O วันคอย .. O




0 วิกาลคล้อยน้ำค้างพรายพร่างเม็ด
ดั่งแก้วเก็จลอยผืนในคืนเปลี่ยว
สรวงย่อมมืดหม่นครัน .. เพราะจันทร์เรียว
เมื่อส่วนเสี้ยวใจนี้ .. สุดลี้ลา
0 คะนึงเพียงรูปสอางไม่ว่างเว้น
เมื่อเลือนเร้นร่องรอย .. ก็-คอยหา
ในคาบยามฟ้าหลัวมืดมัวตา
ท่วงทีท่าเขินขนาง .. กลับ-พร่างพราว
0 ระยิบเอยแววตาใต้ฟ้าต่ำ
ผ่องผกายร่ายรำ .. กลางค่ำหนาว
ในวิกาลหม่นมืดอันยืดยาว
กลับช่วงบังหมู่ดาวทั่วหาวนั้น
0 ภิรมย์เถิดดวงฤดีอย่ามีโศก
ถึงแม้นโลกในกาย-วุ่นวายประหวั่น
ด้วยถวิลปรารถนาใฝ่หากัน
พากย์นี้พร้อมจะรำพันกล่อมขวัญน้อย
0 เย็นลมร่ำค่ำเช้า .. รูปเยาว์เอ๋ย
ฟังพี่เอ่ยว่าพี่หวงแรงห่วงละห้อย
บำบวงจันทร์กล่อมเหงา .. ผู้เฝ้าคอย
วานดาวพร้อยบนฟ้า .. ส่งอาลัย
0 ผสานสู่นฤมิตถึงจิตเจ้า ..
ว่า-รุมเร้าด้วยหวาน .. เกินต้านไหว
ยิ่ง-ชม้อยชม้ายผ่านยิ่งหวานใน-
ห้วงจิตใจผู้สานต่อเชื่อมกรณี
0 ที่โค้งฟ้าจรดน้ำ .. ในค่ำหนาว
ใช่เพียงดาวบนฟ้า, ในตาพี่
พิมพ์ภาพพร้อมเลบงบทและพจน์รตี
กล่อมฤดีประโลมขวัญสู่ฉันทา
0 หวัง-สังคีตประณีตบทเช่นรสสุคนธ์
เคลื่อนคล้อยสนธิกระบวนคร่ำครวญหา
สัมผัสโสตเพรียกถวิลเร้าจินตนา
แนบในตารูปละม่อม .. ภาพ-อ้อมตระกอง
0 จะผ่านเหมันตะฤดู .. แล้วตรูเจ้า
หนาวคงเคล้าคลอโศลก-รอโลกสนอง
หวานคงแวดล้อมขวัญ .. สู่ครรลอง
วิถีผู้จับจองที่ต้องกระทำ
0 วิกาลล่วง .. น้ำค้างยังพร่างอยู่
เมื่อชื่นชู้ชื่นภิรมย์กับลมร่ำ
ใจต้องหวาน-ระบุกฎ .. เป็นบทกรรม
ที่ต้องนำแรงคะนึง .. ส่งถึงตัว
0 และเมื่อดาวบนสรวง .. เริ่มช่วงจรัส
ปฏิพัทธ์ระบัดบ่ง .. ก็คงชั่ว
ยามที่ถิ่นหวานนั้น .. เริ่มสั่นรัว
สั่นถึงขั้วหัวใจ-ว่าใคร-คอย !
.
.
.
ขออนุญาตคนในภาพนะขอรับ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=12-2025&date=25&group=190&gblog=25
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่