ระวัติศาสตร์กำเนิดรถเกราะล้อยาง BTR-3E1 ในกองทัพไทย

กระทู้สนทนา
ระวัติศาสตร์กำเนิดรถเกราะล้อยาง BTR-3E1 ในกองทัพไทย

1. บริบทและเหตุผลการจัดหา
ในช่วงปี พ.ศ. 2550 กองทัพบกไทยต้องการยกระดับหน่วยทหารราบให้ทันสมัย เนื่องจากยานเกราะ V-150 เดิมเริ่มล้าสมัยและมีข้อจำกัดด้านการป้องกันและอำนาจการยิง จึงเกิดโครงการจัดหายานเกราะล้อยางรุ่นใหม่ โดยเลือก BTR-3E1 จากยูเครน เพราะมีความคุ้มค่าสูงสุด มีราคาถูกกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันถึง 2-3 เท่า แต่มาพร้อมกับระบบอาวุธที่ครบเครื่องและทรงพลัง

2. ต้นกำเนิดและการพัฒนา
BTR-3E1 ไม่ใช่การนำรถเก่ามาดัดแปลง แต่เป็นยานเกราะที่ผลิตขึ้นใหม่ทั้งหมด (All-new production) โดยยูเครนเริ่มพัฒนาในช่วงปี 2543-2544 จากความร่วมมือระหว่างสำนักออกแบบ KMDB ของยูเครนและบริษัทจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยรุ่น BTR-3E1 ถูกออกแบบมาเพื่อตลาดส่งออกโดยเฉพาะ เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้า

3. กระบวนการจัดหาและอุปสรรค
กองทัพไทยมีการจัดหารวมแล้วกว่า 230 คัน ทั้งในส่วนของกองทัพบกและกองทัพเรือ อย่างไรก็ตาม การส่งมอบเคยประสบปัญหาใหญ่เนื่องจากเยอรมนีปฏิเสธการส่งออกเครื่องยนต์ Deutz ทำให้ต้องมีการเจรจาเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ MTU จากเยอรมนี (ภายใต้เงื่อนไขใหม่) และระบบส่งกำลังอัตโนมัติจาก Allison ของสหรัฐอเมริกาแทน ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานหลักของ BTR-3E1 ในไทย

4. สมรรถนะทางเทคนิคและโครงสร้าง
ตัวรถใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ 8x8 มีระบบปรับแรงดันลมยางอัตโนมัติ (CTIS) ทำให้เคลื่อนที่ได้ดีในทุกสภาพภูมิประเทศ และมีความเร็วบนถนนสูงสุด 85 กม./ชม. โครงสร้างทำจากเหล็กกล้าเชื่อมประสาน เสริมภายในด้วยแผ่นเคฟลาร์เพื่อป้องกันสะเก็ดกระสุน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติสะเทินน้ำสะเทินบก โดยใช้ระบบวอเตอร์เจ็ตขับเคลื่อนในน้ำได้ด้วยความเร็ว 8-10 กม./ชม.

5. ระบบอาวุธและป้อมปืน BM-3 Shturm
จุดเด่นที่สุดคือป้อมปืนรีโมทที่รวมอาวุธหลายชนิดไว้ด้วยกัน ประกอบด้วย:

อาวุธหลัก: ปืนใหญ่อัตโนมัติ 30 มม. ระยะยิง 4,000 เมตร

อาวุธรอง: ปืนกล 7.62 มม. และเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ 30 มม.

อาวุธต่อสู้รถถัง: จรวดนำวิถีเลเซอร์ "Barrier" ระยะยิงไกลถึง 5.5 กม. ซึ่งสามารถทำลายรถถังหลักที่มีเกราะปฏิกิริยาได้

ระบบควบคุม: มีกล้องเล็งรักษาเสถียรภาพและเครื่องวัดระยะด้วยเลเซอร์ ทำให้ยิงแม่นยำทั้งกลางวันและกลางคืน

6. การใช้งานแบบครบวงจร (Family of Vehicles)
กองทัพไทยไม่ได้จัดหาเพียงแค่รถลำเลียงพล แต่จัดหาเป็นตระกูลยานเกราะเพื่อให้หน่วยรบพึ่งพาตนเองได้ ประกอบด้วยรุ่นต่างๆ เช่น รถบังคับการ (BTR-3K), รถพยาบาล (BTR-3S), รถติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิด (BTR-3M1/M2), รถพิฆาตรถถัง (BTR-3RK) และรถกู้ซ่อม (BTR-3BR)

7. สถานะในปัจจุบันและความท้าทาย
ปัจจุบัน BTR-3E1 ยังคงเป็น "กระดูกสันหลัง" ของหน่วยทหารราบยานเกราะไทย แม้จะมีการนำเข้ายานเกราะรุ่นใหม่อย่าง Stryker หรือ VN-1 เข้ามาเสริม แต่ความท้าทายสำคัญคือสงครามในยูเครนที่ทำให้การส่งกำลังบำรุงและอะไหล่จากผู้ผลิตเดิมทำได้ยากขึ้น กองทัพไทยจึงต้องหันมาพึ่งพาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศภายในในการผลิตชิ้นส่วนและซ่อมบำรุงเองเพื่อรักษาสภาพความพร้อมรบ

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่