ เติมตังค์ไว้ล่วงหน้า เสียค่าเน็ตไปฟรีๆ 1 เดือน กสทช. และค่ายมือถือ ไขข้อข้องใจหน่อย
เชื่อว่ามีคนอีกเยอะมาก ที่เดี๋ยวนี้ ใช้เน็ตมือถือ เพราะความสะดวก และแน่นอนว่า หลายคนซื้อซิมที่เติมรายเดือน เพราะมันถูกและสะดวก
และนั่นแหละ ทุกคนคิดว่า เราคอนโทรล "ค่าเน็ต" ได้ ถ้าไม่มีบริการ "ปรสิต" ที่มาดูดยอดเงินในกระเป๋ายอดเงินโทรศัพท์ของเรา แบบ เอาไปดื้อๆ
แล้วไงต่อหน่ะเหรอ ......... เราก็ไม่มีเงินพอที่จะโดนตัดซื้อบริการรายเดือน จากที่เราเติมไว้สำหรับยอดรายเดือนที่จะจ่าย และแน่นอนว่า แม้เงินมันจะเหลือ แต่ก็จะหมดไปอย่างรวดเร็ว ในไม่กี่ชั่วโมง เพราะคิดค่าบริการแสนโหด (โดนไปเมื่อกี้เลย ไม่ถึงชั่วโมง.......หมด)
ถามว่า ทำไมไม่เอะใจ ?
หลายคนก็น่าจะใช้วิธีการเหมือนกัน คือ ใช้เครื่องเก่า ในการปล่อย ฮอตสปอต และเล่นเครื่องอื่นที่เร็วกว่า และลดอาการความร้อนของเครื่องน้อยกว่าใช่หรือเปล่าล่ะ
อ่ะ หลายคนคงสงสัย บริการ"ปรสิต" นี่คือบริการอะไร คำตอบง่ายๆคือ "บริการSMSกินเงิน" ที่ส่งมาแล้ว เราต้องเสียเงินให้มัน ข้อความละ 3 บาท และส่งมาครั้งละ 3 ข้อความ แบบรุมกระหน่ำ แค่โดน 3 เบอร์ 3 ข้อความ ใน 1 วัน ก็เพียงพอให้คนที่เติมเงินให้ใช้เน็ตมือถือ เงินในเบอร์นั้นๆ ไม่พอให้ค่ายมือถือหักเพื่อซื้อแพ็กเกจรายเดือนได้
อันนี้ยังไม่นับ คนแก่คนเฒ่า ที่อยู่บ้านนอก ที่โดนหักโดยไม่รู้ตัว ลูกหลานเติมให้เท่าไหร่ ก็หมดอย่างไว โทรคุยได้ไม่เท่าไหร่ ก็แจ้งหมด
และพวกคนแก่ มีอายุ ก็มักไปเติมแค่ครั้งละ 50-100 บาท และถ้าโดนSMS แค่ เบอร์ละ 3 ข้อความ ก็หักไปเลย วันละ 27 บาท
หลายครั้งลูกหลาน ที่ดูแลพ่อแม่ปู่ย่า โดนเรียกให้ไปเติมเงินโทรศัพท์บ่อยๆ ทั้งๆที่ไม่ได้โทรอะไรมาก ก็เพราะโดน SMS ปรสิต พวกนี้ดูดเงินนี่แหละ
คำถาม ที่อยากถามไปยัง กสทช. และ ค่ายโทรศัพท์มือถือ คือ บริการSMS แบบนี้ มีประโยชน์อะไร ที่ยังต้องเปิดให้บริการดูดเงินจากประชาชนอยู่
ห็แค่สงสัยนะ (ไม่กล่าวหา) ว่าเขาหลับตาข้างหนึ่งไหม เพราะเขาได้ผลประโยชน์จากการคิดค่าบริการเน็ตที่ต้องเติมซ้ำ และค่าบริการจากเบอร์ปรสิตที่ส่งSMS มา
เงินที่ดูดไปคำนวนเล่นๆว่าถ้าส่งได้ 10,000 เบอร์ในแต่ละวัน ต่อ 1 บริการ คือ 3 SMS นั่นคือ เงิน 90,000 บาท/วัน สำหรับเจ้าของบริการปรสิตนี้
และถ้า มีซัก 3 บริการ ก็ตกวันละ 270,000 บาทต่อวัน
เอาจริงๆเลยนะ นี่มันคือ ระดับโจรปล้นประชาชนที่แค่สมมติว่าโดนแค่ 10,000 คนเท่านั้น ที่ได้เงินไปอย่างต่ำๆ ปีละ 98 ล้านบาทเลยนะ (ซึ่งมีมากว่า 10-20 ปี ตั้งแต่สมัยโทรศัพท์ Nokia 3310 ก็จำได้ว่าโปรโตคอลนี้มันมีมาแล้วนะ)
และเชื่อว่า ส่วนใหญ่เลย ประชาชนทั่วไป ไม่ได้สมัครด้วยตัวเองด้วยซ้ำ จู่ๆก็มี SMS มาบอกว่าได้รับบริการนี้
ซึ่งเลวร้ายกว่านั้น คือมาตรการทางค่ายมือถือ
ถ้าเป็นรายเดือน ก็ต้องยื่นต่อสาขาค่ายโทรศัพท์ เพื่อขอRefund คืน ได้เฉพาะ ค่าSMS ซึ่งน้อยมาก เมื่อเทียบกับค่ารถ ค่าเดินทาง เจ้าของต้องปิดบริการเอง (และก็กาชาปอง มาใหม่อีก)
ถ้าเป็นเติมเงิน บอกเลยว่า บรรเทิง เพราะส่วนตัวก็เคยมาทั้งคู่ ไม่ได้ยอดเงินคืน ได้แค่ปิดบริการเสริมปรสิตที่ว่า แถมยังโดนเสนอโปรใหม่ที่แพงกว่า และเดือนนั้น น่าจะเป็นเดือนสุดท้าย ที่คุณจะได้ใช้โปรที่คุณคิดว่ายังคุ้มอยู่โดยเฉพาะโปรลับ เพราะมันจะไม่มีอีก เพื่อบีบให้คุณเปลี่ยนโปรแพงกว่า ไม่ก็ย้ายไปรายเดือน
นั่นแหละ ผู้บริโภค กลายเป็นเหยื่อ และ ไม่มีใครหาทางป้องกัน ทั้งๆที่ มันเข้าข่าย "ฉ้อโกงประชาชนชัดเจนมากๆ" กสทช. ไม่มีมาตรการอะไรเลย ในการห้าม หรือปิดบริการนี้ ไม่ให้มีการคิดเงินจากการส่ง SMS ไปยังผู้ใช้งาน เพื่อขโมยยอดเงินในเบอร์โทรศัพท์ระบบเติมเงิน
และความ........อีกอย่างคือ เวลาที่ระบบตัดโปรเน็ตเนี่ย มันคือ 23.59 น. ไง มันกลางดึกอะ กว่าจะรู้ตัวเช็คเสร็จ ก็ปาเข้าไปตี 1 กว่า เชื่อไหมว่าหัวร้อนแค่ไหนอ่ะ
พิมพ์มากก็เหนื่อย เพื่อนๆล่ะ เล่าประสบการณ์ตัวเองแชร์กันหน่อย............
อ้อ.......
เสริมอีกเรื่อง เน็ตรายวัน ดันไม่ใช่ 24 ชั่วโมง นี่ก็ไม่เป็นธรรมกับผู้ใช้นะ สมมติ ต้องใช้ตอนบ่าย 3 จะใช้ได้จริงๆแค่ 9 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่ค่อยแฟร์นะฝากไว้ให้คิด